สถานบันเทิงชื่อดังใจกลางกรุง
ท่ามกลางแสงสีเสียง ที่ขับกล่อมนักท่องราตรี มีสาวสวยในชุดนักศึกษา ลากกระเป๋าเดินทางเข้าไปในผับ ตรงดิ่งไปยังโต๊ะ VIP ที่เพื่อนสาวคนสนิทเป็นคนเปิด พวกมันแต่งตัวกันมาจัดเต็ม ตัดภาพมาที่เธอ ที่แต่งตัวเหมือนก้านแก้วในเวอร์ชั่นมาหาเสี่ยเลี้ยงแบบเร่งด่วน ดีที่เธอมาผับนี้เป็นประจำ (หนึ่งปีเต็ม) การ์ดเลยอนุญาต ให้เข้ามาในสภาพนี้ได้
“มาหาลูกค้าหรือคะ น้องก้านคอ?”
“ก้านคอแม่มึงสิ มึงดูสภาพกูตอนนี้ มึงดูแม่กูทำ!”
สาวสวยวีนเหวี่ยงสุดฤทธิ์ แล้วหันไปตบหัวเก้งทีหนึ่ง
ผลัวะ!
“เอ้าอีนี่! มึงตบหัวกูทำไมเนี่ย?”
“พวกมึงไม่ยอมรับโทรศัพท์กู อีห่า มึงรู้ไหม ว่ากูไม่มีเงินติดตัวเลยสักบาทจนกูต้องเดินหอบสังขานมาถึงที่นี่เนี่ย!”
“นี่ อีชะนี กระเป๋าแบรนด์เนมที่มึงถือ ราคาเหยียบแสนเลยนะ ถ้ามึงมีสมองมึงก็ควรเอาไปขาย แล้วเอาเงินมาใช้ชีวิตก่อนป่ะ” เก้งหัวทองสวนกลับ ในขณะที่อีกฝ่ายกำลังโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง แล้วทรุดตัวลงนั่งกระดกเหล้าดื่มเป็นน้ำ
“มี้นะมี้ คิดจะตัดก็ตัด ไม่ให้กูได้ตั้งตัวก่อนเลย!”
“กูว่านะชะนี มี้มึงกะจะทำให้มึงจนตรอกนั่นแหละ”
“ใช่ เพราะมี้มึงรู้ไง ว่าผู้ชายดีๆ มึงหาไม่ได้แน่นอน”
“ดูถูก!”
“พวกกูพูดจริงค่ะ ผู้ชายแต่ละคนที่มึงลากไปกิน ไม่เสือก็เหี้ย ไม่มีตัวดีๆ เลยสักตัว ส่วนมึง ก็ไม่ได้มองหาสามีที่ดี ไม่แปลกที่จะเจอผู้ชายประเภทนี้เข้าหา ยังไงมึงก็ลองทักไปศิโรราบกับมี้มึงดูนะ ยอมแต่งงานกับคนที่มี้มึงเลือกไปเถอะ”
โซเฟียให้คำแนะนำ เพราะรู้ว่าการเรียนไม่ได้ช่วยทำให้เธอดีขึ้น ถ้าไม่มาแม่ช่วยยัดเงิน ปานนี้คงถูกไล่ออกไปแล้ว
“ท่องไว้นะชะนี มึงไม่มีแม่ มึงอยู่ไม่ได้เด้อ~”
“ไม่ต้องพูดเลยมึงอะ”
“เอ้า แล้วแต่มึงแล้วกัน อีดอก”
“เหี้ย แล้วคืนนี้กูจะไปนอนไหนวะ”
“สะพานลอยไงชะนี เยอะแยะไป~”
“มึงไปนอนกับกูไหม อีเก้งหน้าโจร?”
“แรงนะ อีชะนีหน้าปลอม เดี๋ยวกูตบให้”
“ก็มาดิคะ กูนอนคุก ยังดีกว่านอนบนสะพานลอย”
“เอ้าๆๆ อย่าทะเลาะกันดิมึง คืนนี้อีหงษ์ไปห้องกูก็ได้”
“เห็นไหมอีเก้ง ดูเพื่อนที่ดีไว้เป็นแบบอย่างบ้างนะมึง”
อีเวนทำปากมุบมิบแล้วยกแก้วดื่มรวดเดียวหมด ส่วนเธอไม่รอช้า หยิบขวดเหล้ามากระดกดื่มเพียวๆ เอาให้ตับพัง!
“เบาได้เบามึง พรุ่งนี้มีเรียน”
“กูไม่ไป จนกว่ามี้จะค*****น”
“ต่อให้คืน มึงก็ไปยอมไปค่า~”
“ช่างแม่ง กูไม่สนอะไรแล้ว อึก อึก อึก!”
ยกหมดขวด ในขณะที่เพื่อนสาวทั้งสองมองตาค้าง
“อีโซเฟีย มึงบอกมันหรือยัง ว่าเราเอารถอะไรมา?”
“ฮ่าๆๆ กูยังไม่บอก แต่เหมาะกับการพาอีนี่กลับดี”
“งานนี้ กูจะเก็บภาพเอาไว้ประจาน ปากเก่งดีนัก!”
แง้นนนน!
แชะ แชะ แชะ!
“ฮ่าๆๆ กูคิดไม่ผิด ที่ถอยซาเล้งมารับมันกลับ”
“ขับมือนิ่งๆ ดิ อีชะนี กูกำลังเก็บภาพเด็ดอีเป็ดอยู่”
“แค่คนหน้าผับถ่ายรูปมัน พรุ่งนี้ก็คงว่อนเน็ตแล้วมั้ง”
“ฮ่าๆๆ พรุ่งนี้มันวีนแตกแน่”
“มันโกรธมึงยันชาติหน้าแน่~”
“ทำอย่างกับว่า มันไม่เคยแกล้งเราอย่างงั้นแหละ ครั้งก่อนมันทิ้งกูนอนข้างถังขยะ แล้วถ่ายลงไอจี ยังดีที่กูให้มันนอนแค่บนซาเล้งแถมยังพากลับบ้านอีก ปราณีสุดๆ แล้ว”
กรึบ!
“มะ มึงได้ยินเสียงอะไรป่ะ?”
“ไม่ได้ยิน แชะ แชะ แชะ แชะ!”
กรึบ ครืนนน!
“เหี้ย! พ่วงซาเล้งหลุด”
ครืนนน!
“อีหงษ์มึงตื่นก่อนนนน!”
ครืนนน!
“ฉิบหายแล้ว โรลส์รอยซ์!”
“ขับหนีเลยมึง ขับหนีเลย!”
“แล้วอีหงษ์อ่ะ!?”
“ช่างแม่ง ขับหนีไปก่อน มึงเมาแล้วขับ!”
โครมมม!
พ่วงซาเล้งชนเข้าเต็มๆ ท้ายรถโรลส์รอยซ์
“โอ๊ยยยยยย!”
เสียงร้องโอดครวญดังมาจากสาวสวยในชุดนักศึกษา ที่ตอนนี้เมาเหมือนหมาหมดสภาพ มิหนำซ้ำ ยังถูกบางสิ่งกระแทกเข้าที่ลำตัว ไม่รู้ว่ากระดูกซี่โครงจะหักไหม (เจ็บสัด!)
“พวกมึงขับรถอะไรของพวกมึงเนี่ย!?”
ได้สติก็แผดเสียงใส่ เพราะนึกว่าเพื่อนทั้งสองขับรถชน แต่พอลืมตาขึ้น กลับพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่บนพ่วงรถซาเล้งที่เหลือเพียงล้อเดียว มิหนำซ้ำยังชนท้ายรถคนอื่นอยู่ แถมสภาพท้ายรถหรูนั้น ยังพังยับเยินจากแรงกระแทกซาเล้ง
“ฉิบหายแล้ว พวกมึงเล่นเตี่ยอะไรกันวะ!”
นักศึกษาสาวสวยรีบชันตัวลุกขึ้นจากเศษซากรถซาเล้ง จากที่เมาไม่รู้เรื่อง ทว่าตอนนี้กลับสร่างเมา เพราะดันชนท้ายรถโรลส์รอยซ์ ที่มีราคาหลายสิบล้าน ครั้งหนึ่งในชีวิต เธอเคยขับรถรุ่นนี้ แต่พอขับไปชนกำแพงบอกเลยว่าเจ็บหนัก
หมายถึงค่าซ่อมอ่ะ เจ็บหนักมาก!
“งานนี้พวกเราสามคน เสียค่าซ่อมยับแน่!”
เจ้าตัวยืนกุมขมับ พลางกวาดสายตามองหาเพื่อนสาวอีกสองคน แต่กลับไร้เงาสองคนนั้น มีเพียงชายร่างใหญ่ ที่มีส่วนสูงโดยประมาณเก้าสิบอัพ เดินลงมาจากรถโรลส์รอยซ์สีดำ เขาสวมใส่แมสก์ปิดปากสีเดียวกันกับสีรถ แต่ดูจากลักษณะภายนอก น่าจะเป็นคนหล่อ รวย และใจดี (มั้ง)
“เล่นพิเรนทร์อะไรกัน?”
เขาถามเสียงกดต่ำ ออกแนวดุดันด้วยซ้ำ ความใจดี ตัดทิ้งไปได้เลย งานนี้เธอโดนเรียกค่าเสียหายยับแน่ ซวยฉิบ!
“หนูขอโทษค่ะ ลุงเรียกค่าเสียหายมาได้เลยนะคะ”
อีหงษ์! มึงไปเอาความมั่นหน้า มั่นโหนก มาจากไหน ว่ามึงจะมีเงินจ่ายค่าซ่อมรถ เงินจะแดกข้าวยังไม่มีเลย อีบ้า!
“ลุง?”
คิ้วเข้มภายใต้กรอบแว่นขมวดติดกันทันที
“จะให้หนูเรียกพี่ก็ได้นะ ถ้าพี่ยกค่าซ่อมให้”
กล้า! แต่ถ้าไม่หน้าด้าน ก็ไม่มีเงินจ่ายอยู่ดี
“ไปคุยกันที่สถานีตำรวจ”
“ฮะ!? ไม่ไปค่ะ หนูไม่ไป”
คนตัวเล็กรีบปฏิเสธ แล้วพุ่งตัวเข้าไปหาร่างใหญ่ ทว่าเขากลับถอยออกห่าง แล้วมองเธอด้วยสายตาราบเรียบ ไม่แสดงอารมณ์ หรือเรียกอีกอย่างคือไม่เล่นกันผู้หญิงอย่างเธอ
แง้นนนนน!
“อีหงษ์!”
ส่วนหนึ่งของรถซาเล้งขับกลับมา เธอหันไปเท้าสะเอวใส่ ชักสีหน้าประมาณว่า ถ้าพวกมึงไม่กลับมา กูจะกระโดดถีบยอดหน้าเรียงตัว เล่นอะไรไม่เล่น ดันมาเล่นกับโรลส์รอยซ์
“พวกเพื่อนหนูมันมาแล้ว ลุงเคลียร์เอาเองแล้วกัน หนูไม่เกี่ยว” ตัวต้นเหตุมาปุ๊บ เธอก็พร้อมชิ่งทันที ทว่ากลับมีมือแกร่ง มาจับข้อมือเล็กเอาไว้แน่น ไม่ยอมให้เธอเดินหนีไปไหน
“ลุงจะมาจับหนูทำไมเนี่ย?”
“อยู่รับผิดชอบด้วย”
“ฮะ หนูไม่เกี่ยวนะ”
นัยน์ตาคู่คมจดจ้องนักศึกษาสาว แล้วโน้มตัวลงมาสูดดมกลิ่นแอลกอฮอล์ที่คละคลุ้ง พร้อมกับบีบข้อมือแรงขึ้นกว่าเดิม จนเธอร้อง ‘โอ๊ย!’ เพื่อนทั้งสองจึงรีบเข้ามาช่วยห้าม
“อย่าทำมันเลยค่ะ พวกหนูผิดเอง เพื่อนหนูมันเมาไม่รู้เรื่อง!” โซเฟียออกหน้ารับแทน ทว่าฝ่ามือแกร่งกร้าน ยังคงบีบรัด จนร่างเล็กเริ่มตัวบิดงอ ด้วยความเจ็บแปลบข้อกระดูก
“เป็นเด็กนักศึกษากันแท้ๆ แต่ดื่มจนเมาไม่รู้เรื่อง แบบนี้น่าจับส่งตำรวจเสียให้หมด” คำพูดหัวโบราณ สร้างความไม่พอใจแก่สาวสวยที่ถูกบีบข้อมือ เธอง้างมือที่ยังว่าง กะจะตบปากสั่งสอนคนแก่ แต่กลับถูกจับข้อมือแล้วกดทั้งสองข้าง
“โอ๊ยยยย!”
“เฮ้ยพี่! แบบนี้มันทำร้ายร่างกายกันนะ”
โซเฟียประท้วงใส่ พยายามเข้ามาช่วยเพื่อนสาว
“อะ อีโซฟี มึงเมาแล้วขับ ท่องไว้ รถมึงไม่มีประกัน”
เวนเตือนสติโซเฟีย ว่าฝั่งเราผิดเต็มๆ ถ้าไปก้าวร้าวใส่ อาจจะโดนคู่กรณีเรียกค่าเสียหาย จนหมดเนื้อหมดตัวได้เลย
“สามล้าน คิดว่ารับผิดชอบกันไว้ไหม?”
เขาถาม พร้อมกับผ่อนแรงบีบให้สาวสวยคลายความเจ็บปวด แต่รอยแดงที่ข้อมือ บ่งบอกว่าผู้ชายคนนี้ดุมากเลย!
“สะ สามล้านเลยเหรอ?”
พวกมันสองตัวหน้าซีดเป็นไก่ต้ม
“เบ็ดเสร็จเฉพาะค่าซ่อม สามล้าน”
ใช่ เธอเองก็คิดว่าราคาซ่อมประมาณนี้ เพราะถ้าซื้อรถใหม่ ราคาจะอยู่ที่สามสิบเก้าล้าน เกือบสี่สิบล้าน แพงหูดับตับไหม้ เธอถึงไม่อยากใช้รถแพงอีกเพราะขับไม่รักษาของ
“อะ เออ พี่สุดหล่อรับผ่อนชำระไหมคะ?”
โซเฟียรีบปรับโทนเสียงให้อ่อนลง แล้วพูดจานอบน้อมเป็นการไกล่เกลี่ย ตอนนี้เป็นเวลาตีสาม แล้วรถที่เกิดอุบัติเหตุก็จอดอยู่กลางถนน ที่ไม่มีรถผ่านมาเลยสักคัน แต่อีกเดี๋ยวคงมี ฉะนั้นรีบเคลียร์ให้จบก่อนที่พ่อ (ตำรวจ!) จะมา
“เดี๋ยวกูให้มี้กูจ่ายให้ก็ได้ แค่สามล้านเอง”
เธอหันไปบอกเพื่อน แล้วมองคนข้างกายด้วยหางตา
“มึงลืมไปแล้วหรือไง ว่ามี้มึงตัดหางปล่อยวัดมึงแล้ว”
เออว่ะ มี้ตัดหางกูไปแล้วนี่หว่า หน้าแตกเลยกู (T~T)
“หึ…”
เธอหันขวับ ไปมองเจ้าของเสียงเค้นหัวเราะในลำคอ
“ขำอะไรลุง?”
“ขำเด็กอวดดี”
เขาสู้สายตา แล้วดึงข้อแขนให้คนตัวเล็กขยับเข้าไปใกล้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ เป็นฝ่ายถอยออกห่าง ภายนอกเขาคีพลุคมาดคุณหมอ แต่พอได้สบตาในระยะประชิด กลับรู้สึกร้อนวูบ เหมือนตัวตนที่แท้จริง ไม่ใช่ผู้ชายนิ่งๆ อย่างที่ตาเห็น
“หาเงินสามล้านมาชดใช้ค่าเสียหาย”
เขาพูดทั้งที่สายตายังจดจ้องมาที่เธอ
“ถ้าหามาจ่ายไม่ได้ ก็ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น…”
“มะ หมายความว่ายังไงคะ?” โซเฟียถามแทรก
“เด็กคนนี้ จะต้องไปทำงานชดใช้ค่าเสียหายแทน”
“ฮะ!?”
เธอเนี่ยนะ ต้องไปทำงานชดใช้ เหอะ! ไม่มีทาง
“ถ้าไม่ไป ก็จ่ายค่าเสียหายมา ตอนนี้ เดี๋ยวนี้เลย”
(!-0-) (!-0-) (-_-) (-0-!) // อ้าปากพะงาบๆ ยกแก๊ง
“อีหงษ์ โชคดีนะมึง”
“ฮะ!?”
“ขอให้รอดปลอดภัย”
“เดี๋ยว! พวกมึงผิดนะ ทำไมกูต้องไปทำงานคนเดียว”
“ถ้ากูไปด้วย ใครจะหาเงินมาช่วยจ่ายค่าเสียหายล่ะ”
โซเฟียยิ้มแห้ง ถึงบ้านมันจะมีฐานะ แต่การขอเงินพ่อแม่สามล้าน เพื่อมาชดใช้ค่าเสียหาย คงทำไม่ได้ในทันที คงต้องทยอยเก็บไปเรื่อยๆ อย่างน้อยก็ใช้เวลา หนึ่งถึงสามเดือน
“ไม่ต้องกลัวนะชะนี เดี๋ยวกูจะไปขายกี ช่วยมึงเอง”
“กูซึ้งใจมาก แต่ไม่ต้อง เพราะมึงไม่มีกี อีควายเผือก!”
พวกมึงนะ พวกมึง เล่นพิเรนทร์จนกูงานเข้าเลย (T-T)
ครืนนน
กระเป๋าเดินทางสีดำทมิฬ ถูกลากไปตามทางเดิน เข้าไปยังคอนโดมิเนียมหรูแห่งหนึ่ง ทว่าคอนโดแห่งนั้น กลับไม่มีลูกบ้านให้เห็นแม้แต่คนเดียว มีเพียงพนักงานต้อนรับ และพนักงานดูแลคอนโด ที่ออกมาอำนวยความสะดวกแก่ผู้ชายคนนี้ เธอที่สร่างเมา แต่ยังไม่สร่างดี ก็ทำได้แค่เพียงเดินลากกระเป๋าตามต้อยๆ ขึ้นลิฟต์มาจนถึงชั้นยี่สิบของคอนโดแห่งนี้
“ลุง หนูขอพักก่อนได้ไหม หนูมึนหัวไม่ไหวแล้ว~”
พูดเสียงอ่อยแล้วทรุดตัวนั่งลงกอดกระเป๋าเดินทางหน้าลิฟต์ ในขณะที่อีกฝ่ายกำลังเดินไปกดรหัสเพื่อเข้าห้อง พอประตูเปิดออก เขาก็เดินเข้าไปโดยที่ไม่หันมามองแม้แต่หางตา เธอมุ่ยหน้าพ่นลมหายใจฟึดฟัด ก่อนจะรีบตามเข้าไป
เธอเคยเจอผู้ชายมาหลายประเภท แต่ไม่เคยเจอใครที่ใจร้าย และเย็นชากับผู้หญิงขนาดนี้ เขาบีบข้อมือเธอจนแดงเถือก ขอโทษสักคำก็ไม่มี จริงอยู่ที่เราทำรถเขาพัง แต่เธอผิดตรงไหนอะ เธอเมาไม่รู้เรื่องด้วยซ้ำเขาน่าจะเห็นใจกันบ้าง
โดนมามี้ที่รักยิ่ง ตัดหางปล่อยวัด ก็ว่าแย่แล้ว
นี่ยังต้องมาทำงานชดใช้ค่าเสียหายอีก (โคตรเซ็ง!)