EP.1
"โต๊ะเก้า ช้างโปร น้ำแข็งเล็กหนึ่งค่ะ" ฉันบอกกับพี่เบสพนักงานจัดออเดอร์แล้ววางรายการในตะกร้า รอไม่นานของที่แจ้งไว้ก็ถูกยื่นออกมาจากช่องรับของขนาดกว้างเมตรกว่าพร้อมกับรอยยิ้มหวานๆ
"ขอบคุณค่ะ"
เครื่องดื่มที่ลูกค้าสั่งถูกวางไว้บนโต๊ะก่อนที่ฉันจะเดินไปหยิบน้ำแข็งหนึ่งถังเล็กมาให้อีกรอบและค่อยๆเทเครื่องดื่มให้กับลูกค้าผู้ใหญ่วัยทำงานที่มีทั้งผู้หญิงและผู้ชาย
"น้องเนยบริการโต๊ะสิบสองหน่อย" เสียงจากพี่ปายผู้จัดการของร้านเอ่ยปากบอกฉันที่กำลังเดินไปประจำจุดของตัวเองเพื่อรอให้บริการลูกค้าในร้าน
ร้านนี้เป็นสถานบันเทิงที่ค่อนข้างอยู่ห่างจากมหาวิทยาลัยพอสมควร
เหตุผลที่ฉันเลือกมาทำงานเสริมร้านนี้ก็เพราะไม่อยากเจอเพื่อนและคนรู้จักที่เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกันและร้านนี้ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นวันทำงาน จึงมีโอกาสน้อยมากที่จะเจอคนรู้จักกัน
ฉันยังเรียนอยู่ปีหนึ่งการหางานทำช่วงกลางวันจึงยากเพราะติดกิจกรรมอะไรหลายอย่าง ทำได้แต่แอบมาทำงานตอนกลางคืน ถึงจะเหนื่อยล้ากับการพักผ่อนน้อยแต่มันก็จำเป็นจึงหยุดไม่ได้
"รับอะไรดีคะ" ฉันยืนข้างโต๊ะแล้วเตรียมจดรายการก่อนจะเลื่อนสายตาไปมองลูกค้าเพราะเขาไม่ตอบคำถาม
"..."
"พะ...พี่นธี!"
คนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้มองฉันนิ่งๆ ไม่ได้ตกใจเท่ากับฉันที่แทบจะเข่าทรุด จากที่คิดว่าร้านนี้เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
มันยิ่งย่ำแย่กว่าเดิมเพราะฉันดันมาเจอกับพี่ชายที่เป็นเพื่อนสนิทของตัวเอง
"เธอ" เขาพูดแค่นั้นแล้วมองชุดที่ฉันใส่ก่อนจะเบือนหน้าหนี มันไม่ได้โป๊เปลือยอะไรแต่มันรัดรูปจนเห็นสัดส่วนชัดเจน ชุดยูนิฟอร์มของร้านนี้สำหรับผู้หญิงคือเดรสไหมพรมสีดำแขนยาวแต่ความสั้นของมันเลยขาอ่อนลงไปนิดเดียว
"พี่อย่าบอกใครได้มั้ย นินก็รู้ไม่ได้" ฉันกำสมุดและปากกาไว้แน่นเหงื่อเริ่มซึมออดมาจนรู้สึกชื้น "เนยจำเป็น"
"..." เขาหันมาขมวดคิ้วใส่แล้วเบือนหน้าไปทางอื่นพร้อมกับตอบสั้นๆ "ไม่ได้ชอบเสือก"
ฉันไม่ได้แปลกใจกับคำพูดของเขานักเพราะปกติก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว บางคำที่เอ่ยออกมาฉันก็ไม่ค่อยเข้าใจความหมาย
ฉันไม่ได้สนิทกับพี่นธีจนรู้จักเขาทุกเรื่องแค่ได้เจอบ่อยๆเพราะเป็นพี่ชายของญานินเพื่อนสนิทของฉันตั้งแต่เรียนมัธยมจนถึงตอนนี้เราก็มาเรียนสาขาและคณะเดียว
"ค่ะ" ฉันตอบอย่างเข้าใจ ไม่ชอบเสือกแปลว่าเขาคงไม่เอาฉันไปพูดให้ใครฟัง "พี่เอาอะไรดี"
ที่จริงฉันเคยชอบเขาตอนเรียนมัธยม แต่มันก็แค่ความชอบแบบเด็กๆในตอนนั้นเพราะพี่เขาดูดีไปหมดทุกอย่าง เรียกได้ว่าเพอร์เฟคเลยก็ว่าได้
ฉันก็เด็กสาวธรรมดาคนหนึ่งที่แอบปลื้มคนหล่อและมีดีกรีเป็นนักกีฬาของโรงเรียนนั่นแหละ
"Johnnie Walker Blue Label"
"ค่ะ" ฉันตอบรับแล้วเดินไปสั่งกับพี่เบสก่อนจะกลับมาพร้อมขวดเครื่องดื่มราคาค่อนข้างจะแพง ถือมันมาอย่างทะนุถนอมและมีเพื่อนพนักงานอีกคนถือแก้วและน้ำแข็งตามมา
"..." พี่นธีนั่งเงียบๆแล้วรับแก้วเครื่องดื่มไปวางด้านหน้าของตัวเอง สายตาของเขามองดูแก้วนั้นนิ่งไม่รู้คิดอะไรอยู่
"พี่มาคนเดียวเหรอคะ"
"..." เขาเงยหน้าขึ้นมามองเหมือนอยากพูดออกว่าฉันกำลัง 'เสือก' อย่างนั้นแหละ "คนเดียว"
"มีอะไรเรียกเนยได้เลยนะคะ เดี๋ยวไปดูโต๊ะอื่นก่อน" ว่าแล้วฉันก็โค้งให้เขาเล็กน้อยก่อนจะหันหลังเดินออกมาด้วยรองเท้าส้นสูงเกือบห้านิ้วที่ตอนนี้มันค่อนข้างคล่องแคล่วขึ้นกว่าวันแรกที่มาทำงาน
จวบจนเวลาเที่ยงคืนกว่าก็ถึงเวลาเลิกงาน ฉันออกมานอกร้านเพื่อเรียกรถเหมือนทุกครั้งที่มาทำงานที่นี่ ในหนึ่งสัปดาห์ฉันจะทำงานแค่สี่วัน หยุดวันพุธ วันศุกร์และเสาร์เพราะมีกิจกรรมรับน้องในวันพุธค่อนข้างหนัก ส่วนวันศุกร์กับเสาร์เป็นวันหยุดที่เลือกเอง
ซึ่งต้องไปขอร้องพี่ปายอยู่นานกว่าเธอจะยอมเพราะเย็นวันศุกร์กับวันเสาร์คนค่อนข้างเยอะฉันไม่อยากเจอคนรู้จัก
แต่สุดท้ายแม้จะเป็นวันปกติก็มาเจอ...
"..." สายตาเย็นชาของพี่นธีทำให้ฉันหยุดยืนนิ่งก่อนจะค่อยๆเดินเข้าไปหาเขาช้าๆ
"พี่ยังไม่กลับเหรอ" ฉันถามอล้วมองบุหรี่ในมือเขา พึ่งรู้ว่าเขาทำเรื่องแบบนี้ด้วย
"กำลัง"
"กลับด้วยได้มั้ยคะ" ฉันพูดแล้วส่งยิ้มกระพริบตาปริบๆเป็นการขอร้อง "น่าจะทางผ่านไปคอนโดพี่"
ที่จริงฉันรู้ที่อยู่คอนโดของเขาอยู่แล้วเพราะเคยไปส่งญานินแต่ไม่เคยขึ้นไปห้องเพราะเลือกจะรอด้านล่างไม่อยากรบกวนเจ้าของห้องที่น่าจะชอบความเป็นส่วนตัว
"..." พี่นธีไม่ตอบเข้าทิ้งบุหรี่ลงพื้นแล้วใช้เท้าบี้มัน ขายาวๆก้าวออกไปโดยไม่พูดอะไร ฉันจะคิดว่าเขาตกลงแล้วกันนะ
คิดได้ดังนั้นจึงรีบวิ่งตามร่างสูงแล้วถือวิสาสะเข้าไปนั่งบนรถของเขาทันที
"ไปทางคอนโดญานินเลยค่ะอยู่ตรงข้ามกัน" ฉันบอกแล้วยิ้มกว้างส่งให้เขา
พี่นธีแค่มองมาเงียบๆแล้วจึงขับออกไป
"ขอบคุณค่ะ" ฉันกล่าวขอบคุณเมื่อรถมาจอดหน้าหอตัวเอง ก้าวลงจากรถทันทีเพราะตอนนี้ดึกมากแล้วไม่อยากรบกวนเขามากนัก
หอพักของฉันราคาถูกที่สุดในย่านนี้ห้องขนาดเล็กพอให้ได้พักผ่อนแบบไม่ต้องคิดมากเรื่องค่าเช่า เพราะฉันต้องรับผิดชอบตัวเองหลังจากที่'พ่อแท้ๆ' ตัดความช่วยเหลือฉันเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมด
"..." เสียงฝีเท้าของใครบางคนดังขึ้นตอนที่ฉันกำลังจะเปิดประตู สัญชาตญาณการถูกคุกคามทำให้ฉันรีบหันไปมองก่อนจะเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ
ไอ้วี!
-----------
พูดเยอะไม่ได้เดี๋ยวดอกพิกุลจะร่วง