เสียงเธอขาดหายเช่นเดียวกับสติสัมปชัญญะ เพราะความหวาดกลัวที่เกาะกุมในจิตใจพวยพุ่งขึ้นมาอย่างสุดกลั้น “อ้าว! คุณ เป็นลมไปเสียแล้ว” อาติณณ์พ่นลมหายใจออกมา ไม่คิดว่าเหตุการณ์จะจบลงแบบนี้ เขาสะกิดแก้มเธอเบาๆ เป็นการเรียกอีกครั้ง ทว่าขวัญข้าวไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ตอบสนอง “เฮ้อ! แล้วจะพูดกันยังไงละนี่” เขาขยับออกห่างช้อนร่างเธอขึ้น แล้ววางให้นอนตามความยาวของเตียง ก่อนจะลุกขึ้นเดินออกไปนอกห้อง พยายามมองหาตู้ยาสามัญประจำบ้านแต่ไม่พบ เปิดลิ้นชักโต๊ะเล็กๆ ข้างเตียงก็ไม่มี ในลิ้นชักแทบไม่มีสิ่งของอะไรเลยนอกจากของชิ้นที่อาติณณ์กำลังหยิบมันขึ้นมา กรอบรูปที่ดูเก่าซึ่งวางคว่ำอยู่ ชายหนุ่มพลิกมันขึ้นมา เขาไม่แปลกใจเลยที่ภาพของบุคคลข้างในคือหญิงสาวที่นอนไร้สติอยู่ตรงนี้กับผู้ชายที่เขาไล่ไปเมื่อครู่ ภาพถ่ายคู่กันสองคนที่ยืนเคียงกันธรรมดาไม่ได้โอบกอดหรือทำท่าอวดว่าเป็นคู่รักกันนั้นดูมีชีวิตชีวา โดยเฉพาะดวงต