บังเอิญเจอกัน

2091 Words
มินทดา อัสมารักษ์ เริ่มคิดว่า ระหว่างเขากับเด็กผู้หญิงคนนั้นน่าจะเป็นเจ้ากรรมนายเวรกันจริงๆตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอที่ร้านกาแฟ เขามองว่าผู้หญิงคนนี้หน้าตาสวย แต่นิ่งไปหน่อย แต่พอได้พูดคุยด้วยเขากลับไม่ชอบผู้หญิงลักษณะแบบนี้สักเท่าไหร่ เอื่อยเชื่อยน่ารำคาญ ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงรู้สึกขวางหูขวางตานัก วันที่เจอกันที่ร้านกาแฟ เขามองแล้วว่าไม่มีที่นั่งจริงๆเห็นแล้วว่ามีของวางอยู่ที่โต๊ะ เจ้าตัวไม่อยู่ แต่เห็นแก่ตัวทำเหมือนกันที่ไว้ ไม่ให้คนอื่นนั่ง เขาไม่ชอบแบบนี้ แถมหน้านิ่งเดินหนีเขาออกไปจากร้านกาแฟ ทั้งที่ยังคุยกันไม่รู้เรื่อง จนเขาขับรถมาทันผู้หญิงคนนั้นเบรกกะทันหัน เขารู้ว่ามันเป็นอุบัตเหตุ แต่ก็อดหงุดหงิดไม่ได้ แถมอยู่ๆเธอคนนั้นก็หนีเขาไปดื้อๆปล่อยให้เขานั่งงงอยู่ในรถตั้งนาน กว่าที่เขาจะเรียบเรียงความคิด และตัดสินใจขับรถกลับคอนโด เพราะต้องรีบเดินทางไปเชียงใหม่ เขาตัดปัญหาเอารถเข้าอู่เอง ขี้เกียจโทรหาประกัน จริงๆเป็นเรื่องเล็กน้อย เขามีเงินจ่าย ถือว่าฟาดเคราะห์ ไม่น่าเชื่อว่าภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ที่เขาต้องมาเจอกับคู่กรณีอยู่ที่สนามบิน สวรรค์คงไม่ใจร้ายให้เขา ต้องบินพร้อมผู้หญิงคนนั้นหรอกนะ มินทดา อัสมารักษ์ หนุ่มโสดที่ไม่สด เขาเรียนและทำงานอยู่ที่อังกฤษ ครอบครัวเขาอยู่ที่นั่น เป็นลูกชายคนเดียว เริ่มเบื่ออังกฤษอยากกลับมาเมืองไทย ทำธุรกิจที่เมืองไทยเกี่ยวกับอสังหาที่เชียงใหม่ ธุรกิจของเขากำลังเจริญก้าวหน้า ไม่น่าเชื่อว่า การที่เขาเดินทางกลับบ้านเกิดของพ่อกับแม่ จะทำให้เขาอารมณ์ไม่ดี แรกเลยเขาหาบ้านเก่าของพ่อกับแม่ไม่เจอ และท่านอยากให้เขามาทำความรู้จักกับเพื่อนสนิท หรือพ่อแม่ว่าที่เจ้าสาวของเขา เรื่องที่พ่อกับแม่ของเขาพร่ำบอกตั้งแต่เมื่อเขายังเด็ก สมัยยังเด็กคิดว่าพ่อกับแม่พูดเล่น แต่ยิ่งโตท่านยิ่งพูดบ่อย ถึงเขาจะคบผู้หญิงมาหลายคน ทั้งที่พาไปแนะนำที่บ้าน พ่อกับแม่ก็ยังคงพูดเรื่องนี้ไม่จบไม่สิ้น มินทดา คิดว่าพ่อกับแม่จริงจังเกินไป และการที่เขากลับเมืองไทย ได้ทำตามที่พ่อกับแม่บอกแล้วว่าให้มาแวะทักทายเพื่อนสนิทของท่าน เพื่อที่ว่าเขาจะได้เจอหน้าว่าที่ภรรยาในอนาคตบ้าง แต่ไม่เจอเพราะเขาไม่ได้ตั้งใจหา มาแค่ให้รู้ว่าอยู่จังหวัดนี้แล้วเท่านั้นก็พอ เขาไม่ได้ใส่ใจขนาดนั้น ไม่อยากจะเชื่อว่าการคลุมถุงชนจะมีในยุคนี้ อยากเห็นว่าผู้หญิงที่ยอมให้พ่อกับแม่หาคู่ให้ โดยที่ไม่เคยเห็นหน้ากัน หน้าตาจะเป็นยังไง เขายอมรับเลยถ้าเธอคนนั้นยอม เป็นลูกที่กตัญูญูมาก มินทดา เกือบสำลักน้ำเขามองผ่านแว่นตรงไปข้างหน้า ผู้หญิงคนเดิมกำลังเดินหาที่นั่ง ห่างออกไปสี่แถว แถมได้ที่นั่งริมและเขาสามารถมองเห็น อะไรกันเนี้ย มันเป็นไปได้ยังไงเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่ นี่พระเจ้าองค์ไหนจับเขาและผู้หญิงคนนั้นโยนมาให้เจอกัน ถ้าเป็นการเจอแบบดีๆเขาจะไม่ติเลย แรกที่เจอก็ทำให้เขาไม่พอใจแล้ว แถมยังต้องมาเจออยู่เรื่อยๆอีก นี่อย่าบอกนะว่าถ้าเขาอยู่ที่เชียงใหม่ หรือสักที่ในเชียงใหม่ เขาอาจต้องเจอผู้หญิงคนนี้ มินทดาถอนหายใจ เขาเพิ่งสังเกตุว่าที่หน้าผากของผู้หญิงคนนั้นติดพลาสเตอร์ยา เหมือนจะบวมๆด้วย หรือว่าเพราะอุบัติที่เขาชนท้าย ...................................................................................................................................................................... “พราว.....ทางนี้ๆ”เสียงพลอยไพลินตะโกนเรียกน้องสาว เธอมาพร้อมแฟนหนุ่ม กริชชัย “สวัสดีค่ะพี่กริช พี่พลอย มารอนานไหมคะ” “ไม่นานหรอก พอดีพี่กริชต้องเข้ามาดูงานในเมือง เป็นยังไงบ้างเดินทาง ไหนดูซินี่หัวแตกเลยเหรอ นี่มันเริ่มบวมแล้วนะพราว แล้วทำไมไม่ไปหาหมอ เอาพลาสเตอร์ยามาติดเองได้ยังไง” พลอยไพลินโวยวายเมื่อเห็นหน้าผากของน้องสาวบวม เจ้าตัวแค่เอาพลาสเตอร์ยามาปิดไว้ แถมท่าทางที่เดินก็ดูกระเผลกๆชอบกลเหมือนเจ็บขา “ทีแรกเหมือนจะไม่เป็นอะไรมากค่ะพี่พลอย แต่ตอนนี้พราวเริ่มปวดระบบแล้ว เจ็บแขนแล้วก็เข่าด้วยค่ะ น่าจะตอนที่เหยียบเบรก หัวกระแทก เข่าก็กระแทกด้วย” “ก็พี่เคยบอกแล้วรถเราน่ะ มันไม่ปลอดภัยเอาซะเลย บอกให้เปลี่ยนก็ไม่เปลี่ยน ไม่มีความนิ่มนวลเลย ไม่รู้ล่ะกลับไปนี่เดี๋ยวพี่ซื้อให้ใหม่ พี่กำลังอยากได้รถใหม่อยู่พอดีเลย หรือว่าจะเอารถเก่าพี่ไปใช้” “ไม่เป็นไรหรอกพี่พลอย พราวไม่ได้ขับไปไหนไกล” “กรุงเทพฯ-ปราจีนบุรีเนี้ยนะไม่ไกล” “เราก็ไม่ได้กลับบ่อยนี่คะ เดี๋ยววันหลังพราวนั่งรถตู้กลับดีกว่าค่ะ จะได้ไม่ต้องขับเอง” “พลอยพี่ว่าพาน้องไปคลินิกแถวนี้ก่อนดีกว่าไหม หน้าผากเริ่มบวมมากแล้ว ดูแขนซิช้ำแล้วนั้น “ ก่อนที่สองพี่น้องจะคุยกันไปมากกว่านี้ กริชชัย ก็พูดขัดขึ้นมาก่อน พลอยไพลินเข้ามาสำรวจทั่วร่างของน้องสาว ไม่เว้นแม้แต่หัวเข่าเธอดึงกระโปรงน้องสาวขึ้นมาดู พราวรัมภาก็ห้ามไม่ทัน “พราวไม่ไหวแล้วนะ เข่าทั้งสองข้างเลย ไปๆหาหมอก่อนนี่ดีนะที่ไม่เจ็บไข้หรือป่วยอะไร” “แผลหน้าผากระบมตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว พราวกินยาแก้ไข้แก้ปวดถึงนอนได้ค่ะ แต่ตอนนี้คงหมดฤทธิ์ยาแล้ว ”พราวรัมภากระชับผ้าคลุมไหล่ให้แน่นกว่าเดิม บนเครื่องอากาศเย็นมาก ลงมาที่พื้นล่างอากาศเย็นลมแรงอาจเป็นเพราะฝนเพิ่งตก “เดี๋ยวคืนนี้เราไปนอนที่โรงแรมของพี่กริชก่อนนะ รอดูอาการของพราวก่อน ถ้ายังป่วยอยู่สงสัยจะไม่ได้เที่ยวแล้วล่ะ” “ไม่เป็นไรพี่พลอย แค่พราวได้มาเชียงใหม่ก็ถือว่าได้เที่ยวแล้วไม่ต้องไปเที่ยวที่ไหนก็ได้ค่ะ” “พี่กับพี่กริชไปเที่ยวมาแล้ว แต่อยากพาน้องไปเที่ยวด้วย ไม่ใช่อุดอู้นอนอยู่แต่ในห้อง ” กริชชัยมีโรงแรมอยู่ที่เชียงราย และเขากำลังคุยกับพลอยไพลินอยากให้แฟนสาวมาทำงานที่โรงแรมของเขา หรือถ้าแต่งงานกัน เขาจะไม่กลับไปที่กรุงเทพฯแล้ว อยากใช้ชีวิตอยู่ที่เชียงใหม่หรือเชียงรายมากกว่า พราวรัมภารับกระเป๋าและขึ้นรถออกไปจากสนามบินแล้ว มินทดาได้ยินทุกอย่างที่ทั้งสามคนพูดคุยกัน เขาเองก็เพิ่งเห็นว่าเข่าและขาของผู้หญิงคนนั้น ช้ำและเขียวมาก ลำแขนและหน้าผากนั่นอีก เห็นแล้วว่ามีเลือดหยดลงที่เบาะรถของเขา แต่ไม่คิดว่าผู้หญิงคนนั้นจะเจ็บหลายที่ขนาดนี้ ผู้หญิงที่ชื่อพลอยคงเป็นพี่สาว ผู้ชายอีกคนน่าจะเป็นว่าที่พี่เขย ถ้าไม่สังเกตุดีๆพี่กับน้องหน้าตาคล้ายกันมาก แต่คนพี่ดูคล่องแคล่วกว่า ท่าทางใจร้อนและเอาแต่ใจ ด้วยความรีบกับงานเขาเลยไม่ได้โทรหา เพราะตั้งใจไว้ว่ารอราคาซ่อมรถให้เสร็จเรียบร้อยก่อนถึงจะโทรเคลียร์เรื่องค่าใช้จ่าย จริงซิผู้หญิงคนนั้นจดเบอร์โทรและชื่อให้กับเขาไว้นี่นา มินทดาค้นหากระดาษที่เขายัดไว้ในกระเป๋าสะพาย พราวรัมภา ก่อเกียรติอนันต์ พร้อมเบอร์โทรของเธอ มินทดาเรียกรถมารับพาเขาไปที่โรงแรมที่จองไว้ เขารู้สึกชอบเชียงใหม่ ถ้าหากว่าเป็นไปได้อยากทำธุรกิจเพิ่ม แต่อาจต้องใช้เวลาสักหน่อย กลับเมืองไทยครั้งนี้เขาอาจจะอยู่นานเพราะอะไรไม่รู้เหมือนกัน รู้แต่ว่าอยากอยู่ “สวัสดีครับแม่ ผมเพิ่งถึงโรงแรมครับ มาดูงานที่เชียงใหม่” “เป็นยังไงบ้างลูก เจอเพื่อนแม่ไหม แม่ก็ลืมโทรหาคุณน้า” “ยังไม่เจอครับแม่ พอดีผมจำบ้านแม่ไม่ได้ มีอุบัติเหตุนิดหน่อยด้วยครับ เลยไม่ได้สืบหาไว้เดี๋ยวผมว่างจะไปดูอีกรอบนะครับแม่” มินทดาวางสายจากมารดาแล้ว เนื่องจากเวลาที่ต่างกันมาก ทำให้คุยกันได้ไม่นานพอนางพรนภาถามซักไซ้หนักเข้า เขาก็อ้างว่าสัญญาณไม่ค่อยดี ชายหนุ่มคิดว่าดีเหมือนกันเขาอยู่เมืองไทย ไม่ต้องเจอกับแม่และพ่อ เพราะไม่งั้นทั้งสองคนก็จะคอยพูดเรื่องให้เขาแต่งงานกับสาวชาวไทยลูกของเพื่อนสนิทของท่านอยู่ตลอดเวลา คืนนี้เป็นคืนที่สองที่เขาพักที่เชียงใหม่ สองทุ่มเขามีนัดกับลูกค้าที่ร้านอาหารของโรงแรมหรูในเมือง เขามาก่อนเวลานิดหน่อย เขาเลือกมุมค่อนข้างส่วนตัว เขาชอบบรรยากาศแบบนี้ โรงแรมเปิดเพลงบรรเลง ดนดนตรีพื้นเมืองของทางเหนือมีความอ่อนหวานมาก ทำให้ผ่อนคลาย เมืองไทยชีวิตของผู้คนไม่เร่งรีบนัก ไปตรงไหนก็มีแต่รอยยิ้ม เขาไปใช้ชีวิตอยู่เมืองนอกมานาน แต่ไม่เคยลืมกลิ่นอายของเมืองไทย ระหว่างที่นั่งรอลูกค้า มินทดามองตรงไปที่ประตูห้องอาหาร ตลกอีกแล้ว พี่สาวกับพี่เขยของพราวรัมภาควงแขนกันเข้ามาภายในห้องอาหาร เขาพยายามมองว่าพราวรัมภาจะมาด้วยไหม แปลกใจตัวเองว่าจะไปมองหาผู้หญิงคนนั้นทำไม อาจเป็นเพราะว่าช่วงหลังๆมาเขาเจอบ่อย เห็นพี่สาวและพี่เขยของผู้หญิงคนนั้น เลยคิดว่าจะต้องเจอ หรือว่าผู้หญิงคนนั้นไม่สบายจริงๆ คู่รักสองคนเข้าไปนั่งในห้องส่วนตัว มินทดาไม่ได้สนใจสองคนนั่น แต่เขาอยากรู้ว่าพราวรัมภาไปไหน ทำไมไม่มากับสองคนนี้ แต่เมื่อกลางวันเขาก็ได้ยินว่าเธอไม่สบายนี่นา ที่โรงแรม พราวรัมภาอ้างว่าปวดหัว เธอไม่อยากออกไปข้างนอก อยากนอนพักมากกว่า อยากให้พี่กริชกับพี่พลอยมีโอกาสอยู่ด้วยกัน หญิงสาวกินข้าวต้ม และกินยา ไม่คิดว่าตัวเองเจ็บระบมตามร่างกายมากขนาดนี้ อาจเป็นเพราะร่างกายบอบช้ำ และตากฝนวันที่เกิดอุบัติเหตุทำให้ป่วย พี่กริชกับพี่พลอย ชวนเธอออกไปกินข้าว แต่หญิงสาวปฏิเสธ พรุ่งนี้เธอต้องเดินทางกลับกรุงเทพฯช่วงสายๆคืนนี้เลยอยากพักผ่อน กลัวว่าถ้าไม่หายป่วย มีหวังเธอต้องลางานยาวแน่ๆ เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ดังขึ้น เบอร์ไม่คุ้นเลย “สวัสดีคุณพราวรัมภา ก่อเกียรติอนันต์ ผมเป็นเจ้าของรถที่ชนท้ายคุณ” “อ่อ....ค่ะ จำได้แล้ว คุณจะคุยเรื่องรถใช่ไหมคะ” “ใช่หรือคุณมีปัญหางอแงไม่อยากจ่ายค่าเสียหาย” “มีค่ะ ฉันมีปัญหา พอดีฉันเพิ่งกินยาแก้แพ้และง่วงมาก พรุ่งนี้ค่อยคุยได้ไหมคะ ฉันกลัว่ว่าจะคุยกับคุณไม่รู้เรื่อง” “แน่ใจนะ ไม่ใช่จะหนีไม่จ่ายเหรอ” “แล้วแต่คุณจะคิดเลยค่ะ แค่นี้นะคะพรุ่งนี้ฉันจะโทรหา” “เดี๋ยวนี่คุณ เป็นอะไรไม่สบายเหรอเสียงเหมือนเป็นหวัด” “ค่ะเป็นหวัดแค่นี้นะคะฉันจะนอนพักผ่อนแล้ว” ปลายสายวางไปแล้ว ผู้หญิงคนนี้บทจะวางก็วาง เหมือนเขาไม่มีตัวตน จะเฉยชากับเขามากไปแล้ว เขาเองไม่ใช่คนที่ขี้ริ้วขี้เหร่สักหน่อย นี่แสดงอาการว่าไม่อยากคุยกับเขาขนาดนี้เลยเหรอ อยู่ๆมินทดาก็หงุดหงิดขึ้นมา ก่อนที่จะอารมณ์เสียไปมากกว่านั้น ลูกค้าที่นัดไว้มาถึงพอดี งานทำให้เขาอารมณ์ดี
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD