Chapter.4 ปากหมา

1330 Words
"เพลงหิวรึยังลูก" อาหารบนโต๊ะถูกจัดวางไว้อย่างสวยงาม หน้าตาน่ากินมาก นึถึงเมื่อก่อนที่ครอบครัวของเรานั่งทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากัน ตอนนี้ไม่มีแล้ว คุณพ่อต้องไปทำงานต่างประเทศเพื่อส่งเงินมาให้ที่บ้านใช้จ่าย ส่วนแม่ก็ป่วยทำอะไรเองไม่ค่อยได้ยังดีที่มีเพื่อนบ้านแถวนั้นแวะเวียนมาอยู่เป็นเพื่อน "นิดหน่อยค่ะคุณน้า เอ้ย คุณแม่" "ไม่เป็นไรลูกแม่รู้ว่ายังไม่ค่อยชิน รอพี่เขาอีกหน่อยก็แล้วกัน อีกไม่นานก็คงจะถึงแล้วหล่ะ" เป็นลูกภาษาอะไรปล่อยให้แม่นั่งรอทานข้าว นี่ก็เกือบสิบนาทีเข้าให้แล้วยังไม่โผล่หัวมาอีก ก่อนหน้านี้ท่านก็บ่นกับฉันเหมือนกันว่าช่วงนี้เหงาๆ อยู่บ้านคนเดียว นั่งทานข้าวคนเดียวทุกวัน ออกแนวตัดพ้อซะมากกว่า ถ้าฉันมีแม่แบบนี้นะฉันจะไม่ยอมปล่อยให้ท่านอยู่คนเดียวแน่ๆ พูดไปก็คิดถึงแม่เหมือนกันไม่รู้ว่าป่านนี้จะกินข้าวหรือยัง ............... "คุณผู้หญิงคะคุณหนูมาแล้วค่ะ " คุณหนูหรอ แหวะเรียกไปได้ยัง หนูบ้านหน่ะหรอตัวเหม็นๆ สกปรกๆ หยี ขนลุก "เตรียมตักข้าวได้เลยแจ่ม" "ไฮครับหม่ามี๊ คิดถึงจังเลย" ฉันไม่อยากจะหันหน้าไปตามเสียงที่ได้ยินเลย สร้างภาพชัดๆ "มาแล้วหรอลูก มาทานข้าวกัน " ฉันแอบเห็นสายตาของคุณแม่ ท่านดูดีใจที่เห็นหน้าลูกชาย จะมีใครรู้บ้างว่าท่านรอคอยการกลับมาของทุกคนทุกๆ วัน ฉันสัมผัสได้ว่าท่านเหงา ท่านต้องการความอบอุ่นการดูแลเอาใจใส่ "นี่แม่ชวนเพื่อนมาทานข้าวด้วยหรอครับ ไม่เห็นบอกผมเลย " ห๊ะ อะไรนะเพื่อนแม่อย่างนั้นหรอ นี่ตบปากตัวเองเดี๋ยวนี้เลยนะไอ้ ป้าบ้านแกหน่ะสิสวยขนาดนี้ ใช้สมองหรือว่าส้นตีนคิดเนี่ย ความจริงฉันก็ไม่ค่อยจะยอมใครง่ายอยู่แล้วด้วย แต่ก็ต้องเก็บอาการเอาไว้ก่อนเพราะที่นี่มันไม่ใช่บ้านของฉัน อีกอย่างเกรงใจคุณแม่ด้วยเดี๋ยวจะตกอกตกใจกับมาดโหดของเพลงพิณ "นี่ทำไมปากร้ายแบบนี้ นี่เพลงพิณลูกสาวของเพื่อนแม่เอง จำน้องได้มั้ยลูก" "เอิ่มมม อ๋อผมนึกออกแล้ว ยัยแว่นนั่นเอง นี่ยังใส่แว่นอยู่อีกหรอ " ฉันชักจะทนไม่ไหวกับคำพูดหมาๆ ของหมอนี่แล้วนะ ทำไมอ่ะ ฉันใส่แว่นแล้วมันทำไม ก็ดีมองฉันเป็นเพื่อนแม่นายก็ดีเหมือนกัน นายจะต้องไม่อยากแต่งงานกับฉัน คงไม่มีผู้ชายคนไหนชอบผู้หญิงเฉิ่มๆ แบบนี้หรอก "ยังปากหมาเหมือนเดิม" "เธอว่าอะไรนะ" พูดเบาแล้วยังจะหูดีเสือกได้ยินอีก ฉันไม่อยากหยาบคายสักเท่าไหร่แต่คนถ่อยปากหมาแบบนี้ไม่อยากจะสุภาพด้วยสักเท่าไหร่ "อย่าเรียกน้องแบบนั้นอีกนะ น้องออกจะน่ารัก นิสัยดีกิริยามารยาทก็งาม " รักคุณแม่จังเลย อย่างน้อยในบ้านหลังนี้ก็ยังมีคุณแม่ที่คอยเข้าข้างฉัน อ่อ ยังมีป้าแจ่มอีกหนึ่งคน คนอื่นๆ ฉันไม่รู้หรอกเพราะยังไม่ได้ใกล้ชิดพูดคุยด้วยสักเท่าไหร่ "แล้วนี่บ้านเขาไม่มีข้าวกินหรอครับถึงต้องมากินข้าวบ้านเรา" "แสงเหนือ เอาหล่ะ ฟังแม่นะ ทานข้าวให้เสร็จแล้วแม่มีเรื่องจะคุยด้วย แล้วก็หยุดพูดแบบนี้กับน้องได้แล้ว เสียมารยาท" ฉันจะต้องอดทนกับคำพูดที่หลุดออกมาจากปากหมาๆ นี่ไปถึงเมื่อไหร่กัน อย่าให้ร่างจริงเปิดเผยนะแม่จะด่าให้ยับเลยคอยดู "ครับแม่" จากนั้นป้าแจ่มก็ตักข้าว อาหารที่ป้าแจ่มทำอร่อยมากๆ เลย ที่จริงก็กินไม่ค่อยจะลงหรอกนะ แต่พอได้ชิมอาหารของป้าแจ่มไปก็เลยซัดไปซะสองจาน "อร่อยมั้ยลูก สองจานเลย" "อร่อยมากค่ะ " "เอาหล่ะทั้งสองคนตามแม่ไปที่ห้องรับแขกนะ" ฉันยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่มจากนั้นก็ลุกขึ้นเดินตามคุณแม่ออกไปห้องรับแขกทันที อยู่กับตานี้นานๆ เดี๋ยวได้ทะเลาะกันอีก .............................................. "อะไรนะครับ จะให้ผมแต่งงาานกับยัยป้าแว่นหนาคนนี้ มี๊ครับ ผมไม่แต่ง" ฉันก็ไม่อยากแต่งหรอกย่ะ ทันทีที่ไอ้มาเฟียรู้ว่าจะต้องแต่งงานกับฉันก็ทำท่ากระฟัดกระเฟียดลึกขึ้นจากโซฟาด้วยความไม่พอใจทันที "นั่งลงเดี๋ยวนี้ แล้วก็หยุดเรียกน้องแบบนั้นด้วย น้องชื่อเพลงพิณ " "จะอะไรก็ช่าง ชื่ออะไรผมไม่สน มี๊กำลังคิดอะไรอยู่ " ฉันคิดว่าเขาจะใส่อารมณ์มากเกินไปละนะ คุณแม่ก็ยังคงพูดนิ่งๆ ผิดกับลูกชายที่เอาแต่เสียงดังแล้วใช้อารมณ์แบบไม่สนใจใคร "มี๊ก็อยากให้เรามีครอบครัวสักที มี๊ไม่อยากให้เราทำตัวแบบนี้อีกแล้ว รู้มั้ยว่าบ้านหลังนี้มีผู้หญิงเข้าออกเป็นว่าเล่น มี๊ไม่ชอบ " "ถ้าแม่ไม่พอใจเรื่องนี้เดี๋ยวผมจะจัดการเอง แต่ผมจะไม่ยอมแต่งงานกับยัยแว่นนี่เด็ดขาด" "ได้ ถ้าไม่แต่ง ธุรกิจทุกอย่าง บ้าน รถ คอนโด มี๊จะยึดคืนให้หมด" "มี๊ครับ " "อย่าลืมว่ามี๊ยังไม่ได้ยกให้เป็นชื่อเรา มี๊ยังมีสิทธิ์อยู่ ก็แล้วแต่นะ คิดดูให้ดีๆ หนูเพลงขึ้นข้างบนกับแม่ดีกว่าลูกแม่มีอะไรจะให้ดู" เพิ่งเห็นคุณแม่เหี้ยมก็คราวนี้นี่แหละ นิ่มๆ แต่เชือดเจ็บนะคะ ทำเอาลูกชายสุดที่รักเสียงอ่อนไปเลย ........................................ ผมถึงกับหมดแรงเมื่อได้ยินคำขู่ของมี๊เมื่อกี้ ถูกเรียกตัวให้กลับบ้านด่วน เพราะเรื่องนี้เนี่ยนะ ผมต้องแต่งงานกับยัยป้าแว่นหนาจริงๆ หรอเนี่ย แค่เห็นหน้าก็หมดอารมณ์แล้ว บอกตรงๆ เลยว่าคนนี้ปี้ไม่ลงจริงๆ มี๊กำลังคิดอะไรอยู่ อยู่ๆ ทำไมถึงอยากให้ผแต่งงาน เฮ้ออ เครียดหว่ะ ถ้าเกิดผมต้องแต่งงานจริงๆ ไม่อยากจะคิด ชีวิตอิสระของผมจะต้องหมดไป สาวๆ ก็จะเข้าหาผมน้อยลง "ฉันจะทำให้เธอร้องไห้ขี้มูกโป่งกลับบ้านไม่ทันเลยคอยดู" เอาวะไม่มีใครทนนิสัยของผมได้หรอก ผมไม่พร้อมที่จะต้องผูกมัดกับใคร ไม่อยากให้ใครมาบงการชีวิต ผมชอบชีวิตอิสระแบบนี้มากกว่า ผมนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่ข้างล่างอยู่นาน คืนนี้ว่าจะค้างที่บ้านสักคืน เอาจริงๆ ก็รู้สึกผิดอยู่เหมือนกันที่ทิ้งมี๊ให้อยู่คนเดียวทุกวันแบบนี้ ผมลุกขึ้นจากโซฟาแล้วเดินขึ้นห้อง อาบน้ำสักหน่อย คืนนี้ก็ถือว่าพักผ่อนซะหนึ่งคืน ส่วนเรื่องงานผมฝากให้ไอ้สองแฝดเป็นคนจัดการแทนหนึ่งวัน แอดดดดด "กระเป๋าใครวะ" ผมเปิดประตูห้องเข้ามาก็ต้องแปลกใจกับกระเป๋าใบใหญ่หลายในที่วางอยู่ปลายเตียง แถมยังได้ยินเสียงเหมือนคนอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำอีก "ใครอยู่ในห้องน้ำอีกวะ" นี่มันชุดนอนผู้หญิงนี่หว่า ลายคิตตี้สีชมพูโคตรเด็กน้อยเลย เสื้อในกางเกงในรูปแมว ถูกวางเรียงไว้บนที่นอน สักพักเสียงน้ำในห้องน้ำเงียบลง แอดดดด "นะ นี่นาย ขะ เข้ามา" พรึ่บบบบบบ "กรี๊ดดดดดดดดดดด อย่ามองนะหันกลับไปเดี๋ยวนี้เลยไอ้บ้า" "หืม ขาววว " ใครไม่มองก็บ้าแล้ว อยากซุ่มซ่ามมาทำผ้าหลุดต่อหน้าผมได้ยังไง ผมมันเสือหิวตลอดเวลาอยู่แล้ว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD