กำนันเรืองนั่นเอง เขากำลังยกถังแกลอนที่บรรจุน้ำเต็มเปี่ยมขึ้นราดศีรษะตัวเองโครมใหญ่ พรวดเดียวจนหมดถัง กำลังดับไฟราคะที่พลุ่งโพลงขึ้นมาจนรู้สึกร้อนวูบวาบ ปวดหน่วงไปทั้งแก่นกายเพราะภาพเรือนร่างเปลือยเปล่าเย้ายวนของสะใภ้ที่เพิ่งเห็นมาเมื่อครู่
“แรม... แรมจ๋า พ่ออยากเอาเอ็งเหลือเกิน”
กำนันเรืองพึมพำ โดยหารู้ไม่ว่าผู้หญิงที่เขาเอ่ยชื่อของหล่อนออกมา กำลังแนบดวงตาแอบมองอยู่ใกล้ๆ ห่างกันเพียงแค่แผ่นสังกะสีกั้น
‘โอ้ว... พ่อเรือง’
แรมจันทร์อุทานเรียกชื่อพ่อผัว สายตาจับจ้องเรือนร่างเปลือยเปล่ากำยำไปด้วยมัดกล้าม กำลังยกถังน้ำราดรดศีรษะตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า
“แรมจ๋า... พ่อต้องการเอ็ง”
เสียงกำนันเรืองพึมพำเรียกชื่อสะใภ้ มือข้างหนึ่งรูดชักดุ้นเอ็นยาวใหญ่ ไม่ง่ายเลยที่จะสลัดภาพความเย้ายวนของสะใภ้ออกไปจากความคิดคำนึง
แรมจันทร์นิ่งงันเหมือนโดนสะกด พ่อผัวเรียกชื่อหล่อนได้ยินชัดเจน หัวใจเต้นระทึก แอบมองกำนันเรืองหยิบสบู่ก้อนสีเขียวขึ้นมาขยี้แรงๆ สองสามทีด้วยฝ่ามือ แล้วฟอกใบหน้าคมคร้าม ไล้ฟองเปียกลื่นไปทั่วแผงอก หลัง และปั้นไหล่ ก่อนจะลูบล้วงลงมาหยุดอยู่ที่ซอกขา มือสากกำก้อนสบู่ลูบไล้ไปมา รูดถูแก่นกายผงาดกล้า ใหญ่ยาวราวกับท่อนแขนเด็ก
‘อู้ว... ’
แรมจันทร์แอบร้องครางกับภาพที่เห็น เพราะว่าแก่นกายของพ่อผัวคนนี้ใหญ่ยาวกว่าของปลิวผู้เป็นลูกชายหลายเท่านัก
“แรม... เอ็งอยู่ไหน”
เสียงเรียกของปลิวที่ลงเรือนมาตามเมียรัก ทำให้มือของกำนันเรืองผู้เป็นบิดาที่กำลังรูดชักท่อนเอ็นร้อนผ่าว ปูดโปนไปด้วยเส้นเลือดโอบล้อมท่อนลำขรุแข็งเหมือนดุ้นมะระจีนใหญ่ๆ มีอันต้องสะดุดลง
“อ๊า... ”
ลมหายใจร้อนผ่าวพ่นพรูออกมาในเฮือกสั้นๆ เข่าสองข้างของกำนันเรืองทรุดฮวบลงกับพื้น อารมณ์ที่กำลังกระเจิดกระเจิงจินตนาการถึงเรือนร่างของสะใภ้ที่ชื่อแรมจันทร์ก็มีอันต้องสะดุดลงเสียก่อนที่จะถึงสวรรค์ เพราะเสียงของลูกชายตัวเองที่ดังขึ้นขัดจังหวะความสุขที่พอจะหยิบฉวยได้ในช่วงเวลาสั้นๆ ของการอาบน้ำและแอบช่วยตัวเองไปพร้อมๆ กัน
‘พี่ปลิว’
แรมจันทร์สะดุ้ง เมื่อตั้งสติได้ก็วิ่งหลบเข้ามาในป่ากล้วยหลังบ้าน รีบก้าวยาวๆ อ้อมกลับขึ้นเรือนมาก่อนที่สามีของหล่อนจะทันได้เห็น
“มีอะไรวะไอ้ปลิว”
กำนันเรืองเปิดประตูห้องน้ำออกมาในสภาพนุ่งผ้าขาวม้าผืนเดียว
“ฉันลงมาตามหาเมียจ้ะพ่อ แรมมันลงมาอาบน้ำในคลอง แต่ฉันเดินไปดูที่คลองก็ไม่เห็น... แล้วพ่อเห็นบ้างไหม”
“นังแรมมันอาจจะสวนกับเอ็ง หรืออาจจะกลับขึ้นเรือนไปแล้วก็ได้... เอ็งลองกลับไปดูบนเรือนอีกที”
กำนันเรืองตอบ
“แล้วพ่อลงมาทำอะไรดึกๆ ดื่นๆ”
ปลิวมองหน้าบิดาที่ยังแดงเรื่อเพราะเลือดสูบฉีดแรงเมื่อครู่
“กูนอนไม่หลับ อากาศมันร้อน ก็เลยลงมาอาบน้ำ”
พูดคุยกันอีกสองสามคำสองพ่อลูกก็แยกจากกันตรงหน้าห้องน้ำ
กำนันเรืองเดินมาทรุดร่างสูงใหญ่ลงนั่งที่แคร่ไม้ใต้ต้นชมพู่ หยิบใบจากขึ้นมามวนยาเส้นแล้วจุดสูบ พ่นควันสีขาวพวยพุ่งไปในเวิ้งอากาศของราตรีกาล ทั้งที่ใจยังเต้นระทึกเมื่อนึกถึงภาพเรือนร่างเปลือยเปล่าเย้ายวนของสะใภ้ที่ได้เห็นมาเมื่อครู่
ปลิวกลับขึ้นมาบนเรือน พอผลักประตูห้องนอนเข้ามาก็เห็นแรมจันทร์เมียรักกำลังนอนทอดร่างระทดระทวยอยู่บนเตียง มือข้างหนึ่งเอื้อมมาแกว่งไกวเปลของลูกน้อยในวัยหนึ่งขวบที่นอนหลับอยู่ในเปล
“เอ็งกลับขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไร... เมื่อกี้พี่ลงไปตาม”
ปลิวสงสัย
“อ๋อ... ฉันเดินอ้อมมาอีกทาง คงสวนกันน่ะจ้ะ... พี่ปลิวจ๋า มานี่เถอะ”
เสียงของแรมจันทร์กระเส่า สายตาหวามจ้องมองใบหน้าของสามี
“เอ็งมีอารมณ์ใช่ไหม”
ปลิวถามยิ้มๆ อยู่กันมาจนรู้ทัน มันอ่านแววตาของแรมจันทร์ได้ทะลุปรุโป่ง
“ถ้าอยากรู้ก็ขึ้นมาบนเตียงสิจ๊ะพี่ปลิวจ๋า”
ปลิวเดินเข้ามาหาเมียรัก สายตาจับจ้องเรือนร่างรัดรึงสะดุดตา เป็นเพราะว่ากำลังเป็นแม่ลูกอ่อน ทำให้แรมจันทร์ดูเอิบอิ่มไปทั้งร่าง
“ถ้าพี่ไปเป็นทหารเอ็งจะคิดถึงพี่ไหม”
ปลิวถามขณะทอดร่างลงนอนเคียงข้างภรรยา ที่ต้องถามก็เพราะว่ามันจับได้ใบแดง อีกไม่กี่วันก็ถึงกำหนดที่จะต้องเข้ากรมไปเป็นทหารเกณฑ์
“คิดถึงสิจ๊ะ... ก็คนเคยนอนด้วยกันทุกคืน”
แรมจันทร์กอดร่างของสามีแนบแน่น
“พี่ก็คงคิดถึงเอ็งแทบขาดใจ... คิดถึงสองเต้าอวบใหญ่ที่เคยแย่งลูกดูดกินทุกคืน”
ปลิวกล่าวขณะมือซุกซนที่ตะแคงสวมกอดสอดเข้าใต้แขนแล้วลูบไล้เต้านมอวบคัดของแม่ลูกอ่อน บีบเบาๆ จนน้ำนมสีขาวไหลพุ่งออกมา
สองผัวเมียที่หยอกเย้ากันอยู่ในห้องหารู้ไม่ว่ามีดวงตาของกำนันเรืองที่นอนอยู่ในห้องข้างๆ ห่างกันเพียงฝากั้น กำลังแนบดวงตาแอบมองสิ่งที่เกิดขึ้นภายในห้องด้วยหัวใจเต้นระทึก
“นมเอ็งใหญ่ขึ้นมากแรมจ๋า”
ปลิวโลมเล้าเมียรัก กำนันเรืองตาวาวมองดูลูกชายปลุกเร้าอารมณ์สะใภ้ด้วยการบีบสองเต้าสลับไปมาจนน้ำนมสีขาวทะลักไหลเปียกชุ่มสองเต้า
‘อู้ว... ’
คนแอบมองอุทานเบาๆ กับสิ่งที่เห็น เต้านมของสะใภ้อวบคัดจนแลเห็นเส้นเลือดสีเขียวกระจายเป็นสายรางๆ อยู่ภายใต้ผิวบอบบาง