คิริว

1435 Words
“พี่พราว รู้ไหมว่าวันนี้มีนายแบบมาถ่ายแทนน้องคนที่ป่วย น้องเขาหล่อมากเลยนะ อิงค์ว่าจะลองจีบดูแหละ” อินทิราพูดอย่างอารมณ์ดี ยืนให้พี่พราวคนสวยจัดแจงเสื้อผ้าให้ด้วยรอยยิ้ม เธอติดตามอินสตาแกรมของนายแบบคนนี้อยู่ เขาไม่ค่อยรับงานเพราะเน้นเรียนเป็นหลัก ฐานะทางบ้านคงดีมาก เพราะเธอเห็นเขาเปลี่ยนรถบ่อยๆ ดูจากรูปที่เขาถ่ายลงอินสตราแกรมอะนะ การแต่งตัวก็ดูดี และโดดเด่น หน้าตาดีจนดาราที่เธอรู้จักหลายคน พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอยากได้สักครั้ง “เสร็จแล้วค่ะ พี่พราวขอตัวไปห้องน้ำสักครู่นะคะน้องอิงค์” พราวนภาเดินจากไปทันทีที่พูดจบ เธอเสร็จงานแล้ว ที่เหลือก็แค่รอสแตนบายเผื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด ต้องยอมรับว่าไม่ได้ฟังที่อินทิราพูดเลยสักนิด เธอคิดถึงแต่ภาพที่ทำรวมกันกับคิริว คิดจนรู้สึกว่าร่างกายส่วนนั้นของตัวเองไม่โอเคเอาซะเลย และมันก็จริงอย่างที่เธอคิด ทันที่เธอเข้ามาในห้องน้ำ แล้วถอดชุดท่อนล่างของตัวเองลง ปรากฏว่าบริเวณจุดอ่อนไหวที่เริ่มหายดี เธอพบว่ามันมีน้ำใสๆติดอยู่นิดหน่อย ไอ้เด็กบ้านั่นทำให้เธอกลายเป็นผู้หญิงลามกไปแล้ว แค่คิดถึงคิริว ร่างกายเธอก็มีปฏิกิริยาตอบสนอง พราวนภาจัดการใช้ทิชชูเปียกแบบออแกนิกเช็ดทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น เมื่อรู้สึกสดชื่นขึ้นมาหน่อยก็ใส่ชุดกลับไปเหมือนเดิม เดินออกมาเติมแป้งกับลิปสติกเพิ่ม เพราะวันนี้ทั้งวันเธอยุ่งมากจนไม่มีเวลาสนใจใบหน้าตัวเอง งานของเธอต้องพบปะคนมีชื่อเสียงมากมาย จะหน้าซีดเป็นผีก็ไม่ได้ อายคนแย่ พราวนภายึดอาชีพสไตล์ลิสเป็นอาชีพมาได้สามปีแล้ว ก่อนหน้านั้นเธอเปิดร้านขายเสื้อผ้าฝีมือตัวเอง บอกได้คำเดียวว่าตอนนั้น “รุ่ง” แต่เป็นรุ่งริ่งอะนะ โชคดีที่มีคนรู้จักแนะนำงานนี้ให้ เธอถึงได้มีอนาคตขึ้นมาบ้าง ซ้ำยังส่งผลให้ร้านเสื้อผ้าที่เคยรุ่งริ่งของเธอ รุ่งเรืองและเป็นที่รู้จัก ตอนนี้รายได้หลักเธอจึงมีสองทางคืองานตอนนี้และร้านเสื้อผ้า ตอนนี้ชีวิตเธอดีมาก แต่ก็เหนื่อยและเหงามากพอๆกันเพราะทำงานไม่ได้พักเลย อยากมีสามีหาเลี้ยงอยู่เหมือนกัน แต่ก็ยังไม่มีใครมาจีบสักที ส่วนที่เธอเคยชอบวินนั้น เธอเริ่มรู้แล้วว่าไม่ใช่ รู้ตัวมาสักพักแล้วแหละ เธอถึงพยายามหลบหน้าวินมาตลอดหลายเดือย แต่ไม่คิดว่าคืนนั้นวินจะกลับมานอนบ้าน ซ้ำยังพ่วงผู้ชายอย่างคิริวมาด้วย จนเกิดเรื่องนั้นขึ้น “โอ้ย! จะคิดทำไมเนี่ย” คิดถึงคิริวทีไรรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว เสียวแปล๊บๆตรงจุดที่เพิ่งทำให้มันแห้ง จะว่าไปริวแม่งโคตรช่ำชอง ต่างจากเธอที่ทำอะไรไม่ค่อยเป็นเลย ยกเว้นจูบเท่านั้นที่เธอรู้สึกว่าเหนือกว่า “อย่ายืนเอ๋อตรงทางเดินสิ เกะกะ!” เสียงทุ้มคุ้นหูดังอยู่ด้านหลัง ทำให้พราวนภาเอี้ยวใบหน้าหันไปมองด้วยความตกใจ ร่างสูงที่ยืนจนจะชิดแผ่นหลังทำให้เธอทำได้แค่นั้น ลมหายใจอุ่นร้อนที่กระทบใบหน้า ทำให้เลือกหันใบหน้ากลับไปในทิศทางเดิม “มา มาทำไม” พราวนภาจำต้องปล่อยให้คนที่สูงกว่าหายใจรดต้นคอของเธอ ไม่กล้าขยับหนี เพราะมีสายตาหลายคู่มองมาทางนี้ ทางมันมีเยอะก็จริง แต่ตอนนี้เธอยืนเหม่อขวางประตูเข้าออกระหว่างห้องที่ใช้ถ่ายทำอยู่นะสิ “ทำงาน ถอยสิ เกะกะ” คิริวย้ำอีกครั้งด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง เพราะด้านหลังเขานั้น มีเพื่อนมาด้วยสองคน เป็นนายแบบเหมือนกันและมาทำงานที่นี่เหมือนกัน เขาไม่อยากให้พวกมันรู้จักเธอ ทำเป็นไม่รู้จักเธอ น่าจะดีต่อตัวเธอที่สุด “อ๊ะ! จะเข้าไปข้างในเหรอ โทษที!” พราวนภาขยับตัวหลบ เพราะดูเหมือนทุกคนที่อยู่ด้านในจะมองมาทางนี้แล้ว คงรอนายแบบกัน เธอที่ขวางทางอยู่จึงต้องรีบเปิดทางให้ แต่เพราะรีบเกินไป รองเท้าที่สูงเกือบสองนิ้วจึงพลิกไปด้านข้าง ส่งผลให้ร่างของเธอเซไปชนกับกรอบประตู “ซุ่มซ่าม!” คิริวคว้าไหล่เธอไว้ได้ทัน เมื่อมั่นใจว่าไม่เป็นอะไร ก็เดินหนีเข้าไปข้างในอย่างรวดเร็ว หงุดหงิดชิบหาย! ทำไมต้องมาเจอพี่พราวที่นี่ก็ไม่รู้ “น้องริวรู้จักพี่พราวเหรอคะ” อินทิราถามด้วยใบหน้าสงสัย มองคนที่เดินเข้ามาใกล้สลับกันไปมา แม้คิริวจะหันไปทักทายพี่ๆในกองเหมือนนายแบบคนอื่นๆ แต่เธอเห็นสายตาตอนที่เขามองพี่พราวก่อนหน้านั้น มันดูมีอะไรสักอย่าง และเธอไม่ชอบใจเอาซะเลย “เปล่านี่ แค่บอกให้หลีกทาง” คิริวทักทายพี่ๆในกองเสร็จก็หันกลับมาตอบคำถามนางแบบสาวรุ่นพี่ที่อายุห่างกับตัวเองแค่หนึ่งปี อิงค์เป็นผู้หญิงสวยและเก่ง ฝีมือเธอนั้นเป็นที่ยอมรับไปทั่วประเทศ เป็นนางแบบอายุน้อย ที่ไม่ได้รับแค่งานถ่ายแบบเดินแบบเท่านั้น เธอยังรับงานละคร และค่อนข้างแสดงเก่ง และไม่ใช่แค่เก่งตอนอยู่ในจอด้วย นอกจอก็เช่นกัน เขาเลยไม่ชอบขี้หน้า เพราะดูเหมือนว่าตอนนี้เธอกำลังเหม็นหน้าผู้หญิงที่กำลังจัดแจงเสื้อผ้าให้เธออยู่ แม้จะไม่แสดงออกมาก แต่เขาเสือกดูออกไง “พี่พราวพอแล้ว จะจัดอะไรนักหนา” พราวนภาเงยหน้าขึ้นจากช่วงเอวที่กำลังจัดเข็มขัดให้เข้าที่ ก็ไม่อยากจัดอะไรนักหนาหรอกนะ ถ้าอินทิราไม่ปลดเข็มขัดออกจนมันจะหลุด แต่เธอเป็นมืออาชีพพอไง ได้แต่ยิ้มกลับไป แล้วเก็บคำโต้แย้งพวกนั้นไว้คนเดียว อินทิราไม่ได้เป็นเด็กก้าวร้าวเท่าไหร่ นั่นทำให้เธอทำงานกับอินทิรามาร่วมปีโดยที่ไม่มีปัญหา แม้จะจู้จี้ขี้บ่น แต่เธอรับมือไหว นี่ก็นิสัยปกติ เธอจึงไม่ถือสาเด็กที่อายุน้อยกว่า คนเราก็ต้องมีเรื่องที่ตัวเองไม่พอใจบ้าง เป็นธรรมดาของมนุษย์ “ใครแต่งตัวเสร็จแล้ว ช่วยมารวมกันตรงนี้หน่อยครับ” พี่ช่างภาพเอ่ยเรียกนายแบบ นางแบบ ให้ไปรวมตัวกัน เพื่อพูดคุยคอนเซ็ปงานอีกครั้ง คิริวถูกเรียกตัวมาแทนเพื่อนอีกคนที่นอนป่วยอยู่โรงพยาบาล การถ่ายแบบครั้งนี้ ต้องถ่ายรวมกับคนอื่นหลายคน เขาไม่ชอบเลย แต่เพราะปฏิเสธไม่ได้ จึงต้องไปยืนรวมกันกับเพื่อนอีกสองคน โดยมีอินทิรานั่งอยู่บนโซฟาสีแดงด้วยท่าทางราวกับนางพญา การถ่ายแบบเริ่มขึ้นทันที ที่นางแบบและนายแบบยืนเตรียมตัวโพสต์ท่าพร้อมถ่าย พราวนภายังคงยืนแสตนบายอยู่รวมๆกับสตาร์ฟคนอื่นๆ สายตาจ้องมองภาพตรงหน้านิ่งๆ มองทุกๆสิ่งที่นายแบบนางแบบกำลังกระทำ และหัวใจเต้นเร็วทุกครั้ง ที่คนพวกนั้นเปลี่ยนท่าทางการโพสต์ ใบหน้าสวยหันหนีไปทางอื่น เมื่อไม่สามารถทนมองต่อไปได้ ผู้ชายที่เคยมีสัมพันธ์กับเธอในคืนนั้น กำลังนั่งอยู่บนโซฟา บนตักเขามีผู้หญิงคนอื่นนั่งทับ ลำคอที่เธอเคยกอดเกี่ยว ถูกผู้หญิงคนอื่นกอดซ้ำ ใบหน้าที่เธอมองว่าหล่อเหลา กำลังถูกผู้หญิงคนอื่นจ้องมองด้วยแววตาหวานฉ่ำ นายแบบที่อิงค์พูดถึงคือคิริวงั้นเหรอ? ทำไมตอนที่อิงค์พูดเธอถึงจับใจความไม่ได้ มาจับใจความได้อะไรเอาปานนี้ ถ้าอิงค์สนใจคิริวจริงๆเธอจะทำยังไง เธอมีอะไรสู้ผู้หญิงอย่างอิงค์ได้ล่ะ ไม่มีเลย! ครอบครัวเธอไม่ได้ยากจนก็จริง แต่ครอบครัวของอินทิรานั้นเป็นถึงข้าราชการระดับประเทศ การศึกษาเธอก็ดีกว่า เพราะกำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ ที่เน้นเรื่องการสอบเข้ามาเป็นอันดับหนึ่ง เรียกได้ว่าทั้งเก่ง สวย และรวย ครบสูตร ดูเหมาะกันดี!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD