เสียงหอบหายใจที่ไม่คิดจะอำพรางเสียงให้เบาลงเลยแม้แต่น้อยทำให้กอหญ้าที่มึนเมาด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ถึงกับพยายามลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความยากลำบากเพื่อมองหาที่มาของเสียงครางกระเส่าและลมหายใจอุ่นร้อนที่เป่าราดรินรดอยู่ข้างแก้มเนียนของเธอ
ภายใต้ความมืดที่มีเพียงแสงสว่างจากดวงจันทร์กลมโตที่ลอดผ่านผ้าม่านเข้ามากระทบร่างของใครบางคนที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่บนร่างกายของเธอทำให้กอหญ้าขมวดคิ้วน้อยๆด้วยความแปลกใจก่อนที่เธอจะหลงเคลิ้มคิดไปว่านี่คือความฝันที่ชวนให้รู้สึกหวาบหวามจนแทบไม่อยากลืมตาตื่นขึ้นมาเลยสักนิด
ดวงหน้าสวยเฉี่ยวที่สะกดตาสะกดใจสิงห์หนุ่มเสือร้ายทั้งหลายพลันเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อยเมื่อรู้สึกถึงสัมผัสที่บางเบาราวกับขนนกแต่กลับทำให้เธอเสียวสะท้านจนกลั้นเสียงครางเอาไว้ไม่ไหว นี่คือความฝันกอหญ้าเพียรพยายามตอกย้ำตนเองด้วยรอยยิ้มละมุนละไมที่ฉายอยู่บนใบหน้าสองมือนุ่มนิ่มพลันลูบไล้แผ่นหลังที่ชื้นไปด้วยเหงื่ออย่างสะเปะสะปะราวกับกำลังตอบสนองต่อสัมผัสที่ชวนให้โหยหาและความปรารถนาที่ซ่อนเอาไว้ลึกสุดของก้นบึ้งหัวใจ
“อ๊า เธอกำลังจะทำให้ฉันคลั่งนะคนสวย”
ภีมวัจน์ครางเสียงกระเส่าด้วยความรู้สึกเสียวซ่านเมื่อมือเล็กนุ่มนิ่มของสาวน้อยใต้ร่างกำลังลูบไล้แผ่นหลังที่ชื้นเหงื่อของเขาไปมาเบาๆคล้ายเชื้อเพลิงที่เติมลงบนกองไฟให้ร้อนแรงมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ใบหน้าหล่อเหลาพลันยกยิ้มมุมปากด้วยความพึงพอใจก่อนที่เขาจะก้มหน้าลงไปใช้ฟันที่เรียงตัวกันอย่างสวยงามดึงรั้งสายเสื้อของเธอให้หล่นลงมากองอยู่บนหน้าท้องแบนราบเผยเต้าอวบกลมกลึงขนาดใหญ่ที่ปลุกอารมณ์ร้อนดั่งไฟของภีมวัจน์ให้ลุกฮือด้วยความร้อนแรง
ภีมวัจน์ไม่รอช้าเขารีบทิ้งใบหน้าซุกซบลงบนหน้าอกอวบที่เด้งตอบรับสัมผัสก่อนที่ลิ้นเรียวของเขาจะทำหน้าที่ดูดกลืนเม็ดบัวใหญ่เบาๆทำให้ลมหายใจที่นิ่งสงบของกอหญ้าพลันถี่กระชั้นริมฝีปากอวบอิ่มพลันเปล่งเสียงครางกระเส่าออกมาอย่างสุดกลั้น
โอ้ พระเจ้าทำไมความฝันของเธอถึงได้เสียวซ่านเช่นนี้นะนี่เธอกำลังฝันทะลึ่งอยู่ใช่ไหมกอหญ้า?
กอหญ้าเอ่ยถามตัวเองในใจด้วยสติที่เลือนรางเพราะความมึนเมาจากแอลกอฮอล์ที่เธอเผลอดื่มเข้าไปเพราะถูกท้าทายจากคู่อริแก้วแล้วแก้วเล่าจนทำให้สติที่มีอยู่เต็มร้อยในทีแรกหลงเหลือเพียงน้อยนิดจนแทบไม่รู้สึกตัวเองว่าตอนนี้เธอกำลังทำสิ่งใดอยู่
ยามที่ลิ้นเรียวตวัดรัดเกี่ยวเม็ดบัวสีชมพูกอหญ้าพลันแอ่นหน้าอกตามแรงรัดด้วยความรู้สึกที่เสียดเสียวเธอพยายามลืมตาขึ้นมองภาพเคลื่อนไหวตรงหน้าแต่ไม่ว่าเธอจะพยายามอย่างไรก็ไร้ผลเมื่อสัมผัสของใครบางคนทำให้สติของเธอกระเจิดกระเจิงจนยากจะกู้กลับคืนมาสุดท้ายกอหญ้าจึงตัดสินใจโยนสติสัมปชัญญะที่เหลืออยู่น้อยนิดทิ้งไปอย่างไม่ไยดีพร้อมโอบกอดร่างกายแข็งแกร่งของคนตรงหน้าอย่างไม่สนใจสิ่งใดพลางตอบสนองต่อสัมผัสของเขาอย่างเร่าร้อน
“อ๊า สะ เสียว เสียว อื้อ ยะ อย่า อื้อ”
เสียงครางพลันถูกกลืนหายไปในลำคอเมื่อภีมวัจน์เลื่อนริมฝีปากขึ้นมาบดขยี้กลีบปากอวบอิ่มปิดเสียงหวานเย้ายวนของกอหญ้าเอาไว้พร้อมมือใหญ่ที่บีบขย้ำหน้าอกอวบอย่างไร้ความปรานี เมื่อจิตสำนึกของภีมวัจน์บอกว่าเธอไม่ใช่สาวน้อยวัยแรกแย้มที่ไม่เคยต้องมือชายหากแต่เธอคือแม่เสือสาวกร้านโลกที่เขาซื้อมาในราคาสูงลิ่วเพื่อมาบำเรอความสุขทางกายให้แก่เขาในค่ำคืนนี้ต่างหากทำให้น้ำหนักยามที่บีบเคล้นอกอิ่มจึงลงแรงหนักเสียจนผิวเนื้อสีขาวราวหยวกกล้วยค่อยๆขึ้นสีแดงเป็นจ้ำไปทั่วบริเวณที่มือใหญ่วาดผ่าน
เอวบางคอดกิ่วของหญิงสาวใต้ร่างเลื้อยส่ายไปมาชวนให้ชายหนุ่มที่กำลังกระหายในรสสัมผัสลูบไล้ผิวเนื้อบริเวณนั้นอย่างเพลิดเพลินก่อนที่เรียวนิ้วของเขาจะค่อยๆไต่ระดับลงมาจนถึงเนินเนื้ออวบอิ่มที่มีขนสีอ่อนขึ้นเพียงเบา ภีมวัจน์ค่อยๆแยกเรียวขาสวยเนียนออกจากกันพร้อมลูบไล้กลีบกุหลาบงามไปมาเบาๆทำให้กอหญ้าที่กำลังมึนงงเพราะจูบสูบวิญญาณของภีมวัจน์ได้แต่ร้องครางอู้อี้อยู่ในลำคอ
“ทำไมถึงได้น่ากินไปทั้งตัวแบบนี้หืม”
ภีมวัจน์พึมพำเสียงกระเส่าชิดกลีบปากอวบอิ่มที่แดงช้ำเพราะแรงดูดดึงจากเรียวลิ้นของเขาในขณะที่กอหญ้ายังคงหลับตาพริ้มไร้วี่แววจะลืมตาตื่นขึ้นมาเพื่อรับรู้ว่าสิ่งที่เธอกำลังคิดว่าคือความฝันในยามราตรีที่มืดมิดแท้ที่จริงแล้วมันคือความจริงต่างหาก
จมูกโด่งที่แสนซุกซนของภีมวัจน์ค่อยๆสูดความหอมจากซอกคอขาวเนียนพร้อมขบเม้มทิ้งรอยแดงไว้จนแทบไม่เหลือพื้นที่ว่างเขาสูดดมความหอมละมุนที่ไม่เคยได้กลิ่นแบบนี้จากที่ไหนมาก่อนด้วยความเพลิดเพลินไล่เรื่อยลงมาหยอกล้อกับผิวเนื้ออวบอิ่มอีกครั้งก่อนที่เขาจะผละจากมาด้วยความเสียดาย
ใบหน้าหล่อเหลาของภีมวัจน์ยังคงเล้าโลมกอหญ้าอย่างช้าๆอย่างที่ไม่เคยทำกับหญิงสาวคนไหนมาก่อนแต่กับผู้หญิงคนนี้ที่คงดื่มเหล้าย้อมใจมาจนเมามายไม่ได้สติกลิ่นหอมของเธอช่างเย้ายวนชวนให้เขาสูดดมหลงใหลไม่รู้เบื่อขั้นตอนการโอ้โลมจึงนานกว่าที่เคยเป็นมา
มือที่วางบนผิวเนื้ออ่อนนุ่มยังคงลูบไล้ไปมาเบาๆก่อนที่ภีมวัจน์จะตัดสินใจเลื่อนใบหน้าลงมาหากลีบผกาสีสวยที่ล่อตาล่อใจให้เขานึกอยากสัมผัสถึงแม้ว่าภายในห้องจะมืดจนแทบมองไม่เห็นแต่แสงจันทร์ที่สาดส่องเข้ามากระทบลงบนเตียงทำให้เขามองเห็นกุหลาบดอกสวยได้เต็มสองตา
“อ๊า ตะ ตรงนั้น ยะ อย่า อื้อ อ๊า”
หลังจากที่ต่อสู้กับตัวเองในใจอยู่นานภีมวัจน์ก็ตัดสินใจแหกกฎของตัวเองเป็นครั้งแรกด้วยการใช้เรียวลิ้นแตะลงบนปุ่มกระสันของสาวสวยใต้ร่างที่บิดกายไปมาด้วยความเสียวซ่านพร้อมเปล่งเสียงครางหวานหูออกมาเคล้าเสียงดูดเลียราวกับท่วงทำนองดนตรีที่ร้อนแรงชวนให้คนที่แหกกฎตัวเองเป็นครั้งแรกถึงกับรู้สึกฮึกเหิมอย่างบอกไม่ถูก
“พะ พอแล้ว ไม่ไหว ละ แล้ว อื้อ อย่า อ๊า”
ดวงตากลมโตถึงแม้จะปิดอยู่ด้วยความมึนเมาแต่สัมผัสที่ชวนให้เสียวสะท้านกลับทำให้กอหญ้ากลั้นเสียงครางเอาไว้ไม่อยู่ร่างเล็กส่ายไหวไปมาราวกับดอกไม้ต้องลมจนกระทั่งความเสียวซ่านที่ได้รับทำให้เธอเกร็งกระตุกและปลดปล่อยน้ำหวานออกมาให้ภีมวัจน์ดูดเลียอย่างไม่นึกรังเกียจ
“หึ หนีไปมีความสุขก่อนเลยนะคนสวย ต่อไปก็ตาฉันบ้างล่ะฉันจะกระแทกให้เธอร้องครางเสียงหวานๆไม่หยุดเลยคอยดู”
ภีมวัจน์จับส่วนที่ร้อนรุ่มแข็งกล้าที่สุดในกายของเขาจ่อไปที่ร่องรักสีชมพูที่มีน้ำหวานฉ่ำเยิ้มคอยเป็นตัวเบิกทางก่อนที่เขาจะกระแทกความแข็งแกร่งผ่านเยื่อบางๆที่เขารับรู้ได้ในเสี้ยววินาทีแต่เขาไม่สามารถหยุดยั้งแรงกระแทกให้ผ่อนแรงลงได้เลยแม้แต่น้อย ส่งผลให้กอหญ้าที่กำลังกึ่งหลับกึ่งตื่นเผลอส่งเสียงกรีดร้องออกมาสุดเสียงพร้อมยกมือขึ้นจิกเล็บลงบนท่อนแขนแกร่งด้วยความตกใจระคนเจ็บปวดถึงขีดสุด
“กรี๊ด อุ๊ป”
ริมฝีปากอวบอิ่มที่เปล่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดพลันถูกปิดผนึกด้วยริมฝีปากของภีมวัจน์ที่ฉกวูบลงมาด้วยความรวดเร็วดวงตาสีน้ำตาเข้มของเขาเผยแววฉงนสงสัยเล็กน้อยเมื่อรับรู้ได้ถึงเยื่อบางๆที่ฉีกขาดลงจากแรงกระแทกที่รุนแรงของเขา
ไหนลูกน้องของเขาบอกว่าผู้หญิงคนนี้เป็นงานแถมลีลาเด็ดอย่าบอกใครอย่างไรล่ะ แล้วเยื่อพรหมจันทร์นี่มันอะไรกันเขามึนงงไปหมดแล้ว
“อื้อ เอ้บ เอ้บ”
ใบหน้าของกอหญ้าพลันส่ายหนีจูบร้อนแรงที่เอาแต่ใจพร้อมร้องครางว่าเจ็บอู้อี้อยู่ในลำคอแต่ภีมวัจน์กลับยกมือขึ้นมาประคองใบหน้าของเธอพร้อมบังคับให้รับจูบของเขาทำให้กอหญ้าหมดสิ้นหนทางที่จะพลิกใบหน้าหนีเธอจึงได้แต่ตอบสนองจูบที่เร่าร้อนของเขาอย่างจำยอม
ปึก ปึก ปึก
ความอ่อนนุ่มที่กำลังโอบรัดความแข็งแกร่งกลิ่นคาวเลือดที่คละคลุ้งไปทั่วบริเวณห้องนอนใหญ่ทำให้อารมณ์สับสนที่กำลังตีกันให้วุ่นภายในหัวพลันลดลงกลายมาเป็นอารมณ์กระหายในความใคร่ที่กำลังพุ่งขึ้นจนถึงขีดสุดเมื่อได้รับรู้ว่าเขาคือคนแรกของเธอภีมวัจน์ก็ยิ่งกระแทกความร้อนแรงเข้าหากอหญ้าจนเธอถึงกับน้ำตาไหลด้วยความเจ็บปวด
ความเสียวซ่านก่อนหน้านี้พลันหายไปจนหมดสิ้นมีเพียงความเจ็บปวดเข้ามาแทนที่จนยากที่เธอจะกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้แต่ความอ่อนไหวจนหลั่งน้ำตาของสาวสวยใต้ร่างไม่ได้ทำให้อารมณ์ร้อนแรงของภีมวัจน์ลดลงเลยแม้แต่น้อย
“อ๊า แน่นมากคนสวย”
ภีมวัจน์กระซิบชิดแก้มเนียนที่เปรอะไปด้วยหยาดน้ำตาพร้อมจับเอวของกอหญ้าเอาไว้แน่นก่อนที่เขาจะรัวกระแทกความใหญ่โตเข้าหาความอ่อนนุ่มพร้อมจงใจบดขยี้จุดกระสันจนทำให้ความเจ็บปวดที่ได้รับในคราแรกค่อยๆจางหายไปกลายเป็นความเสียวซ่านที่เผลอซู้ดปากราวกับกำลังกินของเผ็ดร้อนอยู่
“อ๊า เสียว เสียวเหลือเกิน อื้อ แรงๆ แรงกว่านี้ อ๊า”
เสียงหวานที่ร้องขอให้เขากระแทกแรงขึ้นกว่านี้ทำให้ภีมวัจน์ได้แต่ยกยิ้มมุมปากด้วยความพึงพอใจเขาไม่รอช้าที่จะทำตามคำขอของสาวสวยทันที สองมือของเขารวบมือบางที่กำลังปัดป่ายอยู่ที่แผ่นหลังของเขาอย่างสะเปะสะปะด้วยมือเดียวพร้อมตะโบมจูบดูดเลียอกอิ่มที่แข็งเป็นไตตอบรับสัมผัสของเขาอย่างลืมตัว
“จัดให้ตามคำขอเลยคนสวยเช้ามาตรงนั้นระบมอย่ามาโทษกันนะ”
ภีมวัจน์ก้มหน้าลงไปกระซิบเสียงแหบพร่าที่ข้างใบหูหอมกรุ่นพร้อมสูดดมความหอมอย่างหลงใหลก่อนที่ใบหน้าหล่อเหลาของเขาจะเชิดขึ้นเปล่งเสียงกระเส่าแข่งกับกอหญ้าที่หลงใหลไปกับรสสัมผัสแปลกใหม่ที่เพิ่งเคยรู้จักเป็นครั้งแรกทำให้เธอพลันกระตือรือร้นตอบสนองต่อสัมผัสหวาบหวามของร่างสูงอย่างถึงพริกถึงขิงโดยที่เธอยังคงคิดว่านี่คือความฝันดีอย่างหนึ่งที่เธอจะจดจำเอาไว้ไม่มีวันลืมเลย
ปึก ปึก ปึก
เสียงกระแทกที่หยาบโลนยังคงดังเคล้าคลอกับเสียงครางหวานๆที่ยังคงเปล่งออกมาตลอดทั้งคืนหลายครั้งที่ภีมวัจน์พาสาวสวยที่เขาไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อโลดแล่นไปกับท่วงท่าต่างๆที่นานๆครั้งเขาจะจัดเต็มเล่นเพลินซะหลายท่า จนกระทั่งเข็มนาฬิกาชี้ไปที่เลขสองความเคลื่อนไหวภายในห้องจึงสงบลงแต่ยังคงหลงเหลือกลิ่นอายสิเน่หาที่ชวนให้หนุ่มหล่อและสาวสวยยิ้มออกมาด้วยใจที่เปี่ยมสุขก่อนที่ทั้งคู่จะโอบกอดกันและกันนอนหลับไปท่ามกลางรัตติกาลที่มืดมิด