ผิงผิง Say ::
ความวุ่นวายจากการดูตัวมันจบลง พวกเราส่งเฮียคุณกลับบ้านโดยสวัสดิภาพ แต่คนที่อารมณ์ไม่ดีดูเหมือนจะเป็นเฮียริว เขาโกรธที่ทำไมเราไม่รู้จักปฏิเสธ เอ่อคือแบบว่า เราแค่กินข้าว ไม่ใช่ว่าจะแต่งเลยซะหน่อย บ่นเป็นคุณแม่เลย
"เหม่เหม เฮียขอคุยอะไรด้วยหน่อยสิ" เฮียฟ่งเรียกเจ้เหม่เหมไปคุยเป็นการส่วนตัว เฮียริวที่เดินมาด้วยกันก็เดินขึ้นห้องไปเลย เฮียไรก็ขอไปทำธุระส่วนตัว หรือแค่ฉันกับเฮียไดที่ยืนมองหน้ากันด้วยความงงงวย
"คงจะมีฉันคนเดียว ที่ไม่เข้าใจสถานการณ์นี้"
"ไปนั่งเล่นห้องเฮียไหม นี่มันแค่ 2 ทุ่ม ไปเถอะ นั่งเล่นเกมกัน" นี่ไม่ใช่คำเชิญชวนเพราะการลากแขนแบบนี้ เขาเรียกว่าบังคับนะเฮียไดดดดดดด ทำไมวันนี้ฉันถึงได้ถูกพี่ชายลากไปลากมาซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า
.
เมื่อมาถึงห้องที่ดูสะอาดเรียบร้อย เรียบร้อยเกินกว่าจะเป็นห้องผู้ชาย แม้จะไม่ได้เนี้ยบเป๊ะทุกองศาแบบห้องเฮียริว แต่ก็เรียบร้อยกว่าห้องฉันแน่ ๆ ก็อย่างว่าอะนะ ถ้าเป็นห้องของเฮียไร ป่านนี้คงไม่มีที่จะยืน
"ก็นะ เฮียไม่ใช่พวกสายประดิษฐ์อะไรมากมาย ห้องเฮียก็ควรจะมีแค่นี้ ได้ข่าวว่าไม่มีเพื่อนเหรอ การหาเพื่อนมันไม่ยาก แต่หาเพื่อนที่ดีนี่ยากมากเลยนะ" เฮียไดพูดกับฉันพลางต่อจอยเกมแล้วส่งมาให้ฉัน
"ไม่รู้สินะ นอกจากเฮียอี้ ก็ไม่เคยมีเพื่อนเลย แถมตอนนี้เฮียอี้เรียนหมอไม่มีเวลาเล่นกับฉันแล้ว ฉันก็แค่เหงาอ่าเฮีย ฉันแค่สงสัย ทำไมคนอื่นมีได้แต่ฉันกลับมีเพื่อนไม่ได้เลย" พอเข้าใจว่าช่วงนี้ฉันมีปัญหา แต่ที่ผ่านมาไม่เห็นว่าพวกเฮียจะสนใจขนาดนี้ เฮียฟ่งก็ทีนึงแล้ว นี่ยังเฮียไดอีก
"เริ่มจากเป็นตัวของตัวเองดีไหม" เฮียไดหันมามองหน้าฉัน พร้อมกับเล่นเกมต่อสู้กับฉัน โดยที่ตาไม่มองจอด้วยซ้ำ แต่ขนาดที่เขาไม่มองจอ เขาก็ยังชนะฉัน ฉันยังเล่นอีกหลายครั้ง แต่ผลก็ออกมาเหมือนเดิม ฉันอาจจะไม่เกิดมาเพื่อสิ่งนี้
"แง เหมือนเป็นหมูให้เฮียเชือดเลย"
"กระต่าย เธอไม่มีทางชนะเฮียได้หรอก"
แล้วชวนมาเล่นทำไมฟระ เอาฉันมาเชือดให้ฉันหัวร้อน ฉันมองหน้าคนที่ชนะฉันเป็นสิบครั้งรวด โดยที่ฉันไม่มีโอกาสได้เอื้อมถึงสิ่งที่เรียกว่าชัยชนะเลย ฉันถือวิสาสะถอดแว่นของเฮียไดออก ก็ฉันอยากชนะไง แต่ไม่ทันที่จะได้จับจอยเกม ร่างของฉันก็ถูกกดลงกับพื้น มันทำให้ฉันตกใจเป็นอย่างมาก เพราะเฮียไดที่แสนดี ตอนนี้แววตาเปลี่ยนไปจนน่ากลัวเลย
"อ๊าาา น่ารักจังเลยน้า เข้ามาถึงห้องแบบนี้แสดงว่าเตรียมใจมาแล้ว" ริมฝีปากร้อนประทับลงบนซอกคอของฉัน จนฉันต้องพยายามหนี
"กรี๊ดดดดดด เฮียได ฉันน้องเฮียนะ" เสียงกรี๊ดของฉันทำให้ประตูห้องเปิดออก เฮียฟ่งที่เข้ามาเห็นเหตุการณ์ก็จัดการทุบเข้าที่ท้ายทอยของเฮียได จนล้มตุบ คาหน้าอกของฉันเลย
นี่มันเรื่องบ้าอะไรวะเนี่ย เฮียไดเป็นอะไร ปกติเฮียไดไม่เป็นแบบนี้ เฮียฟ่งมองหน้าฉันด้วยสายตาดุ ๆ ก่อนจะเดินไปเอาแว่นใส่ให้คนที่นอนสลบอยู่ที่พื้น แล้วลากฉันออกมาจากห้องของเฮียไดทันที
"ใครเป็นคนถอดแว่นมัน มันไม่มีทางถอดเองแน่ ๆ " เฮียฟ่งตะโกนใส่ฉัน จนฉันต้องหดคอด้วยความกลัว ฉันไม่เคยถูกดุขนาดนี้เลย
"ฉันเองค่ะ ฉันคิดแค่ว่าอยากชนะตอนเล่นเกม ก็เลยถอดออกมา ตอนเฮียไดเผลอค่ะ"
"เธอจะทำอะไรกับไอ้ไดก็ได้ผิงผิง แต่ไม่ใช่ถอดแว่นของมัน มันปล้ำจริงนะ ถ้าเฮียออกมาไม่ทันจะเป็นยังไง!!!! ห้ะ!!!! ตอบ!!!! " เสียงของเฮียฟ่งดังมาก จนคนอื่น ๆ ออกมาจากห้องเพื่อดูเรื่องที่เกิดขึ้น
"ก็ฉันไม่รู้ ฉันยังตกใจนะ ฉันไม่รู้ จะดุอะไรนักหนา"
"ดุดิ จะได้ไม่ทำอีกไง ช้าอีกนิดมันก็ปล้ำแล้ว หัดรู้ถึงความสามารถตัวเองไว้ด้วย เธอสู้อะไรมันไม่ได้เลย!!!! " เสียงของเฮียฟ่งยังดังอย่างคงเส้นคงวา แต่ฉันเองกลับอยากจะร้องไห้
"ก็ฉันไม่รู้ ไม่รู้จริง ๆ ฮึก ฮึก" ฉันรีบปาดน้ำตาที่ไหล จนเจ้เหม่เหมต้องรีบวิ่งมาห้ามศึกของเรา เจ้เหม่เหมกอดฉันที่ร้องไห้เอาไว้
"พอแล้ว เราผิดเองที่ไม่เคยบอกน้อง น้องร้องไห้แล้ว" เฮียริวเดินเข้ามาช่วยห้าม
"เฮียฟ่งฉันไม่รู้จริง ๆ ถ้าผิงผิงรู้ ผิงผิงจะไม่ทำเลย อย่าโกรธผิงผิงเลยนะ ฮึก ฮื่ออออ" ฉันร้องไห้หนักขึ้น จนคนที่ทำตาดุ ต้องถอนหายใจออกมา แล้วเดินกลับห้องของตัวเองไปเลย ทิ้งฉันไปกับเจ้เหม่เหม ที่ยังตบไหล่ปลอบฉันอยู่เลย
เฮียฟ่งไม่เคยโกรธฉันเลย นี่เป็นครั้งแรก เขาจะเกลียดฉันไหม สายตาเมื่อกี้มันน่ากลัวมากเลยนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉันไม่ได้มีเจตนาจะสร้างปัญหา
"แย่แล้วคอแดงเลย กู๋ไคมาเห็นแย่แน่ ๆ " เจ้เหม่เหม พยายามเอามือลูบที่คอของฉัน
"แปะไคมาค่อยเอารองพื้นกลบ ดูท่าเฮียฟ่งจะโกรธมากเลยแฮะ ไม่เคยเห็นปรี๊ดแตกแบบนี้เลย ปกติชอบทำตัวบ้า ๆ บอ ๆ" เฮียริวมองไปที่ห้อง ของคนที่เพิ่งปล่อยระเบิดลงใส่ฉันเมื่อครู่
"ช่วงนี้มีแต่คนไม่ปกติ ฉันตามอารมณ์ไม่ทันแล้ว ฮื่อออออ ฉันไม่รู้อ่าาาา ฉันไม่ผิด ฮื่อออออ ฉันไม่อยากให้เฮียฟ่งโกรธเลย" ฉันปล่อยโฮออกมา เพราะฉันไม่คิดว่าสิ่งที่ทำมันจะเป็นปัญหาจนทำให้เฮียฟ่งโกรธแบบนี้
"อย่าร้องเลย ไปอ้อนเค้าสักหน่อยก็หายโกรธ ไปอาบน้ำทำอะไรให้เสร็จ แล้วไปอ้อนเค้าสักหน่อย เฮียฟ่งเค้าเอ็นดูผิงผิงที่สุดแล้ว" เจ้เหม่เหมลูบหัวฉัน ก่อนจะดันหลังฉันกลับเข้าไปห้องของตัวเอง
"เจ้คิดแบบนั้นเหรอคะ"
"ใช่ เชื่อเถอะยังไงก็หายโกรธ แต่ตอนนี้เราอะต้องไปอาบน้ำให้สมองมันโล่ง ๆ ก่อน"
ฉันยอมทำตามอย่างว่าง่าย พาตัวเองเข้าไปในห้องน้ำ เพื่อดูรอยแดงที่เจ้เหม่เหมบอก มันเป็นรอยแดงห้อเลือดเล็ก ๆ ที่คอ ภาพเมื่อกี้มันไวมาก มันคืออะไรนะ แววตาแบบนั้นเหมือนไม่ใช่เฮียได แล้วแววตาแบบนั้นก็ไม่ใช่เฮียฟ่ง มันมีอะไรที่ฉันยังไม่รู้อีกไหม ตอนนี้ต้องไปขอโทษเฮียฟ่งก่อนที่ก่อปัญหา ฉันรีบอาบน้ำเคลียร์ตัวเอง ก่อนจะพาจิตใจที่สำนึกผิด เดินไปที่ห้องของเฮียฟ่ง
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!!!!! เสียงเคาะประตูของฉัน ทำให้คนเป็นเจ้าของห้องต้องออกมาเปิด เฮียฟ่งเพิ่งอาบน้ำแฮะ เพิ่งอาบน้ำเสร็จหมาด ๆ ฉันดูจากชุดคลุมอาบน้ำกับผมที่เปียก ฉันควรจะให้เขาแต่งตัวก่อนไหม
"เดี๋ยวฉันมาใหม่ดีกว่า" แต่ไม่ทันที่จะได้เดินไปไหน ฉันก็ถูกมือใหญ่ลากแขนเข้าไปในห้องเลย ฉันเข้ามาในห้องที่รกเป็นปกติ ก็ปกติของเด็กผู้ชายละมั้ง นั่นไม่ใช่ปัญหา ปัญหาของฉันคือ จะเริ่มขอโทษยังไงดี
"เช็ดผมให้หน่อยสิ" ผ้าขนหนูผืนเล็กแห้งสนิท ถูกส่งมาให้ฉัน ก่อนที่คนผมเปียกจะนั่งลงที่ปลายเตียง ทำให้ฉันต้องรีบปีนขึ้นเตียง ไปเช็ดผมให้คนเป็นพี่ชายเพื่อการไถ่โทษ
ฉันขยี้ผ้าลงบนเส้นผมอย่างเบามือ เพื่อซับน้ำที่เปียกชุ่มตามเส้มผม เช็ดผมให้แบบนี้แล้ว เขาหายโกรธฉันหรือยังอ่า ง้อคนไม่เก่งซะด้วยสิ จะเริ่มพูดแบบไหนก่อนดีนะ
"ผมแห้งแล้วค่ะ" ฉันยื่นผ้าคืนให้เฮียฟ่ง ที่ตอนนี้นิ่งเงียบแบบไม่ปกติ จะเงียบทำไมนะ เงียบแบบนี้อยู่ในอารมณ์ไหนก็ไม่รู้
"ขอดูรอยแดงที่คอหน่อย" คำร้องขอของเฮียได้รับการตอบรับ ฉันเดินไปให้ยืนข้างหน้าเฮียฟ่ง พร้อมกับแหวกคอเสื้อของชุดนอนให้เฮียฟ่งดู ก่อนที่ร่างบางของฉันถูกกระชากลงไปนั่งบนตักของเฮียฟ่ง
"รอยนี้เฮียจะรับผิดชอบเอง" ประโยคของเฮียที่ฉันไม่เข้าใจ มันจะรับผิดชอบยังไง มันแดงไปแล้วทำให้หายแดงได้เหรอ แต่เขาก็ไม่ปล่อยให้ฉันงงนาน ริมฝีปากร้อนประทับลงที่รอยแดง ก่อนจะออกแรงดูดเบา ๆ
"แบบนี้มันก็แดงไปกว่าเดิมสิคะ"
"ถ้ามีเรื่องอะไร รอยนี้เฮียจะรับผิดชอบเอง เป็นผู้หญิงต้องอย่าให้ใครมาแตะเนื้อต้องตัวง่าย ๆ สิ ผู้ชายคนไหนจะรังแกเธอ เฮียอนุญาตให้เอามีดเสียบมันได้เลย" พอเฮียพูดจบก็ประทับริมฝีปากแล้วดูดที่รอยนั้นอีกครั้ง แม้มันจะบางเบา แต่ฉันกลับรู้สึกขนลุกไปหมด
"อ๊ะ"
"ร้องอีกสิ" ริมฝีปากร้อนยังพรมจูบเบา ๆ ไปตามลำคอขาว จนฉันต้องเกร็งตัว เพราะความรู้สึกใหม่ที่ได้รับ
"หายโกรธแล้วใช่ไหม ฉันไม่เคยโดนดุแบบนี้เลย ฉันไม่รู้ว่าตัวเองผิดแค่ไหน แต่ฉันไม่ได้อยากให้เฮียโกรธ ฉันขอโทษค่ะ" ฉันเลือกที่จะขอโทษ แม้ฉันจะผิดหรือไม่ผิดก็ตาม บางครั้งการที่เราจะรักษาความเป็นส่วนรวม เราเป็นน้อง ก็ควรจะขอโทษ
"ที่ดุเพราะเป็นห่วงนะ อย่าไปถอดแว่นไอ้ไดอีก ตอนมันใส่แว่นมันอย่างกับเทพบุตร ถอดแว่นมันก็ไม่ต่างกับซาตาน" เฮียฟ่งพูดถึงสิ่งที่ฉันทำผิดพลาดไป
"สองบุคลิกเหรอคะ"
"ก็ไม่เชิง ถ้าสองบุคลิกคือการสร้างตัวตนเพื่อหนี แต่นี่มันซ่อน เพื่อสร้าง จะพูดยังไงดี สองบุคลิกก็ได้ อย่าไปถอดแว่นของมันพอ เข้าใจไหม คืนนี้นอนนี่นะ เผื่อไอ้ไดมันมาอีกเฮียจะได้ดูแลได้ เธอนอนริมนู้น ฉันนอนริมนี้โอเคมะ" เฮียฟ่งชี้ไปที่ริมอีกข้างของเตียง ที่ตอนนี้ว่าง
"ฉันไปนอนกับเจ้เหม่เหมก็ได้มั้ง"
"เหม่เหมจะช่วยอะไรได้ เอาเข็มมาจิ้มมันเหรอ เหม่เหมทำได้อย่างมากก็เย็บผ้า นอนนี่แหละ" เฮียฟ่งลุกขึ้นไปแต่งตัว แล้วกลับมานอนที่เตียง ก่อนจะห่มผ้าชิ่งหลับทันที กลายเป็นฉันที่เดินไปปิดไฟ แล้วเดินกลับมานอนที่เตียงบ้าง หวังว่าพรุ่งนี้เฮียได จะหายเป็นปกติ
.
ฟ่งเทียน Say ::
หลอกง่ายจังเลย คนอะไรง้อโดยที่ตัวเองไม่ได้ผิดอะไรเลย ใช่...พวกเราเก็บเรื่องนี้เป็นความลับกันเอง เธอไม่ได้รู้เรื่องด้วย จะผิดก็ต้องผิดที่พวกผมไม่ยอมบอกน้อง ผมมองหญิงสาวที่อยู่ในอ้อมกอด ใบหน้าจิ้มลิ้ม จมูกเล็ก ๆ ปากเล็ก ๆ ไปที่ไหนก็มีแต่คนเขาอยากแกล้ง ผมเลี้ยงน้องให้ซื่อบื้อไปไหมนะ
"ฝันดีเด็กดื้อ"
ผมกระชับอ้อมกอดให้ร่างเล็กเข้ามาแนบชิด ก่อนจะดึงผ้านวมผืนใหญ่มาคลุมเราทั้งคู่เอาไว้ รู้ไหมเด็กดื้อไม่มีอะไรอุ่นกว่าการห่มด้วยเนื้อหรอกนะ ผมค่อย ๆ ปิดตาลงเพื่อที่จะหลับตามเธอ แต่เธอนอนอยู่ตรงนี้แล้วนะ ไม่บ่อยนักหรอกฟ่งเทียนที่จะมีโอกาสดีแบบนี้
จุ๊บสักทีก่อนนอนก็แล้วกัน ผมจุ๊บเบา ๆ ลงบนริมฝีปากเล็ก ๆ ที่ตอนนี้หลับสนิท ไม่มีผลักออก ไม่มีต่อต้าน ไม่มีการทำตอบโต้ใด ๆ ความนุ่มนิ่มของริมฝีปากมันทำเอาผม.....อีกทีก็แล้วกัน กู๋ไครู้ผมต้องโดนฉีกเป็นชิ้น ๆ แน่ ๆ
"เฮียทำอะไรอะ" เสียงที่ดังขึ้นมาในความมืด ทำให้ผมต้องสะดุ้ง มึงเข้ามาตอนไหนวะ ผมชันตัวขึ้นจากที่นอน เพื่อมองคนที่มาเยี่ยมเยือน
"กูเสือกลืมล็อกประตูได้ยังไง" หรือล็อกแล้ววะ
มือใหญ่ๆ เดินมาดึงคอเสื้อของผมให้ลงจากเตียง โอ๊ยยยย ไม่!!!! กูไปนอนกับผิงผิง ไอ้ไดดดดดดดดด มึงมาลากกูทำไม อุตส่าห์สุมไฟให้น้องกลัวแล้วน้าาาาาาา ไอ้ไดกูไม่ไป!!!!!! ผมโดนไอ้ไดลากออกมาจากห้อง โดยที่ตัวผมยังเกาะขอบประตูไม่ยอมปล่อย
"กูไม่ไปปปปป กูจะไปนอนกับน้อง"
"ดีนะที่ฉันตื่นขึ้นมา แล้วมาไล่ย้อนดูกล้องวงจรปิดว่าเกิดอะไรขึ้น เห็นน้องหายเข้ามาในห้องของเฮียนานแล้ว ไปนอนกับฉันดีกว่า ห้องของฉันอีกข้างของเตียงว่าง เตียงฉันนุ่มมากๆ เลยนะ"
"ม้ายยยยยยยยยยยยยยย ใครจะไปอยากนอนกับมึง กูจะไปนอนกับผิงผิง"
.
=============================