บทที่5
การกลับมาของตะวัน
3ปีผ่านไป.....
ทันทีที่เครื่องlanding สองหนุ่มก็ก้าวเดินมาพร้อมเพรียงกัน ทั้งสองไม่ได้บอกครอบครัวว่าจะเดินทางกลับวันนี้เพราะต้องการมาเซอร์ไพรส์ครอบครัว
"คืนนี้ไปเยี่ยมชมร้านไอ้ฟรานหน่อยไหม?" โซ่หันมาถามตะวันที่ยืนสวมแว่นดำแต่สายตาก้มมองหน้าจอโทรศัพท์เพื่อโทรเรียกรถมารับ
"มาถึงก็จะแดกเหล้าเลยหรือไง มึงควรพักผ่อนอยู่กับบ้านบ้าง -_-!"
"พี่เขยครับจากบ้านไปเกือบสิบปีเพื่อไปเรียนแพทย์เฉพาะทาง กว่าจะได้เริ่มงานก็เดือนหน้าเราควรหาความสุขให้ตัวเองบ้าง^^"
ตะวันส่ายหัวเพราะเวลานี้ตนอยากกลับไปนอนบ้านและรับไม่ได้กับสรรพนามที่โซ่ใช้เรียกตนมาตลอด
บ้านปิติภัทรไพศาล
ผมลงจากรถแล้วลากกระเป๋าเข้ามาเสียงป้าอ้อยยังคงเหมือนเดิม ป้ายังโหวกเหวกโวยวายเหมือนเดิไม่มีเปลี่ยน
"คุณหมออออออ คุณท่านเจ้าขาาาาาา คุณหนูของอ้อยกลับมาแล้วเจ้าค่ะ!!!!!!"
ผมยกมือไหว้ป้าอ้อยและป้าๆ แม่บ้านทุกคน จนแม่ของผมเดินออกมาจากห้องพัก ท่านยิ้มหน้าบ้านอ้าแขนรอรับอ้อมกอดจากผม
"ทำไมกลับมาก่อนกำหนดล่ะตะวัน ไหนว่ากำหนดกลับเดือนหน้าไม่ใช่หรือ"
"ผมสอบผ่านหมดแล้วครับ ส่วนใบประกาศทางมหาวิทยาลัยจะส่งตามมาผมไม่อยากอยู่ที่นั่นนาน -_-"
สีหน้าผมทำให้แม่ผมสงสัยแต่ท่านก็ไม่ได้ถามอะไร แต่รีบหันไปสั่งป้าอ้อยให้เตรียมอาหารไทยที่ผมอ้อนอยากทานมาตลอด ทั้งต้มยำกุ้งน้ำข้น ไข่เจียวแหนม ผัดกะเพราหมู
ระหว่างที่ป้าอ้อยกำลังสั่งงานแม่ครัว ผมก็เดินล้วงกระเป๋ามายังโซนด้านหน้าที่มีไว้สำหรับโชว์รูปผมและเหรียญทองด้านวิชาการ ผมมองรูปถ่ายของผมที่รับรางวัลโดยมีจันทร์เจ้ายืนยิ้มอยู่ข้างๆ แม่ผมเอารูปของเธอตั้งแต่แบเบาะ เธอเดินตามรอยผมมาติดๆ ทั้งได้รับเหรียญวิชาการ แข่งคณิตศาสตร์ เล่นกีฬาวอลเลย์บอลจนได้เป็นตัวแทนของโรงเรียน ได้ถือป้ายโรงเรียน จนกระทั่งเธอรับใบประกาศเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่6
"น้องเรียนจบแล้วตอนนี้สอบติดมหาวิทยาลัยนานาชาติ GTE University น้องเลือกเรียนบริหารเพราะอยากทำธุรกิจเป็นของตัวเอง"
ผมหยิบรูปของเธอในชุดว่ายน้ำขึ้นมาดู แล้วหันไปมองหน้าแม่
"สวยใช่ไหม น้องมีรับงานพรีเซนเตอร์ถ่ายแบบเล็กๆ น้อยๆ น้องหาเงินเองนะตะวัน"
"แล้วทำไมแม่เอารูปแบบนี้มาตั้งโชว์ตรงนี้ครับ -_-!"
"ชุดว่ายน้ำไม่โป๊นะตะวัน ปิดมิดชิดอีกอย่างยังไม่หมดสัญญาถ้ามีถ่ายรายการที่บ้านรูปชุดนี้แบรนด์นี้ก็ยังต้องโชว์ น้องไม่ค่อยออกไปถ่ายนอกสถานที่เพราะน้องไม่มีผู้จัดการส่วนตัว นอกจากคุยกับแม่ปรึกษาแม่เท่านั้น"
“ทำไมผมไม่เคยรู้เลยว่าน้องทำงานแบบนี้ แล้วไอ้โซ่รู้ไหม”
“เรื่องนี้เรากับโซ่ไม่รู้หรอก น้องขอเอาไว้ไม่ให้บอกกลัวว่าเราสองคนจะคิดมาก”
ผมวางรูปไว้ที่เดิมจากนั้นก็เดินสำรวจบ้านจนมาถึงห้องกระจกใสที่ยื่นออกไปด้านข้าง มีสวนดอกกล้วยไม้ของแม่ผม ในห้องน่าจะเป็นห้องที่จันทร์เจ้าใช้ถ่ายแบบ
“ห้องนั้นน้องเอาไว้ทำงานและพักผ่อน ส่วนกล้วยไม้ของแม่เอง”
“แล้วนี่น้องไปไหนครับ”
“ไปซื้อของกับซิน ซินเองก็เรียนที่เดียวกับจันทร์เจ้านะรายนั้นค่อนข้างโกอินเตอร์หน่อยเป็นแฟนคลับจินยองจนตอนนี้ได้ร่วมงานด้วยกันแล้ว ทางเกาหลีก็ทาบทามน้องเหมือนกันแต่น้องปฏิเสธไป น้องกลัวเรื่องเวลา ไม่อยากให้กระทบการเรียน”
ผมพยักหน้าเห็นด้วยกับเธอจนกระทั่งรถสปอร์ตหรูเข้ามาจอด ผมเลยรีบเดินมาดู ไหนแม่บอกว่าน้องไปกับซินไงทำไมมากับผู้ชาย ผมหันไปมองหน้าแม่แต่แม่ผมไม่สนใจเดินดิ่งออกไปเลย
“ภูริอยู่ทานข้าวด้วยกันก่อนไหมลูก”
“คุณน้าสวัสดีครับ ไว้โอกาสหน้าดีกว่าครับพอดีวันนี้ผมมีแคสงาน ผมลาเลยดีกว่าสวัสดีครับ”
ผมยืนล้วงกระเป๋ามองน้องสาวที่ยืนหันหลังให้ผม เธอคงยังไม่รู้ว่าผมมา ถ้ารู้คงดีใจบ้านแตกกระโดดกอดผมแน่ หึ!
“ดูสิใครมา” แม่ผมรีบโอบกอดน้องสาวเข้ามาพอเธอเห็นหน้าผมเท่านั้น ผมก็รีบขยับตัวตั้งหลักรอเธอเข้ามากอด แต่....
“สวัสดีค่ะพี่ตะวัน คุณแม่คะ วันนี้หนูไปเจอคุณป้าสุชาดาที่เคยมาบ้านเราด้วย ท่านเป็นคณะกรรมการบริษัทเครื่องดื่มที่หนูจะได้ถ่ายงานด้วย...”
และเธอก็เดินผ่านหน้าผมไป รู้สึกหน้าชายังไงก็ไม่รู้ ผมเดินตามเข้ามาตอนนี้ป้าอ้อยกำลังจัดโต๊ะอาหาร แต่จันทร์เจ้าก็ยังคุยไม่จบ
“แล้วถ่ายกับใครลูก”
“พี่ภูริค่ะ ทีมงานโทรมาตอนหนูอยู่ห้างพอดีซินเลยให้คนไปส่งหนูที่บริษัทคุณป้าสุชาดา ขากลับพี่ภูริเลยอาสามาส่ง”
“ตาภูรินี่น่ารักจริงๆ”
“มันเป็นใคร?”
“เป็นรุ่นพี่ค่ะ ทำงานในวงการบันเทิง เป็นพี่ชายของรุ่นพี่ที่โรงเรียนมัธยม พี่ตะวันจะอยากรู้ไปทำไมคะ”
“นั่นสิ” แล้วแม่จะมาจี้ให้ผมหน้าแตกทำไม เหอะ
ผมเดินมานั่งทานข้าวสองสาวก็ยังคุยกันถึงเรื่องงาน แม่ผมเนี่ยดูภูมิใจในตัวลูกสาวเหลือเกินแต่ลูกชายจบศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ จากอเมริกามานะไม่ตื่นเต้นหรือไง
“นี่ตะวันช่วงนี้ลูกว่างก็มาเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้น้องก่อนสิ ดูเรื่องคิว รับงานให้อยู่ในขอบเขต แล้วก็เรื่องเงินน้องแม่จะได้หมดห่วง”
“70/30” นี่คือคำตอบจากผมเอง ทุกอย่างมีต้นทุน
“ค่ะตามนั้น ปกติหนูให้คุณแม่40% แต่พี่ตะวันเอาแค่นั้นก็ได้ค่ะเดี๋ยวหนูเอาสัญญามาให้นะคะ เป็นสัญญาเรื่องการทำงานและการแบ่งเปอร์เซ็นต์ระยะเวลาตามตกลง”
“ไรวะ พี่ขอเท่าแม่”
“ถ้างั้นพี่ตะวันต้องทำหน้าที่ขับรถให้หนูด้วย ดูแลเรื่องอาหารโอเคไหมคะ”
“เยอะ!!”
“แพทย์กระดูก” หรือ “หมอออร์โธฯ” เป็นสาขาเฉพาะทางที่จะต้องทำการวินิจฉัยและรักษาเกี่ยวกับพวกกระดูก ข้อ เส้นเอ็น และกล้ามเนื้อต่างๆ ในร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ หรือเหตุต่างๆ จนฉีกขาด เคล็ด เสื่อมฯ ซึ่งศัลยแพทย์กระดูกมีความต้องการสูงมากขึ้นในทุกประเทศทั่วโลก รวมถึงไทยด้วย