ตอนที่8 อารมณ์ไม่ดี หรือ...
ตืดด ตืดด
แม่รุ้ง
ฉัตรทองก้มมองมือถือของธาริกาที่อยู่ในมือเขา เมื่อเห็นว่าใครโทรมาถึงกับต้องกรอกตาไปมาถึงสองตลบ ครั้นจะไม่รับสายเดี๋ยวก็สร้างเรื่องอีก
“ฮัลโหลค่ะแม่ ฉัตรเองนะคะ”
“นางทรายมันไปไหน” สาวสองหุ่นล่ำบึกถึงกับลอบถอนหายใจไม่รู้ทางนั้นจะถามหาลูกสาวไปทำไมในเมื่อไม่ได้คิดถึงหรืออะไรทั้งนั้น
“โอนเงินมาให้หนึ่งหมื่นสิ ตอนนี้เลย”
“แม่คะ ฉัตรเพิ่งโอนไปให้หนึ่งหมื่นได้สิบกว่าวันเองนะคะหมดแล้วเหรอ”
“หน้าที่อะไรของแกมาสอด เงินที่โอนมันของลูกสาวฉัน” ปลายสายต่อว่าเขาแต่ไม่ถึงขึ้นทำให้เจ็บปวด เพราะความชินชาที่ต่อปากกับมารดาของธาริกามาแรมปี
“คุณแม่คะ ลูกสาวคุณแม่ไม่ได้สบายอย่างที่คิดนะคะ บางคืนได้นอนสามชั่วโมงเอง”
“โอนมาด้วยนะ ขอด่วน ๆ” ฉัตรทองเบะปากหลังถูกมารดาของธาริกาตัดสายใส่แถมยังทิ้งคำสั่งแกมบังคับไว้อีก แต่คนอย่างฉัตรทองจะไม่เข้าไปแตะเรื่องเงินส่วนตัวของเด็กในสังกัดเด็ดขาด จะรอจนกว่าเจ้าตัวเธอเสร็จงานแล้วตัดสินใจเองว่าจะให้หรือไม่ให้ ‘แต่ส่วนใหญ่แล้วต้องให้’
“ทรายแก้ว” ผู้จัดการหุ่นล่ำบึกกวักมือเรียกหญิงสาวยิก ๆ เมื่อเธอเสร็จงานลงจากเวทีมาหมาด ๆ
“มีอะไรเหรอคะพี่ฉัตร มีปัญหาอีกแล้ว?”
“แม่รุ้งโทรมาขอเงินหมื่นนึง” ธาริกาแทบอยากจะร้องไห้ออกมาให้มันรู้แล้วรู้รอด มารดาของเธอคืออุปสรรคในการเก็บเงินให้ได้ก้อนโต บ้านหลังใหญ่ ๆ มีสระว่ายและสวนร่มรื่นยังคงไกลเกินเอื้อมไปอีก
“ไม่ต้องให้หรอก ให้ก็เอาไปละลายในบ่อนหมด” ในขณะที่ฉัตรทองออกความเห็นสมาร์ทโฟนของธาริกาก็ปรากฏเบอร์โทรเจ้าปัญหาอีกครั้ง
“ไม่ต้องให้ถึงหมื่นหรอก”
“เดี๋ยวทรายคุยกับเขาดูก่อนค่ะ แต่ไม่น่าจะยอมนะ” หญิงสาวรับมือถือมาจากฉัตรทองแล้วเดินออกไปให้ห่างจากคนที่พลุกพล่าน
“ว่าไงคะ”
“ทรายแก้ว โอนเงินให้แม่หน่อยสิ”
“แม่.. ทรายกำลังลำบากนะเอาไปใช้อะไรเยอะแยะ”
“ก็พัทยาข้าวของมันแพง แกให้แม่มาก้อนเล็ก ๆ มันก็หมดเร็วน่ะสิ” ธาริกากลั้นอารมณ์ที่อัดอั้นอยู่ในอก มารดาของเธอติดการพนันหลังจากที่เธอเข้าสู่วงการแล้วท่านคิดว่าเงินมันมาหาเธอง่าย ๆ
“ก้อนเล็ก ๆ นั่นทรายก็แทบไม่เหลือแล้วแม่ เห็นใจกันหน่อยเถอะ”
“ขอครั้งนี้ครั้งสุดท้ายแล้ว นะลูก แม่ไม่มีเงินซื้อข้าวกินแล้ว” ถึงจะน้อยใจชะตาว่าทำไมตัวเองต้องเกิดเป็นลูกของผู้หญิงคนนี้แต่ด้วยความรักที่มีต่อมารดาก็ทำให้เธอยอมอ่อนลงเพียงเพราะท่านบอกว่าไม่มีเงินซื้อข้าวกิน
“คราวนี้ใช้ประหยัดหน่อยนะแม่ ทรายก็ไม่รู้ว่าจะมีงานทำไปอีกสักเท่าไร” ลูกสาวตัดพ้อถึงเพียงนี้แต่คนเป็นแม่หาได้สำนึก ผีพนันจนไม่สนใจอะไรแล้วทั้งนั้น
“เอาหน่า แกตกกระป๋องก็ไม่เป็นไรหรอกฉันหาลู่ทางไว้ให้แกแล้ว”
“แม่... ยังไม่เลิกทำแบบนั้นอีกเหรอ”
“ก็เงินที่แกให้มันไม่พอใช้ ที่ทำอยู่นี่ก็ความสุขเล็ก ๆ ของฉัน”
“เลิกเถอะนะ เงินทรายก็ส่งให้ใช้”
“ก็มันไม่พอไง อายเหรอที่มีแม่เป็นกะหรี่น่ะคุณธาริกา” ปลายสายถามอย่างเย้ยหยัน แม่เธอไม่เคยอายที่ทำงานแบบนั้น ‘แต่เธออายไง’
.....
“ยอมมั้ยล่ะ ฉันเดาว่าไม่”
“ไม่ยอมนั่นแหละ แต่เดียวถึงรถแล้วค่อยโอนค่ะร้อนแดด”
ฉัตรทองกับดาราสาวกำลังเดินกลับรถแต่กลับมีรถตู้สุดหรูขับมาเหมือนจะจอดขวางหน้าของเธอทั้งคู่ไว้ ธาริกาบีบมือผู้จัดการของเธอไว้แน่นด้วยใจที่นึกกลัว กลัวเป็นกลุ่มคนที่แอนตี้เธออย่างหนัก
ครืดด
“คุณชาร์ล...” ทั้งสองพูดออกมาพร้อมกันเมื่อประตูรถตู้คันนั้นเลื่อนเปิดออกแล้วเห็นชัดเจนว่าผู้ชายที่นั่งอยู่ในรถเพียงคนเดียวนั้นคือใคร
“ขึ้นรถ”
“ฉัตรเหรอคะ” ผู้จัดการสาวสองถามทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าเขาหมายถึงใคร
“ทรายแก้ว” น้ำเสียงของเขาเย็นเยือกราวกับน้ำแข็ง ฉัตรทองหันมามองธาริกาอย่างถามหาความเต็มใจแต่หญิงสาวก็ส่งสัญญาณกลับมาให้ว่าโอเค ‘เต็มใจไม่เต็มใจเลือกได้ด้วยเหรอ’
ครืดด
เมื่อธาริกานั่งบนรถที่นั่งข้างเขาประตูรถก็เลื่อนปิดอัตโนมัติ เธอไม่กล้ามองเขาเต็มตาเพราะสัมผัสได้ถึงความอึมครึม
“จะไปไหนเหรอคะ”
“บ้าน” หญิงสาวนั่งเงียบแทบไม่กล้าหายใจเมื่อบรรยากาศในรถช่างเงียบจนแทบจะได้ยินเสียงหัวใจของตัวเอง เขาดูไม่ใช่คนช่างพูดและคนที่ทำหน้าที่ขับรถก็เหมือนถูกบังคับไว้ไม่ให้พูด
.....
“คุณชาร์ล...” สองเท้าบางชะงักกึกเพราะมัวแต่เดินก้มหน้าตามเขาเข้ามาธาริกาเลยไม่ได้มองเห็นว่ามีคนนั่งอยู่ในบ้านที่ชั้นล่างอยู่ก่อนแล้ว แต่พอเห็นว่าเป็นใครเท่านั้นแหละ
“เธอไม่รู้หรือไงว่าที่นี่ห้ามมาเหยียบหากฉันไม่อนุญาต!” ซินดี้เหลือบมองคนที่มองเธออย่างเยาะเย้ยด้านหลังของเจ้าของบ้าน ก่อนจะต้องทำเป็นเมินนางร้ายที่เธอไม่ถูกชะตาไป
“คุณชาร์ลไม่เรียกหาซินดี้นี่คะ ซินดี้ก็เลย...”
“มาดูให้เห็นกับตา?”
“เปล่านะคะ ซินดี้อยากดูแลคุณชาร์ลก็เลยฝืนคำสั่งมา”
“ฉันมีคนดูแลแล้ว เธอกลับไปแล้วอย่ามาถ้าฉันไม่อนุญาต” ซินดี้เหลือบมองคนที่บิดยิ้มเยาะเย้ยให้เธออีกรอบก่อนจะหยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพาย
“เชิญครับคุณซินดี้”
นางเอกหน้าหวานจำใจออกมาจากบ้านของชาร์ลเพราะไม่กล้ามากพอจะดึงดันกับอารมณ์ของเจ้าของบ้าน ธาริกายังยืนมองแผ่นหลังของคนที่ยืนอยู่ด้านหน้าเธอ ‘เขาดูน่ากลัวจริง ๆ’
“ไปหยิบไวน์มาให้หน่อย”
“คะ?..ค่ะรอแป๊บนึงนะคะ” ไม่มีเวลาให้เธอไม่เข้าใจมากนัก ธาริกาหญิงสาวสมองไวก็ประมวลคำสั่งของเขาได้อย่างรวดเร็ว พร้อมไวน์แช่ในถังน้ำแข็งและแก้วหนึ่งใบพร้อมเสิร์ฟ
“เดี๋ยวทรายรินให้เองค่ะ” หญิงสาวบริการให้เขาอย่างรู้งาน แต่เมื่อเขารับแก้วไวน์ไปจากเธอและยกขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมดแก้วใบนั้นกลับถูกปาใส่ผนังอย่างแรง
เพล้ง!!!
ไม่มีเสียงใดหลุดรอดจากปากของหญิงสาว ผิดกับความคิดในหัวของชาร์ลที่คิดว่าจะได้ยินเสียงกรี๊ดบาดหู