Episode [02] คนคุ้นเคย
"ปลดกระดุมเสื้อให้ก็พอ"
ทำไมคำพูดเมื่อกี้มันทำให้ฉันคิดไม่ดีเลยนะ ฉันสะบัดหัวออกอย่างแรงก่อนจะตั้งสติแล้วยื่นมือไปปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาว
เม็ดแรกผ่านไปก็เริ่มมือสั่นซะแล้วฉันกลืนนํ้าลายเหนียวๆ ลงคออย่างยากลำบาก กลิ่นตัวหอมๆ บวกกับกลิ่นบุหรี่อ่อนๆ ยิ่งแผงอกขาวๆ ที่มีรอยซักเป็นตัวหนังสือ ' DIARY ' น่าจะเป็นชื่อคนสำคัญของเขาแล้วทำไมฉันต้องผิดหวังเล็กน้อยนะที่เขามีคนสำคัญอยู่แล้วอาจจะเป็นเพราะว่าฉันก็คลั่งไคล้เขาเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ มั้ง
"เสร็จแล้วค่ะ"
"ขอบใจ"
"เอ่อ..ขอโทษนะคะเราจะไปไหนกันหรอคะ"
"สนามบิน" สมองฉันประมวลผลอย่างฉับไวเหตุการณ์มีคนมารับฉันจากโรงเรียนสมัย ม.1 ผู้ชายที่ใส่แว่นหนาเตาะอ้วนๆ ดำๆ คนที่ฉันไม่อยากเข้าใกล้คนนั้นอย่าบอกนะว่าเขาคือ..
"คุณเป็นเพื่อนอาวิลหรอคะ?"
"ไม่รู้สิ" บ้าน้าาาา..เขาจะหล่อขึ้นแบบนี้ได้ยังไงมันหน้าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว จากผู้ชายที่ฉันมองข้ามมาตลอดเขากลับกลายเป็นคนที่ฉันเฝ้ามองอยู่ห่างอย่าบอกนะว่าช่วงเวลาที่เขาหายสาบสูญไปคือไปเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ขนาดนี้..
"อาภามใช่ไหมคะ"
"อืม" ตั้งแต่ที่ฉันเจอเขาวันแรกตอนสมัยเด็กๆ อาวิลที่เป็นน้องสุดท้องของครอบครัวในวัย 28 ปี ก็บอกให้ฉันเรียกเขาว่า อาภาม เพราะอาภามเหมือนเป็นญาติของฉันอีกคนเพราะทั้งสองสนิทกันมากฉันจึงเรียกเขาติดปากแบบนั้นมาจนเขาหายไปตั้งสามสี่ปีและกลับมารับฉันอีกครั้งตอนฉันอยู่มัธยมปลาย
"แล้วทำไมอาภามไม่บอกหนูตั้งแต่แรกละคะ"
"ถ้าบอกเเล้วจะยอมมาหรอ?"
"หนูขอโทษค่ะ..ที่ผ่านมาหนูทำเป็นรังเกียจอา" อาภามคงจะจำฝังใจเพราะฉันดูรังเกียจเขาแล้วก็ปฏิเสธมาตลอดตอนนั้นฉันก็ยังเด็กๆ มากอยู่ทำอะไรไม่ค่อยคิด
"อาไม่โกรธเราหรอก"
"อาภามนี้เหมือนเดินเลยนะคะ..ไม่เคยโกรธเด็กนิสัยไม่ดีแบบหนูเลย~" อาภามคนเดิมสินะ..คนที่อบอุ่นและคอยตักเตือนฉันมาตลอดเท่าที่ฉันรู้อาภามเคยมีแฟนแค่คนเดียวเธอสวยเอาซะมากๆ แต่ฉันก็ไม่รู้อะไรมากกว่านี้ รอยสักน่าจะเป็นชื่อแฟนคนนั้นของอาภาม
ส่วนฉายาที่เขาได้รับเพราะมีคนเคยถ่ายรูปเขาตอนงานโชว์รูมรถแล้วโพสต์ลงโซเชี่ยลด้วยลุคที่ดูอปป้าอบอุ่นจึงทำให้ดาเมจความเป็นสามีของเขารุนแรงแซงทุกโพสต์ในขณะนั้นจนได้รับฉายานั้นชั่วข้ามคืนที่ฉันรู้ก็เพราะว่าฉันติดตามเพจของแอดมินที่เป็นแฟนคลับเขายังไงล่ะ
@สนามบิน
พอเรามาถึงสนามบินอาภามก็เดินนำฉันมาหาอาวิลที่กำลังรอเวลาลงเครื่อง
"อาภามคะ..อาวิลลงเครื่องกี่โมงหรอคะ"
"กำลังมาครับ" ตอนนี้เราก็เดินมานั่งรออาวิลตรงรอผู้โดยสารไม่นานก็ปรากฏร่างของอาวิลเดินมาพร้อมลูกน้องที่สวมชุดดำสนิทอีกสองคน ฉันฉีกยิ้มออกมาอย่างดีใจก่อนจะลุกขึ้นวิ่งไปกอดคนที่คิดถึงที่สุด
"อาวิล~~"
"คิดถึงหลานคนนี้ที่สุดเลย" เราสวมกอดกันแน่นจนฉันหายใจแทบไม่ออกอาวิลเป็นญาติแท้ๆ คนเดียวของฉันที่เหลืออยู่เพราะคุณพ่อและทุกคนในครอบครัวของฉันที่อังกฤษถูกลอบฆ่าเสียชีวิตยกครอบครัวตอนนั้นฉันกับอาวิลอยู่ไทยเลยรอดชีวิตมาได้
สาเหตุนี้เลยทำให้ฉันต้องย้ายมาอยู่ไทยอย่างถาวรเพื่อความปลอดภัยและอีกอย่างคุณย่าของฉันเป็นคนไทยที่มีสามีเป็นคนอังกฤษตอนที่ทุกคนเสียชวิตฉันอายุเพียง 8-9 ขวบเองจึงทำให้ฉันสนิทกับอาวิลมากๆ ส่วนอาวิลก็ดูแลธุรกิจอยู่อังกฤษนานๆทีจะกลับมาบ้าง ส่วนฉันก็อาศัยอยู่เพียงคอนโดเพียงลำพัง..
"ครั้งนี้จะกลับมากี่วันคะ"
"อาทิตย์เดียว"
"กลับมาทั้งทีไม่กลับมาเป็นเดือนเลยละคะ"
"อามีงาน..หนูอย่างอลอานะครับ" อาวิลเดินจับมือฉันเดินมาหาอาภามที่ยืนมองเราสองคนอยู่ตามมาด้วยการ์ดอีกสองคนที่เดินตามมาไม่รวมกับคนที่ถือกระเป๋า..
"หนูเข้าใจค่ะ..แต่อยู่คนเดียวเหงามากๆ เลยหนูขออยู่กับเพื่อนแทนนะคะหนูจะได้มีเพื่อน"
"ไม่ได้ครับ..ถ้าหนูอยู่กับเพื่อนเดี๋ยวก็ชวนกันไปถเหลถไหลที่ไหนต่อไหนอีก"
ที่จริงฉันก็พอจะรู้แหละว่ายังไงอาวิลก็ไม่ยอมแน่ๆ แต่ฉันก็ขอทุกครั้งที่อาวิลกลับมาแต่อาวิลก็ไม่ยอมสักทีแถมยังให้คนมาเฝ้าหน้าห้องฉันตลอดเวลาอีกทำไมต้องคุ้มกันขนาดนั้นด้วยฉันไม่เข้าใจ ก็พอรู้ว่าเป็นคนขี้หวงหวงทุกอย่างแม้กระทั่งหวงหลานตัวเอง..
"ค่ะ"
"แต่อามีคนจะให้หนูไปอยู่ด้วยแล้ว"
.
.
.
พบกับความวุ่นวายได้ในตอนต่อไปค่ะ55555555555555555