"ฉันไม่ลงได้ไหม?" รุ่นพี่คนสนิทอย่างมิกิที่ขับพาร่างบางกลับมาตามคำสั่งของผู้เป็นแม่ โดยที่มิกิเองก็แสดงสีหน้าหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัดจนร่างบางของเกรซแทบจะกลั้นขำไม่ไหว
"อีเจ๊...ฮ่าๆ เห็นพ่อกับแม่ฉันเป็นยักษ์หรือไง" ร่างเล็กก็หัวเราะชอบใจผิดกับรุ่นพี่คนสนิทที่ยังคงนิ่งด้วยสีหน้าหวาดกลัวเช่นเดิม
"นี่!...หยุดหัวเราะฉันเลยนะ ไม่รู้ตัวเหรอว่ากำลังจะโดนเชือด" ประโยคของมิกิทำให้ร่างเล็กที่กำลังหัวเราะร่าอยู่นั้นค่อยๆ สงบลง
"คนอย่างเกวลินไม่กลัวอะไรอยู่แล้ว" ริมฝีปากบางตอบรุ่นพี่ด้วยท่าทีที่มั่นอกมั่นใจในตัวเองเป็นที่สุดก่อนที่ใบหน้าเรียวจะชะงักเมื่อคำตอบของรุ่นพี่ขัดขึ้นเสียก่อน
"พ่อหล่อนล่ะ..."
"เว้นไว้คนนึง...แฮร่" ร่างบางยิ้มแห้งตอบมิกิไปก่อนที่เจ้าตัวจะเกาหัวแก้เขิน แน่นอนว่าคนเดียวที่จะสามารถหยุดเธอได้นั้นก็คือกรพ่อของเธอนั้นเอง
"ไม่ต้องมาตลก ไปได้แล้ว"
"เจ๊...ไม่ลงด้วยกันจริงดิ" ร่างเล็กเอ่ยถามพร้อมกับกระพริบตาปริบๆ ขอร้องอ้อนวอนอีกคนเพราะรู้ว่าถ้ามีมิกิอยู่ด้วยน่าจะรู้สึกปลอดภัยกว่าที่เธอต้องลงไปเผชิญตัวคนเดียว
"เผื่อพ่อกับแม่แกอยากคุยธุระส่วนตัว ฉันรอที่รถนี่แหละ" มิกิเอ่ยตอบรุ่นน้องสาว ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากจะช่วยเธอแต่ถ้าหากทางครอบครัวเธอโทรมาตามขนาดนี้แล้วแน่นอนว่ามันต้องเป็นเรื่องใหญ่และส่วนตัวซึ่งเธอเองก็ไม่อยากที่จะก้าวก่ายแม้จะร่างบางข้างๆ จะขอร้องแค่ไหนก็ตาม
"เจ๊มิกิคนสวย..." ร่างเล็กพยายามออดอ้อน
"ไม่ต้องมาอ้อน ลงไปเลย"
"ชิ...ไปก็ได้ รอรับกลับด้วย" สุดท้ายเธอก็ต้องยอมแพ้ไปก่อนที่จะหันกลับมาเอ่ยสั่งกับรุ่นพี่อีกครั้ง
"รู้แล้วหนา ไปได้แล้ว"
"หึ้ยย อีเจ๊นะแค่นี้ก็ไม่ยอมช่วย ไม่รู้ว่าวันนี้จะโดนอะไรอีก" ร่างบางของเกรซที่เดินมุ่งหน้าเข้ามายังบ้านหลังใหญ่เอ่ยบ่นพึมพำกับตัวเอง รู้สึกขนลุกชันเมื่อนึกถึงสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไป การที่แม่เธอเรียกตัวมาแบบนี้มันคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ คิดได้แบบนั้นจากเท้าเรียวที่สับเท้าเร็วในตอนแรกก็ค่อยๆ ลดความเร็วลงจนเดินมาถึงหน้าบ้านหลังใหญ่ของเธอแล้วใบหน้าสวยก็ต้องหยุดชะงักไปเมื่อ...
"ถึงขนาดต้องมายืนต้อนรับลูกสาวคนสวยเลยเหรอคะคุณหญิงขา..." กรรณิการ์หรือผู้เป็นแม่ของเธอนั้นกำลังยืนรอเธออยู่แล้ว ริมฝีปากบางไม่พูดเปล่าสองเท้าเรียวก็สับเท้าเข้าไปกอดออดอ้อนเธอทันที
"ก็ลูกสาวคนสวยไม่ค่อยจะกลับบ้านไงคะ" กรรณิการ์ตอบกลับลูกสาวของเธอด้วยน้ำเสียงประชดประชันฝ่ามือเรียวก็ยกขึ้นมาลูบหัวเธอด้วยความเอ็นดูปนคิดถึงอยู่ไม่น้อย
"ช่วงนี้งานหนูเยอะม๊ากเลยค่ะ" ร่างเล็กผละออกจากอ้อมกอดอุ่นก่อนที่จะเอ่ยอธิบายด้วยความขี้เล่นตามประสาเธอ
"มากถึงขนาดแวบกลับมาบ้านเลยไม่ได้เหรอคะ"
"ก็ลูกสาวแม่สวยนี่ค่ะ ใครๆ เขาก็อยากจะจ้างทั้งนั้นแหละ" เธอตอบพร้อมกับรอยยิ้มให้ผู้เป็นแม่
"ค่าา ลูกแม่สวยที่สุดเลย ไปค่ะ เข้าข้างในกันลูก พ่อกำลังรอหนูอยู่เลย" กรรณิการ์พูดพร้อมกับจับแขนเรียวของลูกสาวหมายจะเดินเข้าไป
"เดี๋ยวค่ะแม่! เอ่อ...พ่อมีเรื่องอะไรจะคุยกับหนูเหรอคะ" ร่างเล็กถามด้วยท่าทีไม่สู้ดี เขาคือคนเดียวที่ทำให้คนตัวเล็กสามารถกลัวถึงขนาดนี้ได้
"แม่ก็ไม่รู้ พ่อแค่บอกว่าให้โทรตามหนู อาจจะแค่คิดถึงอยากเจอก็ได้มั้ง" กรรณิการ์ตอบไปตามความจริง
"แม่!...หนูกลัว" ร่างเล็กตอบด้วยท่าทีงอแงตามประสาเธอ
"ฮ่าๆ หนูก็บอกกลัวทุกรอบนั่นแหละ แต่พอพ่อว่าอะไรหนูก็เถียงพ่อทุกคำไม่ใช่หรือไง" กรรณิการ์เอ่ยแซวลูกสาวของตัวเองที่ความดื้อรั้นของเธอไม่มีใครที่จะสามารถปราบพยศได้เลย
"ก็จริง...งั้นเราเข้าไปกันดีกว่า" เธอที่ได้ยินดังนั้นก็ค่อยผ่อนปรนลดใบหน้าเกรงกลัวก่อนที่จะเดินควงแขนผู้เป็นแม่ด้วยท่าทีที่สบายใจขึ้น แต่ภายในก็ยังคงมีความหวาดหวั่นกังวลอยู่บ้าง
"คุณพ่อขา...คิดถึงจังเลยค่ะ" ร่างบางหุ่นดีรีบเข้าไปออดอ้อนชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่บนโซฟากว้างตรงกลางบ้านทันทีที่เดินเข้ามาถึง
"คิดถึงแล้วทำไมไม่กลับมาหาพ่อบ้างล่ะหื้ม..." เสียงทุ้มของกรหรือพ่อของเธอนั้นตอบพร้อมกับลูบหัวลูกสาวเพียงคนเดียวของเขา
"ช่วงนี้อีเว้นท์เต็มหมดเลยค่ะ แต่หนูตั้งใจว่าวันสองสามวันนี้จะกลับมาหาพ่อกับแม่อยู่แล้วค่ะ"
"พ่อบอกแล้วว่าอย่าไปทำงานแบบนั้นมันเหนื่อย ลูกสาวพ่อผอมหมดแล้ว"
"ไม่เหนื่อยเลยค่ะ หนูตั้งใจจะลดตั้งหาก น้ำหนักหนูขึ้นมาตั้งสามโล"
"ลดเลิดอะไร แค่นี้ก็แทบจะเหลือแต่กระดูกแล้ว"
"พ่อก็เวอร์ไปแล้ว ดูสิคะ เนื้อหนูแน่นไปหมด ยิ่งสัปดาห์หน้ามีถ่ายโปรโมทของลูกค้ารายใหญ่อีก ถ้าลูกค้าติต้องโดนเจ๊มิกิดุแน่ๆ"
"ก็ไม่ต้องทำ งานของพ่อง่ายกว่าที่หนูต้องมานั่งลดน้ำหนัก ถ่ายแบบอะไรนั่นอีก"
"ไม่เอาหรอกค่ะ งานบริหารน่าปวดหัวจะตาย แค่ตอนเรียนหนูก็แทบจะอ้วกอยู่แล้ว" ร่างบางตอบพร้อมแสดงสีหน้าไม่สู้ดีแล้ว แม้ว่าเธอจะเรียนจบในด้านนี้และเก่งเรื่องบริหารแค่ไหนแต่อาชีพนางแบบก็เป็นสิ่งที่เธอรักและอยากทำมากที่สุด ซึ่งกรเองก็ไม่ค่อยที่จะเห็นด้วยเท่าไหร่เพราะอยากที่จะให้ลูกสาวนั้นกลับมาบริหารสานต่อธุรกิจของเขามากกว่า แต่แล้วความดื้อรั้นของเธอก็ทำให้ผู้เป็นพ่อนั้นไม่สามารถบังคับอะไรเธอได้
"แต่พ่อมีลูกคนเดียวนะ ถ้าหนูไม่ทำแล้วใครจะทำ" กรเริ่มพูดด้วยท่าทีที่จริงจังขึ้น ผิดกับร่างบางที่ค่อยๆ เม้มปากแล้วคิดตามในสิ่งที่ผู้เป็นพ่อกำลังจะสื่อ
"เรื่องที่ฉันเครียดกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว..."
"แต่หนูไม่ชอบ หนูไม่อยากทำ" เสียงเล็กของลูกสาวเริ่มงอแงขึ้นโดยที่มีกรรณิการ์คอยจับมือไม่ห่างต้องการที่จะให้เธอใจเย็นและมีเหตุผลมากที่สุด
"ถ้าหนูไม่ทำพ่อก็จะให้คนอื่นทำ"
"ได้ค่ะ หนูไม่เคยติดอะไรกับธุรกิจของพ่ออยู่แล้ว" ร่างบางตอบกลับผู้เป็นพ่อทันที
"พ่อจะให้ตาไลอ้อนมาดูแลแทน แล้วหนูก็ต้องแต่งงานกับพี่เขาให้เร็วที่สุด" เสียงทุ้มของกรตอบกลับด้วยท่าทีที่เป็นปกติ
"หนูเคยบอกพ่อแล้วไงคะ ว่าหนูไม่แต่ง แค่หมั้นรอบที่แล้วมันก็เกินพอสำหรับหนูแล้ว" ซึ่งแน่นอนว่าเธอคงไม่ยอมให้เกิดการแต่งงานขึ้นอีกแน่ คราวที่แล้วเธออาจจะพลาดที่โดนผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายมัดมือชกโดยที่เธอไม่ทันที่จะได้ตั้งตัว แต่มันจะไม่มีทางเกิดขึ้นกับการแต่งงานครั้งนี้แน่นอน
"แต่ฉันบอกให้แต่ง ยังไงแกก็ขัดคำสั่งฉันไม่ได้" กรเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงที่ดังขึ้น
"พ่อ! ทำไมพ่อต้องบังคับหนูด้วย ทำไมพ่อต้องบงการชีวิตหนูทุกอย่าง แค่คู่ชีวิตคู่หนูยังเลือกเองไม่ได้เลยเหรอคะ" ร่างเล็กเริ่มขึ้นเสียงตามก่อนที่จะมองหน้าผู้เป็นพ่ออย่างไม่ยอม
"เกรซลูก...ใจเย็นๆ ก่อน" กรรณิการ์เอ่ย
"ไม่ค่ะแม่...หนูจะไม่ยอมให้พ่อมาบังคับหนู ชีวิตของหนู หนูจะเป็นคนเลือกเอง"
"ฉันกำลังเลือกสิ่งที่ดีสำหรับแกอยู่นะ"
"ดีเหรอคะ ดีสำหรับหนูหรือว่าดีสำหรับพ่อกันแน่ พ่ออยากขยายธุรกิจของพ่อเลยต้องไปพึ่งคนบ้านนู้น แล้วพ่อก็กำลังใช้หนูเป็นสะพานเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง"
"เกรซ!" เสียงทุ้มตวาดลั่นด้วยความไม่พอใจจ้องหน้าเธอนิ่ง ก่อนที่กรรณิการ์จะเป็นฝ่ายที่เดินมายืนตรงกลางห้ามศึกของทั้งสองคน
"เกรซ...หนูพูดแรงไปแล้วนะ ขอโทษพ่อเขาเดี๋ยวนี้" กรรณิการ์เอ่ยบอกเสียงนิ่ง
"ไม่ค่ะ! จนกว่าพ่อจะล้มเลิกให้หนูแต่งงานกับเขา"
"ชักจะมากเกินไปแล้วนะเกวลิน!" เสียงทุ้มของกรดังขึ้นอีกครั้ง
"เกวลิน! ขอโทษพ่อเดี๋ยวนี้" กรรณิการ์เอ่ย
"..." ร่างบางก็นิ่งเงียบไม่ยอมทำตาม
"ได้! ถ้าแกอยากจะท้าทายฉันก็เตรียมโดนถอดจากโฆษณาของแกทุกตัวได้เลย"
"พ่อคิดจะทำอะไร อย่ามายุ่งกับงานของหนูนะ"
"แกก็รู้ว่าฉันสามารถทำได้อย่างที่พูด" ใช่...พ่อของเธอทำตามที่พูดแน่หากว่าร่างบางไม่ยอมทำตามคำสั่งของเขา
"..." ร่างบางก็นิ่งเงียบอีกครั้ง
"คุณคะ..." กรรณิการ์ที่พยายามจะเอ่ยห้ามปรามผู้เป็นสามีแต่ก็ต้องชะงักลง...
"ไม่ต้องห้าม คราวนี้ผมจะไม่ยอมให้ลูกทำตามใจตัวเองอีกแล้ว" กรเอ่ยตอบพร้อมกับจ้องหน้าลูกสาวก่อนที่จะเดินหันหลังกลับเข้าไปในห้องทำงานของตัวเอง
"เกรซลูก...หนูใจเย็นๆ ก่อนนะ พ่อคงมีเหตุผลของเขา" กรรณิการ์จึงหันมาปลอบใจลูกสาวแทน
"เหตุผลอะไรคะแม่...ฮึก...พ่อไม่มีเหตุผลเลยสักนิด" ร่างบางที่พยายามสะกดกลั้นน้ำตาตัวเองในตอนแรกกลับถูกปลดปล่อยโฮโดยอัตโนมัติเมื่อถูกสัมผัสและปลอบใจจากผู้เป็นแม่
"ไว้พ่ออารมณ์เย็นกว่านี้ แม่จะเข้าไปพูดให้ ไม่ร้องแล้วนะคนสวย"
"ฮึก...หนูไม่ยอมแพ้หรอก ยังไงหนูก็จะไม่แต่งกับคนแบบนั้นเด็ดขาด" ร่างบางตอบพลางเช็ดคราบน้ำตาที่เลอะเปอะเปื้อนบนใบหน้าก่อนที่จะค่อยๆ ผละออกจากผู้เป็นแม่
"หนูไม่ลองเปิดใจให้พี่เขาหน่อยล่ะลูก บางทีพี่เขาอาจจะดีก็ได้"
"ไม่ค่ะแม่ คนเจ้าชู้แบบนั้นไม่มีทางดีได้หรอก"
"เอาเถอะๆ หนูกลับไปพักผ่อนก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากัน พี่มิกิรออยู่ไม่ใช่เหรอ"
"ค่ะแม่ งั้นหนูไปก่อน หนูรักแม่นะคะ"
"แม่ก็รักหนู พักผ่อนเยอะๆ นะคะคนสวย"
"ค่ะแม่" ร่างเล็กตอบพร้อมกับรอยยิ้มบางๆ บนใบหน้าก่อนที่จะหันหลังเดินออกจากบ้านไปด้วยใจที่ไม่ค่อยดี รู้สึกหวั่นกลัวไปกับคำขู่ของผู้เป็นพ่อที่เธอก็รับรู้ได้ว่าพ่อของเธอนั้นทำมันจริงๆ
"ยังไงหนูก็ไม่แต่งหรอก หนูจะไม่ยอมแพ้..."