Episode 3 ใจเต้นแรง

2155 Words
“นายภูวดล” “ครับๆ มาครับ” ใช่ครับ ภูวดลคือชื่อจริงของผมเอง “ใครให้เธอหลับในห้องเรียน อาทิตย์หน้าจะสอบแล้วตั้งใจเรียนหน่อยสิ” “ขอโทษครับอาจารย์” “เมื่อคืนมึงไปทำอะไรมาวะถึงไม่ได้นอน” ไอ้เข็มทิศหันมากระซิบถามผม ผมเลยเลือกที่ตอบปัดๆมันไป “กูอ่านหนังสือเพลินไปหน่อย” “ใช่หรอวะ กูว่ามึงมีเรื่องให้คิดมากกว่ามั้ง” ไอ้วอดก้าที่นั่งอยู่อีกข้างของผมก็พูดขึ้นพร้อมมองไปทางโต๊ะที่เฟรนด์นั่ง วันนี้เธอไม่มาโรงเรียน…..ว่าแต่เธอหายไปไหนกันนะ “เรื่องไรวะ” เข็มทิศถามขึ้นอย่างสงสัย “นายเขมราช” “ครับอาจารย์” “ข้อนี้ตอบอะไร” “เอ่อ...เอ่อ...ตอบ...เอ่อ...” “บอกแล้วไงว่าให้ตั้งใจเรียน” “ขอโทษครับอาจารย์ ต่อไปผมจะตั้งใจเรียนแล้วครับ” อาจารย์สาวได้แต่ส่ายหน้าไปมาอย่างเหนื่อยใจกับลูกศิษย์พวกนี้ของเธอ วอดก้าได้แต่นั่งเงียบโดยที่ในห้องยังคงมีอาจารย์สาวบรรยายหรือสอนเนื้อหาต่างๆไปเหมือนทุกครั้ง ทว่าเนื้อหาพวกนั้นกลับไม่ได้เข้าไปในหัวของเขาเลยแม้แต่น้อย อีกอย่างนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เขาเผลอหลับในห้องเรียน นั่นเป็นเพราะเมื่อคืนมีเรื่องของอีกคนมากวนใจเขาไม่หยุด ทำให้เขายากที่จะเลิกคิดได้ แถมวันนี้เจ้าตัวที่เป็นสาเหตุทำให้เขานอนไม่หลับนั้นก็ไม่มา….แล้วอย่างนี้จะเรียนทันได้ยังไง ยิ่งซื่อบื้ออยู่ด้วย แล้วทำไมฉันต้องไปสนใจยัยนั่นด้วย….พอคิดได้แบบนั้นวอดก้าก็สะบัดหน้าไล่ความความคิดพวกนั้นออกไปจากหัวทันทีก่อนจะหันมาฟังที่อาจารย์สาวสอนอย่างตั้งใจ หลังเลิกเรียน TIME 5.00 PM “เขื่อน” เสียงเล็กเรียกคนตัวสูงขึ้นพร้อมกับเดินตรงเข้าไปหายังกลุ่มของเขื่อน “กะเพรา มีอะไรรึเปล่า” ที่จริงผมก็พอจะเดาออกว่าที่เธอมาเพราะเรื่องอะไร แต่ผมแค่ไม่อยากที่จะให้พวกเพื่อนผมสองตัวนี้รู้ “รู้ไหมว่าทำไมวันนี้เฟรนด์ไม่มาเรียน” กะเพราเอ่ยถามด้วยสีหน้าจริงจังปนกังวลเล็กน้อย ”เอ่อใช่ วันนี้กูก็ยังไม่เห็นเฟรนด์ตั้งแต่เช้าแล้วนะ” เข็มทิศที่นึกตามคำถามของหญิงสาวก็ถามขึ้นอย่างอยากรู้เช่นกัน “แล้วเฟรนด์ไม่ได้บอกกะเพราหรอเป็นเพื่อนสนิทกันหนิ” วอดก้าที่เห็นแบบนั้นก็ถามขึ้นด้วยความสงสัย “ก็ใช่ แต่เฟรนด์หายไปตั้งแต่เมื่อวานแล้วอะ เราไลน์ไปก็ไม่ตอบ ไม่รู้ว่าเป็นอะไรไปหรือเปล่า ยิ่งอาทิตย์หน้าก็จะสอบแล้วด้วย” “อย่างงี้เฟรนด์ก็เรียนไม่ทันสิ จะสอบได้ไหมเนี่ย” ไอ้วอดก้าพูดพร้อมหันมาทางผม ผมรู้ว่ามันจงใจพูดกดดันผมทางอ้อม แล้วยังไงผมต้องสนใจด้วยหรอ “ใช่ ถ้าเฟรนด์สอบครั้งนี้ไม่ผ่านเกณฑ์ เฟรนด์ต้องโดนอาจารย์ย้ายให้ไปอยู่ห้องอื่นแน่” กะเพราพูดพร้อมทำหน้าเศร้า “ไอ้เขื่อน ไอ้เขื่อน!” เข็มทิศตะโกนเรียกเพื่อนขึ้นเสียงดัง “อะไร แล้วมึงจะตะโกนทำห่าอะไร” ผมกำลังคิดตามที่กะเพราพูดผมพึ่งรู้ว่าถ้ามันสอบไม่ผ่านมันจะต้องย้ายห้อง “ก็กูเรียกเฉยๆเห็นมึงไม่ตอบ ใจลอยไปไหนวะ” “แล้วตกลงมึงรู้ไหม ว่าเฟรนด์หายไปไหน” วอดก้าถามเขื่อน ทุกคนต่างก็จ้องหน้าเขื่อนเพื่อรอคำตอบ “กูจะไปรู้ได้ไง มึงก็รู้ว่ากูไม่ชอบมันทำไมกูต้องสนใจมันด้วย” เขื่อนเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงที่ติดขัดเล็กน้อย “แล้วมึงจะเลิ่กลักทำไม ไม่รู้ก็ไม่รู้สิ” วอดก้าตอบ “อืมม งั้นเราฝากเขื่อนเอาชีทที่เราสรุปไปให้เฟรนด์ได้ไหม” กะเพราพูดพร้อมกับยื่นชีทให้เขื่อน ส่วนเขื่อนก็นิ่งไม่ยอมรับชีทจากอีกคนสักที จนเข็มทิศที่นั่งอยู่ด้านข้างทนไม่ไหวที่จะเอ่ยบอกเพื่อนตัวเองให้รับไว้ “ไอ้เขื่อนมึงก็รับไว้สิ” “ทำไมต้องเป็นกู” เขื่อนถามออกไป “โอ้ยยไอ้สัส! ก็บ้านมึงติดกันหรือมึงจะให้พวกกูสองคนขับรถอ้อมเอาไปให้” เข็มทิศตอบอย่างประชด “เอ้อๆ เอาไปให้ก็ได้วะ” เขื่อนพูดจบก็รับชีทจากกะเพราอย่างไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่นัก….ถือว่าเป็นการไถ่โทษที่ปิดประตูใส่แขนมันละกัน ถึงจะไม่ได้ตั้งใจก็เถอะ “ขอบคุณมากนะเขื่อน งั้นเราไปก่อนนะ” กะเพรายิ้มขอบคุณก่อนจะเดินออกไป “มึงรู้ใช่ไหมว่าเฟรนด์หายไปไหน” หลังจากกะเพราเดินออกไปได้ไม่นานวอดก้าก็หันมาถามเพื่อนตัวเองขึ้นทันที “หรือมึงทำอะไรเฟรนด์” เข็มทิศก็ไม่รอช้าที่จะพูดเสริมอย่างกดดันอีกคน “โว้ย! กูจะไปรู้ได้ไงวะ กูกลับก่อนละมีธุระ” พูดจบผมก็เดินออกมาทันที พวกมันแม่งรู้ทันผมตลอดเลยสมกับเป็นเพื่อนกูจริงๆไอ้พวกห่า @บ้านเฟรนด์ “นี่กูต้องเอามาให้มึงจริงๆใช่ไหม” ตอนนี้ผมยืนอยู่หน้าบ้านของยัยเฟรนด์บ้านั่นพร้อมกับในมือที่ถือชีทสรุปที่กะเพราฝากมา “ให้ตายเถอะเอาวางไว้ตรงนี้ได้ไหมวะหรือค่อยให้พรุ่งนี้ดี….ไม่ได้เดี๋ยวมันจะเรียนไม่ทัน” ในขณะที่ผมกำลังทะเลาะกับตัวเองแล้วเดินไปเดินมาอยู่นั้น…. “อ้าวเขื่อน” เสียงแม่ของเฟรนด์เอ่ยทักผมขึ้นพร้อมกับเดินตรงมาที่ผม “ชิบหายแล้วเอาไงดี” ผมเดินไปเดินมาอย่างกระวนกระวาย แล้วแม่ของเฟรนด์ก็เดินมาเปิดประตูออก “เอ่อ...สวัสดีครับคุณน้า” ผมยกมือขึ้นไหว้ตามมารยาท “มาหาเฟรนด์หรอลูก เข้ามาในบ้านก่อนสิ” แม่เฟรนด์ยิ้มเอ่ยบอกผม “คือว่าผมเอา…..” ผมยังไม่ทันได้พูดจบคุณน้าก็เดินเข้าไปในบ้านทันที ผมเลยจำเป็นต้องเดินตามท่านเข้าไป “วันนี้น้าทำขนมสาคูไส้หมู เขื่อนลองชิมให้น้าหน่อยนะว่าอร่อยไหม” แม่เฟรนด์พูดพร้อมถือจานขนมมาวางไว้ที่โต๊ะข้างหน้าผม ก่อนที่ประโยคถัดไปของคุณน้าจะทำผมแทบกระอักขนมออกมา “อ้าวเฟรนด์ลงมาพอดีเลย แม่กำลังว่าจะขึ้นไปเรียก เขื่อนมาหาลูกน่ะ” "แค่กๆ" “ตายแล้ว! ค่อยๆกินสิลูก นี่น้ำ” คุณน้าพูดพร้อมหยิบน้ำให้ผม “ขอบคุณครับ” หลังจากผมดื่มน้ำเสร็จ ผมก็หันไปมองคนที่เข้ามาใหม่ และผมก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็นผมไม่คิดว่าเธอจะเป็นถึงขนาดนี้…..แขนหักเลยหรอ “คุยกันไปก่อนนะ เดี๋ยวน้าไปปลอกผลไม้มาให้” พูดจบแม่เฟรนด์ก็เดินตรงไปทางห้องครัวทันที “เอ่อ...คือกูแค่เอาชีทสรุปมาให้ กะเพราฝากมา” ผมพูดพร้อมกับนำชีทมาวางไว้บนโต๊ะ “งั้นฉันฝากนายเอาไปคืนกะเพราให้ด้วยและก็ฝากขอบคุณกะเพราที่เอามาให้ แต่ฉันคงไม่อ่าน” เฟรนด์ตอบด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ พร้อมกับสรรพนามที่ใช้ก่อนหน้านี้ก็เปลี่ยนไป เพราะก่อนหน้านี้เฟรนด์จะแทนตัวเองว่าเราหรือเค้า และเรียกอีกคนด้วยชื่อเล่นตลอด แต่มาวันนี้มันกลับทำให้อีกคนรู้สึกว่าเธอโกรธเขาเรื่องนั้นอยู่หรือเปล่า “ทำไม” ผมถามเธอพร้อมกับทำหน้าสงสัยทำไมเธอถึงไม่อ่านอุตส่าเพื่อนหวังดีทำมาให้ อีกอย่างคงไม่ใช่ว่าคนเอามาให้เป็นผมเธอจึงไม่รับหรอกนะ ”ถึงฉันอ่านไปฉันก็ไม่เข้าใจอยู่ดี ไม่อ่านจะดีกว่าเพราะอ่านไปก็ทำให้ปวดหัวเปล่าๆ” ฉันพูดพร้อมกำลังจะเดินกลับขึ้นห้อง แต่เดินไปได้เพียงไม่กี่ก้าวเสียงห้ามของอีกคนก็ดังขึ้น “เดี๋ยว!” ฉันหยุดแล้วหันกลับไปมองเจ้าของเสียง เขื่อนลุกขึ้นเดินเข้ามาหาฉันพร้อมกับยื่นชีทให้ฉัน ก่อนจะส่งสายตาบังคับให้รับไป “ฉันบอกว่าไม่เอาไง” ฉันยังคงยืนกรานที่จะไม่รับ ก่อนที่ฉันจะชะงักในประโยคต่อมาของเขา “ฉันจะเป็นคนติวให้เธอเอง” ผมไม่รู้ว่าตัวเองพูดอะไรออกไป แต่มันรู้สึกหงุดหงิดยังไงไม่รู้ตอนมันบอกไม่อ่าน อ่านไปก็ไม่รู้เรื่อง “นะ นายพูดว่าอะไรนะ” ตอนนี้ฉันอึ้งกับคำพูดของเขาฉันไม่คิดว่าจู่ๆเขาจะมาติวให้ฉัน เพราะอะไร ทั้งที่ก่อนหน้านี้ฉันขอให้เขาติวให้ฉันแทบตายก็ไม่มีท่าทีว่าจะตอบตกลง “ผมขออนุญาตนะครับคุณน้า” เขาหันไปขออนุญาตแม่ฉันที่พึ่งเดินถือจานผลไม้เข้ามา พอพูดจบเขาก็จับแขนฉันขึ้นบันไดไปทันที ตอนนี้ฉันทำอะไรไม่ถูกทำได้แค่เดินตามเขาไปโดยไม่มีท่าทีขัดขืนใดๆทั้งสิ้น ก่อนที่อยู่ๆเขาก็หยุดเดินพร้อมกับเอ่ยถามขึ้น “ห้องมึงอยู่ไหน” “ถามทำไมอะ” “แล้วกูจะติวให้มึงยังไง หรือจะนั่งติวตรงนี้” “อ่อ ถัดไปอีกสองห้อง” “ก็แค่นั้น” แล้วเขาก็ปล่อยมือเดินนำฉันไป แต่เดี๋ยวนะ “ชิบหายแล้ว! ขะ เขื่อนเดี๋ยวก่อนคือในนั้นมันมี...” ไม่ทันแล้วเขาเปิดเข้าไปแล้ว “......” เมื่อผมเปิดประตูเข้ามาในห้องของมัน ก็ทำให้ผมอึ้งและตกใจไปชั่วขณะ เมื่อในห้องของมันทุกที่แทบจะเป็นรูปผมติดอยู่ ไม่ว่าจะเป็น ที่นอน หมอนข้าง ผ้าห่ม ผ้าม่าน แก้วน้ำ รูปตั้งหัวเตียง นี่มันอะไรกันเนี่ย “กูถามมึงจริงๆนะ มึงไม่ได้เป็นโรคจิตใช่ไหม” เห็นแบบนี้เเล้วผมรู้สึกเริ่มกลัวมันขึ้นมายังไงก็ไม่รู้ “บอกแล้วไงว่าอย่าพึ่งเข้ามาๆ ไม่ฟังกันบ้างเลย” เฟรนด์พูดพร้อมกับเดินไปนั่งลงบนเตียงก่อนจะแสดงสีหน้าไม่พอใจออกมา “นี่มึงชอบกูขนาดนี้เลยหรอ” ผมต้องดีใจใช่ไหมที่มีคนชอบผมถึงขนาดนี้ “.......” ตอนนี้ฉันอายมาก ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว ที่ฉันทำแบบนี้ก็เพราะคิดว่า ยังไงเขาก็ไม่มีทางได้ขึ้นมาบนห้องฉันแน่นอน แต่ทว่าวันนี้ฉันคิดไม่ถึงจริงๆ อีกอย่างเขาก็ได้เห็นมันหมดแล้ว ฮื้ออ อายชะมัดเลย “เดี๋ยวนะ มึงคงไม่เอารูปกูไปช่วยตังเองหรอกใช่ไหม” ที่ผมถามก็แค่อยากแกล้งมันเล่นเฉยๆเท่านั้นแหละ “นี่นายจะบ้าหรอ ฉันไม่ใช่โรคจิตนะ” เธอพูดพร้อมทำหน้ามุ้ยออกมา ก่อนที่จะทำให้ผมหลุดขำอย่างห้ามไม่ได้ “หึ ฮ่าๆ” ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบ เมื่อเขื่อนหลุดขำออกมาทำให้เฟรนด์และตัวเขาเองก็อึ้ง ไม่คิดว่าตัวเองจะหลุดขำเพราะผู้หญิงคนนี้ได้ “อะฮึ่ม จะเริ่มติวได้ยัง ฉันจะได้รีบกลับบ้าน” เขื่อนพูดเปลี่ยนเรื่องขึ้นเพื่อทำลายความเงียบ แต่ทว่าก็ยังคงมีท่าทีเลิ่กลักอยู่เล็กน้อย “อ่อ....เดี๋ยวฉันไปหยิบหนังสือก่อน” พูดจบเฟรนด์ก็เดินไปหยิบหนังสือที่ชั้นวางหนังสือ แต่ดูเหมือนว่าเธอจะหยิบไม่ถึง เขื่อนที่เห็นแบบนั้นจึงเดินเข้าไปเพื่อที่จะช่วยหยิบ แต่จังหวะนั้นเฟรนด์ก็หันหน้ากลับมาพอดีเพื่อที่จะขอความช่วยเหลือจากอีกคน จึงเป็นจังหวะที่ทำให้ทั้งสองหันหน้ามาชนกันพอดี “อ๊ะ” ตึก ตึก ตึก เสียงหัวใจทั้งสองคนตอนนี้ เต้นแรงไม่ต่างกัน “อึก” ก่อนจะตามมาด้วยเสียงกลืนน้ำลายเหนียวลงคอย่างยากลำบากของคนตัวสูง ใบหน้าสวยของเธอทำให้เขาเริ่มใจสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ ก่อนที่เขาจะค่อยๆโน้มหน้าเข้าไปใกล้อีกฝ่าย ดวงตากลมโตค่อยๆหลับตาลงหมายให้อีกคนจุมพิตอย่างเต็มใจ ตอนนี้ใบหน้าของทั้งสองห่างกันเพียงไม่กี่เซน ใกล้จนได้ยินเสียงลมหายใจของอีกฝ่าย แต่ทว่าไม่ทันที่ริมฝีปากหนาจะประกบปากเล็กก็มีเสียงขัดจังหวะขึ้นซะก่อน ก็อกๆ เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นทำให้ทั้งคู่สะดุ้งรีบผละตัวออกจากกันทันที ต่างฝ่ายต่างมองหน้ากันอย่างทำตัวไม่ถูก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD