2. เห็นแค่รูปก็ทำใจสั่น

1187 Words
(ป่วนหัวใจนายบอดี้การ์ดหน้านิ่ง) #ณะ คฤหาสน์หลังใหญ่ของเดชา "ส่งกระเป๋ามาพี่ เดี๋ยวผมเอาไปเก็บที่บ้านพักให้ก่อน" เป็นเสียงของภีมบอดี้การ์ดส่วนตัวของลูกสาวเจ้าของคฤหาสน์หลังนี้ เขาเอ่ยอาสาเอากระเป๋าสัมภาระไปเก็บให้รุ่นพี่ที่พึ่งเข้ามาทำงานที่นี้เป็นวันแรก ซึ่งรุ่นพี่คนดังกล่าวก็คือวายุนั้นเอง "ขอบใจ" พรึ่บ! เอ่ยขอบคุณรุ่นน้องจบ วายุก็โยนกระเป๋าเป้สีดำที่สะพายอยู่บนไหล่ข้างขวาของเขาให้รุ่นน้องหรือภีมทันที ปึก! ภีมรับกระเป๋าเป้ของรุ่นพี่มาอย่างไม่ทันตั้งตัวแต่ก็รับไว้ได้ทัน แล้วเขาก็เดินไปยังบ้านพักบอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหลังของคฤหาสน์ทันที "เดี๋ยวมึงเข้าไปหานายก่อนแล้วกัน" เป็นเสียงภาคลูกน้องคนสนิทมือขวาของเดชา ภาคเอ่ยบอกรุ่นน้องที่เขาได้ชักชวนมาทำงานที่นี่ด้วยกัน หรือเอ่ยกับวายุนั้นเอง วายุพยักหน้าให้แทนคำตอบ จากนั้นภาคก็เดินนำวายุไปหาเจ้านายหรือเดชาที่อยู่ในห้องทำงานบนชั้นสองของคฤหาสน์หลังนี้ทันที ภายในห้องทำงานเจ้าของคฤหาสน์(เดชา) "ประวัติเอ็งเก่งใช้ได้หนิ รวยเอาเรื่องซะด้วย นอนอยู่บ้านสบายๆก็ได้ทำไมถึงยังเป็นบอดี้การ์ดอยู่อีก" เป็นเสียงของเดชาเจ้าของคฤหาสน์หรือเจ้านายของทุกคนในที่นี้ เขาพูดกับลูกน้องคนใหม่พลางถามไปด้วยในประโยคหลัง เขานั่งอยู่บนเก้าอี้หลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ท่าทางสบายๆ แต่กลับดูสง่าและใบหน้าของเขาก็ยังหล่อเหลาเต็งตึงยังกับคนอายุสามสิบต้นๆทั้งที่ปีนี้เขาอายุสี่สิบสองปีแล้ว "ผมไม่ใช่คนขี้เกียดครับ" วายุตอบไปตามตรงด้วยน้ำเสียงและใบหน้าเรียบนิ่ง ยืนกุมมือไว้ด้านหน้าไหล่ผึ่งตามแบบฉบับบอดี้การ์ดอยู่หน้าโต๊ะทำงานของเจ้านายด้วยท่าทางปกติ สายตาคมกริบของเขาเหลือบมองรูปถ่ายขนาดใหญ่ที่แขวนอยู่บนผนังด้านหลังของเจ้านายเป็นระยะๆ "หึ ตอบตรงดีหนิ มันต้องแบบนี้สิวะกูชอบ" เดชารู้สึกถูกอกถูกใจในคำตอบของลูกน้องคนใหม่คนนี้เป็นอย่างมาก ซึ่งไม่เคยมีใครกล้าตอบคำถามที่ดูจะกวนบาทาเขาขนาดนี้ แต่เขากลับชอบที่เด็กหนุ่มบอดี้การ์ดคนนี้พูดมันออกมาด้วยความซื่อตรง มันดูจริงใจดี และเขาเองก็เริ่มจะถูกชะตากับบอดี้การ์ดคนใหม่คนนี้ซะแล้ว คิดไม่ผิดที่เลือกมาดูแลลูกสาวของเขา เวลาต่อมา บ้านพักบอดี้การ์ด ภายในห้องพักส่วนตัวของวายุ "เป็นไงบ้างพี่วายุ พออยู่ได้มั้ย" ภีมเอ่ยถามรุ่นพี่เพราะเขาเกรงว่าที่นี้อาจจะคับแคบหรือไม่สะดวกสบายสำหรับรุ่นพี่...ซึ่งภีมพอจะรู้มาบ้างว่าวายุนั้นเป็นคนมีเงินมีฐานะอยู่พอตัว เขาเองก็ยังสงสัยว่าทำไมวายุถึงยังทำงานเป็นบอดี้การ์ดอยู่อีก แต่กระนั้นเขาก็ไม่คิดจะถามละลาบละล้วงอะไรออกไปเพราะคิดว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัว "อืม สบายมาก" วายุตอบรุ่นน้องด้วยน้ำเสียงและใบหน้าเรียบนิ่ง พลางกวาดสายตามองสำรวจภายในห้องพักไปด้วย เขาเป็นคนง่ายๆ กินง่ายอยู่ง่ายไม่ได้ยึดติดกับความสบายอยู่แล้ว ด้วยความที่เป็นคนต่างจังหวัดใช้ชีวิตเรียบง่ายมาก่อน สำหรับเขาห้องพักบอดี้การ์ดประมาณนี้ถือว่าใช้ได้ ไม่ได้แย่อะไรเลย อาจจะสะดวกสบายกว่าที่อื่นด้วยซ้ำไป "เออพี่ เห็นคุณหนูรึยัง เป็นไง คุณหนูของผมน่ารักใช่มั้ยล่ะ" อยู่ๆภีมนึกขึ้นได้จึงเอ่ยถามไป ประหนึ่งตอบเองไปด้วย ท่าทางขี้เล่นตามสไตส์ของเขา "คุณหนูของผม" วายุพูดทวนคำพลางเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งเชิงเป็นคำถาม เขารู้สึกไม่ชอบใจขึ้นมาเสียดื้อๆที่รุ่นน้องพูดออกมาแบบนั้น ใบหน้าหล่อเหลาที่เคยนิ่งขรึม ตอนนี้คิ้วหนากลับขมวดเข้าหากัน นึกหงุดหงิดขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก "อะไรพี่ อย่ามามองผมแบบนั้น ผมหมายถึงคุณหนูที่ผมดูแลอยู่ครับ ไม่ใช่คุณหนูของผมแบบที่พี่คิด ขืนผมคิดอะไรไม่ดีกับคุณหนูนายได้เอาผมตายสิ คุณหนูเป็นเด็กที่น่ารักมาก พี่เองก็อย่าหวั่นไหวอย่าเผลอใจคิดอะไรกับคุณหนูล่ะ นายหวงลูกสาวยิ่งกว่าจงอางหวงไข่เลยนะพี่" ภีมรีบปฏิเสธออกไปทันทีเพราะดูจากสีหน้ารุ่นพี่ เขาก็รู้แล้วว่ารุ่นพี่ของเขากำลังคิดอะไรอยู่ และไม่ลืมที่จะเอ่ยเตือนรุ่นพี่ไปในประโยคหลังๆด้วยความที่เขากลัวว่ารุ่นพี่จะโดนความน่ารักของเด็กสาวตกให้ "ไร้สาระ" วายุพูดพลางส่ายหน้าให้รุ่นน้องอย่างไม่ใส่ใจ "แล้วตกลงว่าไงพี่วายุ พี่ว่าคุณหนูน่ารักมั้ย" ภีมไม่ได้สนใจอะไร เขาก็ยังถามเล้าหลือคาดคั้นจะเอาคำตอบให้ได้ "มึงถามเพื่ออะไรวะ กูยังไม่เห็น" น้ำเสียงเริ่มแข็งขึ้น ยืนกอดอกมองรุ่นน้องที่อายุน้อยกว่าเขาแค่สองปีด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง เขาเริ่มจะรำคาญรุ่นน้องขึ้นมาที่ถามอะไรนอกเรื่อง "โห่~ อะไรของพี่เนี่ย ไม่เห็นได้ไงรูปคุณหนูติดอยู่เต็มบ้านพี่ไม่ได้มองเลยเหรอ" ภีมรู้สึกเซ็งขึ้นมาทันทีที่รุ่นพี่ของเขาดูจะไม่สนใจและไม่ใส่ใจอะไรเลย ซึ่งเขาแค่ต้องการให้รุ่นพี่เอ็นดูเด็กสาวเหมือนกับที่เขาเอ็นดูเธอแบบน้องสาวคนหนึ่งก็เท่านั้นถึงได้คาดคั้นเอาคำตอบจากรุ่นพี่อยู่แบบนี้ "ช่างเถอะผมไม่ถามละ พี่พักผ่อนเถอะ เดี๋ยวถึงเวลาไปรับคุณหนูที่โรงเรียนผมจะมาตามแล้วกัน" ภีมพูดปัดๆไปอย่างเซ็งๆ บอกกล่าวประโยคหลังกับรุ่นพี่เสร็จก็เดินออกไปเลย วายุมองตามหลังรุ่นน้องด้วยสายตาเรียบนิ่ง ในหัวของเขากลับนึกไปถึงรูปถ่ายเด็กผู้หญิงที่ติดอยู่บนผนังและวางอยู่บนเฟอร์นิเจอร์หรูเต็มไปหมดทั้งรูปตอนเด็กและตอนโต ซึ่งเขาได้มองเห็นรูปถ่ายเหล่านั้นตั้งแต่ย่างก้าวเข้าไปในคฤหาสน์แล้ว วายุยกมือหนาข้างขวาขึ้นมาวางทาบบนอกข้างซ้ายตรงตำแหน่งหัวใจของตัวเอง ตอนนี้ใจแกร่งของเขามันสั่นและเต้นแรงขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้บอกไม่ถูกยามที่นึกถึงดวงหน้าเล็กๆน่ารักๆของเด็กสาวที่อยู่ในรูปถ่ายดังกล่าว (เป็นอะไรของมึงวะไอวายุ) เขาบ่นกับตัวเองอยู่ในใจ โดยที่ยังทาบมือขวาไว้ตรงตำแหน่งหัวใจอยู่อย่างนั้น ใบหน้าหล่อเหลาที่มักจะนิ่งอยู่ตลอด ตอนนี้คิ้วหนากลับขมวดเข้าหากันยุ่งด้วยความที่ไม่เข้าใจว่าตัวเองนั้นเป็นอะไร
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD