ณ หมู่บ้านแห่งหนึ่ง
ความเจริญยังเข้าไม่ถึงเท่าไหร่ ผู้คนอาศัยกันอยู่แบบตามมีตามเกิด ปลูกผักปลูกหญ้าทำมาหากินกันตามประสาชาวบ้าน ไร้การติดต่อจากภายนอก และเป็นหมู่บ้านที่ไม่เปิดรับให้คนภายนอกเข้ามาและก็น้อยนักที่จะมีคนรู้ว่ายังมีผู้คนอาศัยอยู่บนเกาะแบบนี้
บุหงา อายุ 20 ปี เธอเป็นหญิงสาวที่สวยในแบบของชาวบ้านธรรมดา ใบหน้าที่ไม่ต้องแต่งแต้มเครื่องสำอางใดๆ ก็ทำให้ผู้ชายในหมู่บ้านเดียวกันมองจนเหลียวหลังแล้ว แต่ทว่าหมู่บ้านนี้ก็มีความเชื่อที่มีมานานนมเน เป็นความเชื่อที่บรรพบุรุษให้ความสำคัญมาก ชายใดที่มิใช่คนสืบสายเลือดเดียวกันถูกเนื้อต้องตัวหญิงสาวที่แตกเนื้อสาวแล้วถือว่าผิดผีของหมู่บ้าน จะต้องทำการตบแต่งกันให้เป็นเรื่องราวตามความเชื่อ และหากหญิงใดที่ไปยั่วยวนหรือถูกเนื้อต้องตัวชายที่มีครอบครัวแล้วจะต้องถูกจับลอยแพไปในทะเล ปล่อยให้อดอยากอยู่ท่ามกลางทะเลกว้างจนกว่าจะตาย
แต่พอเวลาผ่านไป เด็กสมัยใหม่เกิดมามากขึ้น ความเชื่อเหล่านี้ก็เริ่มที่จะถูกลืมเลือน แต่ไม่ใช่กับแม่ของบุหงา เพราะแม่ของเธอยังมีความเชื่อแบบนี้อยู่ บวกกับมียายจันทร์ผู้อาวุโสของหมู่บ้านคอยตอกย้ำอยู่ตลอด เพราะเห็นว่าบุหงาเป็นสาวสวยของหมู่บ้านมันอาจจะเกิดเรื่องแบบนั้นเข้าสักวัน
แต่บุหงาเป็นเด็กหัวแข็ง ไม่ค่อยเชื่อความเชื่ออะไรแบบนี้เท่าไหร่ แต่ก็ขัดอะไรไม่ได้เพราะแม่ตัวเองก็ยังเชื่ออยู่เต็มหัวใจ
เธอเป็นคนที่มีความคิดเป็นของตัวเอง ไม่ชอบให้ใครมาบงการ ต่อให้จะมีความเชื่ออะไรพวกนี้เธอก็ไม่คิดจะสนใจใครที่ไหนเลย แม้กระทั่งลูกชายคนเดียวของหัวหน้าหมู่บ้านอย่าง อินทร แม้จะรู้ว่าอินแอบชอบตัวเองอยู่แต่ก็ไม่คิดจะสนใจเพราะตัวเองไม่เคยคิดเรื่องแบบนั้นเลย
“ฉันจะออกไปดูแปลงผักนะแม่ เย็นๆ จะกลับ”
“เออๆ อย่ากลับให้มันเย็นนักล่ะ”
บุหงาเตรียมสะพายย่ามของตัวเองและเดินออกไปที่ริมป่าฝั่งโน้น เพราะมันจะมีลำธารเล็กๆ ที่ผุดขึ้นมาและเป็นบ่อน้ำของหมู่บ้าน มันอยู่ติดกับริมทะเลด้วย
“พี่คิดไม่ผิดว่าเราต้องมา”
“ฉันไม่รู้จะอยู่บ้านทำไม” บุหงาตอบ ขณะที่กำลังตักน้ำในห้วยขึ้นมารดแปลงผักของตัวเอง
“เสร็จแล้วไปเดินเล่นกันไหม?”
“ไม่ไป” เธอเป็นเหมือนคนหยิ่งไม่ชอบสุงสิงกับใครเลย ชอบอยู่เงียบๆ คนเดียวและชอบเก็บตัว เพราะฉะนั้นหากมีคนเข้ามาชวนคุยหรือออกไปไหนเธอจะปฏิเสธตลอด นั่นจึงทำให้คนในหมู่บ้านไม่ค่อยสนใจเธอเท่าไหร่
“โถ่บุหงา แค่เดินเล่นเอง”
“…..” เธอเหลือบตามองคนตรงหน้าเล็กน้อยก่อนจะเดินหนีไปที่อื่น เธอไม่ชอบให้คนมาวุ่นวายแบบนี้ และเธอก็รู้ดีว่าคนที่เข้ามาชอบเธอนั้นก็ล้วนแล้วแต่มีเหตุผลเดียวกัน นั่นก็คือเธอสวยกว่าใครๆ ในหมู่บ้าน หรือแม้แต่คนในวัยเดียวกัน
แต่ถึงอย่างนั้นบุหงาก็มีความรู้แค่พออ่านออกเขียนได้เพราะไม่ได้ร่ำเรียนกับเขา เนื่องจากหมู่บ้านนั้นเป็นหมู่บ้านที่ตัดขาดจากโลกภายนอก คนที่สอนให้บุหงาได้ความรู้งูๆ ปลาๆ ก็เป็นแม่ของเธอนั่นเอง
“บุหงา..”
“พี่ก็รู้นะว่าฉันเป็นคนแบบไหน อย่ามายุ่งกับฉัน” เธอหันไปตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เยียบเย็น ก่อนจะเดินหนีไป แต่ก็ยังไม่วายถูกอีกฝ่ายวิ่งตามมา
หมู่บ้านมีความเชื่อเรื่องการที่หญิงชายอยู่ด้วยกันสองต่อสอง แต่บุหงาไม่เคยคิดจะเชื่อเลย และการถูกเนื้อต้องตัวกันมันก็ไม่ใช่เรื่องผิด หากมันมีความจำเป็นที่จะต้องทำแบบนั้นจริงๆ
“เดี๋ยวสิบุหงา”
“พี่อินฉันบอกว่าอย่า...!?” เธอหันกลับไปแต่ยังไม่ทันจะได้พูดจบ สายตาก็มองผ่านชายหนุ่มที่กำลังวิ่งตามเธอมา ตรงโขดหินริมทะเลมีอะไรบางอย่างเป็นก้อนสีดำๆ มันมองไม่ชัดเพราะเธอมองจากระยะไกล จะว่าเป็นสัตว์ทะเลก็ไม่ใช่ แถวนี้ไม่มีพวกสัตว์น้ำที่ตัวสีดำและใหญ่ขนาดนี้
“อะไรวะน่ะ?”
“….” บุหงารีบเดินไปดูด้วยความอยากรู้อยากเห็น เพราะเธออยู่แต่ในหมู่บ้าน โลกของเธอมันก็มีแค่หมู่บ้านเท่านั้น พอได้เห็นอะไรที่มันแปลกๆ เข้ามาในสายตามันก็อดไม่ได้ที่จะต้องเข้าไปดู และคงเป็นเพราะเธออายุยังน้อยด้วย
“บุหงาอย่าไป!”
“…..” หญิงสาวเดินไปดูใกล้ๆ แต่ไม่ได้ลงไปในทะเล แต่พอได้เห็นใกล้ๆ ก็รู้ว่านั่นไม่ใช่สัตว์หรือสิ่งของที่มักจะมีลอยมาติดเกาะ แต่มันคือคนที่นอนนิ่งลอยอยู่บนผืนน้ำ
อินทรรีบลงทะเลไปดึงชายแปลกหน้าคนนั้นมาบนฝั่งทันที เขาใส่ชุดสูท หน้าตาดี หล่อ และบนตัวก็มีของราคาแพงทั้งนั้น ใบหน้าที่ซีดเซียวแทบจะไม่เหลือเค้าโครงหน้าเดิม กลับทำให้บุหงารู้สึกตื่นเต้นบอกไม่ถูก ชายแปลกหน้าทำให้เธอสนใจเอามากๆ
“เขายังไม่ตาย” อินทรรีบบอกในทันที
“พะ พาไปหาแม่ฉันก่อน” เพราะแม่ของบุหงาเป็นหมอยาประจำหมู่บ้าน ที่รับสืบทอดความรู้มาจากบรรพบุรุษ ซึ่งบุหงาเองก็พอจะมีความรู้ด้านนี้เหมือนกัน
ชายแปลกหน้าถูกพาไปที่บ้านของบุหงาและได้รับการรักษาโดยแม่ของเธอ แม้จะถูกคัดค้านจากยายเฒ่าจันทร์แต่ในฐานะของหมอยาก็อดไม่ได้ที่จะต้องรักษา เหมือนมันฝังรากลึกลงไปในใจแล้วว่าเห็นคนเจ็บก็ต้องรักษา
“เขาเป็นอะไรเหรอแม่”
“ต้องคอยระวังแผลที่ถูกแทงมันลึกมากแต่ยังโชคดีที่รอดมาได้ เขาเลือดไหลเยอะแล้วก็น่าจะตกน้ำมานานแล้ว”
“เขาจะตายไหมแม่”
“ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“ฉันจะคอยดูแลเขาให้เอง”
“ไม่ได้ เขาเป็นใครยังไม่รู้เลย อีกอย่างเอ็งก็แตกเนื้อสาวแล้วจะไปโดนตัวผู้ชายได้ยังไง”
“แม่อย่าไปเชื่ออะไรแบบนั้นอีกเถอะ แค่โดนตัวมันไม่ได้ทำให้ใครตายหรอกแม่ ฉันไม่เชื่ออะไรแบบนั้นแล้วล่ะ”
“ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ” ยายเฒ่าจันทร์เดินเข้ามา
“ฉันไม่เชื่อหรอก โดนตัวเขาเพราะช่วยให้เขามีชีวิตรอด มันจะผิดได้ยังไง” เธอเถียงยายแก่หลังค่อมที่เดินเข้ามา
“ผิดสิ เพราะชายคนนี้เป็นใครเอ็งยังไม่รู้เลย”
“งั้นก็แล้วแต่ยายจะคิด แต่ฉันคงทำตามที่ยายพูดไม่ได้ ฉันคงทนมองคนตายต่อหน้าไม่ได้หรอก”
“งั้นเอ็งก็ต้องผูกแขนกับชายคนนี้”
“…..” บุหงาไม่สนใจคำพูดของยายเฒ่าเลยสักนิด เธอขัดขืนคำพูดของยายเฒ่าเพราะปล่อยให้คนตายต่อหน้าไม่ได้ เขาเป็นใครเธอไม่ได้สนใจเลย แต่ต้องการจะรักษาเขาให้หายก็เท่านั้น