บทที่ 5 สวย ๆ สับ ๆ

1694 Words
“ดินไม่ขึ้นไปดื่มอะไรเย็น ๆ บนห้องแพทตี้ก่อนเหรอคะ” “ไม่ล่ะ ขอบใจมากนะที่วันนี้มาช่วยฉัน ค่าเสียเวลาฉันโอนให้แล้วเรียบร้อย” แพทตี้มองเงินที่เพิ่งเข้าบัญชีด้วยรอยยิ้มดีใจ ค่าตอบแทนที่บดินทร์ให้ไม่ใช่น้อย ๆ เลย “ดินก็รู้ว่าแพทตี้ยินดีทำทุกอย่างเพื่อดินเสมอ” เอ่ยพูดพลางกรีดปลายนิ้วชี้ที่เคลือบด้วยน้ำยาทาเล็บสีแดงเลือดหมู ไล้ตั้งแต่กลางหน้าอกลงมา ทว่าบดินทร์กลับขัดจังหวะการกระทำและความคิดของเธอเอาไว้เสียก่อน “อย่าให้มันมากไปกว่านี้นะแพทตี้ เธอลืมข้อตกลงของเราไปแล้วหรือไง” “ดินขา...” “คำนี้พูดได้แค่ต่อหน้าหนูดีเท่านั้น อยู่กับฉันตามลำพังไม่ต้อง!” เขาเองก็ไม่ชอบใจนักหรอกที่มีใครมาเรียกเขาคะขา ฟังแล้วระคายหูชะมัด “ดินจะไปไหนต่อเหรอคะ ให้แพทตี้ไปเป็นเพื่อนไหม” “ฉันจะกลับบ้าน ลงไปได้แล้ว” “ค่ะ” แพทตี้ตอบรับอย่างว่าง่าย ก่อนจะลงจากรถของบดินทร์ไปด้วยความเสียดาย นึกว่าจะได้ไฮโซมางาบซะแล้ว คล้อยหลังแพทตี้ไป บดินทร์ก็หมุนพวงมาลัยเลี้ยวรถกลับบ้านของตน ระหว่างทางเขาเกิดมีความคิดมากมายผุดเข้ามาในหัว ดารากาที่เขาเห็นในวันนี้ไม่เหมือนกับดารากาที่เขาเจอก่อนวันแต่งงานสักนิด “หึ! ธาตุแท้คงออกสิท่า” คนที่มีความคิดติดลบตลอดเวลาเปล่งเสียงพึมพำ ก่อนวันแต่งงานแสร้งทำเป็นเห็นดีเห็นงามกับทุกเรื่องที่ผู้ใหญ่คุยกัน ไม่หือไม่อือ ยิ้มรับกับทุกอย่าง พอมาวันนี้กลับกลายเป็นคนละคน แค่มองตาเขาก็รู้แล้วว่าเธอมีเล่ห์มีเหลี่ยมมากทีเดียว วันต่อมา “เชยมากแม่ นี่ชุดนักศึกษาหรือชุดคลุมท้องวะ” แขนเสื้อยาวถึงข้อพับ กระโปรงพลีทยาวเลยหัวเข่าประมาณสองถึงสามคืบ เห็นแล้วก็อดบ่นไม่ได้ เกิดเป็นนางเอกก็อย่างนี้แหละนะ เชยเป็นบ้า แต่งตัวเสร็จสรรพดีน่าก็ออกมาทานอาหารมื้อเช้าเตรียมตัวไปมหาวิทยาลัยแทนดารากาวันแรก บดินทร์เห็นภรรยาที่เขาไม่โปรดปรานก็แทบจะกลืนข้าวต่อไม่ลง เขาวางช้อนกระแทกกับจานเสียงดัง ปรายตามองคนตรงหน้าตั้งแต่ปลายเส้นผมจรดปลายเล็บเท้า ก่อนจะยกน้ำเปล่าขึ้นมาดื่มล้างคอ “ฉันอิ่มละ” เอ่ยแค่นั้นก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง กลัดกระดุมกลางชุดสูทเสร็จก็เดินจากไปในทันที ดีน่าเดินมาดูว่ามีอะไรให้เธอทานได้บ้าง แต่คนรับใช้กลับรีบเก็บข้าวจานบนโต๊ะอาหารเข้าครัวเสียอย่างนั้น “คุณหนูดียังไม่ได้ทานอะไรเลยนะ ทำไมถึงได้รีบเก็บจานซะไวเชียว” ป้าแก้วเอ่ยขึ้น แม้ว่าตนจะเอนเอียงอยู่ฝั่งของบดินทร์ แต่ก็ไม่เห็นด้วยที่เหล่าคนรับใช้รวมหัวกันกลั่นแกล้งเจ้านายสาว “เงียบปากไปเลยนะป้า ถ้าไม่ทำตามคำสั่งของคุณดินแล้วจะให้ทำตามคำสั่งของใครมิทราบ” “หน็อย! ปากเหรอนี่” “ช่างเถอะค่ะป้าแก้ว หนูดีไม่หิวแล้ว” ดีน่าเอ่ยตัดบทสนทนาของเหล่าคนใช้ ก่อนจะเปลี่ยนทิศทางวิ่งตามบดินทร์หวังจะนั่งรถติดไปกับเขาด้วย แต่ทว่าเขากลับขับรถผ่านเธอไปหน้าตาเฉย ทั้งที่เขาควรจะไปส่งเธอแท้ ๆ ดีน่าได้แต่ถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย เธอจะหวังอะไรลม ๆ แล้ง ๆ จากเขาได้กันล่ะ ดีเท่าไรแล้วที่ไม่พ่นควันดำโขมงอัดเข้าหน้าเธอเป็นของแถมด้วยน่ะ “คุณหนูดีขาคุณหนูดี แจ่มเตรียมข้าวผัดใส่กล่องมาให้ค่ะ” แจ่มที่รู้ว่าเจ้านายสาวยังไม่ได้ทานอะไรก็แอบเตรียมอาหารเช้ามาให้ โชคดีที่ป้าแก้วเห็นดีเห็นงามกับแจ่มด้วย ทางจึงสะดวกเข้าไปใหญ่ “ขอบคุณจ้ะพี่แจ่ม” ดีน่ารับถุงข้าวผัดมาถือไว้ สายตาเหลือบเห็นป้าแก้วแอบดูอยู่ห่าง ๆ เธอจึงส่งยิ้มให้เป็นการขอบคุณ “อ้าว คุณดินไปแล้วเหรอคะ ให้แจ่มเรียกรถแท็กซี่ให้ไหมคะ” “ไม่เป็นไรจ้ะพี่แจ่ม เดี๋ยวช่วยตามลุงแหลมให้ไปส่งหนูดีที่มหาลัยทีนะคะ” “ได้ค่ะคุณหนูดี” โชคดีที่เธออยู่บ้านหลังนี้ได้อย่างไม่เหงามากนัก ก็เพราะมีแจ่มมาอยู่เป็นเพื่อนและคอยช่วยเหลือนี่แหละ ส่วนคนอื่นน่ะเหรอ หึ...ก็โดนบดินทร์สั่งไว้ไม่ให้รับใช้เธอยังไงล่ะ คนขับรถอย่างลุงแหลมก็เป็นหนึ่งในคนพวกนั้น ไม่นานลุงแหลมก็เดินมาหาเธอด้วยสีหน้าลำบากใจ เขาไม่ได้ไม่ชอบเธอหรอก เพียงแต่จำต้องทำตามคำสั่งของเจ้านายที่จ่ายเงินเดือนอย่างบดินทร์ จึงได้แต่ทำหน้ามึนใส่เวลาภรรยาของเจ้านายเรียกใช้งาน หากเขาขัดคำสั่งก็อาจจะโดนไล่ออกเอาได้ง่าย ๆ “คุณดินสั่งไว้ว่าไม่ให้ไปส่งคุณหนูดีครับ ลุงคงไปไม่ได้หรอก” ลุงแหลมบอกโดยไม่กล้าสบตากับเธอ เพราะรู้สึกผิดไม่น้อยที่ต้องทำแบบนี้ ดีน่าแสยะยิ้มมุมปาก เธอไม่ได้ยิ้มให้ลุงแหลม แต่อยากส่งรอยยิ้มนี้ไปให้ใครบางคนที่ขับรถชิ่งหนีเธอไปก่อนหน้านี้ต่างหาก “ถ้าอย่างนั้นหนูดีคงต้องโทรบอกคุณแม่สินะคะ ถึงจะมีคนขับรถไปส่งหนูดีที่มหาลัยได้ คุณแม่คงดีใจนะคะลุงแหลม ที่เฮียดินมีลูกน้องทำตามคำสั่งดีเยี่ยมขนาดนี้” ดีน่าหยิบโทรศัพท์ออกมาตั้งท่าจะโทรหาคุณหญิงลดาวัลย์ มารดาสุดที่รักของบดินทร์ ลุงแหลมที่หัวไวก็รีบเปลี่ยนทิศกลับลำกะทันหัน เอ่ยปากรับคำว่าจะไปส่งเธอเสียอย่างนั้น เพราะคำขู่บวกรอยยิ้มหวานบาดจิตบาดใจที่ดีน่ามอบให้ลุงแหลม ทำให้เธอได้นั่งรถตู้คันหรูของบ้านไปมหาวิทยาลัยแบบสวย ๆ สับ ๆ ไม่ต้องง้อบดินทร์อีกต่อไป “เฮ้อ สบายใจจัง” หลังจากเลิกคลาสช่วงบ่าย ดีน่ามาค้นข้อมูลในห้องสมุดของมหาวิทยาลัย เธออยากอ่านบทความของดอกเตอร์กาลเพิ่มเติม จำได้ว่าก่อนที่จะมาโผล่ที่นี่ เธออ่านบทความของดอกเตอร์ค้างไว้ “บทความที่ดอกเตอร์กาลเขียนมันคือเรื่องจริง และมันก็เกิดขึ้นกับฉันจริง ๆ โลกที่ฉันจากมาคือต้นปี 2566 แต่นิยายที่ฉันเขียนเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อปี 2564-2565 ระยะเวลาต่างกันแค่สองปี วันนี้คือวันอะไรหว่า” กดดูปฏิทินในมือถือก็เห็นว่าวันนี้คือวันจันทร์ที่ 27 กันยายน 2564 “งั้นก็แปลว่าหนูดีเพิ่งแต่งงานกับเฮียดินเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมานี่เอง พระนางเข้าห้องหอและมีอะไรกันในคืนวันแต่งงาน หลังจากนั้นนางเอกก็ตั้งท้อง และคลอดลูกตอนปิดเทอมฤดูร้อน ปี 2565 เป็นอันจบบริบูรณ์ ว่าแต่คืนนั้น...” ดีน่าจำได้ราง ๆ ว่าเธอตื่นขึ้นมาในชุดเจ้าสาว เห็นบดินทร์นั่งเปลือยกายกุมหน้าผากอยู่ข้างเตียง “ฉันเสียตัวแล้วเหรอเนี่ย!” นักเขียนสาวหลุดปากเปล่งเสียงดังลั่นห้องสมุด ทำเอาทุกคนหันขวับมามองกันระนาว ดีน่ายิ้มเจื่อน ๆ พร้อมก้มศีรษะลงเล็กน้อยเป็นการขอโทษทุกคนที่เสียมารยาท “นี่ฉันเสียซิงให้พระเอกไปแล้วเหรอ เป็นไปไม่ได้หรอกนา” “ไงจ๊ะหนูดี” สาวสวยในชุดนักศึกษารัดรูปเดินกรีดกรายเข้ามาทักทายอย่างไม่เป็นมิตรนัก ดูจากรอยยิ้มที่ส่งไปไม่ถึงดวงตาของเธอ “ใคร...?” “ตายจริง เสียตัวให้พี่ชายฉันแล้วถึงกับสมองฝ่อเลยเหรอจ๊ะ อุ๊ย ลืมไปสมองฝ่ออยู่แล้วนี่นา” คำพูดคำจาและท่าทางที่น่าหมั่นไส้แบบนนี้ ดีน่ารู้ได้ทันทีว่าคือใคร 'เทียน่า' น้องสาวตัวแสบของบดินทร์ อายุ 20 ปี เรียนอยู่ปี 2 คณะนิเทศศาสตร์ เพราะเทียน่านี่แหละที่ทำให้ดารากาต้องมาเรียนคณะนิเทศ เนื่องจากว่าภาสกรต้องการให้ดารากามาเป็นเบ้รับใช้ของลูกสาวของตน ด้วยความที่ดารากาเป็นคนที่ไม่กล้าแสดงออก ทำให้เธอใช้ชีวิตค่อนข้างลำบากกับการเรียนในมหาวิทยาลัย เธอไม่มีเพื่อนในสาขาเลยสักคน ต่างจากเทียน่าที่มีเพื่อนมากมายมารุมล้อม เนื่องจากเป็นถึงทายาทคนเล็กของตระกูลดัง “อ่อ ก็นึกว่าใคร เห็นเมื่อเช้าอาจารย์แจ้งคะแนนเก็บกับคะแนนสอบมิดเทอม เทียร์ได้ท๊อปติดกันสามวิชารวดเลย ยินดีด้วยนะ” “แล้วเธอเป็นไงบ้างล่ะ คะแนนรั้งท้ายของห้องตลอดเลยนี่” “ก็ไม่เดือดร้อนเท่าไรนะ มีผัวเป็นตัวเป็นตนแล้ว จะเครียดเรื่องเรียนไปทำไมให้ปวดหัว” ดีน่าลุกขึ้นยืนพลางเก็บสัมภาระลงกระเป๋าสะพาย เธอไม่อยากต่อความยาวสาวความยืดกับยัยตัวแสบตรงหน้าเท่าไรนักหรอก เพราะรู้ดีว่าหากมีปัญหาขึ้นมา เรื่องคงไม่จบง่าย ๆ แน่ “ฉันชอบเธอเวอร์ชันนี้นะ ดูสู้ชีวิตดี” “มันแน่นอนอยู่แล้วล่ะ ต่อไปนี้จะไม่มีใครมาข่มหนูดีได้อีก” “งั้นเหรอ ยังไงก็สู้ ๆ แล้วกันนะ ฉันเอาใจช่วย” ว่าจบ เทียน่าก็เด้งหน้าอกกระแทกใส่แขนดีน่า สะบัดก้นเดินจากไปพร้อมเหล่าเพื่อนสาวของเธอ มีหันกลับมายิ้มเยาะนิด ๆ เป็นการทิ้งท้ายอีกต่างหาก “นมใหญ่กว่าฉันแค่นิดเดียวทำมาเป็นอวด” มาแล้วค๊าบบบ หนูดีเวอร์ชันใหม่ไฉไลกว่าเดิม เพิ่มเติมคือแสบมาก คอมเมนต์พูดคุยกันนะค๊าบ เยิฟๆ ?
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD