ตอนที่ 7 เด็กไม่มีแม่
“พี่แหลมมันไหม้หมดแล้วเนี่ย เสือบอกว่าให้ต้มไข่ยางมะตูม ๆ ยังไงเล่า” เด็กน้อยช้อนตาขึ้นมองคนที่มาด้วยตาเขียวปั๊ด
“โถ่ นายน้อยครับผมก็คิดว่ามันควรต้มเท่านี้นี่นา” แหลมเกาหัวแกรก ๆ ไม่คิดว่าการที่นายน้อยของไร่ไปขโมยไข่ไก่จากบ้านใหญ่มาเพื่อมาต้มที่บ้านคนงานใหม่ “นายน้อยครับเดี๋ยวพ่อเลี้ยงก็กลับมาแล้วเรารีบไปดีกว่าครับไม่อย่างนั้นนายน้อยจะโดนดุเอาได้นะครับ” แหลมเอ่ยออกมาอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ
“ผมไม่กลัวพ่อเลี้ยง” เด็กน้อยตอบเสียงเรียบสายตายังคงพิจารณาไข่ไก่สองฟองแข็กโป๊กตีหัวหมาคงแตกได้ ตีหัวพี่แหลมสักทีดีไหมนะ
“แต่พี่แหลมกลัวครับ” แหลมเก็บมือไว้ข้างหน้าตอบเสียงแผ่ว
“ต้มไข่ยางมะตูมให้พี่นางเงือกก่อนตื่นมาจะได้กินข้าวกินยา”
“โถ่ นายน้อยครับทั้งชีวิตผมก็พึ่งเมียนี่ครับ”
“เมีย?” เด็กน้อยเอียงคอมองอย่างใคร่รู้
“ไว้โตก่อนนายน้อยก็จะรู้เองครับ” แหลมไม่รู้จะอธิบายยังไงมองไข่หลายฟองที่ไม่ถูกใจเจ้าตัวสักฟองเดียว เดี๋ยวก็แข็งไป เดี๋ยวก็ว่าไม่สุก “แต่ตอนนี้เราต้องรีบไปแล้วครับ”
“ไม่ไป ไปก่อนสิ” เด็กน้อยตีมึนความตั้งใจแรกก็คือมาต้มไข่ยางมะตูมให้พี่นางเงือกแต่ทำยังไม่สำเร็จจะไปได้ยังไง
“โถ่...นายน้อยครับ” แหลมหัวจะปวดกับความดื้อดึงของเจ้าตัว
เมยาวีรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงคนคุยกันเหมือนอยู่ในครัวเก่า ๆ ของตัวเองเดินออกมาก็ต้องเจอกับเด็กคนนั้นที่เคยเจอกันสองครั้งแล้ว
“มีอะไรกันหรือจ๊ะ”
“อุ๊ย พี่นางเงือก” เด็กน้อยยัดไข่ใส่มือไอ้แหลมก่อนจะวิ่งเข้าไปหาคนมาใหม่ทันที “ผมกำลังต้มไข่ยางมะตูมให้พี่นางเงือกครับ”
“พี่นางเงือกเหรอครับ?” เมยาวีคลี่ยิ้มออกมาเล็กน้อยไม่คิดว่าเด็กน้อยจะตั้งฉายาให้เธอแบบนั้นแต่มันก็ดูน่ารักดี “เป็นลูกเต้าเหล่าใครกันฮึ?”
“นายน้อยเป็นลูกชายของพ่อเลี้ยงสิงห์ครับ” แหลมเป็นคนตอบเสียงดังฉะฉาน
แต่คนฟังกลับค่อย ๆ หุบยิ้มลงทันทีก้มหน้ามองเด็กน้อยตาแป๋วตรงหน้าความรู้สึกตกตะลึงไม่เท่ารู้สึกผิดกับสิ่งที่ได้รับรู้ เป็นไปได้ยังไงกัน
“นายน้อยครับเสียงรถคุณผู้จัดการมาแล้วพ่อเลี้ยงต้องมาแล้วแน่ ๆ เรารีบไปกันครับ”
“ผมไปก่อนน้า ขอโทษที่ทำให้ครัวเลอะแถมยังต้มไข่ยางมะตูมไม่ได้ นี่ถุงยานะครับพี่นางเงือกรีบหายป่วยน้า” เด็กน้อยพูดจบอธิบายเสร็จสรรพก็ยกมือโบกไปมาก่อนจะวิ่งไปจับมือพระพี่เลี้ยงในวันนี้พากันวิ่งออกจากบ้านไม้ยกสูงสองชั้น
เมยาวียังคงยืนนิ่งงันกับความจริงที่ได้รับรู้หมาด ๆ พ่อเลี้ยงมีครอบครัวแล้วแถมยังมีลูกชายน่ารักอย่างนายน้อยของไร่พร้อมรัก เธอทำอะไรลงไปเมยาวี!
โทษตัวเองไปต่าง ๆ นานา นอกจากจะแก้ไขอะไรไม่ได้ตอนนี้ยังไม่สามารถทำอะไรได้เลยเธอได้ก้าวจาลงนรกไปทั้งสองข้างแล้วและแบบนี้จะกล้าสู้หน้าแม่เลี้ยงได้ยังไงแต่จะว่าไปทำงานมาก็นาน กลุ่มขาเมาท์ทุกเรื่องในไร่ไม่เห็นมีใครพูดถึงแม่เลี้ยงของไร่เลย
ความคิดตีกันยุ่งเหยิงมาตลอดทั้งเช้า ดีหน่อยที่วันนี้หัวหน้าเกณฑ์คนงานไปช่วยทางโรงกลั่นส้มบอกว่าคนงานไม่พอเธอที่ไม่ถูกเลือกไปเพราะเหตุผลอะไรก็พอจะรู้แต่ไม่อยากใส่ใจแค่ที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็เกลียดตัวเองมากพอแล้ว วันทำงานสงบ ๆ สมองดันไม่สงบตามเอาแต่รู้สึกผิดกับนายน้อยและแม่เลี้ยงอยู่อย่างนั้น
ทำงานเพลินคิดไปเรื่อยเปื่อยจนเลยเวลากินข้าวมาพอสมควรดีหน่อยที่วันนี้ได้ไข่ต้มของนายน้อยมากินที่สวนจึงเลือกที่จะไม่ไปกินที่โรงอาหาร
“ไอ้เด็กไม่มีแม่แกจะไปไหน”
“โอ๊ย ปล่อยผมนะ” เด็กน้อยช้อนตาขึ้นมองคนเดินออกมาขวางทางตัวเองไว้ตั้งใจแก้มือถือไข่ต้มยางมะตูมมาถึงท้ายไร่เพราะรอที่โรงอาหารก็ไม่เห็นพี่นางเงือกสักทีจึงตัดสินใจเสร็จสรรพมาที่ท้ายไร่ “ผมเจ็บนะ”
รัมภาไม่ยอมปล่อยแขนเล็กยิ่งเห็นเด็กมันพยายามบิดแขนไปมาจนขึ้นรอยแดงบริเวณที่ตัวเองจับยิ่งรู้สึกสะใจ เจ็บได้ก็ดี!
“โอ๊ย โอ๊ย โอ๊ย” เมื่อถูกหยิกเข้าที่ช่วงเอวตามแผ่นหลังเด็กน้อยก็ยิ่งพยายามดิ้นให้หลุดจากการจับกุม “ปล่อยนะ”
ตุ้บ! ปิ่นโตเล็กหลุดออกจากมือทำให้ไข่ไก่สี่ฟองด้านในตกกระทบพื้นจนไข่แดงทะลักออกมาเกลื่อนพื้นดินเด็กน้อยเห็นแบบนั้นก็น้ำตาไหลพรากทันที
“ฮื่อ ๆ”
“มึงร้องไห้ทำไมอีเด็กมึน หยุดร้องเดี๋ยวนี้” รัมภาตะโกนก้องพร้อมกับฟาดฝ่ามือลงที่ขาเล็ก “อีเด็กไม่มีแม่มึงหยุดร้องเดี๋ยวนี้”
“ฮื่อ ๆ ผมอยากมีแม่”
“กูเสนอตัวเป็นแม่ให้มึงก็บอกพ่อว่าไม่เอากู แม่มึงตายไปนานล่ะยังไม่รู้อีกวันไหนกูได้เป็นเมียพ่อมึงกูจะส่งมึงไปเรียนไกล ๆ นู่นเบื่อขี้หน้าจริง!”
พรึ่บ! เพียะ!
รัมภาโดนกระชากที่แขนไม่พอยังโดนหวดลงมาที่แก้มด้วยความเร็วจนหล่อนตั้งตัวไม่ทันเป็นเหตุให้ล้มลงไปคลุกกับไข่สี่ฟองนั้นทันที
“พูดแบบนี้กับเด็กได้ยังไง!” เมยาวีตะคอกใส่อย่างหัวเสียก่อนจะเดินเข้าไปโอบกอดนายน้อยของไร่
“อีเมยมึงนี่เองอยากเป็นแม่พระว่างั้น ได้สิวันนี้กูจะสั่งสอนมึงว่าการที่เข้ามาแส่เรื่องของคนอื่นจะมีจุดจบยังไง” รัมภาเลือดขึ้นหน้ายันตัวลุกขึ้นมาพร้อมกันท่อนไม้ในมือ
ตุ้บ!
“โอ๊ย!” เมยาวีร้องเสียงหลงหลังจากโดนไม้ฟาดลงมาที่แขนเธอรีบเอาตัวบังนายน้อยไว้ทันที
“กูจะตีให้มึงตายไปเลย!” รัมภาฟาดไม้ใส่อีกหลายทีก่อนจะหยุดเมื่อเห็นว่าคนงานคนอื่นเริ่มทยอยกลับมาจากทานข้าวเที่ยง “มึงเจอกูอีกแน่!”
เมยาวีปล่อยมือออกจากศีรษะทุยก่อนที่จะพยุงร่างเล็กให้ลุกขึ้นความเจ็บไม่เท่าความสงสารที่มีต่อเด็กชายตรงหน้าทำเอาน้ำตาไหลอาบแก้มอย่างกลั้นไม่อยู่
“พี่นางเงือกเจ็บไหมครับ ผมขอโทษนะครับเพราะความดื้อของผม”
เมยาวีส่ายหน้าไปมารวบมือเล็กที่กำลังลูบไปตามไหล่ของตัวเองอย่างแผ่วเบามาจับไว้ตรงหน้าร้อยล้านคำถามแต่ทำได้เพียงกลืนมันลงท้องแล้วลูบไหล่เล็กไปมาเบา ๆ
“พี่ไม่เป็นไรจ๊ะ เราล่ะเจ็บตรงไหนไหมลูก”
“ฮึก ผมไม่เจ็บครับ” เด็กน้อยน้ำตาไหลอาบแก้มแต่กลับส่ายหน้าไปมา
“พี่ไปลางานกับหัวหน้าแป๊บเดียวนะ เดี๋ยวพี่ทายาให้” เมื่อเด็กน้อยพยักหน้ารับเมยาวีก็รีบไปลางานกับหัวหน้าทันทีแม้จะโดนดุหรือหักเงินรายวันแต่มันใช่เรื่องที่จะต้องมาเสียดายหรือยังไงกัน
เมยาวีพาเด็กน้อยกลับมาที่บ้านหลังเก่าของตัวเองก่อนจะรีบไปค้นหายาที่พอมีติดบ้านลงมือทาให้อย่างแผ่วเบาที่แขนร้อยล้านคำพูดเหมือนเคยแต่ไม่กล้าเอ่ยปากถามเหมือนเดิม
“พี่เป่าให้เรานะ เจ็บมากไหม”
“ไม่เจ็บครับ ผมวิ่งเล่นหกล้มประจำแค่นี้ไม่เป็นไร” เด็กน้อยคลี่ยิ้มทั้งที่น้ำตาคลอเบ้า “ผมทำให้พี่นางเงือกต้องเจ็บตัว” เด็กน้อยจิ้มที่แผ่นหลังของพี่นางเงือกเบา ๆ
“ถ้าบอกว่าไม่เจ็บคงโกหกแล้วพี่ถามได้ไหมทำไมเรายอมให้พี่สาวคนนั้นทำร้ายล่ะ”
เด็กน้อยก้มหน้างุดก่อนจะสั่นหัวไปมาเบา ๆ หมายความว่าไม่อยากบอกนั่นเอง
“โอเค พี่ไม่ถามแล้ว ๆ” เมยาวีลูบหลังเด็กน้อยเบา ๆ อย่างปลอบประโลมไม่บอกก็ไม่เป็นไร
“เธอเป็นผู้หญิงของพ่อเลี้ยงผมกลัวว่าวันหนึ่งพ่อเลี้ยงแต่งงานกับเธอจริง ๆ ทุกครั้งที่เธอทำร้ายผมมักจะขู่ว่าถ้าไปบอกพ่อเลี้ยงหรือคนอื่นหลังจากแต่งงานแล้วจะส่งผมไปอยู่ต่างประเทศ ผมไม่อยากไปอยู่ต่างประเทศ ฮื่อออ”
เมยาวีนิ่งงันกับสิ่งที่ได้ยินไม่คิดว่าผู้หญิงคนหนึ่งจะใจร้ายไส้ระกำกับเด็กสี่ขวบได้ขนาดนี้รีบดึงร่างเล็กเข้ามากอดพร้อมกับโยกตัวไปมาเบา ๆ ความสงสารตีตื้นขึ้นมากัดกินหัวใจ
พ่อเลี้ยงหลงหญิงจนลืมลูกตัวเองไปแล้วสินะ!
“ฮึก ผมต้องไปแล้วครับเดี๋ยวพี่เลี้ยงตามหา เดี๋ยวมาเล่นด้วยใหม่นะครับ” ยกหลังมือขึ้นปาดน้ำตาทิ้งคลี่ยิ้มออกมาทั้งที่คราบน้ำตาเปื้อนใบหน้า
เมยาวีคว้าไว้ก็ไม่ทันเจ้าเด็กวิ่งออกไปไกลแล้วได้แต่สงสัยความเป็นมาของตัวเองไม่พอยังเลิกคิดเรื่องคนอื่นไม่ได้อีกต่างหาก
พอถึงเวลาก็มาทำความสะอาดบ้านใหญ่อีกเหมือนเดิมเก็บกวาดทำความสะอาดทั้งที่ไม่ควรอยากรู้แต่สายตากับแอบมองหารูปแต่งงานหรือรูปครอบครัวแต่กลับไม่พบเลยส่วนมากมีแต่รูปคู่ของพ่อเลี้ยงและลูกชายและรูปสมัยนายน้อยยังเด็ก ๆ ทุกวัยถูกถ่ายเป็นรูปภาพไว้มากมายทำเอาเธอที่เป็นคนนอกเผลอยิ้มไปด้วย
“มัวแต่ยืนอู้อยู่ได้วันนี้ไปรดน้ำต้นไม้ด้านหน้าด้วย!”
เมยาวีสะดุ้งถอยหลังออกจากระดานภาพพวกนั้นหันไปมองคนมาไม่ให้สุ้มให้เสียงอยากจะตอบกลับไปว่าเธอก็รดน้ำพวกมันอยู่ทุกวันแต่ความเป็นจริงก็คือพยักหน้ารับหงึกหงัก
“หญ้าตรงแปลงกุหลาบขึ้นแล้วดึงพวกมันออกด้วย”
เสียงเข้มดังมาแต่ทางด้านหลังทำให้เมยาวีต้องหมุนตัวไปมองปากอยากบอกว่าถึงเวลาเลิกงานของเธอแล้วแต่ก็ไม่กล้าพูดปกติเห็นแปลงดอกไม้ของพ่อเลี้ยงจะมีคนงานมาถอนหญ้าเธอเคยเจออยู่ครั้งหนึ่งนี่นาแต่ก็ไม่กล้าตอบโต้อะไรได้แต่พยักหน้ารับหงึกหงัก ถอนหญ้าจนมืดค่ำก็ยังไม่เสร็จมิหนำซ้ำพายุยังเข้าอีกต่างหากฝนเม็ดใหญ่เทลงมาจนเมยาวีต้องวางของทุกอย่างในมือเตรียมจะวิ่งเข้าไปหลบฝนในบ้านหลังใหญ่
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือพ่อเลี้ยงปิดประตูใส่หน้าไม่พอยังลงกลอนต่อหน้าต่อหน้าทั้งยังสะบัดมือเชิงไล่ให้เธอไปถอนหญ้าต่อ ผู้ชายคนนี้ยังมีหัวใจอยู่ไหมนะ
กระพริบตาไล่หยดน้ำตาทิ้งไปแม้ไม่เข้าใจเหตุผลที่เขาต้องใจดำกับเธอขนาดนี้แต่เมื่อมาถึงตอนนี้แล้วสิ่งที่ทำได้คือต้องกลืนก้อนสะอื้นลงคอไปพร้อมกับหมุนตัวเดินไปที่แปลงดอกไม้ท่ามกลางเม็ดฝนกำลังตกลงมาอย่างหนัก