"ไม่ขำเลยนะฮิโก้ ยูเข้าใจมั้ยว่าฉันไม่ผิดแม่งถ้ารู้ว่าจะโดนไอ้ดอกจับหักแขนซะตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว"
"ไล่ออกไม่ใช่ไอ้ดอกภาษาอะไรวะ?" ฮิวโก้พูดแก้ภาษาให้พริกแกงเพราะเธอพูดภาษาไทยผิดๆ ถูกๆ พริกแกงเลยพูดภาษาอังกฤษตามที่เธอถนัดแต่โดนฮิวโก้ดุเอา
"คำไทยมันพูดยากนี่ มันไม่คล่องปาก"
"เดี๋ยวก็ชินน่า แรกๆ ฉันก็ไม่ถนัดโดนบังคับให้พูดไทยตั้งสามเดือนมีครูมาสอนด้วย แกจะมาพูดสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษเหมือนอยู่เมืองนอกไม่ได้เพราะคนส่วนใหญ่ไม่ค่อยเก่งภาษาอังกฤษกัน ขืนไปสั่งข้าวแกงตามร้านทั่วไปแล้วพูดภาษาอังกฤษแบบนี้เดียวได้โดนแม่ค้าเอาตะหลิวเคาะหัวเข้าให้" เธอหน้ามุ่ยที่ถูกสอน
"เอาน่าอย่าคิดมากถึงเขาไม่ไล่ออกเรื่องนี้ก็โดนเรื่องอื่นอยู่ดีฮ่าๆๆ ล้างจานก็แตก ทำท่อน้ำพังเสริฟอาหารหกใส่ลูกค้าอีกฉันละเชื่อเลย" ฮิวโก้ขำขันกับวีรกรรมของเพื่อนสาว
"พูดยังกับแกทำเป็น"
"แล้วนี่จะเอาไงต่อหรือจะกลับบ้าน?"
"ฉันไม่เคยคิดว่าที่นั่นเป็นบ้านด้วยซ้ำ แค่นึกถึงหน้ายัยงูพิษสองแม่ลูกนั่นก็อยากจะอ้วกแล้ว พอๆๆไม่ต้องพูดแล้วฉันอยากอยู่เงียบๆ" ฮิวโก้ขับรถไปท่ามกลางสายฝนไม่มีเสียงพูดใดๆ ออกจากปากทั้งสองมีเพียงเสียงวิทยุรายงานข่าวที่เปิดทิ้งไว้
(ในขณะนี้เราได้รับรายงานว่าเจ้าชายกาซิลจะยังไม่เดินทางกลับประเทศโจยาในตอนนี้เนื่องจากเหตุความไม่สงบภายในประเทศ...)
"นายได้ติดต่อกาซิลยัง"
"โทรคุยแล้ว หนักเอาการเห็นว่าจะแอบเข้ามาพักที่ไทยเงียบๆก่อน ทหารองครักษ์โดนเก็บไปสองนาย"
"อืม... น่าเห็นใจ นี่แกเอารถไปใช้นานๆ เลยก็ได้นะฉันคงไม่ใช้แล้วไม่มีตังค์เติมน้ำมัน"
"ไม่หรอกเดี๋ยวบริษัทก็ส่งรถคันใหม่มาให้เอง แล้วนี่ไปมหาลัยยังได้ข่าวว่ามีผึ่งไปทำรังที่สวนเลยเลื่อนเปิดเรียนซะงั้น สงสัยกลัวต่อยเด็กตายมั้ง ฉันก็ยังไม่ได้ดูตารางเรียนเลยว่าว่างไปเรียนวันไหน" ฮิวโก้เรียนที่เดียวกันกับพริกแกงแต่ไม่ค่อยได้เข้าเรียนเพราะเป็นศิลปินเหมือนเช่นพี่ๆ ของเธอที่ถึงแม้จะเรียนที่มหาลัยเดียวกันแต่ก็ไม่ค่อยเข้าเรียนแค่มาสอบให้ผ่านเท่านั้น
ตอนนี้พริกแกงอาศัยอยู่คอนโดคอนโดมิเนียมย่านธุรกิจ เป็นห้องสตูดิโอแบ่งเช่าขนาดเล็กหนึ่งห้องนอนหนึ่งห้องน้ำหนึ่งห้องนั่งเล่นหนึ่งห้องครัวซึ่งเธอเช่าต่อจากรุ่นน้องของฮิวโก้ในราคาเดือนละหนึ่งหมื่นบาท เธอควักเงินสดที่ติดกระเป๋าจ่ายล่วงหน้าให้ก่อนสามเดือนโดยเจ้าของใจดีไม่คิดค่าอะไรเพิ่มเติมเหมือนคอนโดอื่น เธอคิดว่าราคาไม่แพงถ้ามองจากสถานที่ตั้งในย่านธุรกิจสำคัญของประเทศและยังอยู่ใกล้คอนโดมิเนียมสุดหรูราคาสิบล้านของฮิวโก้ เพื่อนสนิทผู้แสนดีที่คบหากันมาตั้งแต่สมัยพึ่งตั้งไข่เรียกว่ารู้ไส้รู้พุงกันเลยทีเดียว
"อยู่มาตั้งครึ่งเดือนละมีของแค่นี้เหรอ" ฮิวโก้สำรวจข้าวของในห้องที่มีแค่เสื้อผ้ากับของไม่กี่ชิ้นที่ดูจะผิดวิสัยของของเธอ
"เตียงแข็งเป็นบ้านี่มันไม่ใช่เตียงขนเป็ดนะ นอนได้เหรอ?"
"ก็นอนไปแล้วนี่" พริกแกงยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ ปกติก็แบกเป้เข้าป่าออกบ่อยที่นอนแข็งๆ แบบนี้ทำอะไรเธอไม่ได้อยู่แล้ว
"เงินจะกินข้าวยังแทบจะไม่พอเลยจะให้ฉันซื้อที่นอนขนเป็ดขนห่านอีก ดีนะที่จ่ายเงินค่าห้องล่วงหน้าไปหลายเดือนไม่งั้นเดือนนี้ได้ออกไปนอนสะพานลอยแน่" พูดแล้วก็เซ็งกับความจนของตัวเอง รู้งี้กดเงินสดมาซักห้าล้านก็ยังดี หรือไม่ก็น่าจะแอบซื้อคอนโดที่ใหญ่กว่านี้หน่อยค่อยคืนบัตรเครดิต ฮึ้ย! ไม่น่าโง่เลยฉัน
"ก็บอกให้ไปอยู่กับฉันก่อนก็ไม่ไป ฉันเลี้ยงแกได้สบายอยู่แล้ว"
"แหวะ... ไม่เอาอะเดี๋ยวสาวๆ นายรู้ได้มาตบฉันพอดี" เธอรู้ดีถึงความเจ้าชู้ของฮิวโก้เพราะเคยเจอฤทธิ์เดชของบรรดาสาวๆ ทั้งหลายของชายหนุ่มมาแล้ว พริกแกงที่รู้สึกปวดหัวเดินเข้าห้องนอนคิดว่าได้นอนพักสักหน่อยอาการคงดีขึ้น ฮิวโก้เห็นอย่างนั้นก็ไม่รบกวนเปิดทีวีทิ้งไว้แล้วนอนลงบนโซฟาเพื่อพักผ่อนอีกคน กว่าทั้งสองจะตื่นก็ปาเข้าห้าโมงเย็นให้แล้ว
กริ๊ง...
เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นพริกแกงกดปิดนาฬิกาปลุกแล้วดึงผ้าคลุมโปงนอนต่อ สักครู่ต่อมาเสียงนาฬิกาปลุกจากโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาอีก สร้างความรำคาญให้เธอเป็นอย่างมาก
"โอ้ย... จะร้องอะไรนักหนาตื่นแล้ว!" ไม่น่าตั้งปลุกเลยหนวกหูชะมัดแล้วมันกี่โมงแล้วเนี่ย โอ้โห่... แดดจ้าขนาดนี้เลยไม่น่าดูวันพีชกับไอ้ฮิวโก้เลย
พริกแกงปิดนาฬิกาปลุกในโทรศัพท์ซึ่งตอนนี้เป็นเวลาเก้าโมงเช้า เธอรีบอาบน้ำแต่งตัวอย่างรวดเร็วแล้วเปิดตู้เย็นหากับข้าวถุงที่ทั้งชีวิตนี่เกิดมาไม่เคยทานมาก่อน แต่ตอนนี้เธอต้องยอมเพราะมันราคาไม่แพงมากและดูหน้าทาน เธอเห็นพวกเด็กเสริฟในที่ทำงานเก่าซื้อมาทานกันเธอเลยคิดว่าเขาทานได้เธอก็ทานได้เลยซื้อมาเก็บสองสามอย่าง เธอเอาอาหารออกมาอุ่นไมโครเวฟเพื่อเป็นอาหารเช้าพลางกดโทรศัพท์เช็คข้อมูลข่าวสารในโซเชียล
"อี๋... บูดอีกแหวะ! ร้านบ้าไรวะของเสียก็เอามาขายอีกฟ้องได้เปล่าเนี่ย" เธอตักอาหารที่เธอก็ไม่รู้คือแกงอะไรเพียงแค่เห็นน่าตาน่าทานเลยซื้อมาเข้าปากไปคำหนึ่งแล้วก็คายออกเนื่องจากมันเสียเพราะเป็นแกงกะทิเก็บไว้นานไม่ได้ ซึ่งแน่นอนว่าเธอไม่รู้เพราะไม่ค่อยได้ทานอาหารไทย ขั้นจะให้เธอทำอาหารทานเองก็ทำเป็นแต่บะหมี่ต้มที่นานทีปีหนถึงจะเอาเข้าปาก
"เหลือเงินกี่บาทนะ" พริกแกงเปิดกระเป๋าดูเงินว่าเหลือเท่าไหร่ ตอนนี้เธอก็ตกงานมาสามวันแล้วยังหางานทำใหม่ไม่ได้ เงินที่เหลือจากหักค่าห้องล้วงหน้าและค่าข้าวของเครื่องใช้สำคัญทำให้เธอเหลือเงินให้ใช้อยู่แปดพันกับห้าสิบบาท ซึ่งเธอยังคิดไม่ออกเลยว่าจะอยู่รอดถึงสิ้นเดือนหรือไม่ แล้วยังต้องหาเงินจ่ายค่าเทอมที่พ่อเธอไม่ยอมจ่ายให้อีกตั้งห้าหมื่นบาท ปกติเงินแค่นี้แค่ค่ารองเท้าเธอก็หมดแล้ว
"หรือจะขอเฮียดี... ไม่ได้พริกแกง! ถ้าแกขอเงินคนอื่นใช้พ่อแกได้หัวเราะฟันหักแน่ แกต้องอยู่ได้!"
พริกแกงเดินเล่นไปเรื่อยๆ โดยไม่มีจุดหมายปลายทาง เธอเดินมาไกลมากเกือบสามกิโลเมตรได้จนเดินมาเจอร้านกาแฟเล็กๆ อยู่ร้านหนึ่ง เธอไม่รอช้าที่จะเข้าไปข้างในเพื่อหาอะไรรองท้องที่กำลังประท้วงหาอาหารเช้าอยู่
"สวัสดีครับ รับอะไรดีครับ"
"เอาอเมริกาโนและเค้กวนิลาอย่างละหนึ่งละกันค่ะ" พริกแกงเลือกนั่งข้างในสุดติดกระจกเพื่อจะได้เห็นวิวชัดๆ เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นเพื่อแชทกับเพื่อนๆ ของเธอ
(เมืองไทยอากาศร้อนมากกกก... อยากจะบ้า) พริกแกงโพสข้อความลงในอิสตาแกรม
(แพท เธอหายไปไหนไม่ตอบเราเลย)
(คิดถึงมากๆ เลิฟยูนะ) เธอพิมพ์ข้อความคุยกับเพื่อนๆ ผ่านทางโทรศัพท์อย่างสนุกสนานและระบายทุกสิ่งทุกอย่างที่เจอให้เพื่อนๆ ฟัง แทนที่จะมีคนเห็นใจมีแต่คนเข้ามาคอมเมนต์หัวเราะเธอกันยกใหญ่แถมล้อเธอเป็นคุณหนูผู้ยากไร้ที่สุดในสามโลก แต่เธอกลับไม่รู้สึกโกรธเลยสักนิดรู้สึกผ่อนคลายขึ้นเยอะ เธอหยิบสมุดจดออกมาเพื่อคำนวนค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่จะต้องเสียบวกกับค่าเทอมมหาโหดที่เธอจะต้องจ่ายเดือนหน้า พอเห็นตัวเลขแล้วก็ต้องถอนหายใจออกมา เธอต้องหาเงินให้ได้ประมาณหกหมื่นบาทถึงจะพอค่าใช้จ่าย
"นี่ฉันห่วยขนาดนี้เลยเหรอ" ให้มันได้อย่างนี้สิ! แต่ช่างเถอะทุกปัญหามีทางแก้ของมันเสมอจะเครียดทำไมวะ
เธอเลิกที่จะสนใจเรื่องเงินแล้วหันมาสนใจเค้กวนิลาที่วางตรงหน้า หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปเค้กและบรรยากาศรอบๆ ร้านที่ตกแต่งสไตล์น่ารักๆ เหมาะสำหรับวัยรุ่นผู้หญิง มีเมนูเครื่องดื่มและขนมขบเขี้ยวกับเค้กสารพัดรสที่ล้วนแต่หน้าตาน่ารับประทานทั้งนั้นแล้วเธอก็เหลือบไปเห็นใบเปิดรับสมัครพนักงานประจำร้าน
"ร เรือ... ร.. ะ.. บ.. รับ.. ส... แม่งอ่านว่าไรวะ?"
"นี่มันใบสมัครพนักงานนี่แกฉันสมัครดีมะ" หนึ่งในลูกค้ายืนอ่านใบรับสมัครพอดี พริกแกงมองดูผู้หญิงที่ท้องโตใกล้คลอดอยู่ที่เครื่องทำกาแฟ เมื่อพิจารณาดูน่าจะเป็นเจ้าของร้านและท่าทางใจดี งานในร้านก็ดูท่าจะไม่ยุ่งยากอะไรมากนักคงไม่เกินความสามารถของเธอ
เอาวะ ดีกว่าอดตายให้คนอื่นหัวเราะ
"พี่คะขอสอบถามหน่อยค่ะ" เธอเดินไปสอบถามรายละเอียดกับผู้หญิงที่ท้องโต ซึ่งเป็นเจ้าของร้านอย่างที่เธอคิดและดูจะยินดีต้อนรับเธอมาก หญิงสาวรับเธอเข้าทำงานทันทีในเงินเดือนหนึ่งหมื่นบาทไม่รวมค่าทิปที่จะแบ่งกันอาทิตย์ละหนึ่งครั้ง ซึ่งเฉพาะค่าทิปก็ได้อยู่อาทิตย์ละหนึ่งพันบาทได้ ซึ่งพริกแกงก็รับได้เพราะดีกว่าที่จะตกงานอย่างนี้ไปเรื่อยๆ
เย้! พริกแกแกรอดตายแล้วโว้ย!