บทที่ 06 วันซวย

1615 Words
"นี่เหรอที่แกบอกตัดสินใจได้แล้ว..." ผู้จัดการสาวเอ่ยถามกับร่างบางที่นั่งฝั่งตรงข้ามพลางถอนหายใจพรืดใหญ่ด้วยความปลง "ใช่ดิเจ๊...ไม่เคยได้ยินเหรอว่าชาบูจะเยียวยาทุกสิ่งฮ่าๆ" ใช่แล้วหลังจากที่ร่างบางนั่งเครียดอยู่นานเธอก็นึกขึ้นได้ว่าการเครียดนั้นไม่ได้ช่วยทำให้อะไรดีขึ้นเลย ก่อนที่จะลากรุ่นพี่ผู้จัดการมายังห้างหรูแล้วมุ่งตรงไปที่ร้านชาบูเจ้าโปรดของเธอทันที "โอ้ยย...ยัยเด็กนี่!" ว่าแล้วมิกิก็มองหน้าคาดโทษเธอด้วยท่าทีที่ไม่จริงจัง ผิดกับเธอที่นั่งยิ้มพึงพอใจไปกับอาหารที่วางเรียงรายอยู่ตรงหน้า "ขอกินก่อน เดี๋ยวก็นึกออกเองแหละ" ปากเล็กขยับบอกก่อนที่จะตักอาหารมื้อโปรดอย่างไม่สนใจคำบ่นของรุ่นพี่ผู้จัดการ "อร่อยชะมัด" ท่าทางของเธอทำให้รุ่นพี่สาวนั้นมองดูด้วยความเอ็นดู . "อิ่มแล้วก็ต้องไปช็อปปิ้งต่อ" ว่าแล้วเสียงใสก็ลุกขึ้นพรวดเดินออกาจากร้านด้วยท่าทีสบายใจมากขึ้นโดยที่มีมิกิคอยส่ายหัวให้การกระทำของเธอ การแสดงออกถึงความสดใสร่าเริงของเธอ นั้นแหละคือการบดบังความเศร้าเอาไว้ ซึ่งมิกิก็รู้นิสัยข้อนี้ของเธอดี "อีเจ๊!...นั้นมันคอลเลคชั่นใหม่ ต้องโดน..." นิ้วมือเรียวชี้ไปทางร้านกระเป๋าแบรนด์เนมชื่อดังก่อนที่จะลากรุ่นพี่สาวไปยังสิ่งของที่เธอต้องการด้วยแววตาที่แพรวพราว แน่นอนว่าสาวแฟชั่นอย่างเธอคงไม่ยอมพลาดให้กับของชิ้นนี้แน่... "เฮ้อ...ฉันล่ะเหนื่อยกับแกจริงๆ" ถึงแม้จะบ่นแค่ไหนแต่รุ่นพี่สาวนั้นก็ยอมโดนลากเดินตามแรงของเธอไปโดยดี "น้องคะ...ขอดูใบนี้ค่ะ" เสียงใสบอกพนักงานก่อนที่เจ้าตัวนั้นจะหันมาชื่นชมกับกระเป๋าใบนั้นด้วยความถูกอกถูกใจเป็นที่สุด พรึ่บ! และแล้วกระเป๋าใบนั้นก็ถูกยื้อแย่งจากมือพนักงานสาวไปต่อหน้าต่อตาทำให้เจ้าของร่างสวยที่ยืนยิ้มในตอนแรกหุนหันไปทางอีกคนทันที "เอ่อ...ขอโทษนะคะคุณลูกค้า พอดีว่าลูกค้าท่านนี้เขามาก่อนนะคะ" พนักงานสาวเอ่ยบอกกับหญิงสาวที่แย่งกระเป๋าไปจากมือเธอนั้นด้วยท่าทางกระอักกระอ่วนใจที่จะพูด โดยที่มีสายตาของเกรซและมิกิมองไปยังเธอนิ่ง "แต่ฉันสนใจใบนี้..." หญิงสาวที่มาใหม่ในชุดเดรสสั้นสีแดงตอบอย่างไม่สนใจในคำร้องขอของพนักงานก่อนที่จะหันมาเบะปากให้เธอด้วยท่าทีเหยียดหยามแล้วชื่นชมกระเป๋าใบนั้นอย่างไม่ได้แคร์สายตาของเธอสักนิด "เอ่อ...คุณลูกค้าคะ" พนักงานที่หันไปเห็นสีหน้าเรียบนิ่งของเกรซจึงพยายามที่จะเอ่ยอธิบายกับเธอด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยสู้ดี... "ไม่เป็นไรค่ะ ถ้าเขาดูอยากได้แล้วแสดงถึงความไม่มีมารยาทขนาดนี้ก็ให้เขาไปเถอะค่ะ ฉันไม่ถือ" เสียงใสของเกรซตอบด้วยสีหน้าเรียบนิ่งก่อนที่จะฉายรอยยิ้มบางๆ ออกมาเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายนั้นหันมาหาเธอด้วยความขุ่นเคือง ซึ่งนั้นแหละคือสิ่งที่เธอต้องการ "นี่แกว่าฉันไม่มีมารยาทเหรอ!?" ริมฝีปากที่ถูกเคลือบด้วยลิปสติกสีแดงสดของอีกฝ่ายขึ้นเสียงถามเธอด้วยสีหน้าเอาเรื่อง ผิดกับทั้งสองคนที่ยังคงฉายรอยยิ้มบางๆ เมื่อเห็นว่าเธอกำลังเดือดไปกับประโยคประชดประชันของเธอ "แล้วคุณมีหรือเปล่าคะ...มารยาทน่ะ ถ้าไม่มีก็คงรวมไปถึงคุณด้วยละมั้งคะ" เกรซตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบไม่แสดงถึงความเกรงกลัวอะไรผิดกับหญิงสาวตรงข้ามที่เริ่มไม่พอใจกับประโยคนั้นของเธอ "แต่ถ้าตามความคิดของฉัน มันดูไม่มีมารยาทเอาสะเลย" มิกิกล่าวเสริมไปกับรุ่นน้องสาวของเธอก่อนที่จะเบะปากแสดงถึงความไม่ชอบอย่างเต็มที่ "ฮ่าๆ ฉันก็ว่างั้นแหละ ไปกันเถอะเจ๊" เจ้าของร่างสวยหุ่นดีก็หัวเราะชอบใจก่อนที่จะควงแขนรุ่นพี่ผู้จัดการหมายจะเดินออกจากร้านไป "นี่!...แกคิดว่าแกด่าฉันแล้วจะหนีไปง่ายๆ เหรอ" แต่แล้วเท้าเรียวของทั้งสองคนก็ต้องชะงักไปเมื่อเจ้าของประโยคนั้นเดินมาขวางทางเธอไว้ แล้วนั้นไม่ได้ทำให้ทั้งสองคนเกรงกลัวขึ้นมาสักนิด การที่ได้เจอคนแบบนี้สำหรับเธอทั้งสองนับว่าเป็นเรื่องปกติมากและเธอก็ไม่คงลดตัวลงไปใช้กำลังกับคนแบบนี้สักครั้ง...เพราะสำหรับเธอแล้วมันดูสิ้นคิดสิ้นดี "ต้องตีลังกาเดินออกไปเหรอถึงจะยากแล้วสามารถเดินออกไปได้" ก่อนที่ริมฝีบางบางได้รูปจะเอ่ยตอบด้วยท่าทียียวยกวนประสาท "ฮ่าๆ ชอบวะ" มิกิก็หัวเราะร่าชอบใจ "กรี๊ดดด...แก!..." เสียงแหลมกรีดร้องอย่างไม่อายใครก่อนที่มือบางของอีกคนเตรียมง้างมือหมายจะฟาดลงที่ใบหน้าเรียวของเธอ หมับ! แต่คงไม่ทันความไวของมือเธอเพราะร่างบางตรงหน้านั้นยกขึ้นมาจับมือเธอไว้ทันด้วยความรู้ทันไปในความคิดของเธอก่อนที่จะผลักเธอจนล้มลงไปกับพื้นของร้านแบรนด์เนมชื่อดังแห่งนี้ ท่ามกลางสีหน้าตกใจของพนักงานในร้านโดยที่ไม่มีใครกล้าเข้ามาห้าม "ขอโทษทีว่าจะเอามือเธอออกแต่ใช้แรงเยอะไปหน่อย" เกรซตอบกลับด้วยรอยยิ้มพึงพอใจไปในฝีมือของตัวเองซึ่งคำว่าขอโทษของเธอนั้นไม่มีความสำนึกผิดจริงๆ สักนิด "เกิดอะไรขึ้น!" แต่แล้วเสียงทุ้มจากนอกร้านก็ดังขึ้นก่อนที่จะมีร่างสูงโปร่งเจ้าของเสียงเดินเข้ามาทันทีที่เห็นคู่ควงนั่งอยู่กับพื้นเขาก็รีบนั่งยองลงไปช่วยอีกคนทันที "โอ้ยย...พี่ไลอ้อนขาโมเจ็บจังค่ะ" เจ้าของร่างบางที่ล้มอยู่กับพื้นเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มนั้นรีบรัดเดินเข้ามาช่วยก็แสดงท่าทีออดอ้อนออเซาะขึ้นมาทันทีโดยที่มีร่างบางของเกรซและมิกิที่ยืนเบะปากใช้สายตามองทั้งสองนิ่ง "คู่หมั้นหล่อนใช่ปะ" มิกิจึงหันไปกระซิบกระซาบกับรุ่นน้องสาวด้วยความไม่แน่ใจ "อีเจ๊...มันใช้เวลามาสงสัยไหมเนี่ย" เธอรีบตอบกลับทันที "นี่มันเกิดอะไรขึ้น เธอทำเกินไปหรือเปล่า..." ร่างหนาที่พยุงคนที่ล้มขึ้นมาได้รีบหันมาถามเธอทันทีก่อนที่สายตาคมจะชะงักไปชั่วครู่เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้านั้นเป็น...คู่หมั้นของเขาเอง "พึ่งจะเดินเข้ามาแต่ดันมาบอกว่าทำเกินไปไม่ตลกไปหน่อยเหรอคะ" เธอก็ตอบกลับคู่หมั้นราวกับว่าทั้งสองคนนั้นไม่ได้รู้จักกัน ซึ่งแน่นอนว่าเธอตั้งใจที่จะแสดงออกแบบนั้นอยู่แล้ว โดยที่ทั้งสองคนนั้นก็จ้องหน้ากันนิ่งอย่างไม่มีใครยอมใคร "พี่ไลอ้อนคะ โมเจ็บแขน..." เสียงแหลมของหญิงสาวในอ้อมกอดก็ดังขึ้นทำให้เจ้าของร่างสูงโปร่งต้องชะงักจากสายตาคู่หวานแล้วหันมาสนใจเสียงนั้นทันที "เจ๊...กลับเถอะ น่ารำคาญวะ" ปากเล็กขยับบอกกับรุ่นพี่สาวตรงไปตรงมาเมื่อนึกรำคาญกับฝ่ายตรงข้ามเต็มที เธอไม่เคยต้องมานั่งมีเรื่องกับใครนานเท่านี้มาก่อนด้วยซ้ำ "ฉันก็ว่างั้น" นี่แหละคือความเข้าขาของเธอทั้งสองคน เพราะความมีนิสัยที่คล้ายกันทำให้ทั้งสองนั้นต่างสนิทกันและเข้าขากันง่ายเป็นที่สุด ก่อนที่สองเท้าเรียวจะสาวเท้าเดินเบี่ยงออกจากร้านไป "เดี๋ยว...เธอต้องมาโทษฉันก่อน" ร่างหุ่นดีปากแดงพูดก่อนที่จะกระชากแขนเรียวของเธออย่างแรงทำให้ร่างเล็กที่ไม่ทันจะได้ตั้งตัวนั้นขยับไปตามแรงดึงของเธอเซไปมาแต่โชคดีที่ได้แขนเรียวของรุ่นพี่ผู้จัดการนั้นประคองร่างเธอไว้ทำให้ร่างบางทรงตัวได้ในจังหวะต่อมา "..." เธอหันไปมองเจ้าของมือนั้นนิ่งเริ่มรู้สึกถึงความรำคาญและหงุดหงิดเต็มทน "ถ้าคิดว่าดูแลแฟนของตัวเองไม่ได้ก็อย่าปล่อยให้เดินออกมาเพ่นพ่านเที่ยวกัดคนอื่นไปทั่ว มันน่ารำคาญ!" ร่างเล็กตอบอย่างท่าทีที่เก็บอารมณ์ก่อนที่จะฉายสีหน้าแววตาเรียบนิ่งแล้วเน้นคำสุดท้ายใส่หน้าหญิงสาวคนดังกล่าวเสียงดังกว่าเดิม แล้วหันหลังเดินออกจากร้านด้วยท่าทางฉุนเฉียวและเสียอารมณ์ทันทีเมื่อเห็นว่าเธอเริ่มตกเป็นจุดที่น่าสนใจมากขึ้น "เริ่ดค่ะลูกสาว เอาสะว่าที่เจ้าบ่าวยืนนิ่งไปเลย" ตามด้วยเสียงของมิกิที่เดินสับเท้าตามเธอออกมา แต่นั้นคงไม่สำคัญเท่ากับประโยคของเธอที่ทำให้หญิงสาวที่กำลังหงุดหงิดหันมามองด้วยสีหน้าเอาเรื่อง "..." "อ่ะโอเค ไม่เล่น" มิกิเม้มปากเข้าหากันแน่นก่อนที่จะเผยยิ้มหวานออกมาแทน "หงุดหงิดเป็นบ้าเลย วันซวยอะไรวะ" เธอเอ่ยบ่นตามประสากระฟัดกระเฟียดแล้วเท้าเรียวก็สับเท้าเดินตรงออกไปยังลานจอดรถให้เร็วที่สุด "แล้วไม่ช็อปปิ้งแล้วเหรอ" มิกิถาม "ไม่มีอารมณ์!"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD