‘ผู้ที่ได้รับรางวัล นางร้ายยอดนิยมแห่งปี ได้แก่…’
‘คุณเพนนี วิโรจน์ เรียนเชิญขึ้นมารับรางวัลได้เลยครับ!’
พิธีกรหนุ่มประกาศเสียงดังดึ่งก้อง ตามด้วยเสียงตบมือจากผู้เข้าร่วมงานประกาศรางวัลอันทรงเกียรติในครั้งนี้ ทว่าผู้ที่ได้รับรางวัล กลับชักสีหน้าไม่สบอารมณ์ เพราะข่าวที่ตนได้รับก่อนหน้า เป็นข่าวคู่หมั้นไปออกเดตกับนักแสดงสาว ซึ่งนักแสดงคนนั้น เป็นนางเอกที่เล่นละครเรื่องเดียวกัน มิหนำซ้ำยังเป็นคนที่เธอเกลียดชังขี้หน้า เพราะไม่ว่าเธอจะแสดงได้สมบทบาทสักแค่ไหน เหล่าผู้จัดก็ต่างพากันชื่นชมในฝีมือการแสดง จนทำให้ราศีของเธอหม่นหมอง มีเพียงผู้ชมเท่านั้น ที่ส่งเสริมให้ได้รับรางวัลนี้
“เรียนเชิญคุณเพนนี ขึ้นมารับรางวัลบนเวทีด้วยครับ”
พิธีกรหนุ่มเรียกชื่อผู้ที่ได้รับรางวัลอีกครั้ง ‘พี่แหม่ม’ ผู้จัดการที่เป็นสาวประเภทสองร่างบึก รีบสะกิดให้เด็กปั้นของตน กระตือรือร้นที่จะออกไปรับรางวัล พลางกวาดรอยยิ้มโดยรอบ พร้อมกับพูดว่าเธอคงช็อกมากที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติแบบนี้
“ยินดีด้วยนะ เพนนี”
ระหว่างที่แสงสปอร์ตไลท์ สาดส่องบนเรือนร่างเซ็กซี่ ที่กำลังย่างกรายไปบนพรมแดง ก็มีเสียงใสของบุคคลหนึ่ง กล่าวคำยินดีแก่เธอ ซึ่งจะไม่มีปัญหาเลย ถ้าเจ้าของเสียงนั้น ไม่ใช่นังแรดเงียบ ‘รินลณี’ ที่เพิ่งจะไปออกเดตกับคู่หมั้นของเธอเมื่อวาน
“ยินดีงั้นเหรอ?”
ดวงหน้าสวยพริ้งเหยียดยิ้มมุมปาก ก่อนจะก้าวขาเรียวไปหยุดยืนอยู่ตรงหน้านางเอกสาว แล้วยกมือขึ้นเชยปลายคางหวานให้เงยหน้า จากนั้นก็ง้างมือฟาดไปบนผิวแก้มอย่างเต็มแรง
เพียะ!
ฮือฮ่าาา!
คนทั้งงานต่างพากันตื่นตกใจ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“ว้ายตายแล้ว!”
ผู้จัดการรีบวิ่งเข้ามาจับแขนเด็กของตน ไม่ให้ใช้ความรุนแรง ทว่าสาวสวยในชุดราตรีสีแดงฉาด กลับสะบัดแขนออก แล้วเงื้อมมือไปจิกผมยาวสลวยของอีกฝ่าย ก่อนจะตบซ้ำอีกครั้ง
“หยุดเดี๋ยวนี้!”
แต่ก่อนที่ฝ่ามือจะสัมผัสบนผิวหน้า ก็มีมือปริศนาของใครบางคน แทรกเข้ามาจับข้อแขน ห้ามไม่ให้ตบซ้ำ พอเธอเห็นว่าคนคนนั้นเป็นใคร ความโกรธก็ยิ่งทวีคูณ เธอจึงยกเท้าที่สวมใส่ส้นสูง ถีบเข้าไปที่กลางลำตัว จนอีกฝ่ายกลิ้งลงบันไดพรมแดง
“กรี๊ดดด!”
เสียงผู้คนรอบข้างวีดร้อง ก่อนที่นักข่าวนับร้อย จะพากันรัวแฟลช เก็บภาพความรุนแรงที่เกิดขึ้น ทว่าเจ้าตัวกลับเชิดหน้าหยิ่งยโสอย่างไม่แคร์สื่อ ก่อนจะเดินฝ่าแสงแฟลชออกไปจากงาน
“เพนนี!”
พี่แหม่มวิ่งตาม ในขณะที่นักข่าวก็รีบตามมาเป็นพรวน
“ถ้าพี่จะด่า ก็ช่วยเงียบไปก่อนนะคะ เพนนีไม่อยากฟัง”
เจ้าของทรวดทรงนาฬิกาทรายยกมือเบรกไม่ให้ผู้จัดการต่อว่าตน พอเดินออกมาถึงหน้างาน เธอก็ส่งสายตาให้คนขับรถมาเคลียร์นักข่าว ส่วนเธอก็สวมใส่แว่นดำ แล้วขึ้นไปนั่งบนรถหรู
“ตายแน่งานนี้”
พี่แหม่มตามขึ้นมานั่งเบาะหน้า แล้วยกมือกุมขมับ
“ไม่ตายหรอกค่ะ งานในวงการไม่ใช่ทุกอย่างของเพนนี”
“แล้วพี่ล่ะคะ พี่ยังอยากทำงานในวงการนี้อยู่นะ เพนนี!”
ผู้จัดการสาวสองท้วงติง เมื่อถูกเด็กที่ตนปั้นมากับมือ ทำลายความฝันภายในชั่วพริบตา ถึงเพนนีจะเป็นลูกสาวนักธุรกิจชื่อดัง แต่การดับอนาคตที่กำลังจะรุ่งโรจน์แบบนี้ ไม่ใช่เรื่องที่ดีต่อตัวคนทำและต่อตัวผู้จัดการ ที่ไม่สามารถคุมเด็กตนเองได้
“ไม่รู้แหละ นังนั่นมันทำตัวร่าน สมควรโดนตบสั่งสอน”
สาวสวยเชิดหน้า กอดอกไขว่ห้างไม่แยแสกับผลที่ตามมา
ตืดดดด!
พี่แหม่มก้มมองจอโทรศัพท์ ที่มีสายเรียกเข้าทุกวินาที
“เดี้ยนอยากโดนธรณีสูบเดี๋ยวนี้เลย ปึก ปึก ปึก!”
ขณะที่พี่แหม่มกำลังเอาหัวโขกคอนโซลหน้ารถ ประตูอีกฝั่งก็ถูกเปิดออก แต่! ยังไม่ทันที่เพนนีจะได้เอ่ยปากร้อง ก็มีชายร่างใหญ่ใส่หมวกโม่งดำ เอื้อมมือมาตะปบปิดปาก แล้วกระชากร่างหญิงสาวลงจากรถหรู เปลี่ยนไปขึ้นรถตู้สีเทาที่จอดขนานข้าง
“พวกแก...”
เอ่ยปากไม่ถึงสามคำ ฤทธิ์ยาสลบบนฝ่ามือก็เริ่มทำงาน
เพนนีรู้สึกมึนหัว ไม่มีแรงต่อสู้ ก่อนจะหมดสติไปในที่สุด
ครืนนน ซ่า!
“นายสั่งให้เปลี่ยนเสื้อก่อน แล้วค่อยโยนลงทะเล”
เสียงเข้มขรึมออกคำสั่ง ดังแว่วเข้ามาในโซนประสาท
ทว่าเจ้าของเรือนร่างไร้เรี่ยวแรง กลับไม่สามารถลืมตาดูสิ่งที่เกิดขึ้นได้ รับรู้เพียงแค่ว่าตนเองกำลังถูกถอดเสื้อผ้า เปลี่ยนเป็นชุดบางเฉียบ ไม่มีแม้กระทั่งบราเซียหรือกางเกงซับใน
“ลูกพี่ไม่เสียดายเหรอ สวยขนาดนี้ ผมว่าเราน่าจะ…”
“ถ้าเอ็งอยากโดนยิงหัวพรุนก็เอาสิ” อีกฝ่ายสวนคำตอบ
“มะ ไม่ล่ะครับ เดี๋ยวผมจะรีบโยนลงทะเลเดี๋ยวนี้เลย”
น้ำเสียงตะกุกตะกัก บ่งบอกถึงความเกรงกลัวต่ออำนาจ จึงรีบจัดการอุ้มร่างหญิงสาวที่ยังมีลมหายใจ โยนลงไปในมหาสมุทรกว้างใหญ่ ที่มีเพียงแสงจันทร์ ตกกระทบผิวน้ำเท่านั้น
ครึมมม!
เสียงเครื่องยนต์ขับเคลื่อนออกห่างไปอย่างรวดเร็ว
ยังดีที่ความเย็นยะเยือกของน้ำทะเล เรียกคืนสติหญิงสาวกลับมาได้ทันเวลา เมื่อเธอรู้ตัวว่าถูกพามาโยนทิ้งกลางทะเล ก็รีบตะเกียกตะกายอยู่บนผิวน้ำ แต่ขาทั้งสองข้างก็ดันไม่ให้ความร่วมมือ จึงเกิดอาการเหน็บกินจนร่างจมดิ่งลงใต้มหาสมุทร
ในวินาทีสุดท้ายของชีวิต เพนนีไม่มีโอกาสขอความช่วยเหลือจากใคร เธอดิ้นทุรนทุรายอยู่ในกระแสน้ำอย่างทรมาน ก่อนที่ทุกอย่างจะดับลง ไปพร้อมกับความแค้น ที่ถูกพามาฆ่าทิ้ง
ทางด้านคู่หมั้น
“พวกผมจัดการเรียบร้อยแล้วครับนาย”
ชายหนุ่มตวัดสายตาเยือกเย็น จ้องมองไปยังท้องทะเลดำมืด ก่อนจะย่างกายกลับขึ้นไปบนรถหรู แล้วขับออกไปในทันที
“นะ นายเหี้ยมโหดมากเลยลูกพี่ ฆ่าได้แม้กระทั่งคู่หมั้น”
“หึ เป็นแค่คู่หมั้น ถ้าทำนายโกรธ นายก็ฆ่าทิ้งหมดแหละ”
“เหมือนที่นายทำกับท่านพญาโกสินทร์ใช่ไหมครับ ลูกพี่”
“เฮ้ย! กูบอกแล้วไง ว่าอย่าพูดถึง อยากตายหรือไงมึง!?”
“มะ ไม่อยากตายครับ ผมต้องรีบกลับไปดูลูกเมียที่บ้าน”
พูดจบ ลูกน้องเก้งก้าง ก็รีบวิ่งไปคว้ารถมอเตอร์ไซค์คันเก่า ขับออกไปจากท่าเรือ ส่วนคนที่ยังยืนมองท้องทะเลด้วยสายตาเคร่งเครียด ก็ยกมือขึ้นปิดปากอย่างกังวน กลัวว่าใครจะรู้เรื่องนี้ หากเรื่องแดงขึ้นมา ‘หัวกู ได้หลุดออกจากบ่าแน่นอน!’