ห้องกว้างตกแต่งด้วยโทนสีดำทั้งหมด ให้ความรู้สึกเรียบง่ายแต่ก็ดูลึกลับ นอกจากนี้ยังมีรูปภาพตกแต่งอยู่หลายจุด แม้ดอกรักจะไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้แต่เธอก็เคยได้ยินมาบ้างว่าบางรูปมันประเมินราคาไม่ได้เชียวล่ะ
คอนโดมิเนียมขนาดสองห้องนอน สองห้องน้ำ หนึ่งห้องครัว ดูกว้างใหญ่เกินกว่าจะอาศัยอยู่ตัวคนเดียว
คิดแล้วก็อดทึ้งไม่ได้ทั้งที่อีกฝ่ายเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยเหมือนกันแท้ ๆ แต่ที่อยู่ของเขากลับแตกต่างกับเธอโดยลิบลับ ไม่ว่าจะเรื่องขนาดห้องพัก ความหรูหรา หรือทำเลที่อยู่อาศัย เพราะคอนโดมิเนียมแห่งนี้อยู่ใกล้มหาวิทยาลัยมากขับรถไม่กี่นาทีก็คงถึง แตกต่างจากหอพักของเธอที่ทั้งเก่าทั้งโทรมแล้วยังอยู่ห่างจากมหาวิทยาลัยไปพอสมควร
เมื่อเห็นที่อยู่อาศัยของอีกคนแล้วไม่เข้าใจเลยว่าพยัคฆ์จะมานอนอุดอู้ที่ห้องซอมซ่อของเธอทำไม ทั้งที่อีกฝ่ายมีที่อยู่สบายขนาดนี้แล้วแท้ ๆ ดอกรักตกอยู่ในภวังค์โดยลืมเจ้าของห้องไปเลย
ในส่วนของเจ้าของห้องนั้นก็ทอดมองเธอไม่วางตาตั้งแต่เข้ามาให้ห้องแห่งนี้
“ชอบไหม”
“คะ ? อ่อ ห้องพี่สวยดีค่ะ”
“อยากมาอยู่ด้วยกันไหมล่ะ”
“หา”
“มาอยู่ด้วยกัน”
“ไม่เอาหรอก”
“แต่เธอต้องมาทำความสะอาดทุกเย็น อีกอย่างฉันไม่ใจดีขับรถรับส่งทุกวันหรอกนะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวรักไปกลับเอง”
“เฮ้อ ดื้อจริง ๆ เลย”
“ไม่ได้ดื้อสักหน่อย”
“เหรอ ไม่เคยมีใครปฏิเสธฉันแบบนี้สักคน” ดอกรักไม่ได้ตอบอะไร ตากลมโตเพียงมองไปที่คนตรงหน้าด้วยความใสซื่อเท่านั้น
“ดื้อแล้วยังโง่อีกต่างหาก”
“อะไรกัน ทำไมต้องว่าด้วย”
“อยากให้มาอยู่ด้วยเพราะฉันอยากอยู่กับเธอตลอดเวลา แค่นี้ไม่เข้าใจหรือไง”
“ขะ...เข้าใจ ทีนี้ก็ปล่อยได้แล้ว”
“หึ”
รอยยิ้มมุมปากปรากฏขึ้นเมื่อเห็นท่าทางเขินอายของคนในอ้อมกอด แต่ก่อนจะปล่อยตามคำขอ ริมฝีปากสีระเรื่อต้องก็บวมเจ่อขึ้นมาอีกครั้งเพราะเขาเล่นจูบปากเธอไปตั้งหลายรอบจนขาเรียวแทบยืนไม่อยู่...
เมื่อได้มาถึงห้องพยัคฆ์แล้วดอกรักจึงตั้งใจว่าจะเริ่มทำความสะอาดเลยดีกว่า ห้องกว้างขวางไม่ได้รกเลยสักนิดดูท่าคงจะมีแม่บ้านมาทำความสะอาดเป็นประจำ
มือเรียวแสร้งทำเป็นเช็ดตรงนั้นทีตรงนี้ทีเพื่อหลีกเลี่ยงการสบตากับเจ้าของห้องที่นั่งไขว้ห่างอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ ก่อนที่คนตัวเล็กจะเช็ดมาถึงเครื่องดื่มสีอำพันจำนวนมากที่ถูกตั้งไว้ในตู้สีใส
ตากลมจ้องมองพลางคิดไปว่าเจ้าของห้องคงจะเป็นพวกชอบดื่มสินะ
“อยากกินหรือไง”
“เปล่าค่ะ”
เสียงหวานตอบกลับในทันที เธอไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกประเภท แม้มาลีวัลย์จะเคยชวนไปดื่มบ่อย ๆ โดยให้เหตุผลว่าเธอควรหัดดื่มให้เป็นบ้าง แต่เมื่อได้ลองแล้วดอกรักกลับไม่ชอบสักนิด
เธอไม่เข้าใจเลยว่าทำไมคนเราต้องมาดื่มอะไรแบบนี้ด้วย
“หึ กินข้าวแล้วเดี๋ยวค่อยดื่ม”
“บอกว่าไม่ได้อยากดื่มสักหน่อย อ๊ะ” เพราะมัวแต่เหม่อเลยไม่รู้ว่าอีกคนมายืนซ้อนด้านหลังตั้งแต่เมื่อไหร่
“ดื่มสักหน่อยก็ได้ ฉันไม่หวง”
“อื้อ” จริง ๆ แล้วเธออยากตอบโต้มากกว่านี้ แต่เพราะอ้อมแขนที่เกี่ยวรัดเอวเธอเข้าไปแนบชิดจนอะไร ๆ เสียดสีไปกันหมดจึงได้แต่ยอมตกลงไปก่อน
“ปล่อยได้แล้วค่ะ”
“นึกว่าเธอจะชอบเสียอีก”
“ไม่ได้ อุ๊บ”
และดอกรักก็เสียท่าให้พยัคฆ์ร้ายอีกรอบ...
ตั้งแต่ที่เขาได้จูบเธอครั้งแรกก็เหมือนจะมีครั้งต่อมาอีกเรื่อย ๆ แต่เธอไม่คิดว่าในวัน ๆ หนึ่งจะต้องมาถูกร่างสูงจูบหลายต่อหลายรอบแบบนี้
ริมฝีปากร้อนทาบลงบนปากเธอพร้อมกับขบเม้มเคล้าคลึงไปด้วย ลิ้นนิ่มตวัดเลียปากอิ่มเบา ๆ แต่ทำเอาดอกรักร้อนวูบไปทั้งร่าง
มือใหญ่เชยคางเล็กให้ได้องศาก่อนจะทาบริมฝีปากลงมาอีกรอบอย่างลึกซึ้ง ลิ้นร้อนแทรกเข้ามาก่อนจะตักตวงความหวานภายในโดยไม่สนน้ำสีใสที่ไหลเลอะมุมปาก
มือเล็กจากที่ผลักไสกลายเป็นลูบไล้ไปตามลาดไหล่กว้าง สติล่องลอยไปตามสัมผัสที่ได้รับ ในยามที่มือของเขาสัมผัสไปตามร่างกายเธอก็ราวกับมีกระแสไฟแล่นพล่านไปทั่วร่าง
“พะ...พอแล้ว”
“อื้อ~” พยัคฆ์ถอนจูบอย่างอ้อยอิ่ง เมื่อหลุดจากพันธนาการดอกรักไม่รอช้า เธอสาวเท้าไปยังตู้เย็นหลังใหญ่ทันที เพื่อจะทำอาหารรับประทานในเย็นวันนี้ แต่เมื่อเปิดตู้เย็นออกกลับมามีเพียงน้ำดื่มไม่กี่ขวดกับเบียร์กระป๋องเท่านั้น
“เดี๋ยวฉันสั่งเอง” เห็นท่าทางคนตัวเล็กพยัคฆ์ก็หยิบโทรศัพท์มาสั่งอาหาร เพราะเขาอยู่ห้องคนเดียวและไม่แตะเรื่องการทำอาหารอยู่แล้ว ทำให้ทั้งห้องนอกจากน้ำเปล่าและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็ไม่มีอาหารอื่นแล้ว
ไม่นานอาหารที่พยัคฆ์สั่งก็มาถึง ดอกรักทำการจัดจานทุกอย่างให้เรียบร้อย โดยมีเจ้าของห้องป้วนเปี้ยนอยู่ไม่ห่าง
เพราะความหิวโหยทำให้ดอกรักไม่รอให้อีกฝ่ายอนุญาต เธอหย่อนก้นลงเก้าอี้ตัวสวยแล้วลงมือรับประทานอาหารทันที
พยัคฆ์ที่เห็นอีกคนกินข้าวโดยไม่รอตนแทนที่จะโกรธเขากลับนึกเอ็นดู ก่อนจะนั่งลงตรงข้างและลงมือทานอาหาร และในตอนที่ดอกรักกำลังเก็บจานชามเพื่อที่จะทำความสะอาด น้ำสีอำพันก็ถูกส่งมาตรงหน้า
“ไม่ดื่มค่ะ”
“ทำไมเธอกลัวฉันทำอะไรหรือไง”
“ไม่ได้กลัว”
“งั้นเหรอ” เสียงต่ำเอ่ยขึ้นเหมือนเข้าใจแต่น้ำเสียงที่ใช้กลับล้อเลียนจนดอกรักหันขวับไปมอง
“อะไรมองตาเขียวเชียว”
มือเล็กแย่งแก้วในมือมาดื่มลงคอในรวดเดียวจนรู้สึกร้อนวูบไปทั่วท้องทั้งที่เมื่อครู่ก็ทานอาหารไปแล้วแท้ ๆ
พยัคฆ์ที่เห็นคนตัวเล็กบ้ายุก็ยิ้มเอ็นดูก่อนจะลากตัวคนที่กระดกไปรวดเดียวมานั่งโซฟาตัวสวยโดยปล่อยจานชามไว้อย่างนั้น
“มาดื่มเป็นเพื่อนหน่อย”
“อะ...อื้ม”
เครื่องดื่มสีอำพันหลายแก้วต่อหลายแก้วถูกส่งมา และดอกรักก็รับไปดื่ม โดยไม่รู้เลยว่าตัวเองเมาไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ต่างจากพยัคฆ์ที่ได้ฉายาว่าเสือคอทองแดง แม้จะดื่มไปเท่า ๆ กับดอกรักแต่ไม่มีท่ามีเมามายแม้แต่น้อย
“นี่” พยัคฆ์จับแขนเล็กเบา ๆ เมื่อเห็นว่าคนข้างตัวไม่แม้จะขยับก็คิดว่าคงเมาหลับไปแล้ว แขนแข็งแรงช้อนร่างบางเข้าสู่อ้อมแขนเพื่อที่จะอุ้มไปที่เตียงดี ๆ แต่ในตอนกำลังจะปล่อยให้อีกคนนอน แขนเล็กที่โอบรอบคอเขาอยู่กลับไม่ยอมปล่อย
“อื้อ”
ไม่รู้เพราะความเมาหรืออะไรทำให้สายตาที่มองมาช่างดูเย้ายวน ไหนจะปากสีระเรื่อที่เผยอนั่นอีก ไม่แค่นั้นมือเล็กยังลูบไล้ลงมาจนถึงแผงอกหนา
“อย่ายั่ว”
“อื้อ~” คนเมามายไม่ได้สติตอบรับอื้ออึง และที่ทำเธอลงไปไม่ใช่ไม่รู้ตัวเสียทีเดียว เธอต้องทำงานหาเลี้ยงตัวเองและแน่นอนว่าสถานที่บางส่วนย่อมไม่พ้นตามผับบาร์ ทำให้ดอกรักได้เห็นเรื่องแบบนี้บ่อย ๆ
แม้เธอจะยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์กับใครแต่ใช่ว่าไม่มีอารมณ์เสียหน่อย...