@Coffee cafe
“ฟาร์มกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่เห็นบอกกันก่อนเลย แล้วคุณอาได้กลับมาด้วยไหม”หลังจากแยกกับกะเพราฉันก็มานั่งคุยกับฟาร์มที่ร้านกาแฟข้างโรงเรียน
“พึ่งมาถึงเมื่อวานเอง พ่อไม่ได้มาด้วยเพราะที่ฟาร์มกำลังยุ่งๆ”
“อ่อ” เฟรนด์พยักหน้าเข้าใจพร้อมกับตักเค้กเข้าปาก
“เอออ...เฟรนด์”
“หึ..?” เฟรนด์ขานตอบพร้อมทำหน้างง
“ปากเลอะอะ” ฟาร์มบอกเราพร้อมกับเอามือชี้ที่ปากตัวเองเพื่อบอกจุด
“ออกยังอะ” ฉันเอามือเช็ดที่ปากตัวเอง
“ยัง โทษนะ” ฟาร์มใช้มือหยิบทิชชู่แล้วเช็ดที่ปากของฉันให้
“ออกละ”
“ขอบคุณนะ”ยิ้มตอบ
“อื้มม...ว่าแต่ปิดเทอมนี้เฟรนด์ไปเที่ยวไหนหรอ”
“ยังไม่รู้เลยอะ”
“งั้น...จะว่าไรไหมถ้าเราจะชวนไปเที่ยวที่ฟาร์มเรา” พูดแบบเกร็งๆ
“จริงหรอ” เฟรนด์ตาลุกวาวพร้อมกับท่าทางตื่นเต้นขึ้นทันที
“อื้ม จริงสิ เราอยากให้เฟรนด์ไป”
“ได้สิ งั้นเราชวนกะเพราไปด้วยดีกว่า ไม่ว่าไรใช่ไหม” เฟรนด์เอ่ยถามออกไป
“อื้ม ได้สิทำไมจะไม่ได้ล่ะ” เฟรนด์พูดพร้อมหยิบโทรศัพท์ไลน์ไปหากะเพรา ขณะเดียวกันฟาร์มได้หุบยิ้ม เพราะตอนแรกกะจะชวนแค่เฟรนด์ไป
@บ้านเฟรนด์
“ไม่เจอกันแค่ปี 2 ปี หล่อขึ้นนะเรา” พ่อเฟรนด์เอ่ยชมฟาร์มขึ้น หลังจากที่ทั้งสองพูดคุยที่คาเฟ่กันเสร็จ ฟาร์มก็ขออาสามาส่งเฟรนด์ที่บ้าน พร้อมกับบอกอยากมาหาพ่อแม่ของเฟรนด์ด้วยเนื่องจากพ่อของเขาได้ฝากของจากที่ไร่มาเยี่ยมเยือน
“ไม่ขนาดนั้นหรอกครับคุณอา แต่ก็ขอบคุณครับที่ชม” ฟาร์มก็ยิ้มเอ่ยขอบคุณตามมารยาท ก่อนที่เขาจะนำผลไม้สดๆจากฟาร์มของตัวเองยื่นให้ เพราะก่อนหน้านี้เขาได้เอาไปมอบให้พ่อแม่เขื่อนแล้วเหมือนกัน
“นี่เป็นผลไม้สดๆจากฟาร์มของเราครับ พ่อฝากผมมาให้คุณอาทั้งสอง หวังว่าคุณอากับคุณน้าจะชอบนะครับ”
“ขอบใจจ๊ะ น้าชอบกินผลไม้สดมากเลย อีกอย่างมาจากหนุ่มรูปหล่อขนาดนี้จะไม่รับได้ไง” แม่เฟรนด์เอ่ยแซวพร้อมกับรับกระเช้าผลไม้มา
“พ่อคะ ปิดเทอมนี้ฟาร์มชวนไปเที่ยวค่ะ” เฟรนด์เอ่ยบอก
“หืม ไปที่ไหนกันล่ะ” ชายวัยกลางคนถามขึ้น
“ที่ฟาร์มผมเองครับ” ฟาร์มเอ่ยตอบ
“งั้นดีเลยไม่ได้เจอกันตั้งนานไปเยี่ยมเพื่อนสักหน่อย” พ่อเฟรนด์เอ่ยยิ้มขึ้น และแน่นอนว่าครั้งนี้ทั้งครอบครัวเฟรนด์จะไปที่ไร่ของฟาร์มทั้งหมด
“งั้นหนูชวนคุณอาธรไปด้วยนะคะ” อาธรคือชื่อพ่อของเขื่อน และที่ฉันชวนเพราะฉันหวังให้เขื่อนไปด้วยเช่นกัน
“ดีเลย ไปด้วยกันหลายๆคนค่อยสนุก ว่าไหมฟาร์ม” แม่ของเฟรนด์เอ่ยเสริมลูกสาว ก่อนจะหันไปถามฟาร์มเจ้าของสถานที่เที่ยวในครั้งนี้
“ใช่ครับ” ฟาร์มได้แต่ยิ้มตอบอย่างเลี่ยงไม่ได้
@บ้านเขื่อน
“ไม่ ผมไม่ไป” เป็นเสียงของเขื่อนที่เพิ่งเอ่ยปฏิเสธออกไปเสียงแข็ง หลังจากที่พ่อของเขานั้นได้รับคำชวนจากคนเป็นเพื่อนให้ไปเยี่ยมเยือนหรือไปเที่ยวที่ฟาร์มของตัวเอง แต่ทว่าพ่อของเขื่อนนั้นกลับติดงานที่ต่างประเทศเขาจึงอยากให้ลูกชายเพียงคนเดียวนั้นไปแทนเขา เพื่อไม่ให้เป็นการเสียน้ำใจของคนเอ่ยชวน
“ไอ้เขื่อน!” ชายวัยกลางคนผู้เป็นพ่อเอ่ยเรียกชื่อของลูกชายของตัวเองขึ้นเสียงดังด้วยความโมโห
“ทำไมพ่อไม่ไปเอง”
“ก็กูไม่ว่างกูติดงานที่ต่างประเทศหรือมึงจะไปคุยงานแทนกู”
“แล้วทำไมต้องเป็นผมด้วย”
“ก็มึงเป็นลูกกู”
“ไปเถอะ ถือว่าไปเที่ยวพักผ่อนก็แล้วกัน” ผู้เป็นแม่เมื่อเห็นท่าทีไม่ยอมของลูกชาย ก็ช่วยพูดเสริมคนเป็นสามีขึ้น
“ไม่ ยังไงผมก็ไม่ไป”ผมปฏิเสธเสียงเเข็ง
“ถ้ามึงไม่ไป ต่อไปมึงก็ห้ามไปเที่ยวผับอีก” สิ้นสุดคำสั่ง พ่อของเขื่อนก็เดินออกไปทันที
“โธ่เว้ยย!” เขื่อนร้องออกมาอย่างหัวเสียเมื่อไม่มีทางเลือก
@ผับ
TIME 10.30 PM
“จะมีสักครั้งไหมวะ ที่มึงจะมาผับโดยที่สีหน้ามึงไม่เป็นแบบนี้” วอดก้าพูดขึ้น เพราะตั้งแต่เขื่อนมาถึงเขาก็เอาแต่ทำสีหน้าเคร่งเครียดอย่าไม่ปกปิดออกมา
“ไม่มี” เข็มทิศที่ได้ยินแบบนั้นก็เอ่ยตอบออกมาแทนเจ้าของชื่อ ก่อนจะตามมาด้วยเสียงสถบคำหยาบของเจ้าตัว
“แม่งเอ้ย” ผมสถบคำหยาบออกมาด้วยความหัวเสียอย่างอดไม่ได้
“เล่ามาเพื่อน อ๊าาา พวกกูพร้อมฟังมึงเสมอ” วอดก้าพูดพร้อมกระดกเหล้าเพียวเข้าปาก
“ก็พ่อกูนะสิจะให้กูไปเที่ยวที่ฟาร์มของพ่อไอ้ฟาร์มนั่นแทน เพราะพ่อกูติดธุระที่ต่างประเทศ และอีกอย่างนะ.....”
“เฟรนด์ก็ไปด้วย” เข็มทิศพูดแทรกอย่างรู้ทันอีกคน
“เออ และถ้ากูไม่ไปนะแม่งจะไม่ให้กูมาเที่ยวผับอีก โคตรหงุดหงิดเลย ทำอย่างกับกูเป็นเด็ก กูสิบเก้าแล้วนะเว้ย” เขื่อนพูดพร้อมกระดกเหล้าเข้าปาก ก่อนจะวางแก้วลงบนโต๊ะแรง ปึก!!
“แต่ก็ยังไม่ถึงยี่สิบ” เข็มทิศเอ่ย
“อีกไม่กี่เดือนก็ถึงแล้วปะ” เขื่อนก็เถียงอย่างไม่ยอมแพ้
“แต่ถึงยังไงก็ต้องทำใจอะนะ มึงไม่มีทางเลือก” วอดก้าพูดพร้อมตบไหล่ให้กำลังใจเขื่อน
“มีสิ พวกมึงต้อง...”
“No no no no” เขื่อนยังพูดไม่จบ แต่โดนเพื่อนพูดปฏิเสธออกมาอย่างพร้อมเพียงก่อน
“กูไม่ไป” ตามมาด้วยประโยคถัดมาของวอดก้า
“กูก็ไม่ไป” แล้วตามมาด้วยเข็มทิศ
“พวกมึงจะทิ้งกูหรอวะ” เขื่อนโวยวายออกมาเมื่อเห็นว่าเพื่อนทั้งสองของเขานั้นเอาแต่ปฏิเสธเขา
“ใช่” ทั้งสองคนประสานเสียงตอบออกมาพร้อมกัน
“กูเลี้ยง 3 คนเลยอ่ะ”
“......”
“5 คน”
“......”
“น้อยไปหรอวะ งั้น 10 คนเลยอ่ะ” เขื่อนพูดอย่างไม่คิดอะไร แต่คิดไม่ถึงว่า….
“ตกลง” ทั้งสองตอบตกลงอย่างพร้อมเพียงกัน
“ไอ้สัส!” เขื่อนด่าเพื่อนทั้งสองออกมา ไม่คิดว่าเขาต้องมาจ้างผู้หญิงถึงสิบคนมาบำเรอให้พวกเพื่อนบ้ากามของตัวเองขนาดนี้
“แล้วแต่มึงนะ พวกกูไม่ได้บังคับ” เข็มทิศเอ่ย
“ใช่ มึงเป็นคนเสนอเอง” ตามมาด้วยวอดก้า
“เออ ตกลงตามนี้ ไอ้พวกเวร เดี๋ยวก็ติดโรคตายห่า” เขื่อนพูดพร้อมลุกขึ้นยืน ก่อนจะเอ่ยบอกเพื่อนทั้งสอง
“งั้นกูไปละ มีนัด”
“นัดแดกน้ำมะนาวละสิมึง” วอดก้าเอ่ยขึ้นอย่างรู้ทันอีกคน
“พวกมึงไม่รู้สักเรื่องจะตายไหมวะ” พูดจบเขื่อนก็เดินออกไปทันที
“พูดให้แต่พวกกู มึงก็ไม่ต่างกันหรอกไอ้ห่า” เข็มทิศเอ่ยด่าตามหลังเขื่อนไป
@คอนโดมะนาว
“อ๊ะ ขะ เขื่อน เบาหน่อย”
“อีกนิด” ร่างหนาเอ่ยบอก ก่อนจะกดสะโพกสาวแล้วกระแทกรัว
ตับ ตับ ตับ
“พี่ไม่ไหว อ๊า~” หญิงสาวร่างบางหุ่นดีครางบอก ก่อนจะเกร็งตัวกระตุกปล่อยน้ำสีใสออกมา บ่งบอกได้ว่าเธอได้ไปแตะขอบสวรรค์ก่อนอีกคนแล้ว แต่ทว่าเจ้าของร่างหนากลับไม่สนใจยังคงกระหน่ำสะโพกหนาใส่ร่องสวาทอยู่แบบนั้น
“จะเสร็จแล้ว ซี๊ด” ร่างหนาครางบอก ก่อนที่เขาจะกระตุกปล่อยน้ำรักสีขาวขุ่นใส่ยังถุงยางอนามัย จากนั้นเขาก็จัดการถอดแก่นกายออกจากร่องสาวแล้วดึงถุงป้องกันออกพร้อมกับโยนทิ้งลงพื้นข้างเตียง
“เขื่อนทำไมวันนี้รุนแรงกับพี่จัง โกรธไรพี่หรือเปล่า” พี่มะนาวถามผมด้วยน้ำเสียงออดอ้อน
“เปล่าครับ ผมแค่คิดถึงพี่มากเกินไปเลยจัดเต็ม”ผมบอกออกไปอย่างไม่อยากให้อีกคนคิดมาก ก่อนที่ภาพบางอย่างจะผุดขึ้นมาในหัวของเขา
วันนี้หลังเลิกเรียนก่อนกลับบ้านเขื่อนกะว่าจะแวะไปซื้อกาแฟกิน แต่พอมาถึงเขื่อนก็เห็นฟาร์มกำลังหยิบทิชชู่เช็ดปากให้เฟรนด์ ซึ่งมันทำให้เขื่อนรู้สึกหงุดหงิดเขาจึงเลือกที่จะไม่กินกาแฟและขับรถออกไป และพอกลับมาถึงบ้านเขาก็ถูกผู้เป็นพ่อบังคับให้ไปฟาร์มนั่นอีกจึงทำให้เขื่อนไม่พอใจเป็นอย่างมาก เขาจึงเลือกมาระบายอารมณ์กับคู่นอนของเขา
“ทำไมวันนี้ ดูใจลอยจัง คิดถึงใครอยู่หรือเปล่า” เธอถามผมขึ้น พร้อมกับทำหน้างอน
“ใจผมจะลอยไปไหนได้ล่ะครับ ในเมื่อใจผมก็อยู่ตรงนี้นี่ไง” ผมใช้มือจิ้มไปที่น่าอกข้างซ้ายของเธอ อย่างไม่ให้อีกคนคิดน้อยใจ อีกอย่างผมก็ขี้เกียจมานั่งอธิบาย
“เขื่อนอ่ะปากหวานตลอดเลย เพราะแบบนี้ไงพี่ถึงได้รักเขื่อน” เธอพูดพร้อมกับซบอกผม
“ผมก็รักพี่ครับ” ผมพูดพร้อมกับใช้มือลูบหัวเธอ แต่ทว่าคำว่ารักสำหรับผมนั้นมันก็เป็นเพียงแค่คำพูดที่หลุดออกจากปาก โดยไร้ความรู้สึก
“รัก แล้วเมื่อไหร่เขื่อนจะยอมคบกับพี่ พี่รอมานานมากแล้วนะ” มะนาวผละออกจากอกของเขื่อน พร้อมกับเอ่ยถามขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง
“พี่ไม่กลัวติดคุกหรอครับ ผมยังไม่บรรลุนิติภาวะเลยนะ ระวังโดนข้อหาพรากผู้เยาว์นะครับ”
“คุกพี่ไม่กลัว กลัวไม่ได้เขื่อนมากกว่า อีกอย่างบางส่วนก็โตเกินวัยซะด้วยสิ จะไม่ให้พี่ชอบได้ยังไงกัน” มะนาวพูดพร้อมยกยิ้มขึ้นอย่างเจ้าเล่ห์
“หึ พูดดีแบบนี้ต้องให้รางวัล” จบประโยคของร่างสูง บทสวาทก็เริ่มขึ้นอีกครั้งทันที
หลังจากที่ผมมีอะไรกับพี่มะนาวเสร็จผมก็แต่งตัวกลับบ้านตัวเองทันที อย่างไม่คิดจะค้างคืนกับเธอ พอมาถึงตอนนี้ทุกคนคงสงสัยว่าผู้หญิงคนที่ชื่อมะนาวนี้เป็นใคร เธอเป็นนักศึกษาชั้นปีที่สองของมหาลัยเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง เป็นลูกสาวคนเดียวของเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ที่มีชื่อเสียง นิสัยของเธอ เธอเป็นคนชอบเอาแต่ใจตัวเอง ติดหรู ชอบใช้ของแพงๆ ผมรู้จักกับเธอตอนผมมาผับครั้งแรก ถ้าจะให้นับ ผมกับเธอก็น่าจะรู้จักกันได้ปีกว่าๆ อีกอย่างเธอเป็นคนแรกที่ผมมีเพศสัมพันธ์ด้วยหรือจะบอกว่าเธอเป็นคนเปิดซิงผมก็ได้ แต่หลังจากผมมีอะไรกับเธอแล้ว ผมก็ไปเอากับคนอื่นเรื่อยๆโดยสวมถุงป้องกันทุกครั้ง และไม่เคยคิดจะสดกับใครด้วย แต่ทว่ามะนาวเธอจะเป็นคนเดียวที่ผมกลับมาเอาซ้ำ เหตุผลก็เพราะเธอเด็ดและผมยังไม่เบื่อ อีกอย่างเธอก็ชอบผมมากเชื่อฟังผมทุกอย่างเพียงแค่ผมบอกรักเธอ และแน่นอนว่าเธอพยายามขอคบผมอยู่หลายครั้งแต่ผมก็พูดหาข้ออ้างมาปฏิเสธเธอทางอ้อมได้ทุกครั้งเช่นกัน สำหรับผมแล้วเธอก็เป็นได้แค่คู่นอนของผม แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ผมเบื่อเธอ วันนั้นจะเป็นวันที่ผมทิ้งเธอโดยไม่รู้สึกอะไรเลยแม้แต่น้อย
วันเดินทาง
“เมื่อไหร่กะเพราจะมาถึงเนี่ย” เฟรนด์พูดพร้อมดูนาฬิกาที่ข้อมืออย่างร้อนใจ หลังจากที่ตกลงวันไปเที่ยวกันแล้ว เฟรนด์ก็ไม่ลืมที่จะชวนเพื่อนรักเพียงคนเดียวของเธอ
“มาแล้วๆ” เสียงกะเพราร้องวิ่งมาแต่ไกล
“มึงทำอะไรอยู่เนี่ยโคตรช้าเลย”
“โทษทีพอดีรถติดอะ” กะเพราเอ่ยบอกพร้อมทำหน้ามุ่ยใส่คนเป็นเพื่อน เฟรนด์ที่เห็นแบบนั้นก็หยุดบ่นทันที
“ช่างเถอะ ดีกว่าไม่มา”
“เอาล่ะมาถึงแล้วก็ขึ้นรถกัน” แม่เฟรนด์เอ่ยขึ้น ก่อนที่ทุกคนจะพากันขึ้นรถ
ทริปนี้คุณพ่ออาสาเป็นคนขับรถเอง คุณพ่อบอกว่าจะได้ดูเหมือนไปแบบครอบครัว ส่วนคุณแม่ก็นั่งข้างคนขับ กะเพราฉันฟาร์มนั่งด้วยกัน ส่วนเขื่อนเข็มทิศและวอดก้านั่งเบาะหลัง
ระหว่างทาง
“ไอ้เขื่อนๆ มึงดูนั่นสิ” เข็มทิศสะกิดเอ่ยบอกเขื่อนที่นั่งอยู่ด้านข้างตัวเองฝั่งริมหน้าต่าง
“อะไรของมึงวะ” ขณะที่ผมกำลังนั่งดูวิวข้างทางไอ้เข็มทิศมันก็สะกิดเรียกผมเบาๆแล้วใช้สายตาหันไปมองยังเบาะด้านหน้าที่ตอนนี้เฟรนด์หลับโดยที่หัวพิงที่ไหล่ของไอ้ฟาร์ม และดูเหมือนไอ้ฟาร์มมันจะยิ้มไม่หุบคงดีใจที่ยัยนั่นนอนซบไหล่มัน
“แล้วมึงมาบอกกูทำไม ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับกูสักหน่อย” ผมตอบมันออกไป
“แน่ใจนะว่ามึงไม่ได้คิดอะไร” เข็มทิศยังคงไม่เลิกเซ้าซี้คนเป็นเพื่อน
“เออ ดีซะอีกมันจะได้เลิกยุ่งกับกูสักที”
“ครับผมจะรอดู” พอจบประโยคไอ้เข็มทิศ ผมก็ไม่ได้ตอบอะไร ก่อนจะหันหน้าไปมองวิวต่อ แต่ทว่าทำไมผมกลับรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
@Happy Farm
“เฮ้อ ถึงซะที” ฉันลงจากรถพร้อมกับบิดขี้เกียจขึ้น
“เป็นไงนอนอิ่มไหม” เป็นฟาร์มที่เดินมาพูดข้างฉัน
“อิ่มมาก ขอบคุณนะที่ให้ยืมไหล่” ฉันยิ้มหัวเราะออกไป
“ว้าววว สวยจัง”หลังจากลงจากรถ กะเพราก็พูดขึ้นพร้อมกับทำตาลุกวาวทันทีที่เห็นวิวไร่สวนในฟาร์มแห่งนี้
“อากาศดีๆ” เข็มทิศเอ่ย
“ชีวิตสดใส” ตามมาด้วยวอดก้าที่พูดขึ้นต่อจากประโยคของเข็มทิศ แล้วทั้งสองก็สูดอากาศหายใจเข้าอย่างเต็มปอดอย่างพร้อมเพียงกัน
“อะไรของมึงวะ” เขื่อนที่เห็นแบบนั้นก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้น ก่อนจะส่ายหัวอย่างปลงชิน
“อ้าว มาถึงกันแล้วหรอ” เป็นเสียงพ่อของฟาร์มที่เดินออกมาต้อนรับทุกคน
“สวัสดีครับ/ค่ะ” หลังจากที่เห็นชายวัยกลางคนผู้เป็นเจ้าของฟาร์มแห่งนี้ ทุกคนก็ยกมือไหว้ทักทายขึ้นตามมารยาททันที
“ไหว้พระเถอะลูก” พ่อฟาร์มเอ่ยบอกทุกคน
“เฮ้ยย เป็นไงบ้างวะไม่เจอกันนานเลย สบายดีไหม”พ่อเฟรนด์พูดพร้อมเดินเข้าไปชนไหล่กัน
“กูสบายดี แล้วมึงล่ะ เป็นไงบ้าง”
“กูยังแข็งแรงเหมือนเดิมเว้ยไม่ต้องห่วง แต่ว่าเสียดายที่ไอ้ธรไม่ได้มาด้วย” พ่อเฟรนด์เอ่ยตอบ ก่อนจะทำหน้ารู้สึกเสียดายออกมา
“ไม่เป็นไรหรอก มันไม่มาแต่มันก็ยังส่งลูกชายหัวแก้วหัวแหวนมันมาก็ยังดี” พ่อฟาร์มพูดพลางมองไปยังเขื่อน ก่อนจะเอ่ยถามลูกชายเพื่อนขึ้น
“เป็นไงบ้างเขื่อน คิดถึงไอ้ฟาร์มบ้างไหม”
“ก็คงคิดถึงแหละครับ เพราะไม่มีใครไปแข่งชิงเกียรตินิยม มันได้มาง่ายเกินไป” เขื่อนที่ได้ยินแบบนั้น ก็ไม่วานจะตอบกลับผู้เป็นเพื่อนพ่ออย่างติดกวน
“ถึงเราจะไม่ได้แข่งเรื่องการเรียนกันแล้ว ก็ยังมีเรื่องอื่นที่ต้องแข่งกัน” ฟาร์มพูดขึ้นอย่างต้องการกวนประสาทของอีกคน ส่วนเขื่อนที่ก็ไม่รอช้าที่จะตอบกลับอีกคนอย่างไม่ยอมแพ้เช่นกัน
“ไม่หรอก เพราะว่าอะไรที่มันเป็นของของเรา ยังไงก็เป็นของเราอยู่วันยังค่ำ ไม่จำเป็นต้องแข่งหรือแย่งชิงกับใคร”
“มันก็ไม่เสมอไปหรอก หึ”
“เขาหมายถึงอะไรกันหรอ แย่งไรกันอะ” กะเพรากระซิบถามเฟรนด์ขึ้น เมื่อไม่เข้าใจในสิ่งที่ทั้งสองคนนั้นพูดกัน
“กูจะรู้ไหมล่ะ กูก็ยืนอยู่กับมึงเนี่ย” เฟรนด์เอ่ยตอบ แต่ทว่าเธอกลับรู้สึกขนลุกขึ้นมายังไงก็ไม่รู้กับสายตาทั้งสองที่ยืนจ้องกันอยู่แบบนั้น โดยที่ต่างก็ไม่มีใครยอมใคร
“เอาล่ะ ฟาร์มพาเพื่อนเอาของไปเก็บเข้าที่พักก่อน พ่อเตรียมไว้ให้แล้ว” ชายวัยกลางคนเอ่ยบอกลูกชายตัวเองขึ้น
“ครับพ่อ” ฟาร์มที่ได้ยินแบบนั้นก็ตอบรับทันที ก่อนที่เขาจะเป็นคนยอมละสายตาออกจากอีกคน
“ตามสบายนะเด็กๆ”
“ครับ/ค่ะ”
หลังจากนั้นฟาร์มก็พาทุกคนไปพักที่รีสอร์ทซึ่งเป็นที่พักในไร่ของฟาร์มหรือสำหรับให้คนมาเที่ยวพักผ่อนชมไร่สวน และพ่อของฟาร์มก็ได้เตรียมห้องไว้ให้คนละห้องเพราะจะได้สะดวกและเป็นส่วนตัว
ก็อกๆ ก็อกๆ
หลังจากที่ฉันเก็บของส่วนตัวเสร็จ เสียงเคาะประตูห้องฉันก็ดังขึ้น ก่อนที่ฉันจะเดินไปเปิดก็พบว่าคนที่มาเคาะนั้นคือฟาร์มนั่นเอง
“อ้าว ฟาร์มมีอะไรรึเปล่า”
“เราว่าจะชวนเฟรนด์ไปไร่องุ่นหน่อย ชอบกินองุ่นไม่ใช่หรอ” ฟาร์มเอ่ยชวน เฟรนด์ที่อึ้งปนตกใจอยู่เล็กน้อย ไม่คิดว่าจะมีคนจำได้ด้วยว่าเธอนั้นชอบกินองุ่น ทั้งที่เธอนั้นก็ไม่ค่อยจะสนิทกับฟาร์มเท่าไหร่ ส่วนมากจะเป็นฟาร์มมากกว่าที่เข้าหาเธอ
“ฟาร์มจำได้ด้วยหรอ”
“อะไรที่เกี่ยวกับเฟรนด์เราจำได้หมดแหละ” คำพูดของฟาร์มทำให้ฉันชะงักเล็กน้อย ทำไมฟาร์มถึงได้ใส่ใจเราขนาดนี้
“เออ....งั้นเราชวนกะ...” ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดจบก็โดนฟาร์มพูดแทรกขึ้นซะก่อน
“ไม่ต้องหรอก”
“หือ?”คำพูดของฟาร์มทำให้ฉันทำหน้าไม่เข้าใจออกมา ทำไมถึงไม่ให้ชวนล่ะ
“คือ....เราความหมายว่า คนอื่นเขาน่าจะเหนื่อยจากการเดินทางอาจจะอยากพักผ่อนมากกว่า เราเลยไม่อยากให้เฟรนด์ไปกวนน่ะ” ฟาร์มพูดอธิบายขึ้น
“อ่อ งั้นเราไปกัน”ฉันพยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะยิ้มตอบฟาร์ม
ในขณะเดียวกัน เขื่อนที่กำลังจะเดินไปหาเพื่อนที่ห้อง ก็บังเอิญเห็นเฟรนด์ยืนคุยกับฟาร์มที่หน้าห้องพอดี ทำให้สองเท้าหนานั้นหยุดชะงักจ้องมองไปยังทั้งสองที่ยืนคุยกัน และเวลาผ่านไปไม่นานทั้งสองก็เดินออกไปด้วยกัน
“ไปไหนกันวะ”