หญิงสาวเดินสำรวจผลผลิตของไร่ในปีนี้แล้วยิ้มออกมา ทุกอย่างเป็นไปตามเป้าหมายที่เธอวางตั้งเป๊ะและดีเกินคาดด้วยซ้ำ เธอแวะไปยังสวนดอกกุหลาบที่มารดาสั่งปลูกขึ้นมาเพราะท่านชอบดอกกุหลาบเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะสีไหน ชนิดไหน ท่านเสาะหามาปลูกหมดจนกลายเป็นทุ่งดอกกุหลาบขนาดใหญ่เป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมากและท่านมีแพลนจะปลูกดอกไม้อีกหลายชนิดกะว่าจะเจาะตลาดดอกไม้อีกทางซึ่งเธอก็เห็นด้วยและสนับสนุนอย่างเต็มที่
“ดอกไม้สำหรับคนสวยอย่างพี่ปานครับ” มือหนายื่นดอกทานตะวันที่เก็บระหว่างทางมาให้สาวเจ้าแล้วฉีกยิ้มหน้าบานใส่พร้อมกับขยิบตาข้างขวาให้
“มาอีกแล้วเหรอ ว่างมากหรือไง” เธอถอนหายใจแล้วเดินสำรวจดอกกุหลาบต่อ พลางขมุบขมิบปากบ่นอย่างรำคาญที่โผล่หน้ามาทุกวันไม่มีวันหยุดแล้วยังมาหยอดคำหวานใส่อีกทำเหมือนเธอเป็นของเล่นไปได้
“หัวใจเรียกร้องให้มาหาน่ะครับ” ถ้อยคำที่พูดออกมาทั้งหมดล้วนมาจากก้นบึ้งของหัวใจทั้งนั้นและมีให้เฉพาะหญิงสาวตรงหน้าเท่านั้น
“หว่านเสน่ห์ไปทั่วเลยนะ”
“ผมหว่านใส่เฉพาะพี่ปานคนเดียวครับ ผู้หญิงคนอื่นผมไม่เคยหว่านเสน่ห์ใส่”
“แล้วมาหาพี่ทำไม มีธุระอะไรหรือเปล่า” เป็นเฉกเช่นนี้ทุกวัน ที่เธอต้องถามเขาและก็ได้รับคำตอบเดิมๆ กลับมาทุกครั้ง
“มีครับ ธุระสำคัญด้วย แต่ผมอยากให้พี่ปานพาเดินชมสวนนดอกไม้หน่อยได้มั้ยครับ ผมมีเรื่องจะเล่าให้ฟัง เป็นเรื่องสำคัญด้วย”
“ก็ได้”
“พี่ปานรู้มั้ยครับว่า มีผู้หญิงคนนึงอายุมากกว่าผมสี่ปี ผู้หญิงคนนี้เป็นคนสวยประจำหมู่บ้าน เธอเปรียบเสมือนฮีโร่ของผมเลยแหละ ตอนเด็กๆ เวลาผมโดนแกล้งก็จะมีเธอคอยช่วยเหลือ แล้วยังแวะมาสอนการบ้านผมทุกวัน ติวหนังสือสอบให้อีก เธอชอบกินไอติมถั่วเขียวและก็แกงจืดเต้าหู้ตำลึงหมูสับมาก ผมแอบชอบเธอมานานแล้วแต่ไม่กล้าบอกให้รู้ พอเธอเรียนต่อมัธยมปลายเราสองคนก็ห่างกันมากขึ้นเรื่อยๆ จนลืมไปเลยว่าเคยสนิทกันมาก พี่ปานรู้มั้ยครับว่า ผมน่ะมาหยอดคำหวาน หว่านเสน่ห์ใส่เธอทุกวันเลย แต่เธอก็ไม่สนใจเฉยชาใส่ ไม่เคยรับรู้ถึงความรู้สึกที่ผมมีให้เลย รู้มั้ยครับว่าบางครั้งผมก็นึกน้อยใจที่ไม่ได้อยู่ในสายตาของเธอเหมือนเมื่อก่อน ผมอยากให้ความสัมพันธ์เมื่อครั้งวัยเด็กกลับมาจังเลย ผมจะได้อยู่ในสายตาเธอ” เขาเริ่มพูดขึ้นแล้วเว้นระยะพูดเพื่อดูท่าทางของพี่ปานตลอดที่เล่าเรื่องราวของเขาและพี่ปานครั้งยังวัยเด็กที่เราสองคนสนิทสนมกันมากตัวติดกันราวกับเป็นคนเดียวกัน ทว่าจู่ๆ ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป เราสองคนก็ไม่ได้สนิทกันอีก เจอหน้ากันแทบนับครั้งได้ นึกแล้วก็อดร้องไห้ออกมาไม่ได้กับสิ่งที่ผ่านมา เขาเฝ้ารอวันนี้ทุกอย่างจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม แต่ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะไม่ได้เป็นอย่างที่หวัง
“รู้ได้ยังไงว่าไม่ได้อยู่ในสายตาเธอ คิดไปเองหรือเปล่า” เธอถามขึ้นเมื่อติณณภพหยุดพูด
“เวลาเข้าใกล้เธอมักจะเดินหนีและไม่สนใจผมทุกครั้ง แต่รู้มั้ยครับว่าผมปณิธานตัวเองไว้ว่าถ้าไม่ได้เธอมาเป็นเมียผมจะไม่มีวันยอมแต่งงานกับใครเด็ดขาดจะครองโสดไปตลอดชีวิตเพราะหัวใจของผมมีให้กับเธอเพียงคนเดียว”
“ติณณ์...” ประโยคคำพูดสุดท้ายเพียงสั้นๆ ทว่าทำเอาหัวใจของเธอสั่นหวิว รู้สึกแปลกๆ อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เต้นตึกตักราวกับมีคนมาตีกลองภายในใจ
“พี่ปาน....พี่รู้มั้ยว่าผมแอบชอบพี่มานานแล้ว ผมไม่เคยตามตื๊อ หว่านเสน่ห์ใส่ผู้หญิงคนไหนนอกจากพี่เลยนะ ผมรักพี่จริงๆ ไม่ได้โม้ด้วย” มือหนาเอื้อมจับมือบางขึ้นมาแล้วกุมไว้แน่นพลางมองประสานดวงตากลมคู่สวยของสาวเจ้าให้สัมผัสถึงความรู้สึกที่เขามีให้เธอเพียงคนเดียว ความรักของผู้ชายคนนึงที่เฝ้ารอคอยเธอมานานแสนนาน แม้ว่าเธอจะไม่สนใจก็ตาม แต่ผู้ชายคนนี้ก็ไม่ยอมท้อถอยพยายามเดินหน้าตามจีบแม้ว่าผลที่ได้รับจะเป็นอย่างไรก็ตามเขาก็ไม่สนใจ
“พี่รู้... และรู้มานานแล้วด้วย เอาเป็นว่าตามตื๊อพี่ทุกวันแล้วกันนะ เผื่อว่าสักวันพี่จะตกลงคบหากับเรา” เธอยิ้มให้กับติณณภพ แม้ว่าจะรู้สึกดีที่ชายหนุ่มมีใจให้ ทว่าการที่รู้จักกันมานานแล้วยังอายุน้อยกว่าเธออีก ทำให้รู้สึกแปลกๆ ยังไงไม่รู้ แต่เธอก็ไม่ใช่เป็นคนใจร้ายหรอกนะที่จะปิดกั้นความตั้งใจของติณณภพ ถ้าเราสองคนเป็นเนื้อคู่กันจริงๆ ไม่มีทางแคล้วคลาดจากกันแน่นอนและเธอก็ชอบในความตั้งใจและมุ่งมั่น เชื่อว่าสักวันเขาจะพิชิตใจเธอได้ และเราสองคนคงได้สร้างครอบครัวด้วยกัน
“พี่ปานพูดจริงๆ นะไม่ได้ล้อผมเล่น” เขาถามย้ำ บอกเลยว่าตอนนี้ใจเขาเต้นไม่เป็นสุข ตื่นเต้นไปหมดจนแทบพูดไม่ออกกับคำพูดที่ได้ยิน แม้ว่าจะไม่ได้ตกลงเป็นแฟนกันเขาแต่ก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี เขาจะได้มีกำลังใจในการตามจีบอีกต่อไป
“เคยเห็นพี่พูดโกหกเหรอ”
“ไม่เคยครับ”
“ตกลงตามนี้นะ แล้วก็เชิญเสด็จกลับไปได้แล้วพี่จะทำงาน เกะกะขว้างทางมาก” เธอไล่เขากลับไปกลบความเขินของตัวเองไม่อยากให้ติณณภพเห็น เดี๋ยวจะได้ใจไปเปล่าๆ
“พรุ่งนี้ผมจะมาหาใหม่นะครับว่าที่เมียในอนาคต ผมไม่มีวันยอมแพ้แน่นอน ผมจะต้องเอาพี่ปานเป็นเมียให้ได้ ขอมัดจำก่อนแล้วกันนะครับ ฟอดดด” เขาฉวยโอกาสหอมแก้มนุ่มๆ หอมๆ อย่างรวดเร็วแล้ววิ่งหนีไปทันทีไม่ทันได้ให้สาวเจ้าตั้งสติ
“ไอ้บ้า!!!” ไม่ทันจะได้ด่าร่างหนาก็วิ่งไปไกลแล้ว เธอเอามือใบหน้าข้างที่โดนติณณภพหอมแก้มแล้วอมยิ้มออกมาด้วยความเขินอายก่อนจะเดินหนีออกไปจากสวนดอกกุหลาบก่อนที่ใครจะมาเห็นความผิดปรกติของเธอ