ตอนที่ 15
สิริเห็นแล้วก็กัดฟันลุกขึ้นยืนแล้วเข้าไปกระชากคู่หมั้นออกจากหนุ่มฝรั่งด้วยความโกรธ
“พี่สิริ! นิดเจ็บนะ” นิธาราฟาดมือลงบนแขนคู่หมั้นหนุ่มไม่ยั้งเพื่อให้เขาปล่อย
“พี่จะทำให้เธอเจ็บกว่านี้อีก ถ้าเธอยังให้ท่าไอ้ฝรั่ง!”
“หยุดดูถูกนิดซะทีพี่สิริ” พูดจบก็จะสะบัดตัวออกจากคู่หมั้นหนุ่ม ก่อนจะวิ่งออกจากห้องไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับเสียงเรียกของสิริ
“นิด! กลับมา” สิริตะโกนสั่งเสียงดังลั่น ทว่าคู่หมั้นสาวไม่คิดจะสนใจ
“เรียกให้ตาย คู่หมั้นของคุณก็ไม่กลับมา” คลินท์เอ่ยขึ้นเสียงเรียบ
“แกหุบปากไปเลยไอ้ฝรั่ง แล้วอย่าคิดว่าแกจะได้นอนกับคู่หมั้นของฉัน ถ้าฉันไม่อนุญาต!” สิริหันมาตอบเสียงกร้าว เพราะเขาถือไพ่เหนือกว่าอีกฝ่ายเห็นๆ ในเมื่อเขาเป็นคู่หมั้น
“ผู้ชายอย่างคุณนี้น่า...” คลินท์หยุดหายใจแล้วพูดต่อ “น่าจะไปส่องกระจกดูตัวเองบ้างว่ามีอะไรเหนือกว่าผม” พูดจบก็กดยิ้มนิดๆ บนมุมปาก แล้วเขาก็แน่ใจแล้วว่าอดีตคนรักไม่ได้บอกเรื่องลูกกับคนในครอบครัว
“ฉันเหนือกว่าแกตรงที่นิดเป็นคู่หมั้นของฉันไง” สิริกดยิ้มบ้าง
“งั้นเหรอ” คลินท์มองหน้าหนุ่มไทยนิ่งๆ ก่อนจะยิ้มออกมา แล้วพูดต่อ”ถ้างั้นคุณก็รีบออกไปตามหาคู่หมั้นของคุณสิ”
“แกอย่ามาสั่งฉัน!”
“ก็แล้วแต่คุณ” พูดจบก็เดินผิวปากออกไปอย่างอารมณ์ดี ทางด้านสิริก็มองตามหลังหนุ่มฝรั่งไปด้วยความคับแค้นใจ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปตามหาคู่หมั้นในงาน แต่มองหาเท่าไรก็ไม่เจอ
“คุณแม่ นิดอยู่ที่ไหนครับ” สิริเดินเข้ามาถามกับผู้เป็นแม่ด้วยเสียงหงุดหงิด เมื่อหันไปเห็นหนุ่มฝรั่งที่เขาหมายหัวให้เป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งมองมาที่เขาราวกับจะมาเยาะเย้ย
“ยัยนิดก็พักอยู่บนห้องไง หรือแกตามไปหาเรื่องยัยนิดจนยัยนิดหนีหายไป” คุณหญิงฤทัยรัตน์ถามกลับด้วยความสงสัย สังหรณ์ใจว่าจะเกิดเรื่องขึ้น
“ก็เถียงกันนิดหน่อย แล้วนิดก็เดินออกจากห้อง” บอกกล่าวจบแล้วสิริก็พยายามหันหน้าหลบสายตาจำผิดของผู้เป็นแม่ ก่อนที่คุณหญิงจะหันไปขอตัวจากบรรดาคุณหญิงคุณนายภายในงานแล้วลากแขนลูกชายออกไปหาที่คุย
“มีอะไรครับคุณแม่ ทำไมต้องลากผมออกมาด้วย” สิริเอ่ยถามด้วยสีหน้าหงุดหงิดเพราะเขาร้อนใจเรื่องคู่หมั้น ที่ไม่รู้หายไปไหน
“ยังจะมาถามฉันอีกเหรอ แกเล่ามาเดี๋ยวนี้ตาสิริ แกไปทำอะไรให้ยัยนิดไม่พอใจ ยัยนิดถึงได้หายไป” ผู้เป็นแม่คาดคั้น
“ผมไม่ได้ทำอะไร”
“แกไม่ทำ แล้วใครทำให้ยัยนิดหายไป แล้วนี้แกสั่งให้คนออกตามหาหรือยัง” คุณหญิงฤทัยรัตน์ย้อนถามเสียงเขียว
“ยังครับ แต่ผมจะออกตามหาเอง”
“งั้นก็รีบไป เดี๋ยวแม่จะไปบอกคนในงานเองว่ายัยนิดไม่สบาย”
สิริพยักหน้ารับรู้แล้วรีบเดินออกไปตามหาคู่หมั้นที่ตอนนี้เจ้าตัวได้เดินออกจากโรงแรมที่จัดงานมาแล้วด้วยใจสภาพจิตใจสับสน จากการได้พบอดีตคนเคยรัก
น้ำตาไหลราวกับสายฝนเมื่อยิ่งคิดก็ยิ่งเสียใจ เธอจึงเดินไปเรื่อยๆ อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ก่อนจะมาหยุดนั่งพักที่รอรถประจำทางห่างจากโรงแรมไกลพอควรที่เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองเดินออกมาไกลขนาดนี้ ทว่านั่งพักได้ไม่นานก็มีใครบางคนเดินเข้ามา
“คุณนิด”
“พิณแก้ว! เธอ...เธอมาทำอะไร” ยกมือปาดน้ำตาลวกๆ แล้วก็เอ่ยถามคนมาใหม่ด้วยความสงสัย
“พิณเห็นคุณนิดเดินออกจากโรงแรมมาคนเดียว พิณเป็นห่วงก็เลยเดินตามมา”
“เธอเหรอเป็นห่วงฉัน” นิธาราไม่เชื่อสักนิด เพราะอีกฝ่ายคงจะมาสมน้ำหน้าเธอมากกว่า
“พิณเป็นห่วงคุณนิดจริงๆ นะคะ ว่าแต่ทำไมคุณนิดถึงหนีออกมาคะ ทะเลาะกับคุณสิริเหรอคะ”
“ไม่ใช่เรื่องของเธอ พิณแก้ว แล้วถ้าเธอตามมาเพราะห่วงฉันจริง ฉันก็ขอบใจ แต่เธอไม่ต้องห่วงฉันหรอก ฉันไม่ได้เป็นอะไร”
“แต่คุณนิดตาแดง ร้องไห้มาเหรอคะ” พิณแก้วเอ่ยถามแล้วก็นึกสงสัยว่าอะไรเป็นสาเหตุทำให้อีกฝ่ายหนีออกมาในสภาพตาแดงๆ หรือนิธาราจะไปเห็นเธอกับพี่สิริกำลังกอดจูบกัน?
“เธอกลับไปเถอะพิณแก้ว ฉันอยากอยู่คนเดียว” เพราะต้องการความเงียบนิธาราจึงเอ่ยปากไล่
“คุณนิดโกรธพิณเหรอคะ” พิณแก้วเอ่ยถามอย่างคนร้อนตัว
“ฉันจะโกรธเธอเรื่องอะไร” นิธาราถามกลับอย่างคนนึกรำคาญ
“ก็คุณนิดไล่พิณ”
“ฉันไม่ได้ไล่ แต่ตอนนี้ฉันต้องการอยู่คนเดียว เธอเข้าใจไหม พิณแก้ว” นิธาราบอกเสียงแข็ง ใจก็ภาวนาขอให้อีกคนกลับไป
“พิณขอโทษที่มารบกวน ถ้างั้นพิณขอตัวก่อนนะคะ” พิณแก้วกล่าวลาแล้วหมุนตัวเดินกลับไปทางเดิม
“เดี๋ยว!” นิธาราร้องเรียกอีกฝ่ายไว้ เมื่อนึกอะไรได้
“คุณนิดมีอะไรเหรอคะ”
“ถ้าเธอเจอพี่สิริ ก็อย่าบอกพี่สิรินะว่าเจอฉันอยู่ที่นี่ ฉันไม่อยากให้ใครมารบกวน”
“คุณนิดไม่ต้องห่วง พิณจะไม่บอกคุณสิริ” พิณแก้วยิ้มรับแล้วเดินกลับไปโรงแรม ขณะที่นิธาราก็มองตามอยู่อึดใจก็ลุกขึ้นแล้วเดินต่อไปอย่างไร้จุดหมาย โดยไม่รู้เลยว่าใครขับรถตามดูอยู่ กระทั่งเมื่อสาวเจ้าโบกรถแท็กซี่ คนในรถหรูก็รีบโทรไปรายงานเจ้านายหนุ่ม
“แล้วแกคิดว่าเมียเก่า ฉันจะกลับคอนโดงั้นเหรอ” คลินท์เอ่ยถาม
“ผมก็ไม่แน่ใจครับเจ้านาย เพราะเท่าที่ผมสังเกตท่าทีของคุณนิด เหมือนคุณนิดไม่อยากเจอใคร ผมคิดว่าคุณนิดน่าจะไปที่อื่นมากกว่าครับ” บารอนคาดเดาพร้อมกับเฝ้ามองรถแท็กซี่ไม่ให้คาดสายตา
“ถ้างั้นจับตาดูไว้ให้ดี” เจ้านายหนุ่มสั่งเสียงก่อนวางสาย แล้วเดินไปบอกลาเจ้าของงานโดยไม่ลืมถามหาสองหนุ่มสาว จนเมื่อได้รับคำตอบจากเจ้าของงานว่าสองหนุ่มสาวขึ้นไปพักผ่อนบนห้องพัก
คลินท์ยิ้มมุมปากเพียงเล็กน้อยกับคำโกหกนั่นแล้วเดินออกจากงาน