วันเวลาผ่านไปเกือบหนึ่งอาทิตย์หลังจากที่เธียเตอร์พาพลีสไปซื้อยาคุมฉุกเฉินมากิน เธอมีอาการปวดหัว คลื่นไส้เล็กน้อยจากผลข้างเคียงของยา แม้ในวันนี้ประจำเดือนจะมา แต่เธอก็กังวลมาหลายวันว่าจะท้อง หากท้องขึ้นมาจริง ๆ เรื่องค่าใช้จ่ายคงจะหนักเอาเรื่อง อีกทั้งยังทำงานหนัก ๆ แทบไม่ได้อีกด้วย โดยปกติแล้วพลีสเป็นคนบ้างาน โหมงานหนักแทบไม่หยุดพัก จนมีอาการออฟฟิศซินโดรม ปวดหลังเกือบทุกครั้งที่นั่งทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์
พลีสและเธียเตอร์ใช้ชีวิตตามปกติไปเรื่อย ๆ จนในถึงวันที่ทั้งคู่ต้องออกกองที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง เธียเตอร์กำลังนั่งรอฝ่ายเมกอัปจัดการแต่งหน้า ทำผมให้นักแสดง โดยมีพลีสกำลังนั่งกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอยู่ข้าง ๆ เธอซูดเส้นเสียงดังเรียกความสนใจจากเขาได้เป็นอย่างดี
“พี่ขอกินหน่อยดิ” เธียเตอร์เอ่ยขอ ก่อนจะรับถ้วยบะหมี่มาไว้ในมือ แต่กลับกินไข่ต้มที่ซ่อนไว้ด้านล่างแทน
พลีสมองถ้วยบะหมี่ที่ถูกส่งกลับคืนมาด้วยสีหน้าหงุดหงิด อุตส่าห์คิดจะกินตบท้ายเสียหน่อย กลับถูกเขาแย่งไปเสียได้ อีกทั้งยังยกซดจนไม่เหลือน้ำซุปแม้แต่หยดเดียว ทว่ายังไม่ทันได้เอ่ยปากบ่นอะไร นักแสดงก็ได้เดินมาอยู่ที่ฉาก เธอเห็นเธียเตอร์มองดูนักแสดงสาวน้อยน่ารัก อายุสิบเจ็ดปีด้วยแววตาเป็นประกาย จึงใช้มือตบขาเขาอย่างรุนแรง
เพียะ!
“โอ๊ย! ตบพี่ทำไมเนี่ย” เธียเตอร์ร้องพร้อมกับลูบขาแรง ๆ ตรงบริเวณที่โดนแฟนสาวตบ
“เห็นสาวน่ารักไม่ได้เลยนะคะ ทำงานค่ะ”
“จ้ะเมีย”
“เตอร์ นักแสดงพร้อมแล้ว” สิงห์ ผู้ช่วยผู้กำกับหนึ่งเดินเข้ามาหาพร้อมกับถือวิทยุสื่อสารมาด้วย
“โอเค งั้นเริ่มเลย”
สิ้นคำ สิงห์ก็ยกวิทยุสื่อสารขึ้นมาพูดใส่ “ไอ้กิตร ออกมาเลย กำลังจะเริ่มถ่ายแล้ว”
(รับทราบ) เสียงจากวิทยุสื่อสารดังตอบกลับมา หลังจากนั้นภายในกองก็เงียบสงัดลงทันที เธียเตอร์มองดูรอบข้างก่อนจะตะโกนถามทุกคน
“กล้อง”
“สปีด” เสียงจากฝ่ายกล้อง
“ซาวนด์”
“แป๊บนะครับ...อะ เรกคอร์ด!” เสียงจากฝ่ายซาวนด์
“สเลต”
“ซีนสิบ คัตสอง เทกหนึ่ง” เมื่อฝ่ายตีสเลตพูดจบก็ตีไม้ลงไปทันที ก่อนจะเดินออกจากฉากไปหลบอยู่ข้างหลังเก้าอี้ที่เธียเตอร์นั่งอยู่
“มาร์ค” เสียงจากฝ่ายกล้องดังขึ้นอีกครั้ง
“แอ็กชัน!” เธียเตอร์ตะโกนรอบสุดท้ายก่อนที่นักแสดงจะเริ่มแสดงตามบทบาท
ทุกคนต่างจ้องมองนักแสดงตรงหน้าตาไม่กะพริบ เธียเตอร์ ผู้กำกับหนึ่ง สอง โปรดิวเซอร์ และพลีสนั่งดูนักแสดงตรงหน้าผ่านทางจอมอนิเตอร์ ระหว่างนั้นพลีสก็รู้สึกหงุดหงิดกับฉากนี้ ดูเหมือนว่านางเอกจะยังแสดงได้ไม่เต็มที่นัก เธอจึงหันไปกระซิบกับเธียเตอร์
“พี่คะ สั่งคัตเดี๋ยวนี้”
“ทำไมล่ะ”
“เออน่า สั่งคัต อารมณ์น้องยังเล่นไม่ดี”
เมื่อเธียเตอร์ได้ยินอย่างนั้น ก็นั่งมองดูการแสดงของนางเอกต่ออีกสักพัก ดูเหมือนจะเป็นไปอย่างที่พลีสพูดเอาไว้ จึงสั่งคัตอย่างเสียงดัง
“คัต!!”
นักแสดงต่างหยุดชะงักและหันหน้าไปทางเธียเตอร์ทันที แต่พลีสกลับเป็นคนพูดขึ้นมาแทน เพราะแฟนหนุ่มมัวแต่มองหน้านางเอกอยู่ ไม่ยอมพูดออกมาสักที
“ดาวจ๊ะ พี่ว่าเราควรเพิ่มอารมณ์ในซีนนี้หน่อยนะ มันเป็นซีนทะเลาะกับผู้ชาย นึกว่าเขาเป็นแฟนเราแล้วมันนอกใจก็ได้ อะ...พี่ถามนะคะ ว่าเราเคยมีแฟนไหม”
“เคยค่ะ”
“ถ้าอย่างงั้น รู้สึกยังไงตอนนั้น”
“โกรธ แล้วก็เสียใจมาก ๆ ค่ะ”
“นั่นแหละ เอาอารมณ์นั้นมาใช้เลยค่ะ ไม่ต้องกลัวว่าคนนอกจะมองยังไง เพราะซีนนี้เราต้องใช้อารมณ์ทะเลาะล้วน ๆ” พลีสร่ายประโยคยาวอีกครั้ง
“ได้ค่ะ”
“ส่วนราม เราได้ละ” พลีสหันหน้าไปทางพระเอกของเรื่องนี้
“ครับ”
เธียเตอร์เห็นแฟนสาวยิ้มให้กับนักแสดงชายตรงหน้าก็รู้สึกหึงเล็กน้อย แต่ยังต้องเก็บอาการไว้ก่อน เพราะทั้งคู่กำลังทำงานกันอยู่ จากนั้นพลีสก็หันหน้ามาหาเธียเตอร์
“พี่ ต่อเลย”
“อืม” เธียเตอร์ตอบกลับสั้น ๆ ก่อนจะตะโกนถามทุกฝ่ายเหมือนเดิม
(สรุปใครเป็นผู้กำกับเนี่ย) กิ่งแก้วที่นั่งอยู่ข้าง ๆ นึกในใจพลางถอนหายใจเล็กน้อย อดสมเพชผู้กำกับไม่ได้ ที่ต้องให้ฝ่ายตัดต่อมากำกับเขาอีกทีหนึ่ง
การแสดงเริ่มขึ้นอีกครั้ง ซึ่งในครั้งนี้ซีนทะเลาะดูจริงจังมากขึ้น โดยเฉพาะฉากนางเอกตบหน้าพระเอก ขณะที่ทุกคนกำลังดูนักแสดงทั้งสองอย่างตั้งใจอยู่นั้น เธียเตอร์ก็ยื่นมือมาจับขาเนียนสวยของพลีสช้า ๆ เธอจึงหยิกมือเขาอย่างไม่รีรอ ชายหนุ่มกักเก็บเสียงกรีดร้องไว้ในลำคอและยกมือขึ้นมาสะบัดอย่างรุนแรง ก่อนจะเห็นสายตามองแรงพร้อมกับชูนิ้วกลางใส่จากแฟนสาว
เมื่อถึงเวลาพักกินข้าว ทุกคนต่างรับข้าวกล่องมานั่งกินกันอย่างเอร็ดอร่อย มีทั้งข้าวกะเพราหมูสับไข่ดาว ข้าวไก่ทอด และข้าวหมูสับกระเทียมไข่ดาว พร้อมทั้งมีน้ำเปล่าและน้ำแดงคอยให้บริการ หลังจากพลีสกินข้าวเสร็จเรียบร้อยก็รู้สึกปวดท้องเบาขึ้นมา จึงลุกขึ้นเดินไปทางห้องน้ำห้างสรรพสินค้า โดยมีเธียเตอร์เดินตามมา กระทั่งเดินมาถึงหน้าห้องน้ำ เขาก็ได้คว้ามือแฟนสาวเอาไว้และลากเข้าห้องน้ำคนชราอย่างรวดเร็ว
“ลากหนูเข้ามาทำไมเนี่ย” พลีสถามด้วยความสงสัยเสียงเบา แต่อีกฝ่ายกลับยิ้มด้วยความเจ้าเล่ห์เสียอย่างนั้นก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปจูบอย่างไม่ลังเล พลีสจึงรีบดันเขาออกห่างทันทีแล้วจะเอื้อมมือไปเปิดประตู แต่โดนมือหนาคว้าแขนเอาไว้ได้ทัน จากนั้นก็ผลักร่างบางเข้ากับกำแพงและตรงเข้าไปจูบกลีบปากอิ่มอย่างเร่าร้อน แลกลิ้นให้แก่กันอย่างรวดเร็ว พลางชันเข่าขึ้นมาถูกับช่วงล่างผ่านกางเกงยีนส์ ก่อนพยายามเปิดเสื้อเธอขึ้นมาและล้วงมือเข้าไปในเสื้อชั้นใน ขย้ำหน้าอกแฟนสาวร่างบางอย่างรุนแรง จนพลีสต้องถอนจูบและหันหน้าหนีเขา