ลุ่มหลง : EP6

1310 Words
CHAPTER 3 รีบเดินเข้าไปในร้านสะดวกซื้อ สิ่งที่ต้องการก็เป็นถุงยางอนามัยนั่นแหละ แม้ว่าจะสำนึกขึ้นได้ว่าตัวผมเองมีสติครบถ้วน ผิดกับมีนที่ตอนนี้มีสติแค่ครึ่งเดียวเห็นจะได้ มันไม่ควรจบลงด้วยเซ็กซ์ แต่ก็กลัวว่าจะหยุดมีนและตัวเองไม่อยู่ จึงต้องเตรียมพร้อมไว้ก่อน ระหว่างรอคิดเงินต่อสายหา ‘ป้อม’ พนักงานของวินคาร์ “(ครับพี่ลม)” “ว่างไหม ช่วยมาเอารถพี่ไปไว้ที่บ้านได้หรือเปล่า” “(ว่างครับ เดี๋ยวผมไปเอาให้)” ผมจึงบอกสถานที่ ส่วนกุญแจสำรองน่ะป้อมรู้ที่เก็บอยู่แล้ว หากเป็นร้านที่ไปบ่อย ๆ คงจะฝากรถไว้ที่นั่น แต่นี่ไปครั้งแรก ตอนแรกคนคุยของผมชวนไปที่ร้านนั้น ผมปฏิเสธเพราะขี้เกียจ มันไกลจากบ้านผม แต่พอเห็นมีนโพสต์ก็คว้ากุญแจแล้วออกมาเลย เมื่อก่อนจะไม่ตามเธอหรอก แต่นี่เห็นว่าเพิ่งเลิกกับแฟนก็กลัวจะเฮิร์ตหนักและเมามายจนขับกลับไม่ได้ ตั้งใจจะไปคอยดูอยู่ห่าง ๆ ไม่คิดว่าจะไปเจอมีนในสภาพนี้ ขึ้นรถมาได้ก็เอากระเป๋ามีนมาหาคีย์การ์ดเตรียมพร้อมไว้เลย “เดี๋ยวก่อน มีน!!! หยุด!!!” ขับไปจอดตามที่มีนบอก พอลงจากรถมาได้มีนก็โผเข้ากอด ลูบไล้เนื้อตัวของผมไม่หยุด “เจ็บ!” มีนมุ่ยหน้าที่โดนผมกระชากข้อมือไว้ และกำรอบข้อมือไว้แน่น ออกแรงดึงมาที่ลิฟต์และปล่อยให้เธอกดเลือกชั้น ผมไม่รู้ว่ามีนอยู่ห้องไหน รู้แค่ชื่อคอนโดนี่แหละ กว่าจะมาถึงห้องได้ก็ทุลักทุเลพอสมควร เพราะมีนไม่ได้สนใจจะเข้าห้องสักเท่าไหร่ จะจัดข้างนอกเลย! “มีสติหน่อยดิมีน” รู้ดีว่าพูดไปก็เท่านั้น แต่ผมก็ไม่รู้จะพูดอะไร “จูบกัน” เธอว่าพลางคว้าคอรั้งผมเข้าไปจูบ บดขยี้กลีบปากของผมอย่างหนักหน่วงจนตัวผมเองเริ่มรู้สึกเจ็บ ไม่มีการรุกล้ำเข้ามาในโพรงปากอุ่น หรือเธอทำไม่เป็น? ผมเก็บความสงสัยไว้แล้วดันตัวมีนออก เดินหนีไปรอบห้องแต่เจ้าของห้องก็เดินตาม มีบ้างที่หยุดเดินและยกมือขึ้นนวดขมับ “ไหวไหม” ตะโกนถามจากมุมหนึ่งของห้อง ซึ่งมีโคมไฟตั้งพื้นบังตัวผมอยู่ ก็รู้ว่ามันบังไม่ได้ แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปหลบที่ตรงไหน “มาหามีน” คนตัวเล็กกวักมือเรียก หน้าตาสะลึมสะลือคล้ายกับว่าจะหมดเรี่ยวแรงอย่างไรชอบกล “มีนมีสติหรือเปล่า” “…มี” “พี่ชื่อไร” “ลมบ้าหมู” โอเค แปลว่าสติมีเยอะอยู่ เอ…หรือจะเรียกว่าไม่มีวะ เพราะ ‘ลมบ้าหมู’ ที่มีนพูดนั้น เธอใช้เรียกผมเมื่อตอนที่เธอเรียนมัธยมต้น ตอนนั้นผมอยู่ปี 3 และมีนอยู่ ม.2 เราสองคนสนิทกันมาก ตั้งชื่อเรียกกันใหม่ ผมก็เรียกมีนว่า ‘ไอ้มึน’ แต่ก็นานแล้วที่เราไม่เรียกกันแบบนี้ “กอด” แว่วเสียงหวานออดอ้อนดังขึ้นมาเรียกสติผมให้หลุดจากห้วงความคิด ผมจึงรู้ว่ามีนมายืนอยู่ตรงหน้าแล้ว ส่วนโคมไฟที่เอาบังตัวนั้น มีนก็ยกออกไปวางใกล้ ๆ แทน หัวใจที่มันเคยเต้นเป็นจังหวะปกติพลันตึกตักระรัว อ้อมแขนของคนตรงหน้าโอบรัดตัวผมไว้แน่น “ล้างหน้าล้างตา อาบน้ำไหม จะได้มีสติมากกว่านี้” คนตัวเล็กลังเล เธอยังไม่ทันให้คำตอบผมก็ลากเธอมาที่ห้องน้ำ ใช้แขนข้างหนึ่งโอบตัวมีนไว้ไม่ให้ดิ้นหนี และใช้มืออีกข้างรองน้ำไปลูบใบหน้าสวย ทำซ้ำ ๆ หลายครั้งแล้วเอาผ้าขนหนูที่พาดอยู่บนราวมาซับหน้าให้ “รู้สึกดีขึ้นไหม” ไม่ได้คำตอบจากอีกฝ่ายด้วยคำพูด แต่ได้คำตอบเป็นการสอดมือเข้ามาในเสื้อของผมแล้วลูบวนที่หน้าท้องกำยำ อืม…ไม่ได้ดีขึ้นเลย “มีน นี่พี่ลมนะ มีนมองหน้าพี่” ผมประคองแก้มนุ่มด้วยฝ่ามือทั้งสองข้าง ดวงตาของเธอจะได้จับจ้องหน้าผมแล้วคิดดี ๆ ว่าจะทำแบบนี้หรือ “รู้ว่าเป็นลมบ้าหมู” “ถ้ารู้แล้วจะยังทำหรือไง” “มีนอยาก…” เธอกัดปากตัวเอง พอจะสื่อได้ว่าอยากอะไร “แล้วมีนรับได้เหรอที่จะทำกับพี่จริง ๆ อะ” เราสองคนมีเรื่องบาดหมางทางจิตใจ ซึ่งที่ผ่านมามีนไม่เฉียดกายเข้าใกล้ผมสักเท่าไหร่ คิดดูเหอะ ขนาดไลน์ยังเพิ่งแลกกันเมื่อไม่กี่วันก่อน ทั้งที่เรารู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก มีนสบตาผมนิ่ง ๆ แววตาของเธอยากเกินจะเดาออกว่ากำลังคิดอะไรอยู่ ผมจึงโอบเอวเล็กแล้วพามาที่เตียง “ไม่นานมีนจะหายจากอาการนี้ นอนพักนะ” ฤทธิ์ของยาพวกนี้มักอยู่ไม่นาน แต่ก็เข้าใจว่ากว่าจะผ่านไปคนที่โดนคงทรมานไม่น้อย มีนนอนนิ่ง ๆ ให้ผมห่มผ้าให้ เป็นแบบนี้แสดงว่ามีนพอจะควบคุมตัวเองได้แล้ว ผมจึงหมุนตัวหันหลังให้เพื่อที่จะออกไปนอนที่โซฟา ทว่าข้อมือของผมถูกฉุดกระชากอย่างรุนแรงจนทรงตัวไม่อยู่และล้มลงบนฟูกนุ่ม เจ้าของเตียงพลิกตัวขึ้นมาคร่อมผมด้วยความรวดเร็ว “ตอนนี้มีนอยาก…พี่ลมช่วยมีนนะ ไม่อยากช่วยตัวเองแล้วอ่า” แววตาเจือความอ้อนวอน เพียงครู่เดียวก็ยั่วยวน “เบา!!!” ผมร้องลั่นเมื่อเห็นว่ามีนหงุดหงิดกับการถอดชุดของตัวเองจนเกือบจะฉีกให้ขาด “หยุดเลยนะ ไม่ต้องถอด” มีนพยักหน้าหงึก ๆ แล้วถกชายกระโปรงขึ้นมาแทน ผมเบิกตาโตแทบถลน มีนไม่มีอะไรปกปิดช่วงล่าง จนความสวยงามเผยออกมาให้เห็น ในเมื่อมีนควบคุมตัวเองไม่ได้ ผมก็ต้องเป็นฝ่ายควบคุมเอง ยกมือขึ้นมาปิดตาตัวเองไว้ กระทั่งรู้สึกว่ามีนตวัดขาออกจากตัวผมแล้ว จึงปล่อยมือออก “มีน!!!” เจ้าของชื่ออยู่ในสภาพเปลือยเปล่า หัวใจผมมันแทบจะเด้งออกมาเต้นข้างนอกแล้ว! สิ่งที่อยู่ในกางเกงมันก็ดันผงาดขึ้น อึดอัดจนอยากจะถอดกางเกงออก ไม่รู้ว่ามีนรู้ความคิดของผมหรืออย่างไร เธอถึงได้ปลดเข็มขัดและจัดการกับกางเกงต่อ ซึ่งผมก็ทนกับความอึดอัดนี้ไม่ไหว จึงยกสะโพกให้ลอยขึ้นเพื่อให้เธอรูดกางเกงออกไปได้ จากนั้นคนที่มีสติไม่เต็มร้อยก็กลับมาขึ้นคร่อมผมอีกครั้ง ตรงนั้นของเธออยู่พอดีกับความเป็นชายที่แข็งขึง แววตาเซ็กซี่คู่นั้นที่จับจ้องผมไม่วางตากำลังฉุดผมให้ด่ำดิ่งลงไปอีกครั้งอย่างห้ามไม่ได้ “ไม่เคยอยากขนาดนี้เลย” เธอเอ่ยเสียงกระเส่าพลางร่อนสะโพกด้วยจังหวะเนิบนาบให้ของเราเบียดเสียดแนบชิดกัน ก่อนที่เธอจะกัดปากและเปล่งเสียงหวามหวิวออกมา โอเค…กูยอมแล้ว สติกูก็ไม่มีแล้วเช่นกัน! ผมพลิกตัวมีนให้นอนราบลงกับฟูกนุ่ม แล้วเอากล่องถุงยางอนามัยที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงทั้งสองข้างออกมาโยนลงบนที่นอน ปลดเปลื้องอาภรณ์ชิ้นสุดท้าย ก่อนที่จะขึ้นคร่อมทาบทับกับร่างเล็ก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD