Chapter 4 ชูการ์แดดดี้

2142 Words
Chapter 4 ชูการ์แดดดี้ หลับไปนานเท่าไรไม่รู้ แต่พอตื่นขึ้นมา อัครวินทร์ก็ปวดหัวตุบ ๆ รู้สึกร้าวไปหมดทั้งร่างราวกับเพิ่งกลับจากสงครามโซเวียต ชายหนุ่มขยับตัวบนเตียงโดยไม่ลืมตา คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันด้วยความเมื่อยระบม ก่อนควานมือไปที่โต๊ะเล็กหัวเตียงเพื่อหยิบโทรศัพท์มาดูเวลา ชายหนุ่มยกมือขึ้นเสยผม หรี่ตามองหน้าจอโทรศัพท์ที่ทีแรกพร่า ๆ ก่อนค่อย ๆ ชัดขึ้น แล้วเบิกตากว้าง ฉิบหาย! สายป่านนี้แล้ว! อัครวินทร์ลุกจากเตียงรีบอาบน้ำใส่เสื้อผ้าเพราะจำได้ว่าวันนี้มีนัดหมายกับคู่ค้าคนสำคัญช่วงอาหารเย็นที่ร้านอาหารริมทะเลต่างจังหวัดแน่ะ เมื่อแปรงฟันอาบน้ำเสร็จในเวลามีกี่นาที ร่างสูงในชุดสูทสีดำก็เดินสวมนาฬิกาลงมาจากชั้นสอง เขามองหาแม่บ้านเพื่อถามหาอาหารเที่ยง ก่อนจะคิดขึ้นมาได้ว่าวันนี้ไม่ใช่วันที่แม่บ้านจะมาทำความสะอาดหรือทำอาหารให้เขานี่นา แต่กลิ่นหอม ๆ ที่ลอยมาจากครัวนั่นเล่า อัครวินทร์เดินตามกลิ่นไปถึงประตูครัว ภาพแรกที่เห็นคือด้านหลังของหญิงสาวหุ่นนาฬิกาทราย เธอสวมผ้ากันเปื้อนลายดอกไม้ทับเดรสสีขาวแขนตุ๊กตา เส้นผมสีน้ำตาลหยักศกถูกรวบไว้ด้วยริบบิ้นสีชมพู เอวเธอเล็กมาก ก่อนจะผายออกเป็นสะโพกกลมสวยได้รูป ใครวะ... ชายหนุ่มยืนงง ก่อนที่ความทรงจำเมื่อคืนนี้จะไหลบ่าเข้ามา เสียงฮัมเพลงของเธอคุ้นมาก แล้วยังผมสีนั้น หยักศกยาวสลวย เอวเล็ก ๆ สะโพกผาย... ฉิบหาย นั่นมันไม่ใช่ความฝัน!!! เหมือนค้อนหนัก ๆ ร่วงลงจากเพดานมากระแทกศีรษะดังตึง! อัครวินทร์ยืนงงตัวชา และกำลังคิดไม่ออกว่าจะรับมือกับผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ตรงหน้ายังไงดี “อุ๊ย คุณป๋า” หวันยิหวาตักซุบใส่ถ้วยและหันมาเห็นผัวหมาด ๆ ของเธอยืนอยู่ตรงประตูครัวพอดี หญิงสาวยิ้มหวานเอียงอาย วางถ้วยซุบไว้บนโต๊ะเตรียมอาหาร “หญ้าหวานทำอาหารเสร็จพอดีเลยค่ะ คุณป๋าจะทานเลยมั้ยคะ” เธอเป็นใคร? คือสิ่งที่อัครวินทร์กำลังสงสัย แต่กลิ่นซุบหอม ๆ ก็เหมือนยาเสน่ห์น่ารับประทาน ท้องเขาร้องจ้อก และคิดว่าขอกินข้าวก่อนแล้วกันค่อยสอบสวนกันทีหลัง “ทานเลย” บอกจบก็เดินไปรอที่ห้องรับประทานอาหาร ซึ่งบนโต๊ะมีอาหารหลายอย่างวางไว้รออยู่แล้ว หวันยิหวาเดินตามมา จัดแจงวางถ้วยซุบให้เขาแล้วเสิร์ฟข้าว ก่อนนั่งลงตรงกันข้าม เขาเริ่มกินแล้ว... กินอย่างกับหิวมาหลายวัน หวันยิหวายิ้มหวาน ดูเหมือนไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไร แต่หัวใจเธอกำลังเต้นโครมคราม ทำไมเขาถึงยอมทานอาหารด้วยอันนี้หวันยิหวาไม่เข้าใจเหมือนกัน เธอคิดว่าเขาจะโวยวาย จะไล่เธอออกไป จนต้องแบล็คเมล์ให้เขารับผิดชอบด้วยคลิปวิดีโอที่เธอแอบอัดไว้! แต่เขากลับเฉย... หญิงสาวหัวใจร้อนรน กินข้าวไปได้ไม่กี่คำก็กินต่อไม่ลงอีก เขาเองก็ไม่คุยอะไร เอาแต่กิน ๆ ๆ สงสัยเมื่อคืนนี้จะเสียพลังงานไปเยอะ ถึงจะแข็งแรงแฮนซั่ม แต่จริง ๆ เขาก็อายุมากแล้วนี่เนอะ พ่อชูการ์แดดดี้ของหนู... หวันยิหวาเลียริมฝีปากเมื่อเกือบจะหลุดหัวเราะออกมากับความคิดของตัวเอง เธอไม่รู้ตัวว่าอัครวินทร์ลอบมองอยู่ เขาเห็นสีหน้าหลากหลาย เห็นความสดใสของวัยเยาว์ ริมฝีปากของเธอเป็นสีชมพูธรรมชาติ ลิ้นเล็ก ๆ นั่นฉ่ำวาวด้วยน้ำลาย ที่เขาจำได้ว่าหวานเพียงไร... “แค่ก” ชายหนุ่มยกกำปั้นขึ้นปิดปากเมื่อเผลอกลืนอาหารผิดจังหวะเพราะเธอเหลือบตามองมาพอดี อะไรทำให้เขากลายเป็นไอ้งั่งไปได้ขนาดนี้ ทั้งที่เขาอายุปาเข้าไปห้าสิบเอ็ดปีแล้วนะโว้ยยย! “น้ำค่ะคุณป๋า” หวันยิหวาลุกขึ้นรินน้ำให้เขาอย่างห่วงใย ดวงตาของเธอเหมือนกระจกบอกความในใจ มันมีประกายของความเป็นเด็กที่กำลังโตเป็นสาว และแฝงไว้ด้วยความรักใคร่โหยหา รวมถึงตัณหาด้วย... อัครวินทร์รับแก้วน้ำมาดื่ม เขามองหน้าเธอตลอดเวลา ก่อนวางแก้วน้ำลง ฉุดข้อมือหญิงสาวให้เดินตามมาถึงห้องรับแขก แล้วกดตัวเธอให้นั่งลงบนโซฟา ชายหนุ่มเดินไปนั่งฝั่งตรงข้าม ดวงตาดุดันมองเธออย่างสำรวจจนหวันยิหวาชักสะบัดร้อนสะบัดหนาว แต่ก็ยังทำยิ้มอย่างใจดีสู้เสือ กระทั่งเขาถามออกมาเป็นคำแรก... “เธอเป็นใคร?” หวันยิหวายิ้มหวานตาใส “คุณป๋าจำหญ้าหวานไม่ได้เหรอคะ” “จำได้ เมื่อคืนเธออยู่บนเตียงฉัน” หวันยิหวาหัวเราะคิกคัก ยกมือโบกไปมาตรงหน้าตัวเอง “ไม่ใช่สิคะ คุณป๋าเนี่ย! ในหัวจำได้แต่เรื่องบนเตียงหรือไง ก่อนขึ้นเตียงกับหญ้าหวาน... เกิดอะไรขึ้นบ้าง คุณป๋าจำไม่ได้จริง ๆ เหรอคะ?” ชายหนุ่มขมวดคิ้วมองเธอ คิดไม่ออกจริง ๆ ว่าไปเจอเธอจากที่ไหน พอคิดไปคิดมา ภาพความทรงจำเมื่อหนึ่งปีก่อนก็ฉายเข้ามาในหัวที่เต็มไปด้วยภาพลามกเรื่องคืนนี้เหมือนที่เธอกล่าวหานั่นแหละ วันนั้นเขาเพิ่งกลับมาจากอิตาลี และนำของฝากไปให้กฤติยา...หลานสาวนอกไส้ที่เขารักและเอ็นดู “ว้าว ลูกปัดมูราโน่ใช่ไหมคะอาวินทร์ สวยจังเลย” กฤติยาชอบของฝากมากเลยล่ะ ระหว่างที่สาวน้อยวัยสิบแปดในตอนนั้นกำลังร่าเริงกับเครื่องแก้วล้ำค่า อัครวินทร์ก็เหลือบไปเห็นสาวน้อยแปลกหน้ากำลังแอบมองลงมาจากมุมกำแพงใกล้บันไดวนชั้นสอง เธอสวยจนชวนตะลึง! ใบหน้าของเธอน่ารักเหมือนตุ๊กตาบรายธ์ เส้นผมสีน้ำตาลเข้มหยักศกยิ่งขับให้พวงแก้มของเธอดูละมุนตา จมูกโด่ง ผิวขาวราวกับน้ำนม และมี ‘sex appeal’ แผ่ซ่านออกมาจากเรือนร่างของเธอ จนชายหนุ่มใจสั่น “อาวินทร์ มองอะไรเหรอคะ” เสียงถามของกฤติยาทำให้ชายหนุ่มส่ายหน้าปฏิเสธยิ้ม ๆ ในแบบผู้ใหญ่สุขุม เขาอ้างว่าปวดเมื่อยเลยหันคอไปมา กฤติยาจึงอาสาจะนวดคอให้เขาเอง ระหว่างที่สาวน้อยวัยใสกำลังนวดคอให้ อีกหนึ่งสาวน้อยแปลกหน้าก็หายไปจากมุมบันไดแล้ว อัครวินทร์คิดถึงใบหน้าจิ้มลิ้มน่าหยิก น่าแกล้ง น่ากอดแล้วหอมหนัก ๆ สักฟอดของเธอแล้วก็แอบยิ้ม น่ารัก... ว่าแต่เธอเป็นใครกันนะ? ดูจากเสื้อผ้า เสื้อยืด กางเกงขาสั้น หน้าตาไม่แต่ง สงสัยจะเป็นสาวใช้คนใหม่กระมัง หลังจากนั้นก็หาข้ออ้างไปเยี่ยมกฤตภาค บิดาของกฤติยาบ่อยขึ้นกว่าเดิมมากจนกฤตภาคงง เขาเองก็งง ว่าทำไมต้องอยากเจอเด็กผู้หญิงที่ดูเหมือนยังไม่บรรลุนิติภาวะคนนั้นอีกครั้งมากขนาดนี้ จะถามหาเธอกับใครในบ้านก็ไม่กล้า เขาเองก็ยังมียางอายอยู่ อายุปาเข้าไปปูนนี้แล้ว ถ้าเด็กมันด่าว่าเป็นตาแก่ตัณหากลับจะทำยังไง! ใครจะคิดว่าวันหนึ่งเธอจะมานั่งยิ้มตาใสอยู่ตรงนี้ หลังจากเพิ่งจะอ้าขาให้เขาบดบี้ขยี้พรหมจรรย์เมื่อคืน! “เมื่อปีที่แล้ว เราเคยเจอกันที่บ้านของพี่ภาค เธอเป็นคนรับใช้ของบ้านนั้นใช่มั้ย” หวันยิหวายกมือกุมขมับ เฮ้อ! พ่อคนแก่สมองกลับ เธอพูดถึงเรื่องเมื่อวาน แต่เขาลามคิดไปถึงเรื่องเมื่อหนึ่งปีก่อนเลยเหรอเนี่ย “หนูเป็นเพื่อนตีญ่าค่ะ” หวันยิหวาบอกเขา แต่ไม่ได้เล่าว่าเธอเป็นเพื่อนสนิทที่อายุน้อยกว่ากฤติยาหนึ่งปี ดังนั้นตอนนี้เธอเพิ่งอายุสิบแปดปีกำลังวัยขบเผาะ “หนูหมายถึงเรื่องเมื่อคืนนี้ ไม่ใช่เมื่อหนึ่งปีที่แล้ว คุณป๋าจำเรื่องเมื่อคืนไม่ได้เหรอคะ” “เรื่องเมื่อคืน...” อัครวินทร์ขมวดคิ้วใช้ความคิด ก่อนที่ความทรงจำจะพาเขานึกย้อนกลับไปสู่ความทรงจำเลือนรางที่เกิดขึ้นเมื่อตอนสี่ทุ่มตรงของวันที่ผ่านมา... ติ๊งต่อง~ อัครวินทร์ไม่ได้สนใจเสียงกริ่งตอนดึก เพราะเป็นวันที่แม่บ้านมาทำงานตามปกติ และเธอก็กำลังเก็บของใส่กระเป๋าเตรียมกลับบ้านอยู่ตรงประตูหน้าบ้านพอดี ชายหนุ่มนั่งอยู่ตรงโซฟา จิบบรั่นดีเล็กน้อย พร้อมกับเช็กงานในคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตไปด้วย ‘คุณวินทร์คะ คุณตีญ่ามาหาค่ะ’ แม่บ้านกลับมารายงานอย่างสุภาพหลังจากเปิดประตูรับแขกให้เจ้านาย ‘ดิฉันทำงานเสร็จแล้ว ขอตัวกลับก่อนนะคะ’ ‘อืม ขอบใจมาก’ อัครวินทร์ไม่เข้าใจว่ากฤติยามาหาเขาตอนกลางค่ำกลางคืนแบบนี้ทำไม ถึงเธอจะกำลังเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว ไม่ใช่เด็ก ๆ แบบแต่ก่อน กฤติยานอนบ้านบ้าง นอนคอนโดบ้าง แต่ก็ไม่เคยมาหาเขาตอนดึกแบบนี้เลย ‘อาวินทร์ สวัสดีค่ะ’ สาวน้อยมาพร้อมของฝาก เป็นบรั่นดีราคาแพงลิบ ถึงเธอจะเป็นลูกผู้ดีมีเงิน แต่กฤติยายังเป็นนักศึกษา พ่อแม่ไม่น่าจะให้เงินใช้มากขนาดนี้ ‘พอดีลุงกรณ์ซื้อมาฝากพ่อจากฝรั่งเศสค่ะ คะยั้นคะยอให้พ่อดื่มทั้งที่พ่อเลิกนานแล้ว ตีญ่าเลยขอมาให้อาวินทร์ตั้งแต่วันก่อน แล้วก็ลืมทุ๊กที พอนึกขึ้นได้เลยรีบเอามาให้ เลยมาซะดึกเลยค่ะ’ ‘ขอบใจนะตีญ่า’ อัครวินทร์ลูบศีรษะลูกสาวเพื่อนด้วยความเอ็นดู เขาเหลือบมองสาวน้อยแสนสวยที่นั่งเงียบอยู่บนโซฟาข้างกฤติยา ด้วยความรู้สึกว่าเด็กสาวคนนี้ช่างดูคุ้นตาเหลือเกิน แต่ก็นึกไม่ออกว่าเคยเห็นเธอที่ไหน ‘อาวินทร์ดื่มเลยนะคะ ตีญ่าตั้งใจเอามาฝากมากเลย’ ‘ได้สิ’ ‘เดี๋ยวหนูเอาไปรินให้ค่ะ’ สาวน้อยแปลกหน้าเสนอตัว เสียงของเธอใสละมุนราวกับนกน้อยร้องเพลง จนอัครวินทร์เผลอมองเธอเพลินไปเลย เธอลุกเดินไปทางเคาน์เตอร์บาร์ใกล้ ๆ หยิบแก้วขึ้นมาหนึ่งใบ และยาปลุกเซ็กส์แบบไม่มีสี ไม่มีกลิ่น... ผสมลงไปกับบรั่นดีแก้วแรกของชายหนุ่ม อัครวินทร์ไม่รู้แผนการของสองสาวน้อย กฤติยาเองก็ไม่รู้ว่าหวันยิหวาจะใจกล้าถึงเพียงนี้ พวกเธอตกลงกันแค่จะมอมเหล้าอัครวินทร์ให้เมามาย จนขาดสติ และยอมเซ็นเอกสารรับตัวหวันยิหวาเป็นบุตรบุญธรรมเท่านั้น แล้วหลังจากหวันยิหวาย้ายเข้าบ้านของอัครวินทร์แล้ว ก็เป็นเรื่องที่หวันยิหวาต้องรวบหัวรวบหางชายหนุ่มเอง ตรงนี้กฤติยาจะไม่เกี่ยวข้องด้วย หวันยิหวาเป็นเด็กกำพร้า... เคยถูกรับไปเลี้ยงหลายครั้ง แต่ก็ถูกนำมาคืนทุกครั้งด้วยเหตุผลบางอย่าง จนปีนี้เธออายุสิบแปดปีแล้ว หวันยิหวาไม่อยากมีพ่อแล้ว เธออยากมีผัวมากกว่า ริมฝีปากอวบอิ่มยิ้มอย่างสาวเจ้าแผนการ ก่อนจะยกเหล้ามาเสิร์ฟชายหนุ่มที่เธอตกหลุมรักเขาตั้งแต่แรกพบในวันนั้นที่สาวน้อยแอบดูเขาอยู่ริมกำแพงตรงบันไดวนของบ้านกฤติยา ‘ลองดื่มดูสิคะอาวินทร์ ว่าจะถูกใจหรือเปล่า’ กฤติยายิ้มใสซื่อ คะยั้นคะยอชายหนุ่มแก้วแล้วแก้วเล่า จนจากที่แค่ตึง ๆ มึน ๆ อัครวินทร์ก็งุนงงทรงตัวไม่ไหว และถูกประคองมานอนในห้องนอนของเขาด้วยฝีมือของสองสาว โดยที่ชายหนุ่มไม่ทันได้ยินกฤติยาบ่นเลยว่า... ‘เฮ้อ มอมหนักเกินไปจนอาวินทร์น็อกไปเลยแบบนี้ จะทำยังไงให้เซ็นรับหญ้าหวานมาอุปการะดีล่ะ’ และเขาไม่ได้ยินที่หวันยิหวาตอบด้วย... ‘ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราจัดการเอง’ ชายหนุ่มจำได้เลือนรางแค่ตัวเองถูกวางลงบนเตียงนอนนุ่ม เขากระสับกระส่าย และถูกดึงผ้าห่มออกจากตัวเพื่อสะบัดให้คลุมร่างของเขาครบถึงปลายเท้า แต่เขาเมา และเขาหนาวด้วย เขาเลยเอื้อมมือควานหาผ้าห่ม ‘อุ๊ย’ เขาจับนมเธอ... แล้วทุกอย่างก็ดำเนินไปตามที่เขาจำได้นั่นแหละ!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD