ความสุขของนกน้อย 1

2269 Words
หลังจากนกน้อยเหมยเหมยบินออกมาจากห้องบรรทมของพระชายารองฮุ้ยเตียว เพื่อหนีภาพที่ส่งผลกระทบทางจิตใจ และอาจทำให้เธอเป็นตากุ้งยิง นกน้อยได้บินสำรวจวังหลวงที่กว้างใหญ่มาก นกตัวกระจิดริดคงบินสำรวจไม่ได้ในวันเดียว           วังหลวงไม่เพียงแค่เป็นที่พำนักของฮ่องเต้ องค์รัชทายาทและเชื้อพระวงศ์ ยังมีตำหนักพระเมเหสีและพระสนมอีกหลายตำหนัก ยังไม่รวมกับนางกำนัลชั้นสูงที่ถวายตัวให้ฮ่องเต้ที่โปรดปรานบ้าง ละเลยไปมากก็มี ยังมีกระทรวงและฝ่ายต่างๆ ที่อยู่ในวังหลวงด้วย ไม่แปลกที่วังหลวงจะใหญ่จนนกน้อยบินไม่ทั่ว           นกน้อยบินมาเรื่อยๆ จนถึงสระบัวที่องค์รัชทายาทมักมานั่งชมความงดงาม แต่พอนึกถึงหน้าคนมีเมียเยอะ นกน้อยก็พาลไม่อยากชื่นชมความงามของดอกบัว บินเลยผ่านไปและมองเห็นแม่น้ำที่อยู่ไม่ห่างจากำแพงวังมากนัก นกน้อยจึงบินไปยังแม่น้ำสายนั้น หวังจะไปจิบน้ำให้หายหงุดหงิดใจ แล้วเกาะบนกิ่งไม้เพื่อพักเหนื่อย           ไม่ห่างจากแม่น้ำมากนัก น่าจะประมาณห้าสิบเมตร นกน้อยเห็นม้าสามตัวถูกไว้กับต้นไม้ เห็นเสื้อผ้ากองอยู่ใกล้ๆ บินเข้าไปใกล้อีกก็เห็นชายหนุ่มตัวขาวจั๊วะกำลังเล่นน้ำกันอยู่           โอ้แม่เจ้า ตัวขาวยังกับหยวกกล้วย แถมล่ำ กำยำและกล้ามโต           นกน้อยที่ตั้งใจบินไปเกาะกิ่งไม้ พอเห็นสามชายรูปร่างหน้าตาดีก็บินไปเกาะโขดหินที่อยู่ใกล้กับจุดที่ชายฉกรรจ์ทั้งสามเล่นน้ำอยู่           โห...หน้าตาหล่อด้วย หุ่นก็ดี กล้ามก็ใหญ่ หน้าท้องก็เป็นลอน ดูสิดู หัวนมสีชมพูเชียว... ตายแน่ ตายแน่ๆ นกตัวน้อยตายแน่ๆ หล่อกระชากใจนกน้อยเสียจริง แก้ผ้าเล่นน้ำกันด้วย ธิดาดอยใช้ความเป็นนกให้เกิดประโยชน์ ยืนชมความหล่อ หุ่นลำและกำยำตาปรอย พอมองลงมาด้านล่าง อวัยวะที่อยู่ใต้น้ำไม่มีอะไรปิดบัง และแม่น้ำก็ใสแจ๋ว ทำให้นกน้อยมองเห็นเจ้าตัวน้อยของทั้งสามถนัดตา ป๊าด!...น้ำลายนกแทบจะไหล กลายเป็นนกก็ดีแฮะ ส่องหนุ่มได้ตามสะดวก สามหนุ่มร่างบึกบึนที่กำลังเล่นน้ำชายสองคนเป็นพี่น้องกันนามว่า หลี่หมิงเถา ซึ่งเป็นพี่ชาย ส่วนน้องชายชื่อหลี่ลี่จิง ทั้งสองเป็นลูกชายอำมาตย์ซ้าย ส่วยชายอีกคนที่ร่างบางกว่าสองพี่น้องนามว่า จิ้นจ้าว เป็นลูกชายขุนนางฝ่ายปกครอง “เจ้าลงมาอาบน้ำตั้งนานแล้ว ขึ้นไปได้แล้วไป” หลี่หมิงเถาบอกน้องชายที่อายุห่างกันเพียงหนึ่งปี แต่ความเฉลียวฉลาดและความหล่อเหลา สู้คนเป็นน้องไม่ได้ “ข้ารู้หรอกว่า ท่านพี่ไล่ข้าขึ้นทำไม” “รู้ก็รีบขึ้นสิ พูดมากอยู่ได้” “ท่านไปไล่ท่านลี่อย่างนี้ เสียมารยาทนะขอรับ” จิ้นจ้าว ชายใจหญิงตำหนิคนรัก “ก็ต้องไล่สิ ไม่ไล่จะไปเหรอ ทำตัวเป็นก้างขวางคออยู่ได้” นกน้อยฟังคำพูดของทั้งสามก็พอจะเข้าใจ แล้วพอรู้ความหมายเธอก็ต้องตกใจ ไม่คิดว่า ชายหน้าหล่อทั้งคู่คบหากัน แต่ก็ไม่รู้ว่า อีกหนึ่งหล่อจะเป็นด้วยหรือไม่ ไม่ว่าจะสมัยอดีตหรือปัจจุบัน ผู้ชายช่างดูยากเหลือเกิน ถ้าไม่เป็นขันทีถูกตัดตอน สมัยที่ตนหลงมาช่างดูยากเหลือเกิน แต่ไม่เป็นไร ให้อภัยเพราะความหล่อ           “ข้าขึ้นก็ได้ ข้าต้องมีงานอีกหลายอย่างต้องทำ ท่านพี่เสร็จธุระส่วนตัวแล้วก็อย่าลืมหน้าที่ของตัวเองก็แล้วกัน” คนเป็นน้องเตือน           “ข้ารู้น่า เจ้ารีบขึ้นไปเถอะ” หลี่ลี่จิงไม่อยากขัดใจพี่ชาย จึงก้าวเดินขึ้นจากน้ำด้วยสภาพเปลือยกายล่อนจ้อน ไม่มีอะไรปิดของลับที่ขยับเคลื่อนไหวตามการก้าวเดิน           โอ้แม่เจ้า โทงเทงเลยเว้ย โอ้ๆๆๆ นี่ขนาดยังไม่โตนะเนี่ยยังตื่นตาตื่นใจ ถ้าเติบใหญ่จะขนาดไหนเนี่ย นกน้อยจะเป็นลม           นกน้อยเหมยเหมยไม่เพียงแค่คิดว่าอยากจะเป็นลม นกน้อยกำลังรู้สึกเช่นนั้นจริง รู้สึกสมองมันโหวงหวิวผิดแปลก ดวงตาพร่าลาย แล้วอยู่ๆ หัวนกน้อยก็ห้อยลง เป็นจังหวะเดียวกันกับที่หลี่ลี่จิงเดินผ่านโขดหิน มองเห็นนกหงส์หยกคอห้อย           “เจ้าเป็นอะไรนกน้อย” หลี่ลี่จิงที่รักสัตว์เป็นทุนเดิม เดินมาหานกหงส์หยกที่ไม่ธรรมดา ก่อนจะจับมันมาวางไว้บนฝ่ามือ “เจ้าง่วงนอนหรือ”           เสียงนุ่มๆ แฝงไว้ซึ่งความอ่อนโยนทำให้นกน้อยที่คล้ายเป็นลมผงกหัวขึ้นมา แล้วพอมองเห็นหน้าชายหนุ่มร่างเปลือยเมื่อครู่ นกน้อยเหมยเหมยก็ร้องว้าวในใจ เพราะหน้าตาเขาระยะใกล้ หล่อเหลาบาดความรู้สึกเหลือเกิน แถมตัวยังขาว อกก็น่าซบ ยอดอกเป็นสีชมพูมีเสน่ห์ แต่แล้วอยู่ๆ ใบหน้าขององค์รัชทายาทก็เข้ามาแทนที่ นกน้อยเหมยเหมยถึงกับตกใจ           ยังตามมาหลอกหลอนกันอีก           “เจ้าหิวหรือไม่ ถ้าหิวไปกับข้าไหม ที่บ้านข้ามีอาหารนกด้วยนะ เจ้าอยากกินเยอะแค่ไหนก็ได้ ถ้าเจ้าอยากไปก็บินตามข้ามานะ ข้าใส่เสื้อผ้าเดี๋ยวเดียว” คนหล่อชวนแบบนี้มีหรือนกน้อยจะไม่ไป ธิดาดอยในรูปลักษณ์นกน้อยรีบบินไปเกาะโขดหิน ไม่ได้เปลี่ยนทิศทางการมอง ยังคงมองชายหนุ่มใจดีเปลี่ยนเสื้อผ้าหน้าตาเฉย เพราะโอกาสที่จะได้ใกล้ชิดหนุ่มหล่อ หุ่นงาม กล้ามเป็นมัด ตอนเป็นมนุษย์มีโอกาสซะที่ไหน ยามเป็นนกก็ต้องมองให้คุ้ม .................................           นกน้อยบินตามหลี่ลี่จิงที่เยาะม้าไปยังจวนหลังหนึ่งที่อยู่ในเมืองหลวง จวนหลังนี้อยู่ห่างจากวังหลวงไม่มากนัก เป็นจวนหลังใหญ่มา พื้นที่กว้างขวาง มีข้าทาสรับใช้กำลังทำความสะอาดลานกว้าง บ้างก็ทำอย่างอื่นตามหน้าที่ และเมื่อหลี่ลี่จิงนำม้ามาถึงหน้าประตูบ้าน คนรับใช้ชายรีบปรี่มาจูงม้าไปที่โรงม้า ส่วนเจ้าตัวเดินเข้าไปในบ้าน ระหว่างทางที่เดิน หลี่ลี่จิงเงยหน้ามองนกน้อยเหมยเหมยที่บินอยู่ด้านข้าง           “เจ้านี่น่ารักจัง เชื่องด้วย” หลี่ลี่จิงพูดกับนกที่ฟังภาษาคนออก           “จิ๊บๆ” นกเหมยเหมยตอบกลับ ที่แปลเป็นภาษาคนว่า ‘ข้าน่ารักอยู่แล้ว’ นกอวยตัวเอง           “เจ้าเป็นนกมีเจ้าของหรือไม่ ถ้าเจ้าเป็นนกที่ไม่มีเจ้าของ เจ้ามาอยู่กับข้าไหม” หากนกเหมยเหมยเหมือนนกหงส์หยกทั่วไป นกเหมยเหมยอยากตอบออกไปเหลือเกินว่าอยากอยู่ แต่นี่กลางวันเป็นนก กลางคืนเป็นคน เธอจะอยู่ที่ใดและกับใครได้นอกจาก องค์รัชทายาท บุรุษเพียงคนเดียวที่ล่วงรู้ความลับนี้ “ข้าว่าเจ้ามาเกาะบนบ่าข้าดีไหม เจ้าจะได้ไม่ต้องเหนื่อยบิน”           ความปรารถนาดีของเขา นกน้อยก็อยากตอบสนอง ถ้าไม่ติดคำพูดเชิงสั่งของคนมีเมียเยอะที่ว่า ‘อย่าบินไปเกาะบ่าใครนอกจากข้า’ นกน้อยคงทำไปแล้ว แต่ก็ไม่อยากให้หนุ่มหล่อเสียน้ำใจเพราะเธอก็จะเสียใจไปด้วย เหมยเหมยพยายามคิดว่า จะแก้ไขสถานการณ์อย่างไร           เอ...เกาะบ่าไม่ได้ เกาะไรดีหว่า           นกเหมยเหมยคิด พร้อมกับมองไปยังร่างสูงใหญ่ และแล้วนกจอมหื่นก็เห็นว่า จะมีส่วนใดให้ตนเกาะได้นอกจากบ่า...บนศีรษะ “จิ๊บๆ” เหมยเหมยบินไปเกาะบนศีรษะหลี่ลี่จิง “แหม เจ้านี่เข้าใจเกาะนะ ไปเกาะบนหัวข้าซะด้วย” คนพูดไม่ได้คิดอะไร ติดขบขันมากกว่า ก่อนที่เขาจะก้าวเดินเข้าไปในบ้าน “คุณชายรองขอรับ มีนกเกาะอยู่บนหัวขอรับ” พ่อบ้านหม่าตกใจไม่น้อยที่เห็นนกตัวน้อยเกาะอยู่บนศีรษะผู้เป็นนาย หมายจะไล่ไปให้พ้น ทว่าเสียงของคุณชายรองดังขัดขึ้นเสียก่อน “ไม่ต้องไล่นกตัวนี้ ข้าบอกให้มันมาเกาะบนตัวข้าเอง” “ขอรับคุณชายรอง” พ่อบ้านหม่ารับคำ ก่อนรายงาน “ท่านอำมาตย์สั่งไว้ว่า ถ้าคุณชายรองกลับมาให้ไปพบท่านที่ห้องรับแขกขอรับ” “ท่านพ่อมีแขกงั้นรึ” “ขอรับ” “ขอบใจมาก” พูดจบหลี่ลี่จิงได้เดินไปยังห้องรับแขกที่อยู่ทางปีกซ้ายของบ้าน เป็นที่รู้กันภายในว่า หากอำมาตย์หลี่ฮั้วอยู่ในห้องนั้น หมายความว่า เจ้าของบ้านกำลังมีแขกและมีเรื่องสำคัญเจรจา พอเปิดประตูแล้วก้าวเดินไปด้านในก็พบว่า ขุนนางจางจี้กับขุนนางเหว่ยจินนั่งอยู่ร่วมห้องด้วย “มาแล้วรึลี่จิง นั่งสิ” อำมาตย์หลี่ฮั้วบอกลูกชายคนรองที่ทำตามคำสั่ง แล้วมองเห็นนกเกาะบนหัวลูกชายที่ตัวนกและสีคุ้นตาเหลือเกิน แต่นึกไม่ออกว่าเคยเห็นที่ไหน “นกเกาะหัวเจ้านี่ ทำไมไม่ไล่ไป” “ข้าเจอมันตรงริมแม่น้ำ เลยพามันมาด้วยขอรับ ข้ากะว่าจะเลี้ยงนกตัวนี้ครับ” “ข้าว่าข้าคุ้นๆ นกตัวนี้นะ” อำมาตย์ซ้ายพูดพร้อมกับนึก “ช่างเถอะ ข้านึกไม่ออก” ไม่ใช่เพียงแค่อำมาตย์ซ้ายคุ้นนกหงส์หยกเหมยเหมย นกน้อยเองก็จำได้ว่า ชายสูงวัยตรงหน้าท่าทางมีอำนาจคนนี้เป็นใคร ในท้องพระโรงเหมยเหมยจดจำหน้าตาของคนที่เข้าร่วมประชุมได้ทุกคน ชายคนนี้คืออำมาตย์ซ้ายนามว่า หลี่ฮั้ว ซึ่งเหมยเหมยก็ไม่คิดว่าเขาจะเป็นบิดาของนายหน้าหล่อที่ตนใจง่ายตามมา “กำลังคุยเรื่องอะไรกันอยู่ขอรับ” หลี่ลี่จิงถามตรงประเด็น “คุยกันเรื่องของบทำเขื่อนตามคำขอของนายอำเภอจิวห่าวไง” จางจี้ตอบ “คุยกันว่าอะไรขอรับ” คนมาทีหลังถามต่อ “ข้าคิดว่า องค์รัชทายาทคงให้งบสร้างเขื่อนมาก เมื่อให้มาก เราก็ได้มาก” อำมาตย์หลี่ฮั้วตอบบุตรชายคนรอง นกเหมยเหมยหูผึ่งขึ้นมาทันที บินลงมาเกาะขอบโต๊ะ ใช้ความเป็นนกฟังทั้งสี่สนทนา ที่พูดเพียงแค่นี้เหมยเหมยก็รู้แล้วว่า กำลังมีเรื่องทุจริตเกิดขึ้น “ถ้าท่านพ่อจะจัดสรรปันส่วน ข้าคิดว่า น่าจะเก็บไว้แค่สามส่วน อีกเจ็ดส่วนให้นายอำเภอจิวห่าวไปจัดการเรื่องทำเขื่อน เพราะหากเรากินมาก เขื่อนจะไม่เสร็จ คราวนี้อาจถูกเพ่งเล็งได้ว่า งบที่ให้ไปทำไมถึงไม่เพียงพอ” หลี่ลี่จิง แม้ว่าจะอยู่ฝ่ายบิดา ช่วยอีกฝ่ายคิดหางทางทุจริตเอาเงินเข้ากระเป๋า แต่เขาก็มีความคิดว่า เอาแต่พอดี ยักยอกไปนานๆ ดีกว่าเอาที่เดียวแล้วถูกจับได้ ไม่มีโอกาสได้ทำซ้ำสอง “ความคิดลี่จิงก็ดีนะ ถ้าเรากินมาก เขื่อนอาจไม่เสร็จ” เหว่ยจินเห็นด้วย “อีกอย่าง ตอนนี้องค์รัชทายาทกำลังกวดขันเรื่องคนทุจริต อะไรเลี่ยงได้ก็สมควรเลี่ยงไปก่อน อย่าทำให้เป็นพิรุธ ไม่อย่างนั้นพวกเราเหลือแต่ชื่อแน่ขอรับ” หลี่ลี่จิงกล่าวเตือน ทั้งสามพยักหน้าเห็นด้วย “ส่วนเรื่องที่ดินติดกับริมแม่น้ำที่ท่านพ่ออยากให้ทำท่าเรือ ข้าจัดการเรียบร้อยแล้ว เราสามารถลงมือสร้างท่าเรือได้เลยขอรับ” “เจ้าไม่เคยทำให้ข้าผิดหวังเลย สมกับเป็นลูกข้าจริงๆ” อำมาตย์ซ้ายชื่นชมความสามารถของลี่จิง ที่มีทั้งความฉลาด ไหวพริบดีเยี่ยม จัดการเรื่องต่างๆ ให้ตนได้ ไม่เคยผิดหวังสักครั้ง ต่างกับบุตรชายคนโตที่ทำเรื่องพังมากกว่าเรื่องดี นกเหมยเหมยยืนฟังทั้งสี่สนทนาที่เนื้อหาจะเป็นการฉ้อราษฎร์บังหลวงทั้งสิ้น เหมยเหมยรู้สึกผิดหวังในตัวคนหล่อที่หลงคิดว่าเป็นคนดี ที่แท้ก็เป็นคนชั่วระดับตัวพ่อ ฟังจากเรื่องที่เขาคิดทำ ไม่เป็นผลดีกับใครทั้งสิ้นนอกจากตัวเอง เหมยเหมยคิดต่อไปว่า นี่ขนาดองค์          รัชทายาทกวดขันเรื่องการคดโกง แต่ก็ยังมีช่องทางให้คนเหล่านี้หาประโยชน์ใส่ตัว คิดแต่ตัวเอง ไม่คำนึงถึงผลกระทบที่ชาวบ้านตาดำๆ กำลังประสบ พานให้เหมยเหมยนึกถึงสมัยปัจจุบันที่ตนจากมา ซึ่งยุคนั้นก็มีการโกงกินเช่นกัน เป็นการโกงกินทุกระดับชั้นเสียด้วย นกน้อยใช้ความเป็นนกให้เกิดประโยชน์ ยืนฟังพวกเขาสนทนาหารือเรื่องโกงกิน ในใจคิดว่า ยามกลายร่างเป็นมนุษย์ จะนำเรื่องนี้บอกองค์รัชทายาทดีหรือไม่ หรือว่าจะสืบให้ได้ความมากกว่านี้ค่อยบอก เพราะพวกเขาคงไม่นึกคิดว่า นกน้อยหงส์หยกจะฟังภาษาคนรู้เรื่อง แล้วกำลังรู้ความลับมากขึ้นและมากขึ้น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD