EP.7 STILL LOVE ทวงรัก ♡
ตอน หมดแก้ว with แมทธิว
________________________________
"หมดแก้ว"เสียงของแมทธิวกระซิบลงที่ข้างหูของฉันเบา ๆ
"หมดแก้ว~"ฉันหันไปตอบกับเขา ก่อนจะกระดกดื่มจนหมดแก้ว
และวางแก้วลงตรงหน้า เขาไม่ได้ลวนลามแบบจู่โจมและดูไม่น่าเกลียดจนเกินพอดี ในผับมันแคบ ไม่แปลกปะที่เขาจะยืดเบียดกันอย่างแออัดไปหน่อย
พอเงยหน้าขึ้นมองทางวินด์เซอร์ เขาก็ยังคงดื่มเหล้าคุยกับเพื่อนต่ออย่างไม่ได้สนใจอะไร สุดยอดไปเลยแฟนคนนี้ นี่ผู้ชายคนนี้แทบจะสิงร่างฉันอยู่แล้วนะเว้ย
"ขอแบบเพียว ๆ โซดาไม่ต้องแล้ว"ฉันตะโกนสั่งเพื่อนที่ยืนประจำหัวโต๊ะ ตำแหน่งชงเหล้าคนเดิม
"จัดไปสุดสวย"ไอ้โบ๊ทเองก็โยกหัวตามจังหวะดนตรีไป ชงเหล้าไปอย่างเมามัน.โต๊ะเราอยู่โต๊ะติดกับดีเจ ที่เปิดเพลงมันบีทหนักหน่วงEDMมันแบบแน่น ๆ เหมือนแค่เพลงของดีเจคนนี้ก็เพิ่มอะดรีนาลีนให้พลุ่งพล่านแบบสุดเหวี่ยงไปเลยจริง ๆ
"เฮ้../เย้/วู้ยย" เสียงของเพื่อนในโต๊ะก็ร้องเชียร์กันอย่างดังสนั่น
จริง ๆเรียกว่าฉันกับยัยน้ำขิงก็สนิทกับเพื่อนรุ่นเดียวกันเกือบทุกคนในโต๊ะนี้เลย เพราะเราเรียนมาด้วยกันเกือบจะสามปีเต็มแล้ว แต่สำหรับฉันเนี่ย ยัยขิงคือเพื่อนสนิทที่สุด..
เพราะฉันก็เล่าเรื่องทุกข์ใจ สุขใจ หรือแม้แต่เรื่องของวินด์ให้น้ำขิงรู้เพียงคนเดียวเท่านั้น
ในขณะที่ฉันกำลังดื่มด่ำอย่างเมามัน และเต้นกันอย่างไม่ลืมหูลืมตากับพวกเพื่อนในคณะ โดยมีแมทธิวที่ยืนอยู่ทางด้านหลังของฉัน ไม่ห่างไม่หายไปไหน
"ออกไปเคลียร์กันด้านนอก"เสียงของใครสักคนตะโกนมา ท่ามกลางแสงสีและเสียงที่ดังกระหึ่ม แต่โต๊ะของฉันก็ยังคงครึกครื้นดื่มกันแบบสุดเหวี่ยงอย่างไม่สนใจโต๊ะคนอื่น ๆเท่าไหร่
พอฉันเงยหน้ามองไปที่โต๊ะของวินด์เซอร์ ฉันก็ยังคงเห็นวินด์นั่งกับฟาเรนอยู่ที่เดิม เพิ่มเติมคือฉันเห็นไอ้ฟาเรนจอมมารนั้นมีสองหัวไปแล้ว
"นี่ฉันเมาได้ไงเนี่ย"ฉันสะบัดหัวของตัวเองแรง ๆเพื่อเรียกสติกลับมา
หลังจากที่ทั้งโต๊ะเราฟาดเหล้าไปเต็ม ๆสามขวดครึ่ง สมาชิกในโต๊ะก็เริ่มออกอาการเต้นไม่หยุด บางคนร้องไห้ บางคนเงียบเศร้า บางคนแดกไม่หยุด
และบางคนก็จะอ้วก อาการคนเมาครบเลยมึงโต๊ะนิเทศกู..
"ขิงมึงไหวปะเนี่ย?"ฉันหันไปถามน้ำขิงที่ยืนเต้นแบบมันสุดเหวี่ยงอยู่กับยัยมดเพื่อนอีกคนในคณะ เรื่องจริงของวงเหล้าก็คือ เราจะสามารถสร่างเมาขึ้นมาได้ทันทีถ้าเพื่อนเราเมากว่า..
"ไหวดิกำลังมันโคตร ๆเลยวะ"ยัยขิงก็เต้นอย่างไม่ลืมหูลืมตา และตะโกนแหกปากร้องเพลงกับยัยมด ที่เมาหนักพอ ๆกัน
"มึงอย่ามาสนใจพวกกูเลยแม่คนสวย"อิมดแบะปากใส่ฉันอย่างหยอกล้อกันเล่น
"มาถึงผับก็ช้า แต่คาบเนื้อชิ้นดีของคณะไปกินแบบง่าย ๆ"ยัยมดมองไปที่แมทธิวอย่างกลืนน้ำลาย
"ถ้าติดว่านังไอรีนมันสวยกว่าพี่จริง ๆนะแมท"ยัยนั้นเอ่ยแซวแมทธิวไปอย่างติดตลก
"พี่ไม่ปล่อยแมทหลุดมือไปแน่นอน"อิมดพูดพลางเอื้อมมือทำท่าเสือสาวที่กำลังจะขย้ำเหยื่อใส่ทางแมทธิว ซึ่งทุกคนก็หัวเราะกันอย่างสนุกสนาน
"แต่เขามีแฟนอยู่แล้วนี่"จู่ ๆแมทธิวก็พูดขึ้นและฝืนยิ้มหันมามองทางฉัน
"หะ รู้ด้วยเหรอว่าฉันมีแฟน?"ฉันก็ถามกลับไปอย่างตกใจนิด ๆ
"รู้"แมทธิวพยักหน้าตอบมาสั้น ๆ
"ถึงเราจะเจอกันช้าไป..แต่ฉันอยากรู้จักเธอมากกว่านี้"เขาจ้องมองตรงเข้ามาในแววตาของฉัน
"ไม่อยากแค่เดินผ่านกันไปมาใต้ตึกคณะ "แมทธิวพูดพร้อมกับยื่นโทรศัพท์มือของเขามาให้ฉัน
"และก็ไม่อยากรู้จักในฐานะรุ่นน้อง"เขาพูดเสริมขึ้นก่อนจะยกดื่มจนหมดแก้วอีกครั้ง
"จริง ๆฉันไม่ชอบเป็นข่าวกับดาราหรอกนะ"ฉันตอบไปก่อนจะหยิบโทรศัพท์ของเขามาพิมพ์เบอร์ของฉันลงไป
"ถ้างั้นฉันเลิกเป็นดาราเลย ดีไหม?"แมทธิวยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ๆฉัน
ตาของเราแดงก่ำพอ ๆกันทั้งคู่ ด้วยความเมา ๆ
"นายจะให้ความสำคัญกับฉันมากขนาดนั้นเลยเหรอ?"ฉันเลิกคิ้วถามกลับไป
"ใช่ ถ้าฉันรักใคร"เขาขยับใบหน้าเข้ามากระซิบข้าง ๆเพราะว่าเพลงในผับค่อนข้างดังมากจนแทบไม่ได้ยินเสียงของกันและกัน
"คนคนนั้นจะต้องมาก่อนเสมอ"ริมฝีปากบางสัมผัสกับแก้มของฉันเบา ๆอย่างรับรู้ได้
"ฉันชอบ..ประโยคนี้จัง"ฉันมองไปที่ใบหน้าของเขา แต่กลับรู้สึกอยากให้คนอีกคน เป็นคนพูดคำ ๆนี้กับฉันมากกว่า
...เราสองคนยืนมองหน้ากันอยู่พักใหญ่..
พลั่ก!!!!!! แต่แล้วจู่ ๆโต๊ะของเราก็ล้มไปตรงหน้า เหล้าและแก้วทุกใบแตกละเอียด และคนในผับก็ร้องโวยวายกันขึ้นมาทันทีอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยใด ๆ
"น้ำขิง! มด!!!"ฉันแทบช็อกเพราะว่าในตอนที่โต๊ะล้มไป ยัยขิงยืนพิงโต๊ะอยู่พอดี และยัยมดเองก็กอดเอวยัยขิงเต้น ๆอย่างเมา ๆกันอยู่สองคน
พอคนหนึ่งล้มลง อีกคนก็ล้มตามเพราะว่าทรงตัวกันไม่ได้ทั้งคู่
"อะ..โอ้ย.."ยัยขิงร้องขึ้นทันทีเพราะถูกเศษแก้วที่แตกบาดเข้าจนเลือดออก
ฉันรีบพุ่งเข้าไปช่วยทั้งคู่ทันที แต่ว่าถูกแมทธิวรั้งเอาไว้
"นั่นเพื่อนฉันนะ"ฉันหันไปเหวี่ยงใส่เขาทันที
"ฉันรู้ ๆ เดี๋ยวฉันช่วยเองไง"แมทธิวรีบดึงฉันออกมาทันที
"เธอดึงสองคนนั้นเดี๋ยวก็ล้มไปด้วยอีกคนหรอก"และเขาก็เดินเข้าไปประคองสองคนนั้นขึ้นมา พร้อมกับพวกเพื่อนผู้ชายในโต๊ะ
"ใครตีกันวะ"ไอ้โบ๊ทเริ่มมองหน้าโต๊ะต้นเรื่องทันที
"วิศวะกับบริหารแม่งตีกันวะ"เสียงของคนในโต๊ะของฉันตะโกนขึ้นอีกครั้ง
"เรารีบหนี ๆเถอะ..เผื่อมันมีอาวุธ"อีกคนก็สมทบและรีบหอบหิ้วพากันหนี
คนในร้านตอนนี้วิ่งกันชุลมุนวุ่นวายไปหมด..ท่ามกลางเสียงเพลงEDMที่ยังคงสนั่นราวกับเป็นเพลงปลุกใจให้คนตีกันดุเดือดหนักกว่าเดิม
ผลั่ก ตุ๊บ คนก็เริ่มวิ่งชนกัน และพยายามเลี่ยงออกไปด้านนอก แม้ผับก็ไม่ได้ใหญ่มาก แต่ทางเข้าทางออกมีแค่ทางเดียวเท่านั้น และคนส่วนใหญ่ในตอนนี้ก็เมากันเละไปหมด ร่วมถึงฉัน ที่แทบจะทรงตัวยืนไม่ได้เลย เพราะถูกเบียดถูกชนแทบกระเด็น ฉันพยายามตั้งสติและมองไปรอบ ๆตัว เพราะไฟในผับมันสลัว ๆและยังวิบ ๆวับ ๆ ไม่ได้สว่างจ้าเหมือนไฟปกติ และจากที่เมาเหล้าหนักอยู่แล้วยังต้องมาเมาแสง เมาเสียง และหนีส้นตีนอีกต่างหาก
"เชี้ยหลบๆ / หนี /วิ่ง/หลบทางกู #@%!#%&!#@bla bla "เสียงของคนโวยวายกันดังลั่น จนไม่สามารถจับใจความได้
ดีว่าพวกที่ตีกันอยู่ไม่ได้สนใจคนอื่น สนใจแค่ตัวคู่อริของมันเอง แต่เอาจริง ๆผับนี้ก็ตีกันแทบจะอาทิตย์เว้นอาทิตย์อยู่แล้ว แล้วทำไมมันต้องซวยเอาวันที่ฉันออกเที่ยวด้วยเนี่ย
"มดแกโอเคมั้ย?"ฉันหันไปถามยัยมดที่เมา ๆ และมันก็ทิ้งน้ำหนักตัวใส่ฉันแบบเต็มที่ แต่เพื่อนคงลืมนึกไปว่าฉันใส่รองเท้าส้นสูงและประคองมันไปด้วย
ด้านยัยขิงเอง ก็อยู่ในอ้อมแขนของแมทธิวไปเรียบร้อยแล้ว เพราะรายนั้นคือเดินต่อไม่ไหว ตั้งแต่ตอนที่ล้มหน้าทิ่มไปแล้ว แต่ที่มันเดินไม่ไหวไม่ใช่เพราะแผลโดนแก้วบาดนะ เพราะมันเมาหนัก
"ไหว ๆ ไม่เจ็บเท่าไหร่"ยัยมดตอบแบบฝืนยิ้ม ๆทั้งที่มีแผลเต็มตัวไปหมด
ฉันแบกเพื่อนตัวเองต่อไปทั้ง ๆที่เจ็บข้อเท้าสุด ๆ
"ไหวไหมไอรีน?"แมทธิวหันมามองฉันเป็นระยะ
"ไม่ต้องห่วง ๆรีบเดินออกไปเลย ฉันกำลังตามไป"ฉันก็ตะโกนบอกกับแมทไป
ก่อนจะแบกประคองยัยมดต่อ..ในชั่วโมงที่ชุลมุน ๆนั้น
จู่ ๆก็มีเสียงคล้าย ๆปืน ดังขึ้นมา.. (ปั่งปั่ง..)
"กรี้ดด!!!"ฉันกรี้ดดังลั่นอย่างตกใจกลัวแบบสุดขีด
ถ้าตีกันเฉย ๆฉันไม่กลัวเลย แต่ถ้ามีปงมีปืนฉันก็ไม่ไหวแล้วนะเว้ย
ฉันประคองยัยมดแบบทุลักทุเล พอฉันเห็นว่าแมทธิวพายัยขิงออกไปได้แล้ว ก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาหน่อย เพราะยัยขิงเมาไม่ได้สติไปแล้วจริง ๆ แต่ฉันกับยัยมดนี่สิ ยังหาทางออกไปไม่ได้เลย โดนคนในผับที่เหลือชนบ้างผลักบ้างกระแทกบ้าง เพราะทุกคนก็พยายามเบียดกันเพื่อเดินไปยังทางออกเช่นกัน
ผลั่ก!! แต่แล้วก็มีชายร่างท้วมคนหนึ่งเมา ๆวิ่งเข้ามากระแทกชนฉันอย่างแรงจนล้มไปไม่เป็นท่าและฝ่ามือก็โดนเศษแก้วที่แตกอยู่ที่พื้นบาดเข้าเต็ม ๆ
แต่พอฉันเริ่มตั้งสติได้..ฉันก็เริ่มมองหาเพื่อนที่ฉันประคองออกมาด้วย..
"มด.. .ยัยมด"ฉันมองไปหามดไปรอบ ๆแต่ก็ไม่เจอแล้วและนั่นคือตอนที่ฉันพลัดหลงกับมด และไม่ต้องพูดถึงคนข้างนอกเพราะว่าถ้าออกไปได้แล้วก็เข้ามาอีกไม่ได้แน่นอนเพราะคนเบียดกันจะออกท่าเดียว
ตอนนี้ฉันอยู่ติดกับเคาน์เตอร์บาร์ใกล้ ๆกับทางออก
ฉันพยายามจะเกาะเคาน์เตอร์บาร์ลุกขึ้นยืนแต่ก็ลุกไม่ไหว เพราะเหมือนข้อเท้ามันจะพลิก ในตอนที่ล้มเมื่อกี้
"อื้อออ..อื้ออ.."ฉันร้องไห้ออกมาเล็กน้อยเพราะเท้ามันเจ็บจนและพยายามยืนเท่าไหร่ก็ยืนไม่ไหว ท่ามกลางผู้คนมากมายและเสียงตะลุมบอนที่อยู่ไม่ไกลมากหนัก ผู้ชายเกือบสิบคนได้รุมกระทืบ ปาเก้าอี้ขว้างโต๊ะใส่กันอย่างบ้าเลือด ดูไม่รู้เลยว่าใครเป็นใคร ทำให้ฉันกลัวมากซะจนไม่กล้าจะขยับตัวไปทางไหนเลย เพราะกลัวโดนลูกหลง ไหนจะเสียงปืนเมื่อกี้อีก..
ฉันยังคงนั่งมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างคิดไม่ออกเลยว่าควรจะทำยังไงต่อดี....
"ไอรีน ไอรีน!! "ก็มีเสียงของใครคนหนึ่งเรียกชื่อของฉันดังขึ้นแข่งกับเสียงเพลงในผับที่ยังคงเปิดดังสนั่นอยู่