อเล็กซิส หรือ อเล็กซ์ ชายหนุ่มลูกครึ่งไทยอังกฤษ นักธุรกิจหนุ่มผู้โด่งดัง ทั้งในเรื่องของวงการธุรกิจ และเรื่องของวงการมาเฟียผู้มีอิทธิพลในแถบเอเชีย เขาเป็นลูกชายคนโต ในบรรดาพี่น้องทั้งหมดสามคน ซึ่งตอนนี้เขาต้องดูแลกิจการทั้งหมดของครอบครัวแต่เพียงผู้เดียว เพราะน้องชายทั้งสองต่างก็มีความฝัน และพากันดำเนินตามในสิ่งที่ตนเองอยากเป็น ยกเว้นเขาที่ต้องมารับภาระทุกอย่างนี้เองเพราะเป็นบุตรชายคนโตของบ้าน
“เอ่อ คือ.... ”
“ผมรู้หมดแล้ว คุณมีข้อเสนออะไรก็พูดมา”
หญิงสาวกำลังจะบอกจุดประสงค์ที่มาขอพบเขาวันนี้ แต่ยังไม่ได้พูด อเล็กซิสก็พูดออกมาเสียก่อน เพราะลูกน้องของเขารายงานมาหมดแล้วนั่นเองว่าเธอมาทำไม
“อ้อค่ะ คือว่าหนี้ที่คุณพ่อติดคุณเอาไว้ ฉันอยากจะขอแบ่งจ่ายได้ไหมคะ ฉันจะจ่ายให้คุณเดือนละหนึ่งล้านบาทพร้อมกับดอกเบี้ยทั้งหมด ขอแต่คุณยอมยืดเวลาออกไปสักนิดจะได้ไหมคะ ฉันรู้มาว่าคุณจะยึดบริษัทของคุณพ่อไป ยังไงช่วยพิจารณาข้อเสนอของฉันหน่อยได้ไหมคะ”
ฟ้าลดาบอกออกมาในสิ่งที่เธอพยายามคิดมาทั้งคืน เพราะถ้าเขายอม เธอจะพยายามหาเงินมาใช้คืนเขาให้หมดๆ โดยที่บริษัทของพ่อเธอยังอยู่
“หึ ไม่ล่ะ ผมรอมานานแล้ว ในเมื่อไม่มีเงินมาจ่ายตามกำหนด ผมก็คงช่วยอะไรคุณไม่ได้ ผมให้เวลามาตั้งสามปี พวกคุณยังไม่มีปัญญาจ่าย นี่อีกแต่สามวัน ผมคงให้คุณไม่ได้แล้ว”
อเล็กซิสบอกออกมา เพราะเขายืดเวลาให้กับคุณอนันต์มาหลายรอบแล้ว และครั้งนี้เขาจะไม่ยอมอีกแล้ว เขาจะเข้าไปยึดบริษัทแล้วเอามาบริหารงานเอง เพราะยังไงซะคุณอนันต์ก็แก้ปัญหาในบริษัทนั้นไม่ได้อยู่แล้ว สู้ให้เขาบริหารดีกว่า รับรองรุ่งเรืองขึ้นทันตาเห็นแน่
“ฉันขอร้องนะคะ ให้เวลาเราอีกสักครั้ง ฉันสาบานว่าจะหาเงินมาคืนคุณให้ได้ หนึ่งปี ขอเวลาอีกหนึ่งปี ฉันจะเอาเงินมาคืนคุณให้หมด”
“ไม่ล่ะ”
“งั้นครึ่งปีก็ได้ นะคะ ฉันสัญญา...สามเดือน งั้นสามเดือนก็ยังดี... ”
“พอแล้ว จะหนึ่งปี หนึ่งเดือนหรือสามวันผมก็ไม่ตกลง คุณคิดว่าเงินสามร้อยล้านจะหามาได้ง่ายๆเหรอ กลับไปเถอะ ผมไม่ตกลง”
เมื่อได้ยินในสิ่งที่อเล็กซิสพูด ฟ้าลดาถึงกับแทบอยากลงไปนั่งร้องไห้เสียจริงๆ นี่แสดงว่าเธอมาเสียเวลาอย่างนั้นเหรอ เพราะยังไงเขาก็ไม่คิดจะยืดเวลาให้เธออยู่แล้ว
หญิงสาวคิดออกมาก่อนจะเดินออกจากห้องทำงานของเขาไปอย่างหมดแรงหมดหวัง เมื่อเขาบอกให้เธออกจากห้องเขามา ฟ้าลดาเดินออกมาจนถึงรถของตนเองก่อนที่จะขึ้นไปนั่งประจำที่คนขับ โดยไม่รู้เลยว่าตอนนี้เธอกำลังถูกจ้องมองจากคนที่พึ่งไล่เธอออกมาจากห้องทำงาน
“นายไปสืบมาว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร ทำอะไร ไปสืบมาให้หมด”
อเล็กซิสบอกออกมา เมื่อเขาชักเริ่มสนใจหญิงสาวที่ช่างใจกล้าเดินเข้ามาขอยืดเวลาใช้หนี้กับเขาถึงในบ้านที่ไม่เคยเปิดต้อนรับใครมาก่อน และเธอเป็นคนแรกที่ได้เข้ามาบ้านหลังนี้หลังจากที่พยายามโทรหาลูกน้องคนสนิทของเขาแทบทั้งคืน จนเขายอมให้เธอเข้ามาพบ และก็ไม่ผิดหวัง เมื่อหญิงสาวนั้นสวยถูกใจเขาเสียแล้ว
ทางด้านฟ้าลดาที่นั่งสงบนิ่ง สงบสติอารมณ์อยู่บนรถพักใหญ่ๆ เธอก็ขับออกจากบ้านหลังใหญ่ของเขาไปพร้อมกับความผิดหวัง เธอจะไปหาเงินที่ไหนมาใช้หนี้สามร้อยล้านในเวลาแค่สามวัน พ่อของเธอมาบอกในวันที่มันสายเกินไปที่เธอจะหาเงินนั่นมาได้ ถึงแม้จะขายหุ้นที่เธอมีอยู่ เธอแน่ใจว่าเงินที่ได้ไม่พอแน่นอน
ฟ้าลดาขับรถมาจนถึงบ้านของเธอเอง ก่อนที่จะเดินเข้ามานั่งในห้องรับแขกอย่างหมดแรง
“ฟ้าลูก เป็นไงบ้าง เขายอมไหมลูก”
“คุณแม่คะ บ้านหลังนี้ขายได้ประมาณเท่าไหร่คะ”
ฟ้าลดาถามออกมา เพราะเธอตัดสินใจแล้วว่าเธอจะทำทุกทางเพื่อช่วยครอบครัว หญิงสาวจะขายหุ้นที่มี ซึ่งน่าจะได้เงินเกือบๆสองร้อยล้าน บ้านหลังนี้น่าจะสักห้าสิบล้าน และทรัพย์สินที่มีอีก อาจพอใช้หนี้ก็เป็นได้
“เอ่อ บ้านหลังนี้ติดธนาคารอยู่ คะ...คุณพ่อเขาไปเอาเงินมาใช้หนี้น่ะลูก แต่มันก็ยังไม่พอ.... ”
“อะไรนะคะ! บ้านก็ติดธนาคารอีก ละ..แล้วเราจะไปหาเงินที่ไหนละคะ แค่หุ้นไม่พอใช้หนี้แน่นอน เฮ้อออ”
ฟ้าลดาพูดออกมาอย่างไร้หนทาง เมื่อเธอคงไม่สามารถหาเงินมาได้แล้ว ก่อนที่คุณอนันต์จะเดินเข้ามาหาสองแม่ลูก
“เป็นไงข้างลูก คุณอเล็กซิสเขายืดเวลาให้เรารึเปล่า”
คุณอนันต์ถามออกมาทันทีที่เดินเข้ามาเจอลูกสาว แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อเห็นสีหน้าของเธอ
“อีกแค่สามวัน เขาคงไม่ยอมหรอก เฮ้อ ช่างมันเถอะ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด”
คุณอนันต์พูดออกมาก่อนที่จะเดินหันหลังออกจากห้องรับแขกไป ทำเอาฟ้าลดาอดสงสารผู้เป็นบิดาไม่ได้ แต่หญิงสาวก็ไม่รู้จะไปหาเงินที่ไหนมาใช้หนี้ให้ครบ แถมบ้านก็อยู่ในธนาคารอีก ไม่รู้ว่าจะโดนยึดตอนไหนทำไมชีวิตเธอต้องมาเจออะไรแบบนี้พร้อมๆกันก็ไม่รู้
“นี่ครับนาย ประวัติลูกสาวคุณอนันต์”
ครรชิต มือขวาคนสนิทของอเล็กซิสบอกออกมาพร้อมกับยื่นซองที่เขาไปสืบมาตามคำสั่งของ อเล็กซิสวางไว้บนโต๊ะหน้าชายหนุ่ม
“อืม ออกไปได้แล้ว”
อเล็กซิสบอกออกมา ก่อนที่ครรชิตจะเดินออกจากห้องทำงานของเขาไป
ตาคมไล่อ่านไปตามหน้ากระดาษทีละแผ่นอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะวางทั้งหมดไว้ที่เดิม เมื่อเขาอ่านจนหมดทุกหน้าแล้ว
ฟ้าลดา ถิรเสถียร อายุ 26 ปี บุตรสาวเพียงคนเดียวของคุณอนันต์และคุณสุนิสา จบปริญญาตรีที่ประเทศอังกฤษและตอนนี้กำลังเรียนต่อปริญญาโทอยู่ ฯลฯ
หลังจากนั้นสามวัน อเล็กซิสก็พาคนของเขาเข้ามาหาคุณอนันต์ถึงบ้าน พร้อมกับบอกข่าวร้ายว่าให้เขาย้ายออกจากบ้านนี้ไปถ้าวันนี้หาเงินมาคืนไม่ได้ ทำเอาคุณอนันต์แทบทรุดลงไปนั่งบนพื้น เพราะบ้านหลังนี้เป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาเหลือไว้ ไม่นึกว่าอเล็กซิสจะบุกเข้ามาไล่เขาถึงในบ้านแบบนี้
“คุณพ่อ!!! คุณพ่อเป็นอะไรคะ...คุณทำอะไรพ่อฉัน! ”
“หึ ผมไม่ได้ทำอะไร ก็แค่มาบอกให้ย้ายออกจากบ้านหลังนี้ซะ เพราะตอนนี้มันเป็นของผมอย่างสมบูรณ์แล้ว นี่ไงโฉนด นี่ไงสัญญา”
อเล็กซิสบอกออกมาพร้อมกับหยิบโฉนดและสัญญาออกมาโชว์ต่อหน้าสองพ่อลูก
“พ่อขอโทษลูก พ่อขอโทษ”
คุณอนันต์บอกออกมาพร้อมๆกับน้ำตาลูกผู้ชายหลั่งไหล เมื่อไม่สามารถรักษามรดกตกทอดของตนเองเอาไว้ได้และยังโกหกลูกกับภรรยาว่าเอาบ้านไปเข้าธนาคารทั้งๆที่เขาเอาไปเป็นหลักค้ำประกันเงินกู้มา จนฟ้าลดาอดร้องตามออกมาไม่ได้
“อย่าร้องนะคะคุณพ่อ ไม่เป็นไรนะคะ เราไปหาที่อยู่ใหม่ก็ได้ คุณพ่ออย่าร้องนะคะ”
“หึหึ เฮ้อ ทำยังไงดีล่ะ ถ้าผมบอกว่าผมมีข้อเสนอ เพื่อแลกกับทุกสิ่งของคุณล่ะ คุณจะสนใจไหม”
เมื่อได้ยินในสิ่งที่อเล็กซิสพูด สองพ่อลูกถึงกับรีบหันมามองหน้าของชายหนุ่มทันที
“ข้อเสนออะไร บอกเรามาสิ บอกมาเลย”
ฟ้าลดาถามออกมาอย่างร้อนรน เพราะสิ่งที่เขาพูดคือเขาจะคืนทุกอย่างให้กับพ่อของเธอ ซึ่งมันมีมูลค่ามากมาย จนเธอไม่สามารถหาเงินมาใช้คืนเขาได้ แต่เขากลับบอกว่าจะคืนให้
“อืม ก็แค่...ผมอยากได้คนนอนด้วย สนใจไหมล่ะ”
เมื่อเขาพูดจบ สิ่งที่หญิงสาวคิดแทบจะมลายหายไปกับตา เพราะแค่นี้เธอก็เข้าใจแล้วว่าเขาต้องการอะไร ส่วนคุณอนันต์นั้นกำมือเข้าหากันแน่นจนแทบไม่รู้สึกเจ็บเพราะมันชาไปหมดแล้ว
“พอแล้ว ผมไม่รับข้อเสนออะไรทั้งนั้น เชิญคุณกลับไปได้แล้ว ภายในวันนี้พวกเราจะออกไปจากบ้านหลังนี้ ส่วนบริษัท คุณจะทำอะไรก็เชิญ”
สุดท้ายแล้วคุณอนันต์ขอยอมแพ้เสียดีกว่าต้องขายลูกกิน
“หึหึ งั้นก็ตามใจนะ ผมอุตส่ายื่นข้อเสนอที่ไม่เคยยื่นให้ใครให้กับพวกคุณ แค่ปีเดียวกับการได้ทุกสิ่งคืนไป ถ้าไม่สนก็ไม่เป็นไร ผมให้โอกาสอีกสองวัน ย้ายของที่จะเอาไปให้หมด”
อเล็กซิสบอกออกมาก่อนที่จะเดินหันหลังกลับไปพร้อมๆกับลูกน้องของเขา เขาอุตส่ายื่นข้อเสนอแสนบ้าบอให้กับครอบครัวนี้ แต่กลับโดนปฏิเสธ มีที่ไหน เงินเกือบๆพันล้านแลกกับผู้หญิงแค่ปีเดียว ขนาดเขายังคิดว่าตัวเองบ้าไปแล้วที่คิดข้อเสนอนี้ออกมา
“คุณพ่อ.... ”
“ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น พ่อจะไม่ยอมให้มันเป็นแบบนั้นเด็ดขาด ลูกคือทุกสิ่ง ถ้าเสียลูกไปพ่อก็ไม่รู้จะมีชีวิตอยู่ไปทำไม”
เมื่อได้ยินในสิ่งที่บิดาพูด ฟ้าลดาถึงกับหลั่งน้ำตาออกมาอีกรอบ ที่เธอไม่เคยสนใจบิดาจนทำให้ทุกอย่างมันแย่ลงอย่างนี้ ถ้าเธอยอมกลับมาช่วยงานที่บริษัทแต่แรกทุกอย่างคงจะดีกว่านี้
สองพ่อลูกนั่งกอดกันอยู่ในห้องรับแขก อย่างไม่รู้จะทำยังไงต่อไปดี จนกระทั่งไม่มีน้ำตาให้ไหล คุณอนันต์จึงบอกให้ลูกสาวขึ้นไปพัก พร้อมกับบอกคนรับใช้ให้ช่วยกันเก็บของ ก่อนจะเดินขึ้นไปบนห้องของตนเองเพื่อเก็บของเหมือนกัน