ไม่อนุญาตให้สแกนหนังสือ
หรือคัดลอกเนื้อหาส่วนใดส่วนหนึ่งของหนังสือ
เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของหนังสือเท่านั้น
นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องที่สมมติขึ้น
ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องจริงแต่อย่างใด ชื่อบุคคล
และสถานที่ที่ปรากฏในเนื้อเรื่อง ไม่มีเจตนา
อ้างอิงหรือก่อให้เกิดความเสียหายใดๆ
……….
นิยายเรื่องนี้… ไม่มีแก่นสารสารัตถะอะไรนักหนา
ทั้งเรื่องขับเคลื่อนด้วยอารมณ์อันมืดดำของมนุษย์
ดำเนินเรื่องด้วยตัณหาราคะสุดร้อนแรง
ท่านใดที่ไม่ชอบโปรดหลีกเลี่ยง
*เราเตือนท่านแล้ว*
จำเลยพิศวาส ชื่อเดิม (จำเลยราคะ)
นวนิยายสำหรับผู้ใหญ่เท่านั้น
ผู้เขียน กาสะลอง
ไม่อนุญาตให้สแกนหนังสือหรือคัดลอกเนื้อหาส่วนใดส่วนหนึ่งของหนังสือ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของหนังสือเท่านั้น
ตอนเช้าตรู่
ที่โต๊ะอาหารภายในบ้านหลังใหญ่ของหนุ่มลูกครึ่งรูปร่างสูงใหญ่ ใบหน้าคมคร้ามหล่อเหลานามว่า ‘คาร์สัน’ เจ้าของฟาร์มโคนมและไร่องุ่นชื่อดังบนเนื้อที่หลายพันไร่ในจังหวัดเชียงราย
คาร์สันเป็นผู้ชายหล่อมาก หล่อเข้าขั้นกระชากใจสาว หล่อวัวตายควายล้ม ใครที่ได้สบตาเขามีอันให้ต้องอ่อนระทวยแทบหลอมละลายลงไปกองกับพื้น
ฮ่าๆ ๆ ๆ ๆ ๆ...
เสียงหัวเราะของคาร์สันดั่งลั่นขึ้นด้วยความสะใจ เมื่อรู้ว่าบ้านและที่ดินของชายผู้เป็นศัตรูกำลังจะตกมาเป็นกรรมสิทธิ์ของตน
“พ่อเลี้ยงทำยังไงคะ... ถึงได้ทั้งบ้านและที่ดินของนายอัศวินมาครอบครองง่ายดาย”
ป้าโฉม แม่บ้านวัยกลางคนที่กำลังตักข้าวอยู่ข้างๆ ร่างสูงใหญ่ของผู้เป็นเจ้าของบ้าน รีบเอ่ยถามด้วยความอยากรู้
“จะยากอะไรล่ะป้า... คนที่โดนผีพนันเข้าสิงอย่างไอ้อัศวิน เมื่อถึงคราวจนตรอกหมดเงินมันก็ยอมเอาทุกอย่างมาจ่ายแทนหนี้พนันโดยไม่สนใจว่าลูกเมียจะไม่มีบ้านคุ้มกะลาหัว”
คาร์สันรู้สึกสะใจ หัวเราะเสียงดังลั่น ในวันที่ได้เห็นไอ้อัศวินกำลังจะกลายเป็นบุคคลล้มละลาย ตอนนี้สวนปาล์มหลายร้อยไร่ของมันที่เพิ่งโดนศาลสั่งบังคับคดีด้วยการยึดทรัพย์ไปขายทอดตลาด คาร์สันก็กว้านซื้อมาจนหมด
“ถึงขั้นทำให้คนในครอบครัวไม่มีบ้านอยู่แบบนี้... คิดดูแล้วก็น่าสงสารลูกเมียเค้านะคะ”
ป้าโฉมใจอ่อน รู้ว่านายอัศวินมีลูกสองคน คนโตเป็นผู้หญิง คนเล็กเป็นผู้ชาย
“ไม่... ผมไม่สงสาร และก็ไม่มีวันจะสงสารไอ้อีในตระกูลนี้เด็ดขาด”
คาร์สันกัดกรามกรอด ราวจะประกาศให้โลกได้รับรู้ว่าการที่เขามีชีวิตอยู่มาจนถึงทุกวันนี้... ก็เพราะต้องการรอดูศัตรูถูกเหยียบย่ำให้ฉิบหายจมดินลงเรื่อยๆ
“จบสิ้นกันเสียที... ป้าหวังว่าต่อจากนี้... พ่อเลี้ยงคงจะหายแค้นแล้วนะคะ”
ป้าโฉมอยากให้คาร์สันเลิกจองเวรศัตรูเสียที ไม่งั้นจะกลายเป็นการก่อกรรมทำเข็ญผูกเวรผูกกรรมต่อกันร่ำไปไม่รู้จบสิ้น
“ยัง... เท่านี้ยังไม่สาสมกับสิ่งที่มันเคยทำเอาไว้ ไอ้อัศวินมันจะต้องเจ็บปวดใจกว่านี้... และผมมีวิธีจะเล่นสนุกกับลูกสาวของมัน”
ดวงตาของคาร์สันแข็งกร้าวจนป้าโฉมนึกกลัวใจผู้ชายคนนี้
“พ่อเลี้ยงจะทำอะไรอีกคะ”
“ไอ้อัศวินมันจะต้องเจ็บปวดมากกว่านี้... ถ้ามันรู้ว่าผมกำลังจะยื่นข้อเสนอเพื่อเอาลูกสาวคนสวยของมันมาเป็นทาสบำเรอกาม”
“อะไรนะ... ”
ป้าโฉมยกมือขึ้นทาบอก หล่อนรู้ว่านายอัศวินเคยก่อกรรมทำให้คาร์สันเจ็บแค้นจนหัวใจสลายเมื่อในอดีตก็จริง แต่เรื่องราวก็ผ่านมานานมากแล้ว ถ้าขืนยังไม่รู้จักอโหสิกรรมต่อกัน... ชีวิตจะหาความสุขสงบได้อย่างไร
วันรุ่งขึ้น
คาร์สันนัดให้นายอัศวินมาเจอกันที่ร้านกาแฟในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง เพื่อเจรจาเรื่องสำคัญ เขาเชื่อมั่นว่ามันจะเป็น ‘เงื่อนไข’ ที่ทำให้คนเป็นพ่ออย่างนายอัศวินเจ็บจนต้องกระอักเลือดช้ำในอย่างแน่นอน
“ฉันจะไม่ยึดบ้านนายก็ได้”
คาร์สันกล่าวเสียงเข้ม นัยน์ตาที่ทอดมองใบหน้าของศัตรูไม่ต่างจากแววตาของสัตว์นักล่าที่นั่งมองเหยื่อที่กำลังตกอยู่ในสถานการณ์เป็นรอง
“จริงหรือครับพ่อเลี้ยง... โอ้ว... ขะ... ขอบคุณครับขอบคุณเหลือเกิน”
แม้จะอายุมากกว่า หากในเวลาที่กำลังจะไม่เหลือที่ซุกหัวนอน นายอัศวินก็กล้ายกมือขึ้นไหว้ปลกๆ
คาร์สันแสยะยิ้ม แววตาเยียบเย็นเหยียดหยามทอดมองชายตรงหน้าด้วยความสะใจ นาทีนี้นายอัศวินคงต้องยอมลดศักดิ์ศรีและวางความหยิ่งทะนงลงกับพื้น หากการไม่ยึดติดกับสิ่งเหล่านี้... จะช่วยทำให้เมียและลูกอีกสองคนมีที่ซุกหัวนอนกันต่อไป
“จริงสิ... ฉันตัดสินใจแล้ว ว่าจะไม่ยึดบ้านนายก็ได้ แต่ฉันมีข้อแลกเปลี่ยน... อยู่ที่ว่านายจะตกลงไหม?”
คาร์สันยกมือขึ้นกอดอก
“อะไรครับ... เงื่อนไขอะไร?”
นายอัศวินทำหน้าอยากรู้ แววในดวงตาของคาร์สันเปลี่ยนไปเป็นแข็งกร้าวขึ้นมาอีกครั้ง
ถ้าหากสังเกตดีๆ นายอัศวินจะเห็นประกายความคับแค้นที่เต้นเร่าอยู่ในดวงตาของคาร์สัน เพียงแต่นายอัศวินยังไม่รู้ว่าคาร์สันเป็นใคร?
“ฉันอยากได้ลูกสาวของนายมาบำเรอกามสักหนึ่งเดือน”
ถ้อยคำอำมหิตหลุดออกมาจากปากของคาร์สันในที่สุด สิ่งที่ได้ยินทำให้หัวใจของคนเป็นพ่ออย่างนายอัศวินแหลกสลาย ในนาทีที่รู้สึกว่า ‘ค่า’ ของตัวเองนั้นต่ำต้อยราวกรวดทรายที่อยู่ใต้พื้นรองเท้าของคาร์สัน
“อะ... อะไรนะ... ”
นายอัศวินตกใจ มือกำแน่น หากก็ทำได้เพียงแค่ซ่อนเอาไว้ใต้โต๊ะ ความเจ็บแปลบภายในใจค่อยๆ แล่นร้าวปวดลึกไปทั้งร่าง
“ว่ายังไง... ตกลงมั้ย”
เสียงเข้ม ดวงตาแข็งกร้าว คาร์สันยกเท้าขึ้นไขว่ห้าง กอดอกแล้วเอนหลังรอฟังคำตอบที่จะไม่ทำให้เขาผิดหวัง ระหว่างที่รอคำตอบเขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดเล่นเกมไลน์เรนเจอร์โดยไม่ใยดีต่อความทุกข์ร้อนของชายที่นั่งกล้ำกลืนฝืนตรมอยู่ตรงหน้า