Gift 1 ซานตาครอส
“ปะป๊าครับ หม่าม้าอยู่บนท้องฟ้าจะเห็นผมไหมครับ” เด็กชายวัยห้าขวบ ถามผู้เป็นพ่อที่กำลังนั่งดูดาวอยู่ด้วยกัน ในมือถือการ์ด ส.ค.ส. ที่โรงเรียนให้เด็ก ๆ ทำในช่วงก่อนเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ “ผมทำการ์ดมาให้หม่าม้าด้วย แต่ปะป๊าบอกว่าหม่าม้าขึ้นไปเป็นดวงดาวแล้วนี่นา ผมกลัวหม่าม้าจะมองไม่เห็น ปะป๊าช่วยอ่านให้ฟังได้ไหมครับ”
“ได้สิครับ ไหนดูสิ ลูกป๊าทำสวยจังเลยคงใช้เวลาและความพยายามมากสิน้า เก่งเหมือนใครเนี่ย หือ” เมฆรับการ์ดมาจากลูก
‘ถึง หม่าม้ากวาง
เรนขอให้หม่าม้ามีความสุขอยู่บนท้องฟ้า เป็นดวงดาวสวย ๆ เรนจะมานั่งมองที่หน้าบ้านทุกคืนเลย เรนจะดูแลปะป๊าให้เองแล้วก็จะเป็นเด็กดีด้วย เรนคิดถึงหม่าม้ามาก ๆ เลย วันเกิดปีนี้หม่าม้าอย่าลืมมาเป่าเค้กกับเรนนะครับ
จาก. เรนเดียร์’
เมฆอ่านการ์ดใบน้อยของลูกเสร็จ เด็กน้อยก็ลุกขึ้นมากอด “ไหนใครบอกจะดูแลปะป๊า พาปะป๊าขึ้นนอนเร็ว”
“ครับผม แต่ถ้าผมเข้าบ้านไม่เห็นดวงดาว หม่าม้าจะมองเห็นผมไหมครับ”
“เห็นสิครับ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน จะกลางวันหรือกลางคืน หม่าม้าก็จะดูแลเรนเสมอครับ”
“คืนนี้ปะป๊าอ่านเจ้าชายน้อยให้ผมฟังอีกนะครับ”
“จะดูแลปะป๊า เรนก็ต้องอ่านให้ปะป๊าฟังสิ”
“โหยยย รอเรนโตก่อนนะ เดี๋ยวเรนค่อยอ่านให้ปะป๊าฟัง” เมฆอุ้มเรนเดียร์เข้าบ้านและพาขึ้นห้องนอน
เช้าวันรุ่งขึ้น กิจกรรมของสองพ่อลูกก็เช่นเดิม เรนเดียร์ตื่นมาพยายามจัดการกิจวัตรของตัวเองเท่าที่ทำได้หลังจากที่เสียแม่ไปจากอาการป่วย ส่วนคนพ่อก็ตื่นมาทำอาหารเช้า อันประกอบได้ด้วย ข้าว ซุปมิโซะ ปลาแซลมอนย่าง และสลัดมันฝรั่ง ตามด้วยการเตรียมข้าวกล่องสำหรับมื้อกลางวัน แม้ว่าโรงเรียนจะมีให้ แต่เจ้าเรนเดียร์กลับติดรสมือพ่อจนต้องขอคุณครูพกไปกินเพิ่มเติม
เมฆถูกส่งไปเรียนต่างประเทศหลังจากจบมอปลาย เขาเลือกไปญี่ปุ่นแม้ภาษาจะไม่ได้เลย ต้องไปเรียนภาษาอยู่สองปี จากนั้นก็สมัครเข้าโรงเรียนสอนทำอาหารชื่อดัง ตัวเขาเองก็คิดว่าหลังเรียนจบคงได้ทำงานและอยู่ที่นู่นยาว แต่พออายุ 25 ก็ถูกพ่อเรียกตัวกลับมาด่วน
ใช่แล้ว... ถูกเรียกกลับมาแต่งงาน และรับเป็นพ่อเด็ก
เรนเดียร์ เป็นลูกชายของกวางกับหมอก น้องชายฝาแฝดของเมฆ
เหตุการณ์เมื่อห้าปีก่อน
“คือป๊าเรียกให้ผมกลับมา เพราะว่าจะให้มารับผิดชอบแทนปัญหาที่ผมไม่ได้ก่อเนี่ยนะ” เมฆอยู่ในสภาพที่ดูไม่ได้ หอบกระเป๋าเดินทางกลับมาถึงแค่ประตูบ้าน ก็ต้องมารับรู้ถึงเหตุผลที่โดนเรียกตัวกลับมา “ตอนจะไล่ ก็ไล่แบบไม่ไยดี ตอนนี้คิดจะเรียกกลับก็เรียก”
“แล้วยังไง เงินที่มึงใช้เรียนใช้กินใช้อยู่ก็เงินกู ตอนนี้ที่บ้านมีปัญหามึงจะไม่กลับมาช่วยหรือไง” เฉิน บิดาของเมฆและหมอกยืนชี้หน้าว่าลูกชาย
“มึงช่วยกูหน่อยเถอะ” หมอกยืนขอร้องพี่ชายฝาแฝด “กูก็ไม่คิดว่ามันจะพลาดออกมาแบบนี้ กวางก็บอกเขากินยาคุมตลอด แล้วนี่ถ้าจัสมินรู้เรื่องเข้า บ้านเขายกเลิกงานแต่งกับกูแน่”
“กวางไหน จัสมินไหน กูต้องไปรู้จักกับมึงไหม ปัญหามึงก่อ มึงก็ต้องแก้ไขเองดิ” เมฆกำกระเป๋าตัวเองไว้แน่น ถ้าทำได้คงจะวิ่งหนีออกมา แล้วไปสนามบินทันที
“ลูกกลับมาเหนื่อย ๆ ให้กินข้าวกินน้ำก่อนดีกว่าเฮีย แล้วค่อย ๆ คุยกัน” เฟย มารดาของคู่แฝดเข้าดึงเมฆให้ไปนั่งที่โต๊ะอาหาร บนโต๊ะมีกับข้าวของโปรดเมฆหลายอย่าง “กินข้าวก่อน แล้วค่อยคุยกัน”
“มึงใจเย็น ๆ แล้วฟังกูก่อนนะ” หมอกนั่งลงข้างเมฆ บนโต๊ะอาหารขนาดใหญ่ของบ้านหลังนี้ เหมือนยิ่งโตขึ้นอายุมากขึ้น ที่นั่งก็ยิ่งห่างกันออกไป “กวางเป็นนักศึกษาฝึกงานที่บริษัท น้องมันมาชอบกูเองเว้ย พอใกล้ชิดกันกูก็เผลอไปมีอะไรเกินเลยด้วย”
“แล้วอีกคนอะ”
“จัสมินเป็นลูกของเพื่อนป๊าอะ กูคบกับเขามาสองปีแล้ว และก็ตัดสินใจจะแต่งงานกันสิ้นปีนี้”
“แต่มึงก็ควรรับผิดชอบลูกของมึงเองเปล่าวะหมอก จะให้กูไปแต่งกับเมียมึง ไปเป็นพ่อของลูกมึงเนี่ยนะ ใช้ไรคิด”
“กูเนี่ยแหละคิด” ป๊าของเมฆเป็นคนตอบ “ยังไงมันก็ต้องแต่งกับหนูจัสมิน รู้ไหมพ่อเขามาร่วมลงทุนกับเราเท่าไหร่ ถ้าเขาไม่เข้ามาช่วย บ้านเราอาจเจ๊งแล้ว”
“ส่วนกวางที่บ้านเขาก็รู้ว่ากวางท้องมาสองเดือนแล้ว พ่อเขาเป็นนักการเมืองนามสกุลดังด้วย ยังไงเขาก็ไม่ยอม กูถึงอยากให้มึงช่วย พ่อเขาไม่เคยเจอกูมาก่อน ไม่รู้ด้วยว่ามีแฝด เคยเห็นแต่รูปที่กวางให้ดู” เมฆได้แต่ส่ายหน้า มองไปหาแม่ก็เจอแต่สายตาที่คาดหวังว่าเขาจะต้องช่วยน้อง ที่ตรงนี้ไม่มีใครอยู่ข้างเขา “ถือว่าช่วยหลานที่กำลังจะเกิดก็ได้นะมึง กวางเองก็ยอมรับเงื่อนไขนี้เพื่อเก็บลูกไว้ ไม่งั้นพ่อเขาให้เอาเด็กออกแน่”
“ไอ้เมฆ ถือว่าทำอะไรเพื่อครอบครัวสักครั้งเถอะ แล้วกูจะไม่ยุ่งกับมึงอีก มึงจะทำอะไร เป็นอะไรก็เป็นไป เรื่องค่าเลี้ยงดูหลานก็ไม่ต้องห่วง ป๊ากับหมอกจะส่งให้มึงเอง รวมทั้งเงินแต่ละเดือนให้มึงด้วย ถือเป็นค่าจ้างก็ได้ ถ้าหมอกมันแต่งงานกับหนูจัสมิน เรื่องเงินในอนาคตของบ้านเราคงไม่มีปัญหา…ถือว่าป๊าขอร้องสักครั้งนะ”