และแล้วเวลาที่องค์รัชทายาทรอคอยก็มาถึง เขาวางนกน้อยเหมยเหมยลงบนเตียงนอน ก่อนถอยหลังมานั่งบนเก้าอี้ที่อยู่ติดกับเตียงนอน รอคอยช่วงเวลาสำคัญ เวลาที่นกน้อยจะเปลี่ยนร่างกลายเป็นสตรีงดงาม
‘ดูสิดู เล่นจ้องแบบนี้ เกิดเปลี่ยนเป็นคนขึ้นมาไม่เห็นเราโป้เหรอเนี่ย ลามกที่สุด’
นกน้อยคิดในใจ หาวิธีที่จะไม่ให้เขาเห็นร่างกายเปลือยเปล่าของตน แต่จะทำยังไงเนี่ยสิ นกน้อยถึงกับคิดหนัก ก่อนสายตานกน้อยจะมองเห็นผ้าห่มที่พับอย่างเรียบร้อยปลายเตียง
‘นึกออกแล้ว’ นกน้อยเหมยเหมยพูดในใจ ก่อนบินไปอยู่ใกล้ผ้าห่มแล้วสอดตัวเข้าไปอยู่ในผ้าห่ม
“เจ้าทำอะไรของเจ้าเหมยเหมย”
องค์รัชทายาทตรัสถาม เมื่อเห็นการกระทำของนกตัวน้อย แต่ยังไม่ทันที่นกตัวสวยจะส่งเสียงตอบ ผ้าห่มของเขาได้นูนขึ้นเสมือนมีคนอยู่ใต้ผ้าห่ม จะเป็นใครที่ไหนได้เล่านอกจากนกน้อยเปลี่ยนร่างแล้ว
ธิดาดอยที่ตอนนี้กลายร่างเป็นคน มุดตัวอยู่ในผ้าห่มรีบดึงผ้าห่มมาปกปิดร่างกายของตนจนเหลือแต่ศีรษะที่โผล่ออกมา
“เจ้าเป็นคนแล้ว” องค์รัชทายาทตรัส “ข้าดีใจเหลือเกิน”
“หยุดนะ หยุดอยู่ตรงนั้น” ธิดาดอยรีบห้ามเมื่อเห็นเขาถลามาหาตน แต่คงห้ามไม่ทันหรือจะพูดว่าห้ามไม่ได้เพราะตอนนี้เธอตกอยู่ในอ้อมแขนของเขาเรียบร้อย
“ข้าดีใจจังที่เจ้าเป็นคน” เขาพูดจากใจ
“ท่านไม่ต้องมากอดข้า ไปกอดเมียท่านโน่น”
น้ำเสียงธิดาดอยติดไม่พอใจเล็กน้อย ซึ่งเธอเองก็ไม่เข้าใจว่า เหตุต้องต้องไม่พอใจองค์รัชทายาทด้วย แต่ที่แน่ๆ เธอไม่ชอบให้เขาไปยุ่งกับหญิงสาวคนอื่น แม้ว่าหญิงคนนั้นจะขึ้นชื่อว่าเป็นเมียของเขาก็ตาม
“ข้าไม่อยากกอดใครนี่ นอกจากเจ้า” องค์รัชทายาทส่งสายตาแพรวพราวใส่
“แต่ข้าไม่อยากให้ท่านกอด ปล่อยข้านะ”
ที่ว่าไม่อยากให้เขากอด เพราะรับรู้ได้ถึงความไม่ปลอดภัยของตัวเอง สภาพเนื้อตัวล่อนจ้อนมีเพียงผ้าห่มปิดคลุมกาย เผื่อเขาหน้ามืดตาลายปลุกปล้ำตนขึ้นมา เธอคงสู้แรงของชายตัวโตไม่ได้ มีหวังเสร็จเขาแน่ๆ จะว่าไป เป็นเมียองค์รัชทายาทก็โก้ไม่ใช่เล่น เกิดมากี่ชาติคงไม่มีโอกาส แต่ๆๆๆๆ ติดที่เขามีเมียเยอะเนี่ยสิ ทำใจไม่ได้
เฮ้อ...กลุ้ม
“ข้าไม่ปล่อย ข้าอยากกอดเจ้า อยากหอมเจ้าด้วย”
ว่าแล้วก็หอมแก้มธิดาดอยโดยที่เจ้าของแก้มไม่ทันได้อนุญาตหรือตั้งตัว ดวงหน้าธิดาดอยแดงระเรื่อและเห่อร้อนกับการถูกหอมแก้มครั้งแรกในชีวิต
“ท่านเนี่ยนะ ฉวยโอกาส”
ธิดาดอยดุใส่ มองหน้าองค์รัชทายาทที่มีความหล่อระดับเทพใจยิ่งสั่น
โครกคราก โครกคราก...
เสียงหนึ่งดังขึ้น ทำลายความเขินอายของธิดาดอยจนสิ้น และมีความรู้สึกหนึ่งเข้ามาแทนที่
“เสียงอะไรน่ะ” องค์รัชทายาทถาม ธิดาดอยยิ้มแห้งก่อนตอบ
“เสียงท้องข้าเอง ข้าหิว ตอนข้าเป็นนกกินแต่อาหารนก นกอิ่มแต่คนไม่อิ่ม”
หมิงหยางเต๋อยิ้มเอ็นดูกับความน่ารักของธิดาดอย ‘คนอะไรหิวยังสวย’
“ถ้างั้นข้าจะให้หลิวกงกงไปบอกห้องเครื่องให้จัดสำรับมาให้เจ้านะ”
“เอาแบบชุดใหญ่ไฟกระพริบเลยนะ ข้าหิวจนจะกินช้างได้ทั้งตัวแล้ว”
องค์รัชทายาทมองหน้าคนพูด สีหน้าเขาอัดแน่นไปด้วยความไม่เข้าใจในภาษาที่ธิดาดอยเอ่ยมา
“อะไรคือชุดใหญ่ไฟกระพริบ” ธิดาดอยรู้ตัวว่า ตนเองพลั้งปากพูดภาษาวัยรุ่นที่เขาไม่มีทางเข้าใจออกไป จึงต้องอธิบายให้อีกฝ่ายเข้าใจ
“ก็จัดอาหารชุดใหญ่มาเลยไง แบบว่าเยอะๆ น่ะ”
“อ๋อๆ ได้สิ ข้าจะบอกหลิวกงกง”
“มีอีกเรื่องที่ข้าอยากได้”
“เจ้าอยากได้อะไร ว่ามาเลย” องค์รัชทายาทพร้อมจัดให้ธิดาดอยทุกอย่าง
“ข้าอยากได้เสื้อผ้า”
“เจ้าจะใส่ทำไม อยู่อย่างนี้ก็ดีแล้ว ไม่ต้องเสียเวลาใส่ ไม่ต้องยุ่งยากเวลาถอด”
เขาพูดแฝงความหมายบางอย่าง ธิดาดอยไม่ฟังคำพูดและได้เห็นประกายตาในนัยน์ตาเขาก็ร้อนวุบวาบขึ้นมาทั้งตัว
“แล้วทำไมข้าต้องยุ่งยากเวลาถอดด้วย เช้ามาข้าก็กลายเป็นนกแล้ว ตัวก็หดนิดเดียว”
“ก็ถอดก่อนเจ้าจะเปลี่ยนเป็นคนไง พอถอดเจ้าก็ต้องใส่ มันอีกเสียเวลา” องค์รัชทายาทแย้ง “อย่าเรื่องมากน่า ข้าว่าเจ้าไม่ต้องใส่เสื้อผ้าหรอก เปลือยให้ข้าเห็นน่ะดีแล้ว ข้าชอบ ข้าไม่ถือสาด้วย แล้วเดี๋ยวข้าจะเปลือยล่อนจ้อนให้เจ้าเห็นด้วย เจ้าจะได้ไม่คิดว่าข้าเอาเปรียบ”
‘คนอะไรหื่นชะมัด จ้องแต่จะกินข้าท่าเดียว’
“ที่ข้าอยากใส่เพราะในยุคที่ข้าจากมาข้าไม่มีโอกาสได้ใส่ พอมาในยุคของท่าน โอกาสมาถึงแล้วข้าก็อยากใส่น่ะสิ ข้าเห็นพระชายารองใส่เสื้อผ้าเนื้อดีสวยงามมาก ข้าก็อยากใส่บ้าง” ธิดาดอยหาข้อแก้ตัวไปเรื่อย
“เอางั้นก็ได้ ข้ายอมเสียเวลาถอดเสื้อผ้าของเจ้า เพื่อให้เจ้าได้ใส่ชุดสวยๆ ตามที่เจ้าต้องการ”
‘แหม...พูดอย่างกับว่าข้าจะให้ท่านถอดเสื้อผ้าของข้าง่ายๆ’ ธิดาดอยคิดในใจ ‘ถ้าข้ายอม ข้าถอดเอง ท่านไม่ต้องเหนื่อยถอดด้วย’
ธิดาดอยไม่รู้ว่า มีความคิดนี้ในหัวได้อย่างไร เธอเป็นหญิงต้องสงวนท่าทีและคำพูดคำจาไม่ใช่หรือ แล้วคิดแบบนี้ได้อย่างไร ไม่ได้ ไม่ได้...ต้องไม่ยอมคนเมียเยอะถึงจะถูก
“ท่านรีบไปจัดการเถอะ ข้าหิวแล้ว” ธิดาดอยเร่งเพราะตอนนี้ท้องเริ่มร้องอีกครั้ง องค์รัชทายาทเลือกที่จะเดินออกนอกห้องบรรทม เพราะหากเรียกหลิวกงกงเข้ามาในห้องนี้ก็ต้องเห็นธิดาดอย ซึ่งเขาไม่ต้องการให้ใครรู้เรื่องอันน่ามหัศจรรย์นี้ แล้วพอองค์รัชทายาทเสด็จออกมานอกห้องบรรทม หลิวกงกงที่ยืนอยู่ด้านนอกก็ปรี่เข้ามาหา
“องค์รัชทายาทมีอะไรจะรับสั่งพ่ะย่ะค่ะ”
“ข้ายังไม่ได้กินมื้อเย็น ท่านจัดสำรับมาให้ข้าที่ห้องนอนนะ”
ก่อนหน้านี้ที่นกน้อยยังไม่กลับมาหาเขา องค์รัชทายาทถึงกับกินไม่ได้ จึงบอกหลิวกงกงว่าจะไม่เสวยมื้อเย็น ซึ่งหลิวกงกงก็ไม่เซ้าซี้ เจ้านายว่าอย่างไร หลิวกงกงว่าตามนั้น
“พ่ะย่ะค่ะ”
“แล้วต่อไปนี้ มื้อเย็นของข้าให้เอาไปจัดไว้ในห้องบรรทม เปลี่ยนเวลาใหม่เป็นหลังพระอาทิตย์ตกดิน อ้อ...แล้วท่านไม่ต้องเข้าไปไว้ข้างในนะ เอาวางไว้หน้าห้อง ข้าจะเอาเข้าไปเอง”
หลิวกงกงพอจะเข้าใจว่า จัดสำรับอาหารในห้องบรรทม แต่ไม่เข้าใจว่า เหตุใดไม่ให้ยกเข้าไปไว้ด้านในเลย ทำไมองค์รัชทายาทต้องเป็นฝ่ายยกเข้าไปเอง หลิวกงกงสงสัยแต่ไม่ถาม
“พ่ะย่ะค่ะ” หลิวกงกงมีหน้าที่รับคำสั่งโดยไร้คำถาม
“อีกเรื่อง เจ้าไปที่ห้องตัดเสื้อผ้า ไปเอาชุดของพระชายาคนไหนก็ได้ที่เพิ่งตัดเสร็จมาให้ข้าชุดนึงด้วย” คำสั่งนี้เรียกความแปลกใจให้หลิวกงกงไม่น้อย และมากพอที่เขาจะเอ่ยคำถาม
“เอาชุดไปทำไมพ่ะย่ะค่ะ”
“เจ้าไม่ต้องถาม ทำตามที่ข้าสั่งก็พอ” น้ำเสียงค่อนข้างกระด้าง บอกให้หลิวกงกงรู้ว่า อย่าได้มีคำถามใด ให้รีบทำตามคำสั่งดีที่สุด
“พ่ะย่ะค่ะ”
“อ๋อ เร็วๆ ด้วยนะ ข้าหิว” องค์รัชทายาทย้ำ หลิวกงกงรีบไปจัดการตามคำสั่งของอีกฝ่ายทันที และทุกอย่างที่องค์รัชทายาทต้องการถูกนำมาวางไว้หน้าห้องบรรทม
“เรียบร้อยแล้วพ่ะย่ะค่ะ” หลิวกงกงบอกองค์รัชทายาทหน้าห้อง
“ข้ารู้แล้ว” ตรัสจบก็เดินออกมาหน้าห้อง “พวกเจ้าไปให้พ้นหน้าห้องข้า มีอะไรข้าจะเรียกเอง”
แม้ว่าจะสงสัย ทว่าหลิวกงกงก็ไม่มีคำถามเช่นเดิม เขากับขันทีและนางกำนัลรับใช้ เดินถอยห่างห้องบรรทม เมื่อทุกคนพ้นหน้าพ้นตาองค์รัชทายาท เขาก็เริ่มนำสำรับอาหารเข้าไปในห้อง ไปวางไว้บนโต๊ะกลางห้อง คนที่นั่งเอาผ้าห่มปิดตัวบนเตียงมองอาหารที่วางบนโต๊ะแล้วน้ำลายสอ ค่อยๆ ขยับตัวมาตรงริมเตียง
“อาหารพร้อมแล้วนะ เจ้ามากินได้แล้ว” องค์รัชทายาทบอก
“เสื้อผ้าล่ะ ข้าไม่ไปนั่งกินสภาพนี้หรอกนะ”
“แต่ข้าว่า เจ้านั่งเปลือยกายกินอาหารก็ได้นะ ข้าไม่ถือ ข้าจะได้กินเจ้า เอ๊ย! กินอาการอร่อยๆ สงสัยกินได้หลายชามแน่ๆ” เขาชอบพูดมีเลศนัย
“ลามก” ธิดาดอยเปรยเบาๆ แต่ดันเข้าไปในหูคนหูดี
“เจ้าว่าอะไรนะ”
“ข้าบอกว่า ข้าหิวเมื่อไหร่ท่านจะเอาเสื้อผ้ามาให้ข้าสักที”
ธิดาดอยเริ่มโมโหหิว มองเขาตาขวาง หน้าบึ้งพร้อมกับเสียงท้องร้อง องค์รัชทายาทกลับไม่ถือสาที่มีคนชักสีหน้าใส่หรือมองตนด้วยสายตาเช่นนี้ หากเป็นคนอื่นจะสั่งตัดหัวให้หลาบจำ ทว่าเขากลับยิ้ม ก่อนหยิบเสื้อผ้าที่หลิวกงกงนำมาให้เอาไปวางไว้บนเตียง
“นี่ไงเสื้อผ้าที่เจ้าอยากได้”
“เสื้อผ้าใคร”
“ชุดของพระชายาคนใดคนหนึ่งของข้าเอง ข้าให้หลิวกงกงไปเอาที่ห้องตัดเสื้อ ชุดนี้เป็นชุดใหม่ยังไม่เคยถูกใส่ เจ้าสบายใจได้ เจ้าเป็นคนแรกที่ได้ใส่มัน”
“แน่นะว่า ไม่เคยมีใครใส่”
“ข้ารับรองว่าไม่มีใครได้ใส่ เจ้ารีบใส่เสื้อผ้าเถอะหิวไม่ใช่เหรอ ข้าเองก็หิวนะ” นัยน์ตาองค์รัชทายาทวับวาว มองธิดาดอยตาปรอย พ่นความปรารถนาอย่างเปิดเผย
“ท่านไปยืนหันหลังมุมห้องโน่นไป ข้าจะได้ใส่เสื้อผ้า มายืนจ้องแบบนี้ข้าจะใส่เสื้อผ้าได้ไง” เห็นแววตาเขาแล้ว มันน่าไว้ใจได้เลย จะห่ามปล้ำตนหรือเปล่า
“ทำอย่างกับว่าข้าไม่เคยเห็นเจ้าตอนแก้ผ้างั้นแหละ ใส่ตรงนี้แหละเผื่อเจ้าใส่ชุดไม่เป็น ข้าจะให้ช่วยเจ้าใส่ไงล่ะ”
เขาพูดก็จริง ธิดาดอยไม่ใช่คนในยุคนี้ มาจากยุคในอนาคต แล้วจะใส่เสื้อผ้าพวกนี้ได้อย่าไร ใส่แบบไหนยังคิดไม่ออก แต่ทำไมในความรู้สึกถึงบอกกับเธอว่า เธอใส่เป็น
“ถ้าท่านไม่ทำตามที่ข้าบอก ข้าจะไปใส่หน้าห้อง” ธิดาดอยใช้ไม้นี้
“เจ้าอย่าคิดทำเชียวนะ” เขารีบห้าม
“ถ้าไม่อยากให้ข้าทำ ท่านก็ต้องทำตามที่ข้าบอก” ธิดาดอยรู้สึกถึงพลังความเป็นต่อ เธอจึงต่อรอง
“ก็ได้ ข้าทำตามที่เจ้าบอกก็ได้”