~~ ย้อนกลับไปเมื่อ12 ปีก่อน~~
ทอฝัน: สาวน้อยใบหน้าสวยหวานน่ารัก นิสัยร่าเริง ผิวขาว ตัวเล็ก สูง155ซม. น้ำหนัก41กก. อายุ18 ปี กำลังเรียนมหาลัยปี1 คณะบริหารธุรกิจ
~ฉันกับแม่ได้ย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านหลังใหญ่ของคุณลุงศักดิ์ชัย แม่บอกว่าคุณลุงเป็นผู้มีพระคุณของเราการที่ได้มาเข้ามาในบ้านหลังนี้ถือเป็นโอกาสดี ที่จะทดแทนบุญคุณ
ตอนนั้นฉันยังเด็กมาก ไม่รู้ว่าครอบครัวเป็นหนี้หลายสิบล้าน เพราะพ่อบังเกิดเกล้าติดการพนันจนโงหัวไม่ขึ้น บริษัทที่สร้างมาด้วยน้ำพักน้ำแรงก็ถูกขายเข้าบ่อน แม้แต่ฉันกับแม่ก็ถูกตั้งราคาขายเป็นผักปลา
จะเรียกว่าโชคดีก็คงไม่ผิดในวันที่เราสองแม่ลูกกำลังจะถูกขาย คุณลุงศักดิ์ชัยไปเจอเราในบ่อนวันนั้นเข้าพอดี เขาเสนอราคาซื้อฉันกับแม่สูงมาก จนพ่อยอมหักหน้าเจ้าของบ่อนเพื่อเงินก้อนใหญ่ ก้อนนั้น
คุณลุงมีลูกชายคนนึ่ง ชื่อคุณอาทิตย์ ที่พอรู้คือเขากำพร้าแม่มาตั้งแต่อายุ5ขวบ เขาอายุมากกว่าฉัน 8 ปี แน่นอนเขาต้องไม่ชอบฉันกับแม่แน่ๆ ช่วงแรกเราอยู่ที่บ้านพักคนใช้ แต่หลังจากนั้นไม่นานก็ได้ย้ายมาอยู่บนตึกใหญ่ แล้วแม่ก็แยกห้องนอนไปอยู่อีกห้อง ทั้งๆที่เราไม่เคยแยกกันมาก่อน กลางดึกของทุกคืน มักจะได้ยินเสียงแม่ร้องครวนครางด้วยความทุกข์ทรมาน จนบางทีฉันต้องไปเคาะห้องเพราะความเป็นห่วงแต่ก็ถูกไล่กลับมาทุกครั้ง
ต้องบอกก่อนว่าแม่ของฉันไม่ได้แก่เลย ยังสวยและสาว ส่วนคุณลุงศักดิ์ชัยถึงจะอายุ45แล้ว แต่เขายังหล่อล้ำและดูแข็งแรงมากๆ พอโตขึ้นฉันก็เริ่มเข้าใจในความสัมพันธ์ของพวกเขา
•
•
อาทิตย์~~หนุ่มหล่อ มาดเท่ห์ ดูดี เป็นคนเก่งและมากความสามารถ ส่วนสูง185 ซม. น้ำหนัก 79 กก. อายุ 26ปี ตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงที่มีอายุน้อยที่สุดของบริษัทใหญ่และยังเป็นนักศึกษาปี6 คณะวิศวะเคมีและอุตสาหกรรม มหาลัยเดียวกับทอฝัน
เขาเป็นลูกชายคนเดียวของนักธุรกิจที่รวยระดับแนวหน้าของประเทศจึงไม่แปลกที่สาวๆหลายคนหมายจับจองเป็นเจ้าของ ด้วยรูปร่างหน้าตา ฐานะทางการเงินและสังคม เหมือนเป็นแรงดึงดูดที่ใครๆก็อยากครอบครอง
แม่ทิ้งผมไปตั้งแต่อายุ5ขวบ เพราะพ่อพาผู้หญิงเข้าบ้านแบบชนิดที่ควงไม่ซ้ำจำหน้าไม่ได้ ทำให้ผมมีปมในใจมาโดยตลอด แต่พอผมโตขึ้น ถึงเข้าใจว่าจริงๆแล้วแม่ไม่ได้หนีไปเพราะพ่อมีชู้ แต่เพราะแม่เองต่างหากที่หนีตามชู้ไป
ต่อมาไม่นาน พ่อผมก็พาสองแม่ลูกที่ไหนไม่รู้ เข้ามาอยู่ที่บ้าน จากเป็นเมียลับๆ ก็เริ่มขยับตำแหน่งเป็นเมียออกหน้าออกตา ยัยเด็กที่เป็นลูกติด ยิ่งน่ารำคาญ พูดมาก,ตัวดำ แถมอ้วนอย่างกับหมู ยิ่งมองยิ่งบั่นทอนสุขภาพจิต ผมไม่ได้ต่อต้านอะไรมากเพราะถึงยังไงก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี
พ่อผมค่อนข้างเจ้าชู้ มีผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า เรียกง่ายๆ ก็หน้าหม้อนั่นแระครับ แต่นี้มีลูกติดก็ไม่เว้นมันจะมากไปมั้ย?
ผมเลือกที่จะออกมาอยู่คอนโดเพราะใกล้มหาลัย และไม่อยากกลับไปเจอคนไม่รู้จักอยู่ในบ้านของตัวเอง ยิ่งยัยเด็กนั้นเหมือนเธอกำลังแกล้งผมเพราะยิ่งไม่อยากคุยด้วยยัยนั้นก็ชอบเข้ามาวุ่นวายชนิดเดินตามตูดไม่ห่าง จนผมแทบจะไม่กลับบ้านเลย
ผมเรียนวิศวะ แล้วก็บริหารธุรกิจ ในเวลาเดียวกันแต่คนละมหาวิทยาลัย ตอนนี้บริหารธุรกิจจบแล้วเหลือก็แต่วิศวะที่ยังไม่จบเพราะผมต้องทำอะไรหลายอย่างพร้อมกัน เลยต้องเรียนนานกว่าปกติ เรียกง่ายๆว่าพี่เปอร์ (Super Senior) นั้นแระครับ
•
•
•
>>>>6 ปี ผ่านไป @ปัจจุบัน
วันนี้ไปเรียนมหาลัยวันแรกตื่นเต้นสุดๆเลย ฉันสอบเข้าในคณะบริหารธุรกิจเพราะคุณแม่อยากให้จบมาจะได้ช่วยคุณลุงทำงานที่บริษัท แต่เอาจริงๆฉันไม่ค่อยชอบ แล้วก็ไม่อยากทำงานใกล้ๆคุณลุงเท่าไหร่ ไม่ได้คิดไปหรอกเองนะว่าท่านจะเป็นพวกเฒ่าหัวงู แต่การกระทำหลายอย่างมันทำให้ฉันเข้าใจแบบนั้นจริงๆ
“อ้าว! หนูทอฝัน ใส่ชุดนักศึกษาแบบนี้ ดูน่ารักน่าเอ็นดูขึ้นเยอะเลยนะจ้ะ” เสียงคุณลุงดังมาจากด้านหลัง ขณะที่ฉันเดินออกจากห้องกำลังปิดประตู
อึ้บ! 0.0
“คุณลุง!”
เสียงพูดยังไม่ทันจบแขนใหญ่ก็โอบรัดตัวจากด้านหลัง ด้วยความตกใจฉันรีบสะบัดตัวออก แล้วหันไปมอง
“ ฮาาา ตกใจหรอจ้ะ ลุงแค่อยากกอดลูกสาวคนสาว แหม..ก็หนูทอฝันของลุงน่ารักขนาดนี้ใครจะอดเอ็นดูไม่ได้” เขาเอามือมาบีบที่แก้มเบาๆ ฉันพยายฝืนยิ้มกลบเกลื่อน ทั้งๆที่พอจะเดาออกว่าเขาไม่ได้หมายความแบบนั้น
“ทอฝันลูก จะไปมหาลัยแล้วหรอ ให้แม่กับคุณลุงไปส่งมั้ยคะ เผื่อร้องไห้ขี้มูกโป้ง^^”
แม่เดินออกมาจากห้องทำให้ฉันอุ่นใจขึ้น
“แม่คะ นั้นมันตอนเข้า ม.1 นี้มหาลัยแล้วนะคะ^^”
ฮาาาา”
เราหัวเราะพร้อมกันก่อนจะเดินลงมาชั้นล่างเพื่อทานข้าวเช้า แต่มองนาฬิกา คงไม่ทันแล้วฉันเลยขอไปมหาลัยก่อน วันนี้มีนัดรายงานตัวแล้วก็รับน้องวันแรก
“ให้ลุงไปส่งมั้ยจ้ะ ^^” เสียงนุ่มจนน่าขนลุกของคุณลุงดังมาจากด้านหลัง ทำให้ฉันรีบหันไปส่ายหน้ารัวๆ
“ขอบคุณค่ะคุณลุง มินมารอหน้าบ้านแล้ว ไปนะคะแม่ไปนะคะคุณลุง” ฉันยกมือไหว้แม่กับคุณลุงแล้วรีบวิ่งออกมาหน้าบ้าน ดีนะวันนี้ให้มินมารับเลยรอดไปอีกวัน
มินเป็นเพื่อนสนิทตั้งแต่เรียน ม.ต้น เราลงคณะเดียวกัน บ้านก็อยู่ทางเดียวกัน มีอะไรเราสองก็จะคุยกันตลอด
“ไงจ้ะ ตื่นสายหรอ@ มิน
“ อืม มัวแต่หลบคุณลุงน่ะสิ โรคจิตอ่ะ” หน้ามุ่ย
“อีกแล้วหรอ เหนื่อยนะแบบนี้ แล้วคิดว่าจะรอดไปตลอดมั้ยถามจริง@มิน
เราคุยกันมาตลอดทางจนถึงมหาลัย มันค่อนข้างไกลจากบ้านพอสมควร กว่าจะมาถึงก็เลตไป10นาที เราสองคนวิ่งหน้าตั้งมาที่จุดรายงานตัว รับเอกสารแล้วเข้าห้องประชุมไปรวมกับเพื่อนคนอื่นๆ
“น้องๆที่มาสายมาออกมาข้างหน้าก่อนนะครับ@รุ่นพี่
เราเดินเข้ามายังไม่พ้นประตูก็ถูกเรียกออกไปหน้าแถว ตอนนี้เฟรชชีทุกคนจะมีป้ายชื่อห้อยที่คอ ดังนั้นพี่ๆก็จะรู้ชื่อเราได้อย่าที่ไม่ต้องถามเลยค่ะ
“วันนี้ถือว่าเป็นการพบกันครั้งแรก พี่จะยังไม่ลงโทษ แต่นับจากวินาทีนี้ พี่และเพื่อนพี่จะไม่ปล่อยผ่าน เข้าใจนะครับ@รุ่นพี่
เขาพูดเสียงดังมองไปหานักศึกษาใหม่ที่นั่งอยู่ที่พื้นหลายร้อยคน ก่อนจะหันมามองหน้าฉันกับมินอีกครั้ง
“ตะโกนบอกเพื่อนๆครับว่าจะไม่สายอีก ^^@ รอยยิ้มน่ากลัว
“จะไม่สายอีกคะ” ฉันกับมินพูดพร้อมกัน
“ไม่ได้ครับ บอกชื่อ แล้วตะโกนให้คนสุดท้ายได้ยิน” เสียงดุ
“ทอฝัน จะไม่สายอีกแล้วค่ะ>oo<“
ฉันกับมินตะโกนจนหน้าแดง รุ่นพี่ที่อยู่ด้านหลังห้อง จับนักศึกษาคนนึ่งยืนขึ้น แล้วให้ตะโกนกลับมา
“ได้ยินแล้วครับ เพื่อนมิน เพื่อนทอฝัน@เพื่อน
ฉันหันหน้าไปยิ้มกับมิน แล้วเราสองคนก็ได้เข้ามานั่งร่วมแถวกับคนอื่นๆ ใจหายใจคว่ำหมด
เรานั่งฟังรายละเอียดในการรับน้องอยู่นาน โดยส่วนใหญ่จะเป็นข้อตกลงในการรับน้อง กฎระเบียบของมหาวิทยาลัย จากนั้นก็มีการแบ่งกลุ่มแบบสุ่มไม่ได้แยกคณะ เพื่อเป็นการสร้างสัมพันธภาพที่ดีของนักศึกษาในมหาวิทยาลัยเดียวกัน โชคดีที่ฉันกับมินได้อยู่ด้วยกัน^^