EP.4 STILL LOVE ทวงรัก ♡ ตอน ทิ้งกลางห้าง

2278 Words
EP.4 STILL LOVE ทวงรัก ♡ ตอน ทิ้งกลางห้าง ________________________________ "วันนี้ฉันจะไปดูหนังและก็ช้อปปิ้งต่อกับเพื่อนฉัน"ฉันพูดต่อทันทีอย่างไม่รีรอ เพราะอยากให้วินด์เป็นฝ่ายถูกทิ้งซะบ้าง ฟุ๊บ!! ยัยขิงดึงแขนของฉันเข้าไปหาเล็กน้อย "แต่กูมีเรียนภาคค่ำ"มันกระซิบบอกข้าง ๆหูของฉันแต่วินด์เซอร์ที่นั่งอยู่ไม่ไกลก็คงได้ยินอยู่ดี "ก็โดดเรียนไปกับกูดิ"ฉันก็หยิกแขนยัยขิงไปเล็กน้อย "กูเด็กทุนจะโดดเรียนยังไง?"นางก็กัดฟันตอบมาด้วยสีหน้าลำบากใจ แต่จู่ ๆวินด์เซอร์ลุกขึ้นจากโต๊ะทันที … ….. "นี่นายจะกลับเลยงั้นเหรอ?"ฉันหันไปถามวินด์ด้วยน้ำเสียงเหวี่ยง ๆ "เปล่า..จะเดินไปสั่งกาแฟ"เขาก็ตอบมาอย่างเรียบ ๆ "ก็เห็นพวกเธอกระซิบกันยังไม่เสร็จ"วินด์ตอบอย่างหน้าตาย ๆ ก่อนที่สายตาของเขา จะค่อย ๆลดระดับสายตา ลงมามองที่กระโปรงของฉันและเขาก็นิ่งไปสักพัก ซึ่งฉันก็รีบขยับเปลี่ยนขาที่นั่งไขว่ห้างอยู่ ให้กระโปรงมันดูสั้นมากยิ่งขึ้น เผื่อว่าเขาจะ.. "ไม่หนาวเหรอ?"เขาพูดขึ้นเบา ๆเพราะเมื่อตัดภาพมองไปทางยัยขิงที่ใส่ชุดนักศึกษา กระโปรงยาวถึงพื้น ผ้าใบ และมันยังใส่เสื้อคลุมคาร์ดิแกนซ้ำด้วยอีกชั้นนึง เพราะว่าแอร์ในร้านกาแฟก็เย็นจริง ๆ "ไม่! ฉันร้อน"ฉันกอดอกตอบไปแบบลอยหน้าลอยตาทั้ง ๆที่หนาวปากแทบสั่นอยู่แล้ว "..."เขาพยักหน้ารับอย่างไม่พูดอะไรต่อ พร้อมกับเดินออกไปสั่งกาแฟที่เคาน์เตอร์ทันที อย่างหน้าตาเฉย … ……. "มึงเห็นไหม?"ฉันหันไปถามยัยน้ำขิงทันทีที่วินด์เซอร์เดินออกไปจากโต๊ะ "นี่ขนาดกูใส่ชุดนักศึกษารัดรูป กระโปรงก็สั้น ขนาดนี้แล้ว" "ดูแฟนกูดิ!!"ฉันกระแทกเสียงและมองไปทางวินด์เซอร์ที่ยืนรอกาแฟหน้าเรียบนิ่งอยู่ไกล ๆ "ไม่หึง ไม่หวงกูเลยสักนิด!" "ถ้าเป็นแฟนคนอื่นก็คงพูดอะไรแล้ว" "นี่ผู้ชายคนอื่นมองกูตลอดทั้งทาง แต่วินด์กลับเมินเฉยแบบเนี่ย"ฉันระบายให้ยัยขิงฟังอย่างหัวเสีย "วินด์อาจจะไม่อยากเปลี่ยนความเป็นตัวของมึงเองมั่ง?"ยัยขิงก็พยายามหาข้อแก้ตัวดี ๆให้กับแฟนจอมเย็นชาหมาดนิ่งของฉัน "นี่มึงเพื่อนกูหรือเพื่อนวินด์?"ฉันถามกลับไปอย่างควันออกหู "เพื่อนมึงไงค่ะ"ยัยขิงลูบไหล่ของฉันเบา ๆ "ถ้ามึงอยากให้เขาหึง ให้เขาด่า เรื่องที่มึงแต่งตัวแรดๆแบบนี้" "ก็แล้วทำไมมึงไม่บอกวินด์ไปตามตรงวะ ว่าต้องการให้เขาเป็นแบบไหน?"ยัยขิงก็มองฉันสลับวินด์เซอร์อยู่สักพัก "เฮ่ออออ"ฉันถอนหายใจออกมาอีกครั้ง "เป็นแฟนกันนะเว้ย หึงหวงกันบ้าง" "สนใจใส่ใจบ้างสิ"ฉันพูดออกไปอย่างตัดพ้อ "เรื่องแค่นี้ควรรู้ได้เองปะ?"ฉันพูดอย่างพยายามข่มอารมณ์เอาไว้ในใจ "อันนี้ก็ไม่รู้ว่ะ เพราะกูโสด"ยัยขิงเกาหัวอย่างไม่รู้ว่าควรจะให้คำปรึกษาฉันยังไง "จิ!"ฉันก็จิ๊จ๊ะตอบยัยขิงไป "แต่มีแฟนไม่ขี้หึงก็ดีแล้วป่าวว่ะ" "หรืออยากได้หึงโหด ตามติดทุกฝีก้าวแบบยัยวิเวียนน้องรหัสมึงละ?"ยัยขิงเอียงคอและตั้งคำถามกับฉัน "ก็ดีกว่า มีแฟนแล้วเหมือนไม่มี เปล่าวะ?"ฉันบ่น ๆ "ไม่รู้แหละ วันนี้ไปดูหนัง ไปช้อปปิ้งด้วยไม่ได้นะ"ยัยขิงรีบพูดต่อรัว ๆ "วันนี้กูโดดเรียนไม่ได้จริง ๆ"ขิงย้ำๆด้วยสีหน้าที่ลำบากใจ "คลาสหน้ากูมีพรีเซนงานหน้าห้อง ไม่เข้าเรียนไม่ได้"ยัยขิงวกกลับมาที่เรื่องเดิมทันที เมื่อเห็นว่าวินด์เซอร์กำลังถือกาแฟเดินกลับมาทางเรา "อิขิง แล้วกูจะไปกับใครล่ะ?"ฉันถลึงตาใส่ยัยขิง "ถ้าเพื่อนเธอไม่ว่าง"วินเซอร์วางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะ "ก็ไปกับฉันสิ...ฉัน ว่าง~"เขาทิ้งตัวลงนั่งข้าง ๆฉันอีกครั้ง พร้อมทั้งเอ่ยตอบขึ้นมาด้วยใบหน้าเรียบนิ่งเช่นเคย ๆ "จำได้ว่าครั้งล่าสุดที่เราดูหนังด้วยกัน"ฉันก็หันไปมองหน้าแฟนของตัวเองทันที "ดูได้ยังไม่ถึงครึ่งเรื่อง"ฉันกระแทกเสียงใส่หน้าของวินด์เซอร์ไป "นายก็ทิ้ง ให้ฉันดูคนเดียวจนจบเรื่องอยู่ดี"ฉันพูดตอบคนตรงหน้าอย่างเสียงแข็ง ๆ "…"วินด์เซอร์ยังคงเอาแต่เงียบ หลังจากที่ฉันเหวี่ยงไปอีกรอบ บรรยากาศทั้งโต๊ะก็เงียบกริบ จนกระทั่งยัยน้ำขิง ที่นั่งมองเราสลับไปสลับมาอยู่สักพัก นางก็ตัดสินใจพูดแทรกขึ้นมาทันทีว่า... "มึงไปดูหนัง ไปช้อปปิ้งกับวินด์เถอะน่า"ยัยน้ำขิงสะกิดแขนของฉันเบา ๆ "เมื่อวานก็ไม่ได้ฉลองวันครบรอบด้วยกันไม่ใช่เหรอ?" "วันนี้วินด์ก็มาหาแกถึงคณะเลยนะ" "ถือว่าไปเดตกันชดเชยเมื่อวานก็แล้วกัน"ยัยขิงรีบหยิบกระเป๋าสะพายชาแนลของฉันยัดใส่มือ พร้อมกับพูดคะยั้นคะยอฉัน อย่างออกนอกหน้าให้ฉันไปกับวินด์ให้ได้ "ยัยน้ำขิง!"ฉันจ้องยัยเพื่อนรักอย่างเคือง ๆเพราะว่าฉันไม่อยากจะหายงอลวินด์ง่าย ๆแบบนี้ เขายังไม่พยายามง้อเลยสักนิด "งั้นฝากยัยไอร์ด้วยนะวินด์"ยัยขิงก็รีบหันไปฝากฉันกับวินด์เซอร์เสร็จสรรพอย่างไม่สนใจว่าฉัน มองจิกใส่มันจนตาแทบจะหลุดออกมา ยัยน้ำขิงรีบก้มหน้าก้มตาเก็บหนังสือต่าง ๆเข้ากระเป๋าเรียนของตัวเองอย่างไม่รีรอ "วันนี้นายคงไม่ทิ้งเพื่อนเรากลางโรงหนังอีกใช่ไหม?"หลังจากที่มันเก็บกระเป๋าเสร็จ ก็เงยหน้าถามวินเซอร์ไปแบบตรง ๆ "ใช่ ไม่ทิ้งอยู่แล้ว"วินด์เซอร์หันมามองทางฉันนิ่ง ๆ "ได้ยินแล้วนะ คุณไอรีน~~"ยัยน้ำขิงส่งยิ้มให้ฉันก่อนจะลุกขึ้นจากโต๊ะทันที "ไปเรียนก่อนนะ"ยัยขิงหันมาบอกกับฉัน "เลิกเรียนแล้วโทรหากูด้วยนะ"ฉันก็เอ่ยบอกยัยขิงไปก่อนที่มันจะสะพายกระเป๋าเดินออกจากร้านกาแฟไป และที่ดูเหมือนยัยขิงเรียนหนักกว่าฉันก็เพราะว่า ยัยนั่นเป็นต้องเรียนให้จบภายในสามปีครึ่ง จึงทำให้ต้องอัดหลาย ๆวิชาเป็นสองเท่าของฉัน ในเทอม ๆเดียว หลังจากที่แยกย้ายกับน้ำขิงเสร็จฉันก็เดินออกมากับวินด์เซอร์เพื่อที่จะตรงไปยังลานจอดรถทันที "แล้วรถของนายละ จอดที่ไหน?"ฉันเอ่ยถามเพราะวินด์เดินตามหลังของฉันมาติด ๆ "ฉันติดรถฟาเรนมา"เขาตอบกลับมาเบา ๆ "เอากุญแจมาสิ"เขาเลิกคิ้วขึ้น พร้อมกับยื่นมือมาตรงหน้าของฉัน "อะ.."ฉันหยิบกุญแจรถให้กับวินด์เหมือนทุก ๆครั้ง @โรงภาพยนตร์ FS ฉันยืนมองดูโปสเตอร์หนังต่าง ๆ จนไปสะดุดเข้ากับหนังใหม่ล่าสุดที่ขึ้นบนหน้าจอมอนิเตอร์ใหญ่กลางโรงหนัง _______________ LOVE DIE รักสุดท้าย "สำหรับบางคน อยู่ในความทรงจำ" "อยู่ในหัวใจ" "แต่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน" "และนี่คือบทพิสูจน์รักแท้ด่านสุดท้ายของพวกเขาทั้งคู่" "เมื่อความตายได้พรากคนรักไป และมอบคนใหม่กลับมาในร่างเดิม" - ฉายพร้อมกันแล้วทั่วประเทศ - _______________ "ดูเรื่องนี้แล้วกัน น่าจะโรแมนติกดี"ฉันชี้ไปที่หน้าจอมอนิเตอร์จอใหญ่นั่น ฉันเลือกหนังรักโรแมนติกเรื่องใหม่ล่าสุดที่เพิ่งจะเข้าโรงหนังวันนี้เป็นวันแรก เป็นภาพพยนตร์ที่ถูกสร้างขึ้นมาจากหนังสือนวนิยายขายดีอันดับหนึ่ง ที่มีชื่อว่า LOVE DIE รักสุดท้าย ของผู้เขียนนามปากกว่า...อยู่ในโคมไฟ "อื้ม"วินด์ก็พยักหน้าก่อนจะกดซื้อตั๋วจากตู้อัตโนมัติหน้าโรงหนังทันที และนี่คือหนังเรื่องที่สอง ตลอดระยะเวลาหนึ่งปีกับอีกสองวัน ที่ฉันกับวินด์คบกันมา @ในโรงภาพยนตร์ -30 นาทีผ่านไป- กับการที่นั่งดูหนังไปก็เอามือถูที่แขนและขาของตัวเองไปเรื่อย ๆเพื่อเพิ่มไออุ่นให้กับร่างกายของตัวเอง ที่ตอนนี้เย็นเฉียบแทบจะชาไปทั้งตัว เพราะว่า.... แอร์ในโรงหนังบ้านี่แหละ!! ไม่รู้ว่ามันเปิดให้หมีขั้วโลกเหนือมาอยู่หรือว่ายังไง ฉันเม้มปากแน่นทั้ง ๆที่สั่นไปทั้งตัว และพยายามไม่แสดงท่าทีว่าหนาว เพราะกลัววินด์เซอร์จะซ้ำเติมเอาเรื่องที่ฉันใส่เสื้อบางและกระโปรงที่สั้นแทบจะเห็นไปถึงข้างในตัวนี้ "...."ท่ามกลางความเงียบและหนังยังคงดำเนินเรื่องต่อไปเกือบจะถึงจุดพีคของเรื่องนี้.. ฟุ๊บ!!วินด์เซอร์ถอดเสื้อช็อปวิศวะตัวใหญ่เบ้อเริ่มเทิ่มของเขา คลุมให้ฉันทันทีทั้ง ๆที่สายตาของเขา ก็ยังคงมองตรงไปที่หน้าจอที่ฉายหนัง เหมือนไม่ได้สนใจอะไรนอกจากดูหนังต่อไป ฉันรีบหันไปทำท่าจะคืนเสื้อให้กับเขา เพราะคิดว่าเขาต้องขำฉันในใจแน่ ๆเลยที่ฉันหนาวจนตัวสั่นเป็นเข้าขนาดนี้ "ใส่ไว้เถอะน่า"แต่วินด์รีบหันมาคว้าเสื้อของเขาและติดกระดุมให้ฉันแทบจะครบทุกเม็ด เรายังคงดูหนังกันต่อไป โดยไม่มีการจับมือ อิงซบไหล่ หรือใด ๆเลย เพราะถ้าฉันไม่เป็นคนเริ่ม วินด์เซอร์ก็เอาแต่นั่งนิ่ง ๆเป็นพระอิฐพระปูนอยู่แบบนี้ อื้อออ อื้อออ อื้อออ ~~ (เสียงโทรศัพท์สั่น) โทรศัพท์ของวินด์อยู่ในกระเป๋าข้างเสื้อช็อปวิศวะของเขา และมันสั่นไม่ยอมหยุดเลย ฉันเอื้อมมือเข้าไปในกระเป๋าก่อนจะกดตัดสายใส่ทันที และหันมาดูหนังต่อ แต่ว่า อื้อออ อื้อออ อื้อออ ~~ (เสียงโทรศัพท์สั่นกระเป๋าเสื้อ) ฉันหันไปมองทางวินด์เซอร์ที่ยังคงมองตรงดูหนัง ฉันจึงแอบหยิบโทรศัพท์มาดูว่าใครมาขัดขวางความสุขของฉันหนักหนาเนี่ย และใช่ "ฟาเรนไฮท์!!"ฉันก้มหน้าจอโทรศัพท์ที่ยังคงโชว์เบอร์โทรของเพื่อนสนิทคนดีคนเดิมของวินด์เซอร์ อย่างฟาเรน หรือชื่อเต็มมันก็คือคุณชายฟาเรนไฮท์ นี่ถ้าไม่ติดว่ามันเจ้าชู้และเอาผู้หญิงไม่เลือกนะ ฉันจะคิดว่ามันแอบคิดอะไรกับแฟนของฉันแล้วนะ "วันนี้วันของฉันย่ะ"ฉันกัดฟันพูดคนเดียวก่อนจะกดปิดโทรศัพท์ของวินด์เซอร์ไปทันที … ….. "นายว่าพระเอกเขาจะตายจริง ๆไหม?"ฉันรีบหันไปถามวินด์เซอร์อย่างเนียน ๆหลังจากที่ฉันแอบปิดโทรศัพท์ของเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว "ไม่น่าตาย"วินด์เซอร์ก็หันมาตอบฉันด้วยใบหน้าที่เรียบนิ่ง "พระเอกเขาแสดงให้เห็นชัดดีนะ"ฉันมองตรงไปที่แฟนของตัวเองนิ่ง ๆ "ว่าเขารักนางเอกมาก ๆ"ฉันเอ่ยตอบไปขณะที่เราสองคนยังคงหันมามองหน้ากันท่ามกลางความมืดมิดในโรงหนัง "งั้นเหรอ"วินด์ก็ทำแค่เพียงพยักหน้าเบา ๆ และหันไปดูหนังต่ออย่างไม่ได้ใส่ใจอะไรในคำพูดของฉัน หลังจากที่หนังจบลง เราก็เดินออกมาจากโรงหนังตามปกติ "หนังสนุกดีนะ" "สงสัยต้องไปหาซื้อหนังสือมาลองอ่านดูบ้างแล้วละ"ฉันหันไปบอกกับวินด์เซอร์หลังจากที่เราก้าวเท้าออกมาจากโรงหนัง "สนุกจนร้องไห้เลยเหรอ?"วินด์ขมวดคิ้วเล็กน้อย เพราะฉันดันบ่อน้ำตาแตกไปตอนฉากที่พระเอกป่วยเป็นหัวใจ แถมหลังจากผ่าตัดยังลืมความรักที่มีต่อนางเอกไปจนหมดสิ้น "ก็ฉันสงสารนางเอกนี่"ฉันพูดพลางปาดน้ำตาเบา ๆ "ปกติฉันไม่ใช่คนเซนซิทีฟนะ แต่เรื่องนี้มันอินไปกับความรักของพวกเขาจริง ๆ"ฉันเอ่ยบอกกับวินด์เซอร์ไป แต่เหมือนว่าคนข้าง ๆฉันจะไม่อินกับอะไรเลยสักอย่าง เขาก็ฟังฉันสาธยายต่อไปอย่างไม่ขัด ไม่ออกความคิดเห็นใด ๆเลย จนเราทั้งคู่เดินออกมาถึงโซนด้านหน้าของโรงหนัง "เออ..ฉันไปเข้าห้องน้ำแป๊บนึงนะ"ฉันรีบรั้งแขนของวินด์เอาไว้ทันที "พอดีตอนดูหนังฉันดื่มน้ำไปเยอะเลยอะ"ฉันชี้ไปที่ป้ายห้องน้ำหญิง และฝากกระเป๋าชาแนลคลาสสิคใบสุดรักพาดลงบนไหล่กว้าง ๆของวินด์ ก่อนจะถอดเสื้อคืนให้เขา ก่อนจะรีบเดินไปต่อคิวเข้าห้องน้ำทันที
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD