“พัดโลมมมมมม~”
“ว่า?”
“เย็นนี้ว่างไหมหนูนี”
“ว่าง ทำไมจะชวนกูไปที่ไหนอีก”
“ไปสนามแข่งรถกัน วันนี้มีแข่งรถกูอยากไปดูมาก~”
“ดูแข่งรถหรือดูผู้ชายเหอะเทย ไม่เอาอ่ะเสียงดังคนก็เยอะกูไม่ชอบ” ฉันปฏิเสธมันทันทีที่ได้ยินว่ามันต้องการลากชะนีน้อยอย่างพัดลมไปเป็นเพื่อนส่องผู้ในสนามแข่งรถ
“ไม่ค่ะมึงไม่มีสิทธิปฏิเสธกูไม่ว่าจะทางใด มึงต้องไปและต้องแต่งตัวแซบๆ ด้วย” มันยกนิ้วชี้มาส่ายตรงหน้าช้าๆ และพูดอย่างไม่สนสิ่งใดนอกจากความต้องการจะไปส่องผู้ชายของตัวเอง
“แต่กูไม่ชอบดูแข่งรถมันน่ากลัว”
“หูย~ อ่อนหวานและอ่อนไหวเวอร์ค่า เคยไปสถานที่จริงรึไง” อีเมธเบะปากใส่ฉัน ส่วนฉันก็ส่ายหน้ายิ้มแหยใส่
“ไม่เคย แต่กูเคยดูในทีวีไงมึง น่ากลัวจะตาย แล้วนี่ไปสนามอะไรสนามเถื่อนรึเปล่าเนี่ย ไม่เอานะน่ากลัว”
“โอ๊ะ! หนูนีภูธรค่ะตุ๊ดไฮเอนอย่างกูไม่มีหรอกค่ะไปสนามเถื่อน นี่สนามหรูหรามีคลาสมีระดับเท่านั้นที่กูคู่ควร และที่นี่โอกาสที่มึงจะเจอพี่มิกซ์มีมากถึง 90 เปอร์เซ็นค่ะกูบอกเลย”
“ฮะ? จริงดิ!” ฉันรีบถามมันด้วยความรู้สึกตื่นเต้น แค่ได้ยินว่ามีโอกาสเจอพี่มิกซ์ใจพัดลมก็เต้นระริกระรี้เหมือนปลากระดี่ได้น้ำขึ้นมาทันทีเลยทีเดียวเชียวล่ะค่ะ อิอิ
“หืม~ ได้ยินเรื่องผู้ชายหูผึ่งขึ้นมาเชียวนะมึง ตกลงว่าไงไปไหม”
“ไปค่ะ!” ฉันรีบตอบเสียงดังฟังชัดพร้อมกับยิ้มกว้างให้อีเมธ วันนี้เมื่อช่วงบ่ายฉันชวดการเปิดตัวโชว์ความสวยให้พี่มิกซ์สะพรึง เอ๊ย! ตะลึงไปแล้วรอบหนึ่ง เพราะฉะนั้นถ้ามีโอกาสเป็นครั้งที่สองพัดลมต้องรีบคว้าค่ะ
“ลำไยชะนี~ ไปรถมึงนะเผื่อกูเมา”
“มึงไม่เมาหรอกไม่ต้องมาสั่งเสีย กูรู้ว่ากูต้องกลับคนเดียวอยู่แล้วเพราะตุ๊ดร่านจะหนีบผู้ชายไปกินตับในน้ำ”
“อีรู้ดี!”
“ฮ่าๆๆ โอเคค่ะ ถ้างั้นขอพัดลมไปแต่งตัวสวยๆ ก่อนนะคะสุเมธ บาย~” ฉันหัวเราะอารมณ์ดีใส่มัน ก่อนที่จะบอกลาแล้วหมุนฟลูเทิร์นใส่อีเพื่อนตุ๊ดสุดที่รักแล้วก็เดินสับขาสวยๆ ไปที่รถคันเก๋ที่พ่อแม่เปย์ให้ทันที
#PADLOM END
#SHUTTER TALK
“โห่~ เฮียกว่าจะมา ไหนบอกจะมาค่ำๆ ไงวะ” แค่ก้าวเท้าเข้ามาในห้องทำงานของสนามแข่งที่เป็นธุรกิจของผมเองไอ้คูเปอร์ก็ออกปากบ่นต้อนรับพี่ชายบังเกิดเกล้าอย่างผมทันที
“กูระบุเวลาไหมว่าค่ำๆ มันกี่ทุ่ม ถ้ากูไม่ระบุเวลามึงก็อย่ามางอแงใส่กูไอ้เปอร์” ทั้งที่ความจริงผมโคตรขี้เกียจมา แต่ไอ้น้องเวรมันไม่ยอมเพราะมันนี้มันจะลงแข่งเอง อ้อ! มันไม่ได้อยากได้กำลังใจจากผมหรอกนะครับ มันเรียกผมมาเซ็นเช็คเผื่อมันแพ้ต่างหาก
“แม่งกวนส้นตีน เออวันนี้จะใช้หนี้เฮียให้หมดเลยจับตาดูให้ดีล่ะ”
“หึ! กูกลัวหนี้จะเพิ่มมากกว่า ฝีมือกากแล้วเสือกอยากแข่งให้กูขายขี้หน้าคน” ผมแสยะยิ้มใส่ไอ้เปอร์ด้วยความรู้สึกหมั่นไส้ 4 ล้านที่มันติดหนี้ผม และผมว่ามันนี้ก็คงมียอดหนี้เพิ่มขึ้นอีก ไอ้เด็กเวรนี่นอกจากเกิดมาเป็นน้อง เป็นคนช่วยผลาญสมบัติพ่อแม่ มันยังเกิดมาเพื่อเป็นลูกหนี้รายใหญ่ของผมอีกด้วย สมบูรณ์เพอร์เฟ็คจริงๆ
“ถ้าชนะนะมึง” มึงมองหน้าผมแล้วก็พูดออกมาเบาๆ
“ต่อให้ชนะมึงก็ใช้หนี้กูไม่หมดไอ้เปอร์
“เออๆ ได้ทีเอาใหญ่ อย่าให้ป๊ากับม๊าให้เงินผมเยอะๆ เหมือนเฮียบ้างละกัน”
“ป๊ากับม๊าไม่กล้าให้มึงเยอะแบบกูหรอกไอ้น้องเวร ผลาญเงินเก่งให้เดือนละ 10 ล้านก็ไม่พอหรอกคนอย่างมึง” ผมปาถั่วที่กำลังจะเอาเข้าปากใส่มันด้วยความหมั่นไส้ มันเพิ่ง 20 ย่าง 21 แต่ใช้เงินเก่งอย่างกับโคตรพ่อโคตรแม่เป็นเจ้าของธนาคารโลก
“เหอะเฮียก็ไม่ต่างหรอก ผมใช้เงินเก่งเฮียก็ใช้ผู้หญิงเก่ง แม่งเอาไม่เลือก” มันยังไม่ยอมหยุดเถียงกับผม แล้วทุกครั้งก็ชอบยกเอาเรื่องผู้หญิงของผมมาเป็นประเด็นเพื่อวัดกันว่าระหว่างมันกับผมใครเหี้ยกว่ากัน
“ใครบอกกูไม่เลือก?” ถึงจะรำคาญที่มันชอบพูดเรื่องนี้แต่ผมก็ไม่ได้ถือสาอะไรมากมาย มันงอแงมาผมก็แค่กวนตีนกลับไปแค่นั้นก็จบเรื่อง แถมผมยังตบท้ายด้วยการเอนหลังพิงเก้าอี้ทำงานตัวใหญ่แล้วโยนถั่วเข้าปากเล่น
“กูนี่แหละหรือมึงจะเถียง” หึๆ ไอ้เด็กอ่อนหัดเริ่มหัวร้อนที่เห็นผมไม่สนใจคำพูดมันเท่าที่ควรจะเป็น
“หึๆ ไอ้ตี๋น้อยเห็นกูแบบนี้กูเลือกว่ะ”
“เลือกเหี้ยไร”
“เลือกเอ็กซ์ๆ นมโตๆ นมแบนเป็นกระดาษเอสี่แบบเด็กมึงไม่ได้เห็นของดีกูหรอกไอ้เปอร์” ผมขยับตัวขึ้นจากการเอนพิงเก้าอี้เพื่อให้มันเห็นหน้าผมชัดๆ แล้วก็ยักคิ้วข้างหนึ่งส่งไปให้มัน
“เหอะ! มึงแม่งจะเป็นคนแรกของวงค์ตระกูลที่แดกเอดส์มึงรู้ตัวรึเปล่า”
“หึๆ กูป้องกันน่า”
“เพลาๆ บ้างเฮีย เด็กเฮียแม่งจะเดินชนกันตายอยู่แล้ว”
“เออ เดี๋ยวกูก็หยุด”
“เมื่อไหร่? ” มันได้ยินผมพูดว่าหยุดก็ขมวดคิ้วนิ่วหน้าถาม แถมยังทำหน้าจดจ่อรอคำตอบอีก ตื่นเต้นห่าอะไรกับเรื่องนี้ กูเพิ่ง 22 เองครับ
“สักพัก กูคงไม่ลากสาวไปฟันดะจนแก่ตายหรอกไอ้เปอร์ ไม่ต้องเสือกเรื่องของกู”
“หึ! กูว่าละ ไม่ใช่อะไรหรอกเฮีย ผมเตือนเพราะกลัวเฮียอยู่ไม่ถึงวันแบ่งสมบัติว่ะ เงินป๊ากับม๊าผมใช้คนเดียวไม่หมดหรอก” มันตอบผมแล้วก็ยิ้มโชว์เหนือก่อนที่จะเดินทำหน้าวอนตีนออกไปจากห้อง
“สัส!”
หยุดงั้นเหรอ คิดสิครับทำไมจะไม่คิด แต่รอก่อนสิวะ รอให้เธอคนนั้นเปิดใจให้ผมก่อน รับรองผมจะหยุดเจ้าชู้ตั้งแต่เสี้ยววินาทีแรกเลย
ผมนั่งเคลียร์งานบนโต๊ะเพราะไม่ค่อยได้เข้ามาที่สนามเท่าไหร่เพื่อรอเวลาให้ข้างนอกเริ่มการแข่ง เพื่อนๆ ของผมก็มากันเยอะแต่พวกมันไม่เข้ามาในนี้หรอก มันไปนั่งแดกเหล้าเคล้านารีที่โซนโคตรซุปเปอร์วีไอพีโน่น ที่นี่จะจัดแข่งทุกคืนวันศุกร์อยู่แล้วคนเยอะจนแน่นสนามทุกอาทิตย์เพราะที่นี่มันมีระดับใครๆ ก็อยากมาทั้งนั้น แล้วก็เงินทั้งนั้นที่ผมได้ในแต่ละอาทิตย์
“เฮีย~”
“เป็นเหี้ยไรยิ้มอารมณ์ดีขนาดนี้” ไอ้คูเปอร์มันเดินยิ้มหน้าระรื่นเข้ามาหาผมหลังจากที่ 5 นาทีที่แล้วเพิ่งกวนตีนผมไป
“วันนี้ผมชนะแน่นอน”
“เหรอ? อะไรทำให้มึงมั่นใจขนาดนั้น”
“ก็เพราะว่านางฟ้าแม่ทูนหัวขวัญใจของผมได้เดินทางมาจุติลงที่สนามของเฮียในคืนนี้ กำลังใจผมแม่งล้นออกมาจนหกเรี่ยราดไหลนองไปตามพื้นเลยว่ะเฮีย” ผมกำลังนั่งฟังไอ้น้องเวรนี่มันพูดอะไรอยู่วะ?
“สั้นๆ”
“พัดลมเฮีย พัดลมขวัญใจของผมมาดูแข่งรถคืนนี้ เฮีย! ผมแม่งโคตรมีกำลังใจเลย คืนนี้ผมจะต้องชนะให้ได้คอยดู!”
“พัดลม ใครวะ?”
“หึๆๆ ไม่รู้จักคนสวยเกรดไฮเอนล่ะสิเฮีย ผมบอกเลยถ้าเห็นพัดลมเฮียจะตะลึง แม่โคนมทั้งฟาร์มของเฮียจะชิดซ้ายทุกคน คูเปอร์คนนี้กล้าเอาสมบัติของป๊ากับม๊าเป็นประกัน!”
“ปัญญาอ่อน” ผมส่ายหน้าใส่มันด้วยความเอือมระอาแล้วก็ก้มหน้าลงมาสนใจตัวเลขในบัญชีรายรับรายจ่ายของสนามต่อ
“หึ! ปัญญาอ่อนรึเปล่าเดี๋ยวก็รู้ แต่บอกไว้ก่อนพัดลมเป็นว่าที่น้องสะใภ้ในอนาคตของมึง แม้แต่ขาอ่อนก็อย่าคิดอกุศลว่าอยากจะเห็น” มันทำเสียงไม่พอใจใส่ผมแล้วก็เดินตึงตังเป็นตุ๊ดสะบัดตูดออกไป โคตรปัญญาอ่อน
...พัดลมเหรอ จะเด็ดแค่ไหนกันวะ แค่ชื่อก็ไม่ใช่สเปคผมแล้ว ชื่อปัญญาอ่อนฉิบ ตอนท้องแม่ผู้หญิงคนนั้นนั่งตากพัดลมทั้งวันทั้งคืนรึไง