คนมือบอนสร้างเรื่องสร้างราวถูกเรียกให้เข้าไปพบที่ห้องทำงานส่วนตัวของเจ้าของบ้าน ทว่าพอไปถึงก็โดนตำหนิเรื่องทำข้าวของเสียหายเป็นจำนวนมาก
“ไมโครเวฟระเบิด รู้ไหมว่าค่าเสียหายมันเท่าไร”
“เฮียดิน...” คนทำความผิดเถียงอะไรไม่ออก เธอนั่งคุกเข่าลงกับพื้น “นะ...หนูดีไม่ได้ตั้งใจ”
“ฉันบอกกี่รอบแล้ว ว่าเลิกหาเรื่องให้ฉันปวดหัวสักที อยู่เฉย ๆ มันจะตายหรือไงฮะ!”
“ก็บอกว่าไม่ได้ตั้งใจ จะเอาอะไรฮะ!” เจ้าของร่างน้อยยื่นปากเถียงอย่างแง่งอน คนตรงหน้าเอาแต่ดุด่าเธอไม่ยอมหยุดตั้งแต่ก้าวขาเข้ามาเหยียบในห้องนี้ อุตส่าห์พูดดี ๆ ด้วยก็แล้ว เดี๋ยวได้เจอท่าหักงวงไอยราหรอก
“นี่กล้าเถียงฉันขนาดนี้เลยเหรอ”
“ชิ!” กอดอกสะบัดหน้านี้ไปทางอื่น แล้วไงใครแคร์
“งั้นก็ไปเก็บกวาดครัวที่ทำเละเองแล้วกัน ถ้าไม่สะอาดเหมือนเดิมก็ไม่ต้องนอน”
“เฮีย! หนูดีจะเก็บไหวได้ยังไงคะ”
“ไม่รู้ ปากดีนัก ก็ทำเองซะสิ”
“ได้! เดี๋ยวรู้กัน” นาทีนั้นเธอรู้สึกน้อยใจนิด ๆ หากแต่อยากเอาชนะบดินทร์เสียมากกว่าจึงเอ่ยปากตอบรับคำกลับไป
หลังจากที่ถูกเจ้าของบ้านออกคำสั่งไม่ให้คนใช้คนอื่นมาช่วย ทั้งป้าแก้วและแจ่มต่างก็ช่วยกันทำความสะอาดเก็บกวาดห้องครัวด้วยความขะมักเขม้น
โดยหวังว่าจะได้เข้าห้องนอนไม่ดึกไปมากกว่าที่คาดเอาไว้ แต่กว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยก็ทำเอาแทบหมดเรี่ยวหมดแรงกันเลยทีเดียว
ดีน่าทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟายืดแขนยืดขาให้คลายอาการปวดเมื่อย
“น้ำเย็น ๆ ค่ะคุณหนูดี” แจ่มเอาน้ำเย็นมาเสิร์ฟ ก่อนจะนั่งลงกับพื้นยกสองมือนวดแขนนวดขาให้เจ้านายสาวอย่างรู้งาน
“ขอโทษป้าแก้วกับพี่แจ่มด้วยนะ เพราะหนูดีแท้ ๆ เลยที่ทำให้ทุกคนต้องมาลำบาก แอบมือบอนเร่งเตาอบไปหน่อยเดียวเอง ไม่คิดว่าจะต้องอดหลับอดนอนมาเก็บกวาดข้าวของแบบนี้”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณหนูดี ป้าลงเรือลำเดียวกับคุณหนูดีแล้ว ยังไงก็ต้องช่วยกันจนกว่าจะถึงฝั่ง”
“แจ่มก็ด้วยค่ะ บอกแล้วไงคะว่าแจ่มจะปกป้องดูแลคุณหนูดียิ่งกว่าชีวิต”
“แหมพี่แจ่ม ฉันเห็นหรอกนะว่าใครหนีออกจากครัวไปก่อนคนแรก” แจ่มได้แต่ยิ้มเจื่อน ๆ สองมือยังคงนวดขาให้เจ้านายสาว “แต่ก็เอาเถอะ ถึงยังไงก็ขอบคุณมากนะ ไม่มีป้าแก้วกับพี่แจ่มฉันคงแย่กว่านี้”
ระหว่างที่หนึ่งนายสองบ่าวพูดคุยกันอยู่ตรงโซฟาห้องรับแขก สายตาคู่หนึ่งก็จับจ้องดูอยู่ในระยะที่ไกลพอสมควร ซ้ำแล้วมุมปากยังยกยิ้มขึ้นด้วยความพอใจ
แม้ว่าปากจะร้าย สุดท้ายแล้วก็อดที่จะเอ็นดูในความโก๊ะ ๆ เปิ่น ๆ ของภรรยาตัวน้อยไม่ได้ หากไม่โดนผู้ใหญ่บังคับให้แต่งงานกันเสียก่อน ภรรยาที่เขาจะเลือก ไม่แน่อาจจะเป็นเธอก็ได้
แต่แล้วรอยยิ้มที่ขยายกว้างอยู่บนใบหน้าพลันหุบลงทันตา เขาไม่ชอบขี้หน้าเธออยู่นี่หว่า ต้องสมน้ำหน้าสิถึงจะถูก
“สมน้ำหน้า!” ว่าแล้วบดินทร์ก็เดินกลับเข้าห้องนอนไปด้วยความสับสนในใจ
วันต่อมา
ลดาวัลย์หอบของกินมากมายมากองไว้บนโต๊ะทานข้าว ในบ้านหลังใหญ่ซึ่งตั้งอยู่ในอาณาเขตของบ้านสวน เธอตั้งใจจะมาดูความเป็นอยู่ของลูกชายกับลูกสะใภ้เสียหน่อย ซึ่งก็พอรู้อยู่ว่าไม่ค่อยจะดีจนถึงขั้นที่เรียกว่าแย่ก็ได้
“เป็นไงบ้างหนูดี อยู่กับเฮียดินมันทำอะไรหนูดีรึเปล่าลูก บอกแม่มาได้เลยนะ เดี๋ยวแม่จัดการมันให้เอง”
ลูกสะใภ้เห็นแม่สามีหมายมั่นปั้นมืออย่างเด็ดขาด น้ำตาที่เหมือนสั่งได้ดั่งใจก็ไหลพรากลงมาทันที เรื่องบีบน้ำตาให้ผู้ใหญ่สงสารนี่เธอถนัดนักแหละ เดี๋ยวเถอะเธอจะเอาคืนที่ไอ้พระเอกมันแกล้งเธอเอาไว้หนักหน่วงโคตร
“อึก!”
“หนูดี...”
“ฮึก! ฮือ ๆ” สูดน้ำมูกนิด ๆ เบะปากคว่ำหน่อย ๆ
“หนูดีเป็นอะไรลูก เกิดอะไรขึ้น”
“เฮียดินใจร้ายกับหนูดีมากเลยค่ะคุณแม่ เมื่อวานเฮียดินสั่งให้หนูดีทำความสะอาดครัวทั้งคืนแน่ะ ยุงก็เยอะจะแย่”
ฟ้องไปน้ำตาก็ไหลพรากไป ฝ่ายมารดาของบดินทร์ก็เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันไม่พอใจลูกชายตนเองไปด้วย ถ้าอยู่ตรงนี้คงอาจจะโดนบีบคอตายไปแล้วก็ได้
“โถ ๆ ๆ หนูดีของแม่น่าสงสาร เฮียดินนี่มันใช้ไม่ได้เลย ทำอย่างนี้กับหนูดีของแม่ได้ยังไง”
“ไม่ใช่แค่นี้นะคะคุณแม่ เมื่อวันก่อนเฮียดินพาผู้หญิงมานอนที่บ้าน ไม่นึกถึงใจภรรยาอย่างหนูดีบ้างเลย ไม่คิดจะยกย่องหนูดีในฐานะภรรยาด้วยซ้ำ”
“ขนาดนั้นเลยเหรอลูก เดี๋ยวแม่จัดการให้ ทำแบบนี้มันหยามกันเกินไปแล้ว” แม่สามีเห็นลูกสะใภ้น่าสงสารขนาดนี้ก็เข้ามากอดลูบหน้าลูบหลังอย่างอ่อนโยน
แค่คิดว่าบดินทร์จะต้องเจอกับอะไรก็สาแก่ใจดีน่านัก!
ทันทีที่เห็นบดินทร์กลับมาถึงบ้าน สายตาของมารดาก็ตวัดมองลูกชายด้วยความไม่พอใจเป็นอย่างมาก กล้าดียังไงมาหักหาญน้ำใจลูกสะใภ้คนโปรดของตน โดยไม่มีโอกาสได้เห็นใบหน้าของของลูกสะใภ้ที่เกยอยู่บนบ่าประดับรอยยิ้มร้ายอย่างแนบเนียน
“ไอ้ลูกทรพี! กล้าดียังไงทำตัวเหลวแหลก! ทำตัวชั่วช้ากับหนูดีแบบนี้ฮะ!”
คนเป็นแม่พุ่งตัวเข้าไปฟาดต้นแขนลูกชายไม่ยั้ง โดยที่เขาไม่สามารถโต้ตอบหรือขัดขืนได้เพราะกลัวแม่จะบาดเจ็บ จึงได้แต่หลบเป็นพัลวัน
“โอ๊ยแม่ นี่ผมลูกชายแม่นะ เห็นคนอื่นดีกว่าผมได้ไงเนี่ย” เขาตวัดหางตาไปมองตัวต้นเหตุ เธอมันแสบไม่ใช่น้อยเลย
“หน็อย! แกว่าน้องเป็นคนอื่นได้ยังไง นั่นเมียแกนะไอ้บดินทร์”
เมื่อความพิโรธพุ่งขึ้นสูงจากตา บดินทร์ของแม่ก็กลายเป็นไอ้บดินทร์ทันที ไม่รู้ได้เรี่ยวแรงมาจากไหนฟาดได้ฟาดไม่ยั้ง
ดีน่าเห็นแล้วก็สาแก่ใจเธอยิ่งนัก คนเดียวที่บดินทร์ยอมคือมารดาของเขา และรายต่อไปที่บดินทร์จะต้องยอมก็คือเธอ หมายมั่นตั้งใจไว้แล้ว เขาเสร็จเธอในไม่ช้าแน่
พอพ้นฝ่ามือพิฆาตของมารดามาได้ บดินทร์ก็เตรียมตัวจะออกไปข้างนอก ไม่คิดจะสนใจภรรยาที่เขาไม่ได้อยากได้แม้แต่น้อย หน้ายังไม่อยากมองเลย เชิญโอ๋กันต่อตามสบาย
“เดี๋ยว! บดินทร์ของแม่จะออกไปข้างนอกเหรอลูก พาหนูดีไปเปิดหูเปิดตาด้วยสิ น้องอยู่แต่ในบ้านคงเบื่อแย่”
เสียงสวรรค์ดังขัดตั้งแต่เขายังไม่ทันได้ก้าวเท้าออกจากประตูบ้าน พอคนเป็นแม่อารมณ์ดีขึ้น บดินทร์ก็กลับมาเป็นลูกรักกึ่งลูกชังเหมือนเดิม
บดินทร์กลอกตาไปมาอย่างเซ็ง ๆ เขาตั้งใจจะออกไปเที่ยวแก้เซ็ง ไม่ได้อยากจะพาใครบางคนไปให้เซ็งกว่าเดิมซะหน่อย
แต่ก็ขัดคำสั่งคนเป็นแม่ไม่ได้อยู่ดี
ดีน่าเดินเข้าร้านโน้นออกร้านนี้อย่างเพลิดเพลิน หลังถูกพามาปล่อยให้เดินเล่นในห้างใหญ่ ส่วนบดินทร์ก็เดินแยกไปทำธุระส่วนตัว
สามงสามีอะไรดีน่าไม่สนใจหรอก ขอแค่มีเครดิตการ์ดในมือ จะมีเขาหรือไม่มีก็ไม่สำคัญอยู่แล้ว
ตกกระไดพลอยโจนได้เป็นลูกสะใภ้เศรษฐีก็ดีแบบนี้แหละหนา อยากได้อะไรก็ซื้อ ไม่ต้องกระเบียดกระเสียรเวลาใช้จ่าย เพราะกลัวจะไม่มีเงินกินข้าวจนครบเดือน
เมื่อซื้อของเสร็จสรรพ บดินทร์ก็พาภรรยาแสนชังมาทานข้าวที่ร้านอาหาร ยิ่งเห็นเธอหอบข้าวของมากมายมานั่งทานข้าวอย่างมีความสุข เขายิ่งไม่พอใจเธอมากขึ้นไปอีก
“หึ สบายใจจริงนะ ใช้เงินมือเติบ” บดินทร์อดที่จะแขวะภรรยาที่เขาไม่ปรารถนาไม่ได้
“คุณแม่อนุญาตแล้วค่ะ เฮียดินทำใจซะนะคะจะได้ตายตาหลับ”
ใช่ เธอรู้ว่าเขาชอบให้อะไรเป็นดั่งใจเสมอ แต่เรื่องของเธอกลับตรงกันข้ามสำหรับเขา เขาไม่ได้อยากแต่งงานกับเธอตั้งแต่แรก ไม่แปลกที่ไม่ว่าเธอจะทำอะไรก็ไม่ถูกใจเขาทั้งนั้น
“ปากดีนักนะ! ฉันอยากจะหย่ากับเธอซะวันนี้พรุ่งนี้เลยหนูดี เบื่อขี้หน้าจะแย่แล้ว” บดินทร์ว่าอย่างตรงไปตรงมา อันที่จริงเขาก็พูดกับเธออย่างนี้ตั้งแต่คืนแรกที่แต่งงานกัน
ดีน่าฟังแล้วก็อดน้อยใจแทนดารากาไม่ได้ ทนอยู่กับผู้ชายพรรค์นี้ได้ไงจนถึงตอนจบ เป็นเธอจะหย่าแล้วหอบเงินหนีไปใช้ชีวิตอยู่คนเดียวแล้ว ทว่ามันก็เป็นได้เพียงแค่ความคิด เธอเองคงทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะต้องกลับไปยังโลกที่จากมา เธอทำได้เพียงยักไหล่เหมือนไม่แคร์คำพูดของเขา เรื่องอะไรจะยอมให้เขารู้ว่าคำพูดพวกนั้นกระทบความรู้สึกในใจของเธอ
“อยากหย่าก็ไปบอกแม่เฮียสิคะ”
ดีน่าท้าทายอย่างไม่เกรงกลัว เธอรู้ดีว่ายังไงคุณหญิงลดาวัลย์ก็ไม่ยอมให้ลูกชายหย่ากับดารากาแน่ บดินทร์เองก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากพูดจาแขวะและแกล้งเธอไปวัน ๆ ให้พอหายหมั่นไส้ลงบ้าง
เหอะ...ลูกรักของแม่ ส่วนเขามันลูกชายตกกระป๋องชัด ๆ
มาแล้วค๊าบบบ
ได้น้องเป็นเมีย ทำใจซะนะเฮียจะได้ตายตาหลับ 5555
คอมเมนต์พูดคุยกันนะค๊าบ เยิฟๆ ?