บทนำ

2188 Words
ลอสแอนเจลิส ในฤดูหนาวของที่นี่อากาศค่อนข้างหนาวจัด ชนิดที่ว่ามีหิมะโปรยลงมาตลอดเวลาหากไม่ทำให้ร่างกายอบอุ่นเข้าไว้ก็อาจจะทำให้ ‘เธอ’ เจ็บป่วย หรือไม่สบายขึ้นมาอีกได้ หญิงสาวได้หันออกไปมองนอกหน้าต่างเธอย่อมเห็นหิมะที่โปรยลงมาในช่วงเวลาใกล้ค่ำ ตะวันกำลังจะลาลับขอบฟ้าขณะเดียวกันหิมะบางเบาแต่แสนเยือกเย็นก็โปรยลงมาก่อให้เกิดความเหงาขึ้นภายในจิตใจ เธอมาอยู่ที่นี่ได้สามปีแล้ว และไม่ได้ติดต่อกับ ‘คนผู้นั้น’ อีก คนที่เธออยากหนีเขาเพราะเธอต้องการตัดใจ และหลุดพ้นจากรักข้างเดียว ในตอนที่เธอมาที่นี่ในช่วงแรกเขายังคงพยายามติดต่อเธออยู่แต่หลังจากนั้นเขาก็เริ่มเงียบหายไปซึ่งก็ดีแล้วล่ะเพราะหากเขากับเธอยังติดต่อกันอยู่ ก็คงทำให้เธอรู้สึกว่าเธอไม่สามารถตัดเขาได้ขาดอย่างแน่นอน นลินญาเก็บหนังสือลงกระเป๋าเป้สีดำพลางหยัดกายลุกขึ้นหมุนตัวยัดเก้าอี้สอดเอาไว้ใต้โต๊ะขณะเดียวกันเธอก็กำลังเดินออกมาในตอนนั้นเองมีชายหนุ่มคนหนึ่งรูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาว ร่างกายกำยำ ดวงตาสีน้ำข้าว ริมฝีปากสีคล้ำนิดหน่อยเดินตรงเข้ามาหาเธอพร้อมกับรอยยิ้ม เขาเอ่ยทักทายเธอด้วยน้ำเสียงที่สดใส ทันทีที่นลินญาเห็นชายหนุ่มคนนี้เธอก็ระบายยิ้มด้วยความสดใสเหมือนกันเพราะเขาคนนี้เป็นเพื่อนคนแรกของเธอที่เธอย้ายเข้ามาอยู่ที่ประเทศนี้เลย “กลับได้แล้วเอ๋ย” “รู้แล้วน่า เอ๋ยก็เก็บของใส่กระเป๋าแล้วนี่ไง เฟรดมานานแล้วเหรอ” เฟรดดี้เพื่อนชายคนแรกของนลินญาตั้งแต่ที่เธอได้มาอยู่ที่นี่ทั้งสองคนก็สนิทสนมกัน และตัวติดกันราวกับเป็นเงาตามตัว จากนั้นไม่นานเฟรดดี้ก็แนะนำให้นลินญารู้จักกับอกิร่า และเคซี่ทำให้ทั้งสี่คนกลายเป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่วันนั้นมาจนถึงทุกวันนี้ เพียงแต่ว่าเพื่อนทั้งสามคนที่เป็นเพื่อนของนลินญาดูจากภายนอกแล้วเหมือนเพื่อนคนไทยคนนี้จะมีความร่าเริงแจ่มใส เพียงแต่ว่าตลอดสามปีที่ผ่านมาพวกเธอ และเขาต่างก็สังเกตว่าเหมือนเพื่อนคนไทยมีเรื่องราวในใจที่เก็บเอาไว้ไม่ยอมบอกใคร “หิมะตกหนักมาก เราจะไปกันยังไง” “ทำอย่างกับหิมะไม่เคยตกที่นี่” นลินญาพูดแซวเพื่อนในขณะที่เฟรดดี้แย่งกระเป๋าเป้ของเธอไปถือเอาเอง เพื่อนอีกสองคนต่างก็มองพฤติกรรมของเฟรดดี้แล้วพากันยกยิ้ม แน่นอนว่าสองสาวต่างรู้ว่าเฟรดดี้รู้สึกอย่างไรกับเพื่อนคนไทยคนนี้ และทั้งเธอกับเคซี่ต่างรู้กันดีว่าเฟรดดี้จะไม่ได้รับในสิ่งที่เขาคาดหวัง เพราะว่านลินญาไม่เคยมีท่าทีให้กับเฟรดดี้ในเชิงอื่นเลย “งั้นไอว่าพวกเราหาอะไรอุ่น ๆ กินกันก่อนไหมแล้วค่อยแยกย้าย” “เอาสิ” นลินญาตอบรับเพื่อนก่อนจะพากันก้าวเดินไปยังจุดหมายที่อยู่ไม่ไกล “ว่าแต่จ๊ะเอ๋ยยูน่าอิจฉามากเลยนะ คอนโดอยู่ใกล้แค่นี้เองเดินข้ามฝั่งไปก็ถึงแล้ว” อกิร่าหันมาพูดกับนลินญาแน่นอนว่านลินญาอยู่ที่นี่ใกล้มหาวิทยาลัยอย่างนี้ล้วนเกิดจากป่าปี๊ของเธอเป็นคนเลือกให้ทั้งสิ้น อีกทั้งยังอยู่ใกล้กับโรงแรมชื่อดังแล้วยังมีคอร์สสอนเพื่ออัปสกิลการทำอาหารอย่างที่เธอต้องการ ซึ่งเธอเป็นคนที่รัก และชอบการทำอาหารเหมือนป่าปี๊ของเธอไม่มีผิดเพี้ยน เธอจึงรู้สึกว่าคอนโดที่นี่เหมาะสมกับเธอที่สุด “งั้นก็ไปซูเปอร์ไหมแล้วก็หาอะไรกินกันเนอะแล้วค่อยแยกย้าย พรุ่งนี้ก็เจอกัน” “ได้เลย” ทั้งสี่คนเดินออกมาจากห้องสมุดของมหาวิทยาลัยขณะที่กำลังเดินออกมาสาว ๆ ต่างก็พูดคุยกันเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปด้วย โดยที่ส่วนใหญ่แล้วคนที่พูดเก่งที่สุดคงไม่พ้นสามสาว ด้วยนิสัยของผู้หญิงที่มักจะสดใส ร่าเริง แล้วยังสามารถสรรหาเรื่องต่าง ๆ นานามาพูดคุยกันได้แทบจะตลอดเวลา เรียกได้ว่าคุยกันไปเรื่อยนั่นแหละ ส่วนเฟรดดี้ที่เป็นผู้ชายคนเดียวของกลุ่มอันที่จริงแล้วเขาก็มีเพื่อนกลุ่มอื่นด้วยเช่นกันเพียงแต่ว่าเขาสนิทกับกลุ่มนี้มากกว่าจึงใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับเพื่อนผู้หญิงทั้งสามคน “ไอเอาอันนี้” เมื่อเดินมาถึงซูเปอร์มาร์เก็ตเคซี่ก็รีบเดินตรงไปยังโซนอาหารทันทีเธอเลือกอาหารที่ตัวเองชื่นชอบ แน่นอนว่าเพราะอากาศแบบนี้พวกเธอต้องหาอะไรกินอุ่น ๆ ให้ร่างกายรู้สึกอบอุ่นเข้าไว้ “ของยูน่ากินอ่า... ไอเอาแบบเคซี่ด้วยดีกว่า” “ยูล่ะเอาแบบไหน” อกิร่าเลือกกินเหมือนกันกับเคซี่แล้วหันมาถามนลินญาอย่างเอาใจใส่ แน่นอนว่าคนอย่างนลินญาไม่ใช่คนเรื่องมากเพราะเธอสามารถทำอะไรกินเองได้ หากอยู่ที่คอนโด เธอก็คงจะเปิดตู้เย็นแล้วหยิบวัตถุดิบนั่นนี่มาทดลองผสมให้เข้ากันแล้วลองกินดู แน่นอนว่าเพื่อนรักทั้งสามคนต้องเคยกลายเป็นหนูทดลองของเธออยู่บ่อยครั้ง “ฉันกินอะไรก็ได้” “งั้นเอ๋ยกินเหมือนไอแล้วกัน” เฟรดดี้เห็นว่ามีจังหวะ เขาจึงเสนอตัวขึ้น และก็ไม่มีใครว่าอะไร ทุกอย่างจึงกลายเป็นปกติ เมื่อเลือกอาหารที่ตัวเองโปรดปรานได้แล้วทุกคนก็เดินไปยังจุดที่ซูเปอร์มาร์เก็ตจัดเอาไว้ให้ แน่นอนว่าตรงนี้สามารถนั่งกินได้ เพียงแต่เมื่อกินเสร็จแล้วต้องจัดการขยะเอาไปทิ้งด้วยตัวเอง เพื่อนทุกคนต่างก็พูดคุยกันทั้งเรื่องเรียน เรื่องผู้ชาย เรื่องผู้หญิง และเรื่องอื่น ๆ แต่นลินญาเหมือนกับหลุดเข้าไปในภวังค์เธอมองออกไปนอกผนังกระจกเห็นหิมะที่โปรยปรายลงมา มือเรียวของเธอจึงยกขึ้นจับที่หัวใจของตัวเอง หัวใจของเธอในตอนนี้แม้มันจะกำลังเต้นอยู่แต่เธอก็รู้สึกว่ามันเต้นช้าลงอย่างเห็นได้ชัด ไม่ใช่ว่าเธอกำลังจะตายแต่เพราะเธอกำลังคิดถึงใครบางคนอยู่ สามปีแล้วสินะ สามปีแล้วที่เธอหนีเขาคนนั้นมา โดยที่เขาไม่รู้เลยว่าเธอกำลังหนีอะไร และเธอมาที่นี่ทำไม แต่นลินญาก็เลือกแล้วที่จะทำอย่างนี้ เธอเลือกที่จะตัดรักแรก รักข้างเดียวของเธอทิ้งในเมื่อเขาไม่เห็นค่า เธอยังจะยื่นคุณค่าความรักของเธอให้เขาอีกทำไม สู้เธอเก็บเอาความรักที่เธอให้เขาย้อนกลับมารักตัวเองไม่ดีกว่าหรือ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมนลินญาจึงดูโตขึ้น สวยขึ้น เก่งขึ้น มีความสามารถมากขึ้น เพราะความรักที่เธอเคยทุ่มเทให้เขาเมื่อตอนที่ยังเด็กในตอนนี้เธอเอามันกลับมาทุ่มเทให้ตัวเธอเองแล้ว นลินญามีความเชื่อที่ว่าลงทุนกับตัวเองย่อมไม่เสียเปล่า และคุ้มค่าที่สุด “พวกยูเคยมีรักแรกกันไหม” อกิร่าถามขึ้นพลางมองหน้าเพื่อนทุกคน แน่นอนว่าทุกคนต่างก็พยักหน้าเว้นแต่เพียงนลินญาคนเดียวที่ไม่ได้พยักหน้าแต่ยังคงมองออกไปนอกผนังกระจก เธอมองดูหิมะที่โปรยลงมากระทบกับแสงสีส้มของไฟทางเดิน และอากาศที่ดูเย็นฉ่ำ ยิ่งเธอดู เธอก็ยิ่งรู้สึกว่าเหงามาก แต่เธอก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะว่าต่อให้จะเหงามากแค่ไหนแต่เธอก็ผ่านพ้นมันมาได้ในทุกคืน นลินญายังคงก้มหน้าก้มตากินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ส่วนเพื่อนคนอื่น ๆ ต่างก็เริ่มเล่าเรื่องราวรักแรกของตัวเองไม่ว่าจะเป็นอกิร่า เคซี่ หรือแม้แต่เฟรดดี้ ทุกคนก็ยังคงจำรักแรกของตัวเองได้เช่นเดียวกันกับเธอ ที่จำได้แต่ไม่ยอมปริปากออกมาเลยแม้แต่คำเดียว 4 ปีก่อน เสียงฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีอยู่ในคอนโดใกล้กับโรงเรียนมัธยมที่เธอเรียนอยู่ซึ่งแน่นอนว่านลินญาเองรู้สึกมีความสุขมากที่ได้ย้ายออกมาอยู่คอนโดแบบนี้เพราะว่าเธอได้อยู่คอนโดเดียวกันกับผู้ชายที่เธอแอบชอบนั่นก็คือพี่พ้อยต์ลูกชายของลุงไทก้าเพื่อนของป่าปี๊ของเธอเอง เพราะเขาดูแลเธอเป็นอย่างดีตั้งแต่เด็กจนโต ไม่เคยพูดจาไม่ดีกับเธอเลยสักครั้งแถมยังใจดีกับเธอมาก ๆ อีกทั้งยังตามใจเธอมากด้วยเขามักจะเป็นห่วงเธออยู่เสมอจนทำให้เธอรู้สึกว่าพี่พ้อยต์เป็นผู้ชายที่อบอุ่นมากสำหรับเธอ และหากเธอจะมีแฟนเธอก็อยากได้แฟนที่อบอุ่นแบบพี่พ้อยต์ “ฮัมเพลงอารมณ์ดีอะไรคะ” ในตอนที่นลินญากำลังลองทำอาหารสูตรใหม่ซึ่งเธอตั้งใจว่าจะให้พาริชชิมเป็นคนแรก และเขาเองก็เหมือนกับจะรู้ตัวว่าตัวเองจะต้องเป็นหนูทดลองให้เธอแต่เขาก็กล้าที่จะเดินเข้ามาในกับดัก เปิดประตูห้องพักของเธอที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับห้องพักของเขาเข้ามาโดยไม่ต้องเคาะประตู เมื่อได้ยินเสียงเธอฮัมเพลงเขาจึงเอ่ยแซวเธอขึ้นมา สิ่งที่ทำให้เธอแพ้เขานั่นคือการพูดจาไพเราะของเขา เธอแพ้ผู้ชายพูดคะขา อีกอย่างผู้ชายอย่างเขาดูอบอุ่นที่สุดสำหรับเธอ เธอไม่ได้ขาดความรักจากพ่อ พ่อของเธอให้ความรักเธอได้เป็นอย่างดีเพียงแต่ว่าพาริชเองก็มีนิสัยคล้ายกับพ่อเธออยู่เหมือนกันนั่นคือการเอาใจใส่เธอ แม้ตอนก่อนเธอจะดื้อรั้นอยากไปเรียนที่ต่างประเทศคนเดียว พ่อของเธอยินยอมพออยู่ไปสักพักเธอรู้สึกเหงาเหมือนอยู่ตัวคนเดียวเธอจึงงอแงขอกลับ แต่พอกลับมาพ่อของเธอก็เริ่มไม่ค่อยว่างแล้วท่านจึงส่งพาริชมาเป็นตัวแทนในการดูแลเธอ ซึ่งก่อนหน้านี้เธอกับพาริชก็เจอกันอยู่บ่อยครั้ง และทุกครั้งเขาก็ดีกับเธอเสมอไม่เคยเปลี่ยนตั้งแต่เธอยังเป็นเด็กตัวเท่าหัวเข่าจนถึงตอนนี้ตัวเธอจะเท่าอกเขาอยู่แล้ว “พี่พ้อยต์ขา~ เอ๋ยทำซุปไก่สูตรใหม่มาค่ะ พี่พ้อยต์ลองชิมดูหน่อยนะคะ” กดยิ้มบางก่อนจะเดินเข้าไปหาน้องสาวตัวเล็กของเขา เขามองเธอด้วยสายตาอบอุ่นอ่อนโยนซึ่งสายตาแบบนี้ก็ทำให้เด็กน้อยฝันไปไกลแสนไกลแม้ตอนนี้เธอจะพึ่งอยู่แค่ ม.5 แต่เขาเองก็เอาใจใส่เธอเป็นอย่างดีแม้ว่าเขาจะอยู่ในวัยทำงานแล้วก็ตาม “พี่จะไม่ท้องเสียใช่ไหมคะ” “ไม่หรอกค่ะ เอ๋ยลองชิมแล้วค่ะ อร่อยมาก” นลินญาหยิบทัพพีขึ้นมาตักเอาน้ำซุปที่เธอเพิ่งทำ ยกขึ้นเป่าเบา ๆ ไล่ไอร้อนแล้วป้อนไปที่ปากของชายหนุ่ม ส่วนพาริชเองก็มองเธอด้วยสายตาเอ็นดูก่อนจะอ้าปากรับน้ำซุปจากช้อนที่เธอป้อนเพียงแค่นั้นก็ทำให้หัวใจของเด็กน้อยรู้สึกเต้นตูมตามขึ้นมาราวกับว่ามันพร้อมที่จะกระเด็นออกมาทุกเมื่อ สายตาของนลินญามองพาริชอย่างตื่นเต้นเธออยากรู้ว่ารสมือของเธอพอจะถูกใจเขาบ้างไหม แน่นอนว่าเมื่อพาริชได้กินเข้าไปแล้ว เขาทำท่าราวกับว่าซุปไก่ที่เธอทำนั้นไม่อร่อยเอาเสียเลย เด็กน้อยเริ่มหน้าเสียแต่แล้วใบหน้าหล่อเหลาก็ระบายยิ้มออกมา มือหนาของเขาวางไว้บนศีรษะของเธอก่อนจะเลื่อนลงมาจับที่ปลายคางของเธอส่ายเบา ๆ สองสามที “อร่อยมากค่ะ อนาคตน้องเอ๋ยต้องเป็นเชฟดาวรุ่งเหมือนลุงเข็มแน่นอน” “ถ้าเอ๋ยทำอะไรอร่อย ๆ พี่พ้อยต์มาชิมบ่อย ๆ ได้ไหมคะ” “แน่นอนอยู่แล้วค่ะ พี่จะหิ้วท้องรอน้องเอ๋ยทุกวันเลย” มันไม่ใช่จุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอรู้สึกดีกับเขา เพียงแต่ว่าทุกอย่างที่เขาทำไม่ว่าจะตอนที่เธอยังเด็ก หรือในตอนนี้ ก็ล้วนแต่ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยทำให้เด็กน้อยคนหนึ่งรู้สึกว่าเขาน่าจะมีความรู้สึกดี ๆ ให้กับเธอบ้างหรือเปล่า
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD