บทที่1 กำเนิดจันทร์เจ้า

993 Words
บทที่1 กำเนิดจันทร์เจ้า บ้านปีติภัทรไพศาล ในบ้านคฤหาสน์ใหญ่โตที่ดูอบอุ่นและมีความสุขมากล้น เหล่าแม่บ้านต่างพากันชื่นชมคุณหนูของบ้านที่กำลังท่องศัพท์ภาษาอังกฤษให้ทุกคนฟัง ตะวัน ลูกชายวัย9ขวบของคุณหมอเมฆและคุณหญิงสายธาร คุณหมอเมฆกำลังดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลเอกชน ปีติภัทรไพศาล โรงพยาบาลนี้ก่อตั้งมาตั้งแต่รุ่นคุณปู่ของตะวัน "แย่แล้วค่ะคุณสายธาร!! คุณหมอเมฆ!!!" ป้าอ้อยแม่บ้านสายเผือกวิ่งเข้ามาพร้อมเสียงตะโกนจนทุกคนในบ้านตกอกตกใจจนต้องรีบออกมาดู "อะไรกันอ้อย! เสียงดังไปแปดบ้านแล้ว" "คุณสายธารเจ้าขา มีคนเอาเด็กมาทิ้งไว้อยู่หน้าบ้านค่ะ!" สีหน้าของป้าอ้อยดูไม่ค่อยสู้ดี ทุกคนจึงรีบออกมาดูตามคำบอกเล่าของป้าอ้อย เด็กน้อยที่พึ่งลืมตาดูโลกนอนตัวแดงอยู่ข้างถังขยะ ทำให้คุณหญิงสายธารรีบเข้าไปอุ้มตัวเด็กทารกขึ้นมาด้วยความสงสาร "โธ่ลูกเอ๊ย! ใครมันช่างใจดำกับหนูขนาดนี้นะ!" สายธารน้ำตาไหลพรากเพราะเธอพึ่งสูญเสียลูกสาวในท้องไปเมื่อปีที่แล้ว ทำให้เธอเหลือลูกชายเพียงคนเดียว นั่นก็คือตะวัน "ผมว่าผมจะไปแจ้งความไว้ก่อนดีกว่า" "คุณคะ ฉันจะขอรับหนูน้อยคนนี้มาเป็นลูกสาวได้ไหมคะ ฉันคิดถึงยัยหนู.." "ได้สิ ทำไมจะไม่ได้ ยัยหนู....มาเป็นลูกสาวของพ่อกับแม่ และเป็นน้องสาวของพี่ตะวันนะครับ" หมอเมฆลูบหัวเด็กน้อยด้วยความเอ็นดู "แม่ครับ พ่อครับน้องชื่ออะไรครับ" ผู้ใหญ่สองคนมองหน้ากันสายธารจึงขอเอาชื่อที่เคยคิดจะตั้งให้ลูกสาวมาตั้งเป็นชื่อของเธอแทน "หนูจันทร์เจ้า...." "น้องจันทร์เจ้าเหรอครับคุณแม่ เย้ๆๆๆ" หลังจากวันนั้นหนูจันทร์เจ้าก็ได้เข้ามาเป็นลูกสาวคนเล็กของบ้านปีติภัทรไพศาล เธอเป็นเด็กเรียบร้อย ไม่โวยวาย ตื่นเมื่อไหร่ก็จะนอนรอเงียบๆ กลางคืนมีร้องบ้างแต่พอได้นมก็จะหยุดร้องทันที เวลาผ่านไปจนกระทั่งตะวันต้องเดินทางไปเรียนต่อที่ต่างประเทศจนกว่าจะเรียนจบแพทย์เฉพาะทาง ชายหนุ่มอายุ19 กับน้องสาวต่างสายเลือดอายุ10ขวบ เดินจับมือกันมาที่สนามบินพร้อมด้วยพ่อแม่ของเธอ "อยู่บ้านอย่าลืมอ่านหนังสือ อย่าดื้อนะจันทร์เจ้า" "ค่ะ พี่ตะวันอยู่ที่นั่นคงหนาวมาก อย่าลืมใส่เสื้อหนาๆ นะคะ" "ครับ พ่อครับ แม่ครับ เพื่อนผมรอข้างในแล้วถึงบ้านพักผมจะรีบโทรหานะครับ" ชายหนุ่มหันไปร่ำลาผู้มีพระคุณเพื่อรับคำอวยพรจากนั้นก็หันมามองหน้าน้องสาวที่พยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ "ห้ามร้องนะเจ้าน้ำตาบ้าฮึก!" สาวน้อยพยายามสั่งน้ำตาของตัวเองไม่ให้ไหลแต่เจ้าน้ำตากลับไหลไม่หยุด "ฮ่าๆ ไม่เอาไม่ร้องพี่ไปเรียน เร็วสุดก็8-9ปีถึงจะได้เจอกัน" "ทำไมไปนานขนาดนั้นคะ" "พี่ต้องไปเรียนครับ เราอยู่ทางนี้ก็ต้องตั้งใจเรียนนะรู้ไหม ไว้พี่จะโทรหาบ่อยๆ" "ค่ะ ฮึก!!" เมื่อชายหนุ่มเดินเข้าไปจนพ้นสายตา สาวน้อยจันทร์เจ้าก็ปล่อยโฮออกมาจนคุณพ่อเมฆต้องรีบเข้ามาปลอบใจ ทุกคนรอจนเครื่องบินเคลื่อนตัวจนพ้นสายตาถึงได้กลับบ้าน แต่ระหว่างทางสาวน้อยเอาแต่นั่งเงียบจนหลับไป "อีกสักพักก็คงทำใจได้ เมื่อคืนตะวันก็ต้องมานอนด้วย" หมอเมฆยิ้มผ่านกระจกมองหลัง "จันทร์เจ้า หนูอยากกินอะไรไหมเดี๋ยวพ่อกับแม่จะพาไป" "ไม่ค่ะ หนูยังไม่หิว" "เดี๋ยววันนี้คุณลุงกับคุณป้าจะมาทานข้าวด้วยนะ ซินก็มา" "ค่ะ" ครอบครัวพิริยะยางค์กุล มีสมาชิก4คน นั่นก็คือลุงหมอเซน คุณป้ากานดา พี่โซ่ เพื่อนสนิทที่เดินทางไปอเมริกาพร้อมพี่ตะวัน และซินเพื่อนสนิทของฉัน พวกเราเล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก สนิทกันมาก เพราะคุณป้ากานดากับคุณแม่เป็นพี่น้องกัน "คุณแม่คะ หนูอยากกินเค้ก" "ป้ากานดาซื้อมาให้หนูแล้วลูก ซินเลือกให้เลยนะ รายนั้นไม่ร้องไห้เลยดีใจด้วยซ้ำที่พี่โซ่ไม่อยู่" "ฮ่าๆๆ อยู่ด้วยกันก็ตีกันค่ะ ไม่เหมือนหนูกับพี่ตะวันรักกัน ไม่ตีกัน ไม่แกล้งกัน พี่ตะวันใจดีที่สุด" ผู้ใหญ่ทั้งสองหันไปมองหน้ากันแถมยังมีรอยยิ้มออกมาอย่างภูมิใจที่เลี้ยงดูลูกทั้งสองมาเป็นอย่างดี เวลาจันทร์เจ้ามีปัญหา ตะวันก็จะคอยช่วยเหลือทั้งการบ้าน การใช้ชีวิต เพราะเธอเป็นเด็กถ่อมตัวมาก ขี้อายและขี้กลัว บ้านปีติภัทรไพศาล รถของลุงเซนขับเข้ามาจอดก่อนหน้าพวกเราแป๊บเดียว ตอนนี้สาวน้อยซินซินกำลังยืนบิดขี้เกียจอยู่หน้าบ้าน "มาสักที นี่รู้ไหมว่าฉันให้คุณพ่อจัดเมนูฉลองที่พี่โซ่ไปพ้นๆ สักที^^" "ตายแล้วลูกสาวฉัน พูดออกมาได้ยังไงดูหนูจันทร์เจ้าสิ ตายังบวมอยู่เลย" "คุณป้าสวัสดีค่ะ คุณลุงสวัสดีค่ะ" "สวัสดีค่ะ ไม่ต้องเสียใจนะจันทร์เจ้าอึดใจเดียวพี่ตะวันของหนูก็กลับมาแล้ว" "ค่ะ" จากนั้นทุกคนก็เข้ามานั่งทานข้าวด้วยกัน พวกผู้ใหญ่กำลังหารือกันเรื่องลูกๆ พวกเขาอาจจะต้องบินไปหาลูกๆทุกปี "คุณพ่อหนูไปหาพี่ตะวันด้วยได้ไหมคะ" "ได้สิลูก เราล่ะซินสนใจไปหาพี่โซ่กับอาไหม?" "ไม่ค่ะ ไม่เด็ดขาดตัดหางปล่อยวัดไปก็ดีเหมือนกัน-_-" "ดูพูดเข้ายัยซินนั่นพี่ชายลูกนะ!! >[]< "
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD