“ไหนล่ะคุณบดินทร์ที่ว่า...” ไม่สิ เธอควรจะเรียกเขาตามที่ดารากาเรียกสิถึงจะถูก “ไหนล่ะเฮียดินของหนูดี”
“แค่ก! แค่ก!” ทนายคงเดชที่นั่งรอเจรจาอยู่ตรงโซฟาถึงกับสำลักน้ำที่เพิ่งดื่มเข้าไป
ใคร ๆ ก็รู้ว่าบดินทร์ชังน้ำหน้าดารากาภรรยาที่เขาไม่ได้ปรารถนาแค่ไหน ทำไมเธอถึงกล้าเรียกซะเป็นเจ้าข้าวเจ้าของของบดินทร์แบบนั้น
“คุณ...?”
“สวัสดีครับคุณดารากา ผมคงเดชเป็นทนายส่วนตัวของคุณบดินทร์นะครับ”
“คุณทนายมีอะไรหรือเปล่าคะ” ถามไปอย่างนั้นแหละ ดีน่ารู้อยู่หรอกว่าทนายคงเดชมีธุระอะไรกับเธอ
ขณะที่หย่อนตัวลงนั่งบนโซฟาตรงข้ามคู่สนทนา สายตาก็มองหาคนรับใช้ไปด้วย แต่จนแล้วจนเล่าก็ไม่มีใครมาดูแลเธอในฐานะภรรยาของเจ้านายเลย
“คุณบดินทร์มอบหมายให้ผมจัดการทำสัญญาประนีประนอมยอมความเรื่องการหย่าครับ”
“แล้วไหนเขาล่ะ ส่งแต่ทนายมาคุยกับหนูดี แล้วตัวเขามุดหัวอยู่ที่ไหนไม่ทราบ!”
“อย่าพูดถึงคุณดินแบบนั้นนะคะ คุณดินรอคุณหนูดีตั้งนานสองนานแล้ว แต่คุณหนูดีนั่นแหละที่เพิ่งตื่นเอาป่านนี้” คนรับใช้คนหนึ่งเอ่ยแทรกขึ้นมาอย่างเสียมารยาท
ดีน่าหันไปมองตามเสียงพูดแทรกของคนเมื่อครู่ก็รู้ได้ทันทีว่าคือใคร ดูจากยูนิฟอร์มที่สวมใส่แตกต่างจากคนรับใช้คนอื่นในบ้าน
'ป้าแก้ว' คือคนรับใช้ที่ 'คุณหญิงลดาวัลย์' ส่งตัวมาดูแลดารากาหลังแต่งงาน แต่ดูท่าจะเอนเอียงอยู่ฝ่ายของบดินทร์เสียมากกว่า
“ผมร่างสัญญามาแล้วนะครับ หากคุณดารากาติดใจในข้อไหนสามารถตกลงเจรจากันได้”
“หนูดีไม่หย่า เพิ่งแต่งงานมีผัวแค่คืนเดียวก็จะยัดเยียดให้เป็นหม้ายแล้วเหรอ ใจร้ายไปปะ” คำพูดและท่าทางที่เปลี่ยนไปของดารากาทำเอาทนายคงเดชและคนรับใช้คนอื่น ๆ ต่างงุนงงกันระนาว
ปกติแล้วดารากาจะไม่พูดจาหยาบคาย ยิ่งถูกคนที่เธอรักส่งทนายมาขอหย่าหลังคืนวันแต่งงานแบบนี้ เธอคงแก้ปัญหาด้วยการร้องไห้ แต่ทว่าครานี้กลับดูผิดแปลกไปจากเดิม
“คุณบดินทร์ให้ผมทำสัญญาเอาไว้ก่อน อาจจะยังไม่ได้เซ็นใบหย่าเร็ว ๆ นี้หรอกครับ คุณดารากาสามารถเรียกค่าชดเชยได้เต็มที่ คุณบดินทร์ยินดีที่จะจ่ายให้”
“เรื่องนี้คุณปู่รู้หรือยัง”
“อย่าให้กลายเป็นเรื่องใหญ่เลยนะครับ คุณดารากาก็น่าจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร”
“งั้นก็แปลว่าคุณปู่ยังไม่รู้ คุณทนายมาทางไหนหมุนข้อเท้าเดินกลับไปทางนั้นเลยนะคะ ถึงยังไงหนูดีก็ไม่หย่าหรอกค่ะ”
ดีน่ายื่นคำขาด เธอลุกขึ้นยืนพลางกวาดสายตามองคนรับใช้ที่พากันเงี่ยหูฟังเรื่องเจ้านาย ก่อนที่ทุกคนจะสลายตัวไปทำงานของตัวเองในพริบตา
“คุณดารากาแน่ใจใช่ไหมครับว่าต้องการให้เรื่องนี้ถึงศาล”
“แล้วลูกความคุณทนายเขาว่ายังไงล่ะคะ”
“ไม่เอานา ผมว่าอย่าทำให้เรื่องมันวุ่นวายจะดีกว่านะครับ ขึ้นโรงขึ้นศาลไม่ใช่เรื่องสนุก”
“คุณทนายคงไม่รู้อะไร เรื่องวุ่นวายน่ะของชอบฉันเลยล่ะค่ะ อยากหย่านักก็ไปฟ้องศาลเอา แต่ก่อนฟ้องศาลฉันขอเอาเรื่องนี้ฟ้องคุณปู่กับคุณลดาก่อนนะ”
นาทีนี้ต้องยกชื่อของคุณปู่วายุภัคและคุณหญิงลดาวัลย์มาข่มขู่ ทางนั้นถึงจะลดราวาศอก ดีน่าสะบัดก้นเดินสับสะโพกขึ้นไปยังชั้นสองของบ้าน
ใครจะมองยังไง เธอไม่สน
'คุณบดินทร์ได้ยินทุกอย่างแล้วใช่ไหมครับ'
“อืม ได้ยินแล้ว คงต้องเกลี้ยกล่อมเธอด้วยวิธีอื่น หากมีทางเลือกที่ดีกว่านี้ก็แนะนำด้วยแล้วกัน”
'ได้ครับคุณบดินทร์'
หลังจากวางสายของทนายคงเดช บดินทร์ก็หัวเสียเป็นบ้า ข้าวของบนโต๊ะทำงานถูกกวาดทิ้งกระจัดกระจายด้วยฝีมือของเขา
“คงจะอยากเป็นเมียฉันจนตัวสั่น ในเมื่อไม่ยอมหย่ากันดี ๆ ก็อย่าหวังว่าจะอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขเลย”
เขาเสนอทางเลือกที่ประนีประนอมแล้ว แต่เธอกลับบีบบังคับให้เขาต้องใจร้าย
ทางด้านดีน่า หลังจากเดินพ้นทนายคงเดชเพียงประเดี๋ยวเดียว กล้ามเนื้อขาก็อ่อนแรงลงฉับพลัน
“ละ...หลุดเข้ามาในนิยายตั้งแต่เริ่มเรื่องเลยเหรอนี่ ฉิบหายแล้ว! ฉันจะหาทางกลับไปยังไง”
ภายใต้ความมั่นหน้ามั่นโหนกก่อนหน้านี้ ใครจะรู้ว่าก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายของเธอกลับต้องทำหน้าที่อย่างหนักหน่วง อีกนิดก็จะกระเด็นหลุดออกมาจากเบ้าอยู่แล้ว
“ทุกคนต้องไม่เชื่อแน่ว่าฉันหลุดเข้ามาในนิยายน้ำเน่า พระเอกเลวและหูเบา นางเอกโง่เง่าและอ่อนแอจนน่ารำคาญ เริ่มเรื่องว่าน่าหงุดหงิดแล้ว ตอนจบยิ่งห่วยแตกไปกันใหญ่”
ดีน่านั่งทบทวนตัวละครและร่างพล็อตเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบไว้คร่าว ๆ
เขา...คือผู้ชายที่แสนใจร้ายและเย็นชา
เธอ...คือหญิงสาวที่รักเพียงแต่เขาจนหมดหัวใจ
บดินทร์หรือเฮียดิน นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ ทายาทคนโตของตระกูลภิรมย์ภัทร สุขุมลุ่มลึก ภายใต้ใบหน้าฟ้าประทานซ่อนความอันตรายไว้กรุ่น ๆ
เกลียดการถูกบังคับ ยิ่งถูกบังคับก็จะยิ่งต่อต้าน
ดารากาหรือหนูดี เด็กกำพร้าที่ตระกูลภิรมย์ภัทรรับมาเลี้ยงตั้งแต่แบเบาะ เธอได้รับการอบรมสั่งสอนให้เป็นแม่บ้านแม่เรือน ถูกปลูกฝั่งให้รักบดินทร์ตั้งแต่ยังเล็กยังน้อย เพื่อโตมาจะได้เป็นเจ้าสาวที่เพียบพร้อมของบดินทร์โดยเฉพาะ
“พล็อตนี้ไม่โอ บทพระนางเรื่องนี้หาความสมเหตุสมผลไม่ได้เลย อีกคนก็นิสัยไม่ดี อีกคนก็ยอมง่ายไป”
ดีน่ากระแทกหลังพิงกับเก้าอี้ พ่นลมหายใจยาวเหยียดออกมา ก่อนจะยกมือเท้าคางอย่างใช้ความคิด คงต้องทำอะไรสักอย่าง ทว่าสิ่งที่เธอติดใจมากที่สุดตอนนี้คือ...
“ทำไม! ทำไมชื่อของเธอถึงได้จืดชืดแบบนี้ฮะยัยหนูดี” ได้แต่สงสัยในตัวเองว่าตอนนั้นคิดอะไรอยู่ ถึงได้ตั้งชื่อให้นางเอกเชยเป็นบ้าเลย “แต่จะว่าไป ชื่อหนูดีก็เหมือนชื่อของหนูนาผสมกับชื่อของดีแลนด์เลยนะ จังหวะนี้เซ็ตแด๊ดดี้ต้องมา แล้วฉันก็จะเปลี่ยนชื่อเรื่องใหม่เป็น อ่อยรักคุณสามีจอมโหดของหนูดี คิกคิก”
ไหน ๆ ก็หลุดเข้ามาในนิยายสุดห่วยของตัวเองแล้ว ก็สร้างตำนานให้มันซะเลย
“เอาล่ะ ฉันจะเปลี่ยนนิยายน้ำเน่าเรื่องนี้ให้เป็นนิยายน้ำดีเอง” นักเขียนสาวว่าอย่างมุ่งมั่นตั้งใจ
“คุณหนูดี เกิดเรื่องแล้วค่ะ” สาวรับใช้สองคนก็วิ่งพรวดพราดเข้ามาในห้องอย่างเสียมารยาท
“มีอะไร”
พฤติกรรมของพวกเขาเห็นแล้วก็น่าหงุดหงิดอยู่หรอก แต่ดูจากท่าทางที่วิ่งแตกตื่นเข้ามาแบบนั้น คงมีเรื่องให้ดีน่าต้องจัดการจริง ๆ
“มีคนมาโวยวายอยู่หน้าบ้าน ไล่เท่าไรก็ไม่ยอมไป บอกว่าจะเจอคุณหนูดีให้ได้”
“ใครกัน”
“ไม่ทราบเหมือนกัน ทราบแต่ว่าเขาต้องการเจอคุณหนูดี ออกไปดูก่อนเถอะค่ะ”
“ไม่ได้ถาม แล้วก็ไม่ต้องมายืนสั่งจ้ะ” ดีน่าหันไปวีนใส่สาวรับใช้ที่ยืนค้ำหัวและชี้นิ้วสั่งเธออยู่ฉอด ๆ
ถือว่าโชคดีนะที่คนสวย ๆ อย่างเธอไม่มีเวลามาต่อปากต่อคำ ไม่อย่างนั้นจะด่าให้หาทางกลับเข้าก้นครัวไม่ถูกเลย
ดีน่าปิดสมุดที่บันทึกเหตุการณ์สำคัญ ๆ ของเรื่องเอาไว้ ก่อนจะกึ่งวิ่งกึ่งเดินออกไปดูหน้ารั้วบ้าน ด้วยความที่เธอเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าใครมาหา
มาแล้วค๊าบ
แล้วมาดูกันว่าเรื่องนี้ดีน่ากับนังดินใครจะฉิบหายกว่ากัน
♦️กดหัวใจเพื่อเป็นกำลังใจให้ควีน
♦️กดเพิ่มชั้นเพื่ออ่านก่อนใคร และคอมเมนต์พูดคุยกันงับ เยิฟ ๆ