Chapter 4
ชูการ์แดดดี้
หลับไปนานเท่าไรไม่รู้ แต่พอตื่นขึ้นมา อัครวินทร์ก็ปวดหัวตุบ ๆ รู้สึกร้าวไปหมดทั้งร่างราวกับเพิ่งกลับจากสงครามโซเวียต ชายหนุ่มขยับตัวบนเตียงโดยไม่ลืมตา คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันด้วยความเมื่อยระบม ก่อนควานมือไปที่โต๊ะเล็กหัวเตียงเพื่อหยิบโทรศัพท์มาดูเวลา
ชายหนุ่มยกมือขึ้นเสยผม หรี่ตามองหน้าจอโทรศัพท์ที่ทีแรกพร่า ๆ ก่อนค่อย ๆ ชัดขึ้น แล้วเบิกตากว้าง
ฉิบหาย! สายป่านนี้แล้ว!
อัครวินทร์ลุกจากเตียงรีบอาบน้ำใส่เสื้อผ้าเพราะจำได้ว่าวันนี้มีนัดหมายกับคู่ค้าคนสำคัญช่วงอาหารเย็นที่ร้านอาหารริมทะเลต่างจังหวัดแน่ะ เมื่อแปรงฟันอาบน้ำเสร็จในเวลามีกี่นาที ร่างสูงในชุดสูทสีดำก็เดินสวมนาฬิกาลงมาจากชั้นสอง
เขามองหาแม่บ้านเพื่อถามหาอาหารเที่ยง ก่อนจะคิดขึ้นมาได้ว่าวันนี้ไม่ใช่วันที่แม่บ้านจะมาทำความสะอาดหรือทำอาหารให้เขานี่นา
แต่กลิ่นหอม ๆ ที่ลอยมาจากครัวนั่นเล่า
อัครวินทร์เดินตามกลิ่นไปถึงประตูครัว ภาพแรกที่เห็นคือด้านหลังของหญิงสาวหุ่นนาฬิกาทราย เธอสวมผ้ากันเปื้อนลายดอกไม้ทับเดรสสีขาวแขนตุ๊กตา เส้นผมสีน้ำตาลหยักศกถูกรวบไว้ด้วยริบบิ้นสีชมพู เอวเธอเล็กมาก ก่อนจะผายออกเป็นสะโพกกลมสวยได้รูป
ใครวะ...
ชายหนุ่มยืนงง ก่อนที่ความทรงจำเมื่อคืนนี้จะไหลบ่าเข้ามา
เสียงฮัมเพลงของเธอคุ้นมาก แล้วยังผมสีนั้น หยักศกยาวสลวย เอวเล็ก ๆ สะโพกผาย... ฉิบหาย
นั่นมันไม่ใช่ความฝัน!!!
เหมือนค้อนหนัก ๆ ร่วงลงจากเพดานมากระแทกศีรษะดังตึง! อัครวินทร์ยืนงงตัวชา และกำลังคิดไม่ออกว่าจะรับมือกับผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ตรงหน้ายังไงดี
“อุ๊ย คุณป๋า”
หวันยิหวาตักซุบใส่ถ้วยและหันมาเห็นผัวหมาด ๆ ของเธอยืนอยู่ตรงประตูครัวพอดี หญิงสาวยิ้มหวานเอียงอาย วางถ้วยซุบไว้บนโต๊ะเตรียมอาหาร
“หญ้าหวานทำอาหารเสร็จพอดีเลยค่ะ คุณป๋าจะทานเลยมั้ยคะ”
เธอเป็นใคร?
คือสิ่งที่อัครวินทร์กำลังสงสัย แต่กลิ่นซุบหอม ๆ ก็เหมือนยาเสน่ห์น่ารับประทาน ท้องเขาร้องจ้อก และคิดว่าขอกินข้าวก่อนแล้วกันค่อยสอบสวนกันทีหลัง
“ทานเลย”
บอกจบก็เดินไปรอที่ห้องรับประทานอาหาร ซึ่งบนโต๊ะมีอาหารหลายอย่างวางไว้รออยู่แล้ว หวันยิหวาเดินตามมา จัดแจงวางถ้วยซุบให้เขาแล้วเสิร์ฟข้าว ก่อนนั่งลงตรงกันข้าม
เขาเริ่มกินแล้ว...
กินอย่างกับหิวมาหลายวัน
หวันยิหวายิ้มหวาน ดูเหมือนไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไร แต่หัวใจเธอกำลังเต้นโครมคราม ทำไมเขาถึงยอมทานอาหารด้วยอันนี้หวันยิหวาไม่เข้าใจเหมือนกัน เธอคิดว่าเขาจะโวยวาย จะไล่เธอออกไป จนต้องแบล็คเมล์ให้เขารับผิดชอบด้วยคลิปวิดีโอที่เธอแอบอัดไว้!
แต่เขากลับเฉย...
หญิงสาวหัวใจร้อนรน กินข้าวไปได้ไม่กี่คำก็กินต่อไม่ลงอีก เขาเองก็ไม่คุยอะไร เอาแต่กิน ๆ ๆ
สงสัยเมื่อคืนนี้จะเสียพลังงานไปเยอะ
ถึงจะแข็งแรงแฮนซั่ม แต่จริง ๆ เขาก็อายุมากแล้วนี่เนอะ
พ่อชูการ์แดดดี้ของหนู...
หวันยิหวาเลียริมฝีปากเมื่อเกือบจะหลุดหัวเราะออกมากับความคิดของตัวเอง เธอไม่รู้ตัวว่าอัครวินทร์ลอบมองอยู่ เขาเห็นสีหน้าหลากหลาย เห็นความสดใสของวัยเยาว์ ริมฝีปากของเธอเป็นสีชมพูธรรมชาติ ลิ้นเล็ก ๆ นั่นฉ่ำวาวด้วยน้ำลาย
ที่เขาจำได้ว่าหวานเพียงไร...
“แค่ก”
ชายหนุ่มยกกำปั้นขึ้นปิดปากเมื่อเผลอกลืนอาหารผิดจังหวะเพราะเธอเหลือบตามองมาพอดี
อะไรทำให้เขากลายเป็นไอ้งั่งไปได้ขนาดนี้
ทั้งที่เขาอายุปาเข้าไปห้าสิบเอ็ดปีแล้วนะโว้ยยย!
“น้ำค่ะคุณป๋า”
หวันยิหวาลุกขึ้นรินน้ำให้เขาอย่างห่วงใย ดวงตาของเธอเหมือนกระจกบอกความในใจ มันมีประกายของความเป็นเด็กที่กำลังโตเป็นสาว และแฝงไว้ด้วยความรักใคร่โหยหา
รวมถึงตัณหาด้วย...
อัครวินทร์รับแก้วน้ำมาดื่ม เขามองหน้าเธอตลอดเวลา ก่อนวางแก้วน้ำลง ฉุดข้อมือหญิงสาวให้เดินตามมาถึงห้องรับแขก แล้วกดตัวเธอให้นั่งลงบนโซฟา
ชายหนุ่มเดินไปนั่งฝั่งตรงข้าม ดวงตาดุดันมองเธออย่างสำรวจจนหวันยิหวาชักสะบัดร้อนสะบัดหนาว แต่ก็ยังทำยิ้มอย่างใจดีสู้เสือ
กระทั่งเขาถามออกมาเป็นคำแรก...
“เธอเป็นใคร?”
หวันยิหวายิ้มหวานตาใส
“คุณป๋าจำหญ้าหวานไม่ได้เหรอคะ”
“จำได้ เมื่อคืนเธออยู่บนเตียงฉัน”
หวันยิหวาหัวเราะคิกคัก ยกมือโบกไปมาตรงหน้าตัวเอง
“ไม่ใช่สิคะ คุณป๋าเนี่ย! ในหัวจำได้แต่เรื่องบนเตียงหรือไง ก่อนขึ้นเตียงกับหญ้าหวาน... เกิดอะไรขึ้นบ้าง คุณป๋าจำไม่ได้จริง ๆ เหรอคะ?”
ชายหนุ่มขมวดคิ้วมองเธอ คิดไม่ออกจริง ๆ ว่าไปเจอเธอจากที่ไหน พอคิดไปคิดมา ภาพความทรงจำเมื่อหนึ่งปีก่อนก็ฉายเข้ามาในหัวที่เต็มไปด้วยภาพลามกเรื่องคืนนี้เหมือนที่เธอกล่าวหานั่นแหละ
วันนั้นเขาเพิ่งกลับมาจากอิตาลี และนำของฝากไปให้กฤติยา...หลานสาวนอกไส้ที่เขารักและเอ็นดู
“ว้าว ลูกปัดมูราโน่ใช่ไหมคะอาวินทร์ สวยจังเลย”
กฤติยาชอบของฝากมากเลยล่ะ
ระหว่างที่สาวน้อยวัยสิบแปดในตอนนั้นกำลังร่าเริงกับเครื่องแก้วล้ำค่า อัครวินทร์ก็เหลือบไปเห็นสาวน้อยแปลกหน้ากำลังแอบมองลงมาจากมุมกำแพงใกล้บันไดวนชั้นสอง
เธอสวยจนชวนตะลึง!
ใบหน้าของเธอน่ารักเหมือนตุ๊กตาบรายธ์ เส้นผมสีน้ำตาลเข้มหยักศกยิ่งขับให้พวงแก้มของเธอดูละมุนตา จมูกโด่ง ผิวขาวราวกับน้ำนม และมี ‘sex appeal’ แผ่ซ่านออกมาจากเรือนร่างของเธอ จนชายหนุ่มใจสั่น
“อาวินทร์ มองอะไรเหรอคะ”
เสียงถามของกฤติยาทำให้ชายหนุ่มส่ายหน้าปฏิเสธยิ้ม ๆ ในแบบผู้ใหญ่สุขุม เขาอ้างว่าปวดเมื่อยเลยหันคอไปมา กฤติยาจึงอาสาจะนวดคอให้เขาเอง
ระหว่างที่สาวน้อยวัยใสกำลังนวดคอให้ อีกหนึ่งสาวน้อยแปลกหน้าก็หายไปจากมุมบันไดแล้ว อัครวินทร์คิดถึงใบหน้าจิ้มลิ้มน่าหยิก น่าแกล้ง น่ากอดแล้วหอมหนัก ๆ สักฟอดของเธอแล้วก็แอบยิ้ม
น่ารัก...
ว่าแต่เธอเป็นใครกันนะ?
ดูจากเสื้อผ้า เสื้อยืด กางเกงขาสั้น หน้าตาไม่แต่ง สงสัยจะเป็นสาวใช้คนใหม่กระมัง
หลังจากนั้นก็หาข้ออ้างไปเยี่ยมกฤตภาค บิดาของกฤติยาบ่อยขึ้นกว่าเดิมมากจนกฤตภาคงง เขาเองก็งง ว่าทำไมต้องอยากเจอเด็กผู้หญิงที่ดูเหมือนยังไม่บรรลุนิติภาวะคนนั้นอีกครั้งมากขนาดนี้
จะถามหาเธอกับใครในบ้านก็ไม่กล้า
เขาเองก็ยังมียางอายอยู่ อายุปาเข้าไปปูนนี้แล้ว ถ้าเด็กมันด่าว่าเป็นตาแก่ตัณหากลับจะทำยังไง!
ใครจะคิดว่าวันหนึ่งเธอจะมานั่งยิ้มตาใสอยู่ตรงนี้ หลังจากเพิ่งจะอ้าขาให้เขาบดบี้ขยี้พรหมจรรย์เมื่อคืน!
“เมื่อปีที่แล้ว เราเคยเจอกันที่บ้านของพี่ภาค เธอเป็นคนรับใช้ของบ้านนั้นใช่มั้ย”
หวันยิหวายกมือกุมขมับ
เฮ้อ! พ่อคนแก่สมองกลับ เธอพูดถึงเรื่องเมื่อวาน แต่เขาลามคิดไปถึงเรื่องเมื่อหนึ่งปีก่อนเลยเหรอเนี่ย
“หนูเป็นเพื่อนตีญ่าค่ะ”
หวันยิหวาบอกเขา แต่ไม่ได้เล่าว่าเธอเป็นเพื่อนสนิทที่อายุน้อยกว่ากฤติยาหนึ่งปี ดังนั้นตอนนี้เธอเพิ่งอายุสิบแปดปีกำลังวัยขบเผาะ
“หนูหมายถึงเรื่องเมื่อคืนนี้ ไม่ใช่เมื่อหนึ่งปีที่แล้ว คุณป๋าจำเรื่องเมื่อคืนไม่ได้เหรอคะ”
“เรื่องเมื่อคืน...”
อัครวินทร์ขมวดคิ้วใช้ความคิด ก่อนที่ความทรงจำจะพาเขานึกย้อนกลับไปสู่ความทรงจำเลือนรางที่เกิดขึ้นเมื่อตอนสี่ทุ่มตรงของวันที่ผ่านมา...
ติ๊งต่อง~
อัครวินทร์ไม่ได้สนใจเสียงกริ่งตอนดึก เพราะเป็นวันที่แม่บ้านมาทำงานตามปกติ และเธอก็กำลังเก็บของใส่กระเป๋าเตรียมกลับบ้านอยู่ตรงประตูหน้าบ้านพอดี
ชายหนุ่มนั่งอยู่ตรงโซฟา จิบบรั่นดีเล็กน้อย พร้อมกับเช็กงานในคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตไปด้วย
‘คุณวินทร์คะ คุณตีญ่ามาหาค่ะ’ แม่บ้านกลับมารายงานอย่างสุภาพหลังจากเปิดประตูรับแขกให้เจ้านาย ‘ดิฉันทำงานเสร็จแล้ว ขอตัวกลับก่อนนะคะ’
‘อืม ขอบใจมาก’
อัครวินทร์ไม่เข้าใจว่ากฤติยามาหาเขาตอนกลางค่ำกลางคืนแบบนี้ทำไม ถึงเธอจะกำลังเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว ไม่ใช่เด็ก ๆ แบบแต่ก่อน กฤติยานอนบ้านบ้าง นอนคอนโดบ้าง แต่ก็ไม่เคยมาหาเขาตอนดึกแบบนี้เลย
‘อาวินทร์ สวัสดีค่ะ’
สาวน้อยมาพร้อมของฝาก เป็นบรั่นดีราคาแพงลิบ ถึงเธอจะเป็นลูกผู้ดีมีเงิน แต่กฤติยายังเป็นนักศึกษา พ่อแม่ไม่น่าจะให้เงินใช้มากขนาดนี้
‘พอดีลุงกรณ์ซื้อมาฝากพ่อจากฝรั่งเศสค่ะ คะยั้นคะยอให้พ่อดื่มทั้งที่พ่อเลิกนานแล้ว ตีญ่าเลยขอมาให้อาวินทร์ตั้งแต่วันก่อน แล้วก็ลืมทุ๊กที พอนึกขึ้นได้เลยรีบเอามาให้ เลยมาซะดึกเลยค่ะ’
‘ขอบใจนะตีญ่า’
อัครวินทร์ลูบศีรษะลูกสาวเพื่อนด้วยความเอ็นดู เขาเหลือบมองสาวน้อยแสนสวยที่นั่งเงียบอยู่บนโซฟาข้างกฤติยา ด้วยความรู้สึกว่าเด็กสาวคนนี้ช่างดูคุ้นตาเหลือเกิน แต่ก็นึกไม่ออกว่าเคยเห็นเธอที่ไหน
‘อาวินทร์ดื่มเลยนะคะ ตีญ่าตั้งใจเอามาฝากมากเลย’
‘ได้สิ’
‘เดี๋ยวหนูเอาไปรินให้ค่ะ’
สาวน้อยแปลกหน้าเสนอตัว เสียงของเธอใสละมุนราวกับนกน้อยร้องเพลง จนอัครวินทร์เผลอมองเธอเพลินไปเลย เธอลุกเดินไปทางเคาน์เตอร์บาร์ใกล้ ๆ หยิบแก้วขึ้นมาหนึ่งใบ และยาปลุกเซ็กส์แบบไม่มีสี ไม่มีกลิ่น... ผสมลงไปกับบรั่นดีแก้วแรกของชายหนุ่ม
อัครวินทร์ไม่รู้แผนการของสองสาวน้อย กฤติยาเองก็ไม่รู้ว่าหวันยิหวาจะใจกล้าถึงเพียงนี้ พวกเธอตกลงกันแค่จะมอมเหล้าอัครวินทร์ให้เมามาย จนขาดสติ และยอมเซ็นเอกสารรับตัวหวันยิหวาเป็นบุตรบุญธรรมเท่านั้น
แล้วหลังจากหวันยิหวาย้ายเข้าบ้านของอัครวินทร์แล้ว ก็เป็นเรื่องที่หวันยิหวาต้องรวบหัวรวบหางชายหนุ่มเอง ตรงนี้กฤติยาจะไม่เกี่ยวข้องด้วย
หวันยิหวาเป็นเด็กกำพร้า... เคยถูกรับไปเลี้ยงหลายครั้ง แต่ก็ถูกนำมาคืนทุกครั้งด้วยเหตุผลบางอย่าง จนปีนี้เธออายุสิบแปดปีแล้ว
หวันยิหวาไม่อยากมีพ่อแล้ว เธออยากมีผัวมากกว่า
ริมฝีปากอวบอิ่มยิ้มอย่างสาวเจ้าแผนการ ก่อนจะยกเหล้ามาเสิร์ฟชายหนุ่มที่เธอตกหลุมรักเขาตั้งแต่แรกพบในวันนั้นที่สาวน้อยแอบดูเขาอยู่ริมกำแพงตรงบันไดวนของบ้านกฤติยา
‘ลองดื่มดูสิคะอาวินทร์ ว่าจะถูกใจหรือเปล่า’
กฤติยายิ้มใสซื่อ คะยั้นคะยอชายหนุ่มแก้วแล้วแก้วเล่า จนจากที่แค่ตึง ๆ มึน ๆ อัครวินทร์ก็งุนงงทรงตัวไม่ไหว และถูกประคองมานอนในห้องนอนของเขาด้วยฝีมือของสองสาว โดยที่ชายหนุ่มไม่ทันได้ยินกฤติยาบ่นเลยว่า...
‘เฮ้อ มอมหนักเกินไปจนอาวินทร์น็อกไปเลยแบบนี้ จะทำยังไงให้เซ็นรับหญ้าหวานมาอุปการะดีล่ะ’
และเขาไม่ได้ยินที่หวันยิหวาตอบด้วย...
‘ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราจัดการเอง’
ชายหนุ่มจำได้เลือนรางแค่ตัวเองถูกวางลงบนเตียงนอนนุ่ม เขากระสับกระส่าย และถูกดึงผ้าห่มออกจากตัวเพื่อสะบัดให้คลุมร่างของเขาครบถึงปลายเท้า แต่เขาเมา และเขาหนาวด้วย เขาเลยเอื้อมมือควานหาผ้าห่ม
‘อุ๊ย’
เขาจับนมเธอ...
แล้วทุกอย่างก็ดำเนินไปตามที่เขาจำได้นั่นแหละ!