“รอให้ทับทิมโดนไล่ออกจากบริษัทเมื่อไหร่ ค่อยว่ากันนะคะเจ้” รินลดาเอ่ยบอกแล้วฝึกเดินไปมาต่อไป
และแล้วก็ถึงเวลาที่ทุกคนต้องเดินทางไปยังนครดูไบประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยศิวะนัดรวมตัวกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพราะทุกคนจะได้สะดวกต่อการเดินทางมามากกว่า และตอนนี้ก็เหลือแค่รินลดาเท่านั้นที่ยังไม่มา
“ไอ โทรตามทับทิมรึยังว่าถึงไหนแล้ว” ศิวะเอ่ยถามออกไป เพราะตอนนี้เหลือแค่รินลดาคนเดียวที่ยังไม่มา ถึงแม้จะยังไม่ถึงเวลา แต่เขาก็อดร้อนใจไม่ได้ เพราะเขาพึ่งจะโดนลูกน้องของนายใหญ่อย่างบาคัสด่ามาสดๆร้อนๆ เมื่อไม่นานมานี้ เขาไม่อยากให้มีอะไรผิดพลาดอีก
“โทรแล้วค่ะ ตอนนี้คงจะถึงแล้วมั้งคะ” ไอริณเอ่ยบอกออกไป แล้วพยายามมองหาเพื่อนสาวของตัวเอง ยัยทับทิมแกไปหมุดหัวอยู่ที่ไหนเนี่ย โอ้ย ฉันจะบ้าตาย
“เฮ้อ แค่เริ่มทับทิมก็มาสายขนาดนี้ แล้วแบบนี้จะทำงานได้รึเปล่าก็ไม่รู้นะคะคุณศิวะ อีกอย่างจะเปลี่ยนบุคลิกให้ดีได้แค่ไหนกันเชียว” ชมพูนุชเอ่ยพูดออกมาอย่างดูถูกรินลดา จนเมษาต้องรีบพูดดักคอชมพูนุชทันที
“บางทีทับทิมอาจจะสวยกว่าใครบางคนแถวนี้ด้วยซ้ำ หึ พี่ว่าชมพู่ก็ไม่น่าจะเดือดร้อนอะไรนะจ้ะ เพราะนี่ก็เหลืออีกตั้งห้านาทีกว่าจะถึงเวลาที่เรานัดกัน” เมษาเอ่ยออกไป เพราะไม่ชอบที่ชมพูนุชพูดดูถูกคนอื่น
“พี่เม” ชมพูนุชเอ่ยเสียงเข้ม พร้อมชักสีหน้าโกธรเมษาอย่างปิดไม่มิด จนกวินทร์แฟนหนุ่มต้องรีบเอ่ยแทรก
“ชมพู่ ไม่เอาน่า พี่เมษาเขาก็พูดไปงั้นแหละ” กวินทร์เอ่ยบอกแล้วมองหน้าของชมพู่นุชแล้วส่ายหน้าให้เธอหยุด
“มาแล้วค่ะทุกคน ขอโทษที่ทำให้รอนานนะคะ พอดีรถติดนิดหน่อยน่ะค่ะ” รินลดาเอ่ยพูด ขณะเดินเข้ามา พร้อมกับใส่เสื้อแขนยาวสีขาวเข้ากับกระโปรงสีดำสั้นเหนือเข่า จนทุกคนที่หันมาตะลึงกับความเปลี่ยนแปลงของเธอ
“ทับทิม หืม นี่แกจริงๆเหรอเนี่ย ฉันไม่คิดว่าแกจะเปลี่ยนตัวเองได้เริ่ดขนาดนี้นะเนี่ย ไม่น่าล่ะถึงไม่ยอมมาเข้าคอร์สกับพวกเรา ที่แท้แอบไปทำเองซะจนฉันจำไม่ได้เลยนะยะ” ไอริณแซวเพื่อนสาวออกไป เพราะเจอกันเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว รินลดายังไม่ได้มั่นใจขนาดนี้
“สวยมากเลยทับทิม แบบนี้สิถึงกับสมกับที่พี่เลือกไป”ศิวะเอ่ยอย่างชื่นชมรินลดา ที่เธอยอมเปลี่ยนตัวเองเพื่องานได้ขนาดนี้
“ไม่เห็นจะสวยอะไรมากมาย จริงไหมคะวิน” ชมพูนุชเอ่ยไปแล้วเบะปากใส่รินลดา ก่อนจะถามแฟนหนุ่มที่ยืนอยู่ด้วยกัน แต่กวินทร์ไม่ได้ตอบเพราะกำลังมองรินลดาอย่างไม่เชื่อว่าเขาจะทิ้งผู้หญิงที่สวยขนาดนี้
“วินคะ วิน” ชมพูนุชเห็นกวินทร์ไม่ตอบเธอ เธอจึงหันไปมองจนเห็นกวินทร์มองรินลดาไม่วางตา
"ครับ ครับ" กวินทร์เอ่ยพูดออกไปอย่างติดขัด เพราะมัวแต่อึ้งกับรินลดาคนใหม่ที่ต่างจากเมื่อก่อนมาก ทั้งขาว ทั้งสวย ทั้งอึ๋ม เซ็กซี่ยั่วใจเขาจริงๆ
“ฮ่าๆ เสียดายเหรอคะคุณกวินทร์ ที่ยัยทับทิมสวยขนาดนี้ ถึงมองตาเยิ้มแบบนี้”ไอรินเอ่ยพูดแซวก็ไม่ลืมทิ้งระเบิดใส่กวินทร์ให้ชมพูนุชหึง
“เปล่า เปล่าครับ ผมแค่ไม่เคยเห็นทับทิมในมุมนี้ก็เท่านั้นเอง” กวินทร์รีบแก้ตัว เพราะไม่อยากทะเลาะกับชมพูนุชตรงนี้
“แล้วนี่มีกระเป๋าแค่ใบเดียวเหรอทับทิม ชุดไทยล่ะเอาไปด้วยหรือเปล่า” ศิวะเอ่ยถาม เมื่อเห็นรินลดาถือลากกระเป๋ามาแค่ใบเดียว
“มีหนุ่มถือมาให้ค่ะ สงสัยคงจะฝ่าแฟนคลับมาไม่ได้” รินลดาเอ่ยบอกออกไปด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะหันไปมองด้านหลังของตัวเอง เพราะวันนี้ภาคดนัยยืนยันจะมาส่งเธอให้ได้ แต่พอลงจากรถได้ไม่นานก็มีคนเข้ามาขอถ่ายรูป จนเธอต้องรีบเดินหนีมาก่อน
“คงไม่ใช่พี่ภาคหรอกนะ” ไอริณที่ปลื้มภาคดนัยเอ่ยถามอย่างลุ้นๆ เพราะเธอรู้ว่ารินลดาเป็นลูกพี่ลูกน้องกับภาคดนัย แต่รินลดาขอให้เธอเก็บเป็นความลับเพื่อความสงบของเธอ
“นั่นไง โดนสาวๆรุมอยู่ตรงนั้น” รินลดาเอ่ยบอกแล้วมองไปที่ภาคดนัยด้วยรอยยิ้มขำๆอย่างสงสารพี่ชาย
“โอ้ย หล่อ ล้ำ เหมือนเดิมเลยอ่ะ” ไอรินพูดไปก็มองอย่างสนใจ ทุกคนก็มองตามไม่ต่างกัน แต่ศิวะที่มองอยู่ก็ถึงกับพูดออกมาอย่างอดไม่ได้เมื่อคู่หมั้นคนสวยเล่นอวยผู้ชายคนอื่นต่อหน้าเขา
“ไอ ให้มันน้อยๆหน่อย พี่ยืนอยู่ตรงนี้ทั้งคน” ศิวะเอ่ยพูดด้วยเสียงเข้มอย่างหวงๆ เพราะไม่รู้ว่ารินลดาไปรู้จักกับภาคดนัยดาราดังคนนี้ได้อย่างไร
ภาคดนัยขอตัวจากแฟนคลับมาทำธุระสำคัญต่อ จนแฟนคลับปล่อยให้เขาเดินมาหาน้องสาวได้อย่างสะดวกขึ้น ก่อนจะคอยมองอยู่ห่างๆ
“ทิ้งพี่ให้เหนื่อยอีกแล้วนะ รู้แบบนี้พี่ไม่มาส่งหรอก” ภาคดนัยเอ่ยพูดด้วยถ้อยจาหวานๆใส่น้องสาว ก่อนจะยิ้มให้กับเพื่อนร่วมงานของน้องสาวอย่างเป็นมิตร
“ก็บอกไม่ต้องมาก็ยังจะมาอยู่ได้ สมน้ำหน้า” รินลดาเอ่ยตอบอย่างน่ารัก จนทุกคนที่มองทั้งสองถึงกับสงสัยว่าทั้งสองเป็นอะไรก็ยกเว้นแต่ไอริณที่รู้แล้ว
“คุณคงเป็นคุณศิวะสินะครับ ผมฝากคุณช่วยดูแลทับทิมแทนผมด้วยนะครับ น้องไออีกคนพี่ฝากดูแลทับทิมด้วยนะ” ภาคดนัยเอ่ยบอกทั้งสองพร้อมกับรอยยิ้มหวาน จนไอริณรีบตอบทันที
“ค่ะพี่ภาค ไอจะดูแลอย่างดีเลยค่ะ พี่ภาคไม่ต้องห่วงนะคะ” ไอริณเอ่ยพูดแล้วยิ้มเขินอย่างไม่ปิดบังก่อนจะรีบเอ่ยแนะนำศิวะออกไป
“อ่อลืมเลย นอกจากพี่ศิวะจะเป็นเจ้านายของยัยทับทิมแล้ว ก็ยังเป็นคู่หมั้นของไอค่ะ” ไอริณเอ่ยพูดเพราะกลัวศิวะจะงอนเธอซะก่อน
“สวัสดีครับ” ศิวะเอ่ยพูดไปกอย่างเป็นมิตรก็จับมือทักทายกันตามมารยาท
“อ่อ สมกันมากเลยครับคุณศิวะน้องไอ” ภาคดนัยเอ่ยบอกออกไปก็หันไปมองอดีตแฟนของน้องสาว ที่เขาเห็นในรูปในห้องนอนของน้องสาวเมื่อหลายปีก่อน มันทำให้เขาจดจำได้อย่างรวดเร็ว เพราะไอ้นี่มันทำให้น้องสาวเขาเจ็บจนเขานึกอยากจะไปจัดการให้เด็ดขาดตั้งแต่ตอนนั้น แต่รินลดาก็ยังใจอ่อนเกินไป ที่จะยอมให้เขาจัดการไอ้หมอนี่
“สวัสดีค่ะ ชมพูนุชหรือชมพู่ค่ะคุณภาคดนัย ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ” ชมพูนุชรีบเสนอตัวเองกับภาคดนัยทันที เพราะเขาเป็นดาราดังที่มีชื่อเสียงมาก ไม่คิดว่าคนอย่างรินลดาจะไปรู้จักกับคนระดับนี้ได้ แถมยังทำตัวสนิทสนมจนเธอนึกอิจฉา
“ครับ” ภาคดนัยเอ่ยไปเท่านั้นก่อนจะหันไปหาน้องสาวทันที เพราะแค่ชื่อเขาก็ไม่อยากจะพูดอะไรด้วยมาก เนื่องจากฟังรินลดาบ่นเรื่องของผู้หญิงคนนี้ให้เขาฟังอยู่บ่อยครั้ง
“อย่าลืมนะ ถึงแล้วโทรหาพี่ด้วย อย่าทำให้พี่คิดถึง แล้วก็นี่เอาไปกดได้เต็มที่เลย” ภาคดนัยเอ่ยพูดแล้วเอาบัตรเครดิตให้กับน้องสาว ก่อนจะกอดน้องสาวอย่างรักใคร่ จนคนที่อยู่รอบๆมองอย่างอึ้ง เพราะไม่รู้ว่ารินลดาเป็นอะไรกับภาคดนัย
“ค่ะพี่ภาค ขอบคุณนะคะ” รินลดาเอ่ยบอกแล้วถอนกอดออกจากพี่ชาย เพราะกลัวเป็นข่าวอีกแค่ยอมให้มาส่งก็มากพอแล้ว
“งั้นเดี๋ยวเราเข้าไปด้านในกันเถอะ เครื่องใกล้ออกแล้วด้วยเดี๋ยวจะได้โหลดกระเป๋ากัน” เมษาเอ่ยบอกหลังจากเงียบอยู่นาน เธอก็อยากจะรู้อยู่หรอกว่าสองคนนี้เป็นอะไรกัน แต่พอเห็นแฟนคลับของภาคดนัยแล้วเธออยากจะรีบไปซะมากกว่า
“งั้นทับทิมไปก่อนนะคะพี่ภาค ดูแลตัวเองด้วยนะคะ แล้วห้ามเบี้ยวงานเด็ดขาด เข้าใจไหมคะ” รินลดาเอ่ยบอกพี่ชายเพราะจะไปแล้ว
“รู้แล้วน่ายัยขี่บ่น” ภาคดนัยเอ่ยพูดแล้วยิ้มให้น้องสาวพร้อมกับขยี้ผมของรินลดา จนทุกคนสงสัยในความสัมพันธ์ของทั้งสอง แต่ก็ไม่กล้าถามอะไร ยกเว้นไอริณที่รู้เรื่องอยู่แล้ว
จากนั้นทุกคนก็เดินไปเช็คอินโหลดกระเป๋าเพื่อเตรียมตัวขึ้นเครื่อง รินลดาที่สวยขึ้นก็มีผู้ชายพากันมองอย่างชื่นชอบ จนเธอรู้สึกแปลกๆ แต่พอเห็นสายตาของกวินทร์ที่มองมาเธอก็ต้องเริ่ดต้องมั่นเข้าไว้ เพราะที่เธออยากสวยไม่ใช่เพราะแค่เรื่องงาน แต่เพราะคำดูถูกของชมพูนุชด้วย ยังไงเธอก็จะทำให้ชมพูนุชกับกวินทร์เจ็บอย่างที่เธอเคยเจ็บ
“หืม สงสัยเจ้านายใหญ่จะรวยมากเลยนะถึงให้เรานั่งชั้นเฟิร์สคลาส พี่ล่ะอยากเห็นตัวจริงจังเลยว่าจะหล่อแบบในหนังสือรึเปล่า” เมษาเอ่ยพูดขณะกำลังเดินเข้ามาในที่นั่งชั้นเฟิร์สคลาสบนเครื่องบินลำใหญ่
“ไอก็อยากเห็นค่ะพี่เม ว่าจะหล่อจริงรึเปล่าจริงไหมทับทิม” ไอรินเอ่ยพูดตาม ก่อนจะหันไปถามเพื่อนสาว
“ไม่รู้สิ ทับทิมชอบแบบไทยๆแนวฝรั่งแนวแขกแบบนั้น ทับทิมไม่ค่อยชอบอ่ะ” รินลดาเอ่ยบอกออกไป แต่ในใจก็คิดว่าเธอก็ไม่ได้ไม่ชอบฝรั่งหรือแขกขาวอะไรพวกนี้ แต่เธอกลัวเรื่องบนเตียงของคนต่างชาติต่างหาก เพราะเขาบอกกันว่าไซส์จะต่างจากคนเอเชียราวฟ้ากับเหว เธอจึงไม่ค่อยจะชอบเท่าไหร่ เธอขอแค่หนุ่มไทยหล่อๆดีๆสักคนก็พอ
“ถึงเธอจะชอบ แต่ฉันว่าแบบเธอเขาก็ไม่ชอบหรอกย่ะ” ชมพูนุชเอ่ยแขวะอย่างไม่ชอบใจก่อนจะนั่งลงที่นั่งของตัวเอง
“อย่าไปสนใจเลย ไปนั่งเถอะทับทิม” เมษาเอ่ยพูดแล้วตบไหล่ของรินลดาเบาๆ
จากนั้นทุกคนก็เดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ มุ่งตรงสู่นครดูไบโดยใช้เวลาเดินทางประมาณหกชั่วโมง โดยทางโรงแรมมีรถมารับพวกเขาให้มุ่งหน้าไปสู่โรงแรมอย่างสะดวกสบาย
“เป็นเมืองที่สวยมากเลยนะคะเนี่ย คุ้มแล้วล่ะค่ะที่ทับทิมอุตส่าห์เปลี่ยนแปลงตัวเองตั้งนาน” รินลดาพูดไปก็มองวิวผ่านจากข้างในรถอย่างตื่นเต้น
“ไม่แน่นะ มาครั้งนี้ทับทิมอาจจะมีหนุ่มๆกลับไทยด้วยก็ได้ ฮ่าๆ” เมษาที่นั่งมาด้วยเอ่ยกระซิบกระซาบกันอย่างขบขัน
“พี่เมก็ หยุดแซวทับทิมเลยนะคะ ถ้าคนมันใช่ เดี๋ยวมันก็เจอเองแหละค่ะ” รินลดาเอ่ยบอกออกไป เพราะตั้งแต่เลิกกับกวินทร์เธอก็ไม่อยากเปิดใจให้ใคร เพราะเธอเกลียดผู้ชายเจ้าชู้ที่สุด
พอถึงหน้าโรงแรมทุกคนก็ลงจากรถ ส่วนกระเป๋าพนักงานก็จะเป็นคนยกไปเก็บไว้ที่ห้องพักของเราเอง พอเข้าประตูของโรงแรมไปก็มีพนักงานยืนเรียงต้อนรับอยู่ ศิวะจึงเดินนำทุกคนเข้าไป พนักงานก็ส่งผ้าเช็ดมือให้ แล้วก็ฉีดน้ำหอมใส่มือก่อนจะยื่นแก้วชาชาของดูไบให้เราดื่ม และสุกท้ายจะให้ช็อกโกแลตกับแขกทุกคนที่เข้าโรงมา ทุกคนก็ทำตามศิวะอย่างรู้งาน เพราะนี่น่าจะเป็นธรรมเนียมในการต้อนรับของชาวดูไบ
“ขอบคุณค่ะ” รินลดาที่อยู่คนสุดท้ายเอ่ยพูดเป็นภาษาอาหรับ ซึ่งต่างจากทั้งห้าคนที่พูดเป็นภาษาอังกฤษ
“ทำเป็นโชว์ฟอร์ม ฉันก็พูดได้แต่ไม่เห็นจำเป็นต้องพูดเลย” ชมพูนุชเอ่ยแขวะเมื่อได้ยินรินลดาพูดออกมาเป็นภาษาอาหรับ
“หยุดว่าคนอื่นสักทีเถอะชมพู่ พี่ชักจะเบื่อเธอขึ้นทุกวันแล้วนะ” เมษาเอ่ยบอก เพราะเธอเบื่อเต็มที่แล้ว
“หยุดคุยกันก่อนนะครับ แล้วแยกย้ายกันไปพักก่อนดีกว่านะครับ เพราะพรุ่งนี้เราต้องเจออะไรอีกมาก” ศิวะเอ่ยบอกแล้วมองหน้าทุกคนสลับกันไปมา
“ก็ดีค่ะ งั้นก็นอนคู่ใครคู่มันนะคะ” ชมพูนุชเอ่ยพูด เมื่อเธอได้นอนคู่กับกวินทร์ตามความต้องการ ส่วนศิวะก็นอนกับไอริณ ส่วนรินลดาก็นอนกับเมษา ยังไงเธอไม่มีทางให้ศิวะคาดสายตาของเธอแน่นอน