4

1453 Words
“เธอ” เวคินเรียกคนที่ยืนปั้นจิ้มปั้นเจ๋ออยู่ไม่ไกลกันนัก “เรียกฉันเหรอคะ” เธอชี้มาที่ตัวเอง “เธอนั่นแหละ จะใครอีก รีบมาทำให้วาทิตหยุดร้องเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นฉันฆ่าเธอแน่” “เรื่องเดียวที่คุณถนัดก็เรื่องขู่นี่แหละ อย่างอื่นไม่ได้เรื่อง” เธอเข้าไปรับหลานชายมาอุ้มแล้วเริ่มกล่อม ไม่นานวาทิตก็หยุดร้องไห้ ยอมให้พาไปนอนดูดนมและหลับไปเหมือนเดิม มณีเมขลาเช็ดน้ำตาให้เบา ๆ อย่างอ่อนโยน ในขณะที่เวคินหันไปสั่งทุกคนให้ออกไป ล้อมเดือนที่ถูกเรียกให้มากล่อมวาทิตให้หยุดร้องหน้าหงิกงอที่ตัวเองไม่สามารถทำให้วาทิตสงบได้ แต่กับมณีเมขลาวาทิตกลับหยุดร้องไห้ และยอมให้กล่อมนอนโดยง่าย มันน่าเจ็บใจนัก! ล้อมเดือนมองอย่างอิจฉาระคนโกรธเกลียดมณีเมขลาเป็นที่สุด “เธอทำได้ยังไง” เวคินเอ่ยถามด้วยความงุนงง “จิบๆ” คนตอบทำสีหน้าภาคภูมิใจปนอวดดี ทำให้เขาต้องวกกลับมาเรื่องที่เธอหลอกเขา “มานี่” เขากระซิบเสียงดุเข้ม ก่อนจะลากเธอออกไปจากห้องเด็ก ไปคุยกันอีกห้องหนึ่งที่มีประตูเชื่อมกันอยู่ เพื่อไม่ให้รบกวนหลานชายที่กำลังนอนหลับปุ๋ยอยู่ “ฉันต้องเฝ้าหลานชายคุณนะ คุณลากฉันออกมาแบบนี้ทำไม” เธอพยายามดึงแขนออกจากการเกาะกุม “วาทิตนอนหลับไปแล้ว คงยังไม่ตื่นตอนนี้ ส่วนเธอโกหกอะไรเอาไว้ ฉันจะชำระความ” หลายวันมานี้เขาจับตาดูเธออยู่ เธอดูมีความสุขสบายอารมณ์เสียเหลือเกินที่ไม่ต้องขึ้นเตียงกับเขา เขาเห็นว่าเธอเลี้ยงหลานเขาอย่างเบิกบาน พาไปชมนกชมไม้ อาบน้ำ ประแป้ง ป้อนนม แถมยังไปซักเสื้อผ้าให้วาทิตเสียเอง ที่ไหนได้เธอหมดเมนส์หลายวันแล้วแต่ยังหลอกเขาว่ายังมีเมนส์อยู่ ที่สำคัญก็คือเธอพูดโกหกได้หน้าตาเฉยว่าเป็นคนมีประจำเดือนหลายวัน อาทิตย์ สองอาทิตย์ บางทีก็เป็นเดือนเพราะมดลูกไม่ดีไม่ปกติ เขาก็ยังนึกเห็นใจเพราะเคยเห็นน้องสาวปวดท้องเมนส์ ประจำเดือนมาไม่ปกติ บางทีมาเกือบครึ่งเดือนยังมี ไม่คิดว่าความสงสารของเขาจะกลายเป็นเครื่องมือให้เธอหลอกเขาแบบนี้ “วะ! ว้าย! คุณจะทำอะไร” เธอตาโตเมื่อโดนกดไปบนเตียงกว้าง มือหนารวบมือของเธอกดแนบไปข้างตัว พร้อมทั้งเรือนร่างสูงเพรียวแข็งแรงสอดแทรกเรือนกายเข้าตรงหว่างขาสวย ท่วงท่านี้ทำให้เธอเสียเปรียบ เธอกำลังตกใจเลยได้แต่อ้าปากค้างให้เขาบดจูบลงอย่างดุดันเร่าร้อน แต่พอได้สติเธอก็รีบเบี่ยงหลบ เขาก็รวบปลายคางของเธอเอาไว้ “คิดว่าจะหนีพ้นเหรอ วันนี้ให้เธอคิดจนสมองแตกตายฉันก็จะเอาเธอให้ได้ ไม่ต้องคิดหนีหรือคิดแผนการสกปรกมาหลอกอะไรฉันอีก ยายสารพัดพิษ” เขาตั้งฉายาให้เธอว่ายายสารพัดพิษก็เพราะว่าเธอมันแสบ มันเอาตัวรอดเก่ง แต่เจ้าพ่ออย่างเวคินจะไม่ยอมโดนหลอกซ้ำแล้วซ้ำเล่า “ฉันยอมแล้ว ฉันยอมแล้ว แต่ค่อย ๆ ทำได้ไหม ฉันไม่เคย ฉันกลัวเจ็บ” เขาหรี่ตามอง ไม่ค่อยเชื่อถือเธอนักหรอก “จะมาไม้ไหน ทำไมถึงยอมง่าย ๆ” “ยอมง่าย ๆ ก็หาว่าจะมาไม้ไหนอีก ตกลงคุณจะเอายังไงกันแน่” “ไม่เอายังไง แต่เอาเธอ” เขาบีบปลายคางของเธอเอาไว้ ก่อนจะบดจูบปิดปากช่างเจรจานั้น “อื้อ...” เธอครางประท้วง คิดจนหัวแทบแตกแค่ไหนก็ไม่มีทางเอาตัวรอดได้เลย มีแต่ต้องยอมเขา จะว่ายอมก็ไม่เชิงนักหรอก เพราะเขาบีบบังคับเธอทุกทาง จุดอ่อนของผู้ชายอยู่ตรงไหนนะ มณีเมขลาครุ่นคิด มันต้องมีสักทางที่เธอจะเอาตัวรอดได้สิ ในขณะที่กำลังคิดให้วุ่นวายอยู่นั้น เขาก็จัดการปลดอาภรณ์ของเธอออกจากกายอย่างอ้อยอิ่ง กระดุมเสื้อถูกปลดครั้งแล้วครั้งเล่า เขาก็ก้มลงงับผิวกายผุดผ่องของเธอ เธอสะท้านร้องครางอื้ออึง ปากร้อนของเขาให้ความรู้สึกวาบหวามอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เขาเลื่อนปากลงไปเบื้องล่าง ทำเอาเธอถึงกับสะท้าน จนต้องกัดปากกลั้นเสียงครวญครางเอาไว้ เธอไม่อยากให้เขารับรู้ว่าเธอก็มีอารมณ์ร่วมกับเขาด้วย “ตรงนั้น อื้อ...” เธอหลุดอุทานออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นพร่ายามที่เขาจุมพิตอยู่ตรงผิวกายผุดผ่องตรงสะดือบุ๋ม เขาแวะทักทาย หยอกเย้าเล้าโลม ทำให้เธอสั่นระริก ยิ่งลมหายใจร้อนผ่าวที่เลื่อนลงไปเป่ารดตรงเนินสาว ทำให้เธอยิ่งท้องไส้ปั่นป่วน ต้องแขม่วหน้าท้องเอาไว้ด้วยความรัญจวน น่าอายจะตายไป ถ้าเป็นผู้ชายที่รักก็คงให้เลีย “โอ๊ย!” วิบตานั้นเธอก็คิดได้ว่าไม่ควรยอมเขาง่าย ๆ เขามีสิทธิ์อะไรมาทำแบบนี้กับเธอ มณีเมขลายกเข่าขึ้นกระแทกปลายคางของเขาเต็ม ๆ เวคินร้องลั่น ล้มหงายหลังลงไปในทันที หญิงสาวรีบตะเกียกตะกายหนีลงจากเตียง มองคนที่นอนหน้าดำหน้าแดงอยู่บนเตียงตาไม่กะพริบ เขากุมปลายคางเอาไว้ น่าจะเจ็บมากจนร้องไม่ออก เพราะเธอเห็นว่าเขานอนนิ่งเหมือนพยายามระงับอาการปวดอยู่ ซวยแล้ว! เธอทำร้ายเขาอีกแล้ว ก็เขาบังคับเธอนี่นา เธอไม่ได้เต็มใจ มีสิทธิ์อะไรมาบังคับเธอ ก็แค่น้องสาวของเขาท้องกับใครก็ไม่รู้ อาจจะไม่ใช่น้องชายของเธอ แล้วเขามีสิทธิ์อะไรมาตั้งศาลเตี้ยตัดสินว่าทุกคนที่เกี่ยวข้องผิดหมด ตัวเองก็ผิดไม่ดูแลน้องสาวให้ดี ปล่อยให้โดนเจาะไข่แดงจนท้อง! เธอไม่รู้อีโหน่อีเหน่อะไรเลย ไม่รู้เลยจริง ๆ โดนจับมาให้รับโทษที่ตัวเองไม่ได้ก่อ ตกงาน แถมไม่รู้ว่าน้องชายหายไปไหนอีก “ยายอสรพิษ” เขาเอ่ยออกมาสีหน้าแค้นเคือง แต่น่าจะเจ็บมาก เพราะโดนเข่าของเธอกระแทกเข้าตรงปลายคางเต็ม ๆ เขาจึงมีใบหน้าเหยเกแลดูเจ็บปวด เธอทำท่าสยองเมื่อมองสบตาเขา ไม่ได้ตั้งใจเลยจริงๆ “ก่อนหน้านี้เรียกยายสารพัดพิษ ตอนนี้เป็นยายอสรพิษ คุณเปลี่ยนฉายาให้ฉันใหม่แล้วเหรอ” เธอรีบจัดการกับเสื้อผ้าให้เข้าที่ เตรียมหนีเต็มที่ “จะไปไหน” เขาเอ่ยถาม เธอก็รีบซอยเท้ากลับไปยังห้องเด็กที่มีประตูเชื่อมอยู่ในทันที เขาเดินตามไปอย่างมึนงง โดนเข่าของเธอกระแทกจนน็อกไปเลย ถามว่าอยากปล้ำเธอทำเมียอีกไหม ตอนนี้ตอบได้เลยว่าไม่แล้ว เพราะว่าเขาหมดอารมณ์แล้วนั่นเอง เสียงร้องไห้จ้าของหลานชายตัวน้อยทำให้เขาได้แต่มองตาปริบ ๆ จะเข้าไปยื้อแย่งหลานแล้วให้คนอื่นอุ้มออกไปเพื่อที่เขาจะได้จัดการเธอก็ไม่กล้า เพราะไม่มีใครเอาหลานชายของเขาอยู่ ถ้านึกจะร้องไม่ยอมหยุดก็ไม่มีพระเจ้าที่ไหนมาช่วยได้ นอกจากมณีเมขลาเพียงคนเดียว เขาก็อยากรู้ว่าเธอใช้วิธีอะไรทำให้หลานชายหยุดร้อง ก็วิธีเดียวกันกับคนอื่น อุ้มมาตบก้น โอ๋หลานให้หยุดร้อง แต่ทำไมคนอื่นอุ้มถึงได้ร้องไห้โยเยไม่ยอมหยุด “ฝากเอาไว้ก่อน” เขาคาดโทษเธอเอาไว้ แต่ตอนนี้ต้องปล่อยไปก่อน ถือว่าเธอยังดวงดี เธอไม่ได้โต้ตอบอะไรเขาอีก ไม่อยากยั่วโมโหเขานั่นเอง ดีไม่ดีจะโดนบีบคอตายเอาไว้ ดูหน้าบึ้งตึงของเขาแล้วเธอสยอง ไม่ได้กลัว แต่รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดีไม่ใช่เหรอ เธอกล่อมให้วาทิตหลับลงอีกครั้ง ก่อนจะถอนใจอีกเฮือกใหญ่ เขาไม่ได้มานั่งเฝ้ารอข่มเหงเธอ อย่างน้อยก็ยังเป็นคนดี ซะเมื่อไหร่กันล่ะ! เธอขอถอนคำพูดก็ตอนที่กำลังจะทิ้งตัวลงนอน แล้วร่างสูงโถมทับเข้ามาทั้งตัว ดวงตาของเขาลุกวาบดั่งไฟแผดเผา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD