ตอนที่ 1 พริกหวาน (4)

1420 Words
“พริกหวานบอกคุณพ่อให้คุณแม่ได้ไหมคะ วันนี้งดฉีดยา เข็มเดียวก็ไม่ให้ฉีด ถ้าอยากจริงๆ ให้กินยาเม็ดทางปากได้อย่างเดียว” “แค่ยาเม็ดมันจะไปพออะไรเล่า ไม่รู้แหละ ยังไงก็จะฉีดให้ได้” “คนเอาแต่ใจ” สะบัดหน้างอน ให้กับชายหนุ่มที่จ่ายค่าเลี้ยงดูไม่ขาด มาตลอดระยะเวลานับจากหนูพริกหวานลืมตาดูโลก ธารธาราต้องเลี้ยงลูกให้เขา และยอมให้เขามีอะไรด้วยสัปดาห์ละหนึ่งวัน ลาไม่ได้ ป่วยก็ไม่ยอมให้ขาดงาน จับมามีอะไรกันสม่ำเสมอจนน่าน้อยใจ เขารักษาสิทธิ์ตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยม วันอื่นไม่เคยแตะต้อง ยกเว้นวันเสาร์ จะเคลียร์งานทุกอย่างเพื่อมาจุดจุดจุดให้เต็มที่ ไปทำงานต่างจังหวัดหรือต่างประเทศยังไม่เคยไปตรงกับวันเสาร์ เขามันคนหื่น! กล่อมลูกสาวเข้านอนได้ อุ้มไปห้องข้างๆ มาราธอนยาวเริ่มจากสี่ทุ่มไปจบที่ตีสองตีสามของอีกวัน ธารธาราตื่นสายในเช้าวันอาทิตย์เป็นประจำ “พ่อพ่อ ดุ แม่แม่” แหงนหน้ามองพ่อพ่อกับแม่แม่สลับกัน “ไม่ใช่ค่ะ คุณพ่อไม่ได้ดุคุณแม่นะคะ คุณแม่หน้าบึ้งเป็นยักษ์เพราะหิวต่างหาก พริกหวานหิวไหม เราไปกินพี่หมูยิ้มกันไหม” “กินค่ะ!” ตัวป่วนยกมือสูง ขยับตัวบ่อยจนภารนัยกลัวแขนหรือขาลูกสาวจะปัดไปโดนผ้าพันแผลบนหัวเข่าธารธารา อุ้มลูกออกจากตักหล่อน ให้หล่อนนั่งหน้างอนรอบนวีลแชร์ ก่อนไปรอคิวรับยา “บาร์บีก้อน บาร์บีก้อน ไปกินพี่หมูสีชมพู เย่!” ใส่ทำนอง ร้องปลุกใจวัยรุ่นฟันน้ำนมที่ถูกรัดเข็มขัดติดกับคาร์ซีท ภารนัยมีรถใช้แค่คันเดียวมักจะขับไปไหนมาไหนด้วยตัวเอง ยกเว้นออกไปทำงานนอกสถานที่จะใช้รถตู้บริษัทที่มีคนขับประจำ กลับบ้านไปกินข้าวกับมารดาเอาคันนี้กลับ รับเจนจิราไปกินข้าวเมื่อครู่ก็ไปคันนี้ คาร์ซีทติดมาตั้งแต่ลูกแรกเกิด ไม่มีใครเอะใจถามเขาสักคน จะว่าปิดบัง 100% ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่ ไม่แน่นะ ถ้าคุณนายภาวินีสงสัยถามลูกชายสักนิด ภารนัยอาจจะบอกท่านและพาลูกสาวไปกราบคุณย่า แม่ขี้เหงา อยู่บ้านกับแม่บ้านไม่ค่อยได้ออกไปไหน คงจะดีใจที่มีหลานให้อุ้ม นับจากอุบัติเหตุที่คร่าชีวิตบิดา มารดากลายเป็นผู้พิการ ไม่สามารถเดินได้ ภารนัยเป็นลูกที่แย่ เขาทำงานหนักจนไม่มีเวลาดูแลท่าน นอกจากเวลางานเขามักจะมาอยู่กับลูกแทนที่จะกลับไปบ้านใหญ่ ก็หนูพริกหวานลูกสาวเขาน่ารักขนาดนี้ จะไม่ให้พ่อหลงได้อย่างไร “หมูชมพู” หนูพริกหวานชูมือสูง อารมณ์ดีไปตามคุณพ่อ ธารธาราแอบแยกเขี้ยวใส่ลูกสาว ก็เพราะใครกันล่ะไม่ยอมกินข้าว ถึงต้องไล่จับจนหกล้มเข่าแตก ทีตอนนี้หน้าระรื่น คุณพ่อพาไปกินอะไรก็ดูอยากกินไปหมด งอนพ่อของลูกเสร็จแล้ว ธารธาราเปลี่ยนมางอนลูกสาว หนูพริกหวานติดพ่อจนธารธารากังวลว่าหลังจบความสัมพันธ์ลูกจะงอแงคิดถึงเขา เพราะอาจจะไม่ได้เจอกันทุกวัน “พบคนขี้อิจฉาหนึ่งอัตรา กลัวลูกรักพ่อมากกว่าแม่หรือไง” คนขับรถระดับผู้บริหารมีดีทั้งหน้าตาและฐานะ เหน็บแนมแม่ของลูก ที่ไม่ยอมยิ้มเลย นับจากรถยนต์เคลื่อนออกจากโรงพยาบาล “ธารแค่เจ็บแผล” ไม่ได้งอนสักหน่อย ถึงแม้หนูพริกหวานจะรักคุณพ่อมากกว่าคุณแม่ตามที่ภารนัยพูดออกมาจริงๆ มันน่าเศร้า คลอดออกจากท้องแม่ อาศัยร่วมบ้านกับแม่ นอนกับแม่ แต่กลับรักพ่อมากกว่า ไม่ยุติธรรมเลย ต้องโทษภารนัย เขาตามใจจนหนูพริกหวานเคยตัว “ครับ ไม่งอนก็ไม่งอน” เขากระเซ้า แววตาเปล่งประกายสุข “เสื้อผ้าใหม่เหรอ” ชายหนุ่มผู้ถูกขนานนามว่าบ้างานอันดับหนึ่งในบริษัท อาศัยช่วงเวลาสั้นๆ ขณะรถติดไฟแดงสำรวจใบหน้าและการแต่งกาย เขาทำงานหนัก เข้าออฟฟิศและออกนอกสถานที่หกวันต่อสัปดาห์ เข้างานแปดโมงเช้าเลิกงานสองทุ่ม ถืองานกลับมาทำต่อที่บ้านจนดึกดื่นเที่ยงคืน ไปเที่ยวเล่นกับกลุ่มเพื่อนไม่บ่อยนัก จนถูกคนรอบข้างแซวบ่อยๆ ว่าเขาซื่อตรงกับคู่หมั้นสาวแค่คนเดียว หารู้ไม่ เขาไม่ได้ไม่สนใจเพศหญิง แต่เขามีผู้หญิงที่คอยช่วยเรื่องอย่างว่าอยู่แล้ว ธารธารายังเด็ก แต่งหน้าแต่งตัวแบบไหนก็น่ามอง หล่อนชอบทำตัวเองให้ดูดี แต่งหน้า ทำผม ทำเล็บ ฉีดน้ำหอม ใส่เสื้อผ้าใหม่ น่ามองตลอดเวลา ไม่บ่อยที่หล่อนจะใส่เสื้อผ้าซ้ำ ไม่ใช่ใช้เงินฟุ่มเฟือยไปกับการชอปปิ้งผลาญเงิน หล่อนหยิบชุดมาจากในร้านของตัวเอง ก่อนวางขายต้องใส่ชุดตัวอย่างเพื่อถ่ายแบบอยู่แล้ว จึงเก็บชุดเหล่านั้นไว้อย่างละหนึ่ง รวบรวมได้เยอะนำไปไลฟ์ขายมือสอง “ค่ะ เพิ่งเข้าใหม่ ไม่โป๊นะคะ ธารติดเทปกันโป๊ตรงอกไว้” เอนตัวไปข้างหน้าให้เขาดูว่าต่อให้ก้มเยอะๆ ไม่มีอะไรต่อมิอะไรหลุดออกมา มินิเดรสสีน้ำเงินผ้าซาตินใส่แล้วขับผิวสวยให้โดดเด่น ถึงจะไม่เห็นหน้าอก ภารนัยก็ถอดเสื้อสูทตัวนอกวางใส่มือให้นำไปคลุมบนหัวไหล่ อีกแล้ว นี่คือข้อเสียของภารนัย เขาจู้จี้จุกจิกและชอบบ่นเรื่องการแต่งตัว ผมธารธาราค่อนข้างยาวลงมาปิดไหปลาร้าไปถึงหน้าอกหน้าใจ มองอย่างไรก็ไม่โป๊ อยากเถียง แต่ขี้เกียจพูด เขาขึงตาดุสั่งให้ทำตามจึงรับมาสวม “อย่าทำหน้าไม่พอใจอย่างนั้นสิ แค่ธารถ่ายรูปถ่ายวิดีโออวดสัดส่วนตัวเองผมว่ามันก็มากเกินไปแล้ว อยู่บ้านไม่เป็นไร แต่ถ้าออกไปข้างนอกหาเสื้อคลุมสักหน่อยก็ดี กันโป๊ได้ด้วย กันแดดได้อีกต่างหาก” “ค่ะ ธารจะทำตามทุกอย่าง เหลือเวลาอีกแค่สามเดือนเท่านั้น ที่คุณนัยจะมีสิทธิ์สั่งธาร พ้นจากนี้ ธารจะใส่บิกินีรอบบ้านเลยคอยดู” “ผมหวังดีกับธาร ธารกลับพูดตอบประชดประชันผม” “เปล่าประชดค่ะ ธารแค่ไม่อยากให้คุณนัยบ่นเยอะเป็นตาแก่” “ห้ามโกรธ ห้ามงอนผม ดื้อมากๆ ระวังผมจะเล่นตุกติกกับธาร ไม่ยอมจบง่ายๆ แต่จะยืดระยะเวลาออกไปจนกว่าธารจะรับปริญญา” “คุณนัย!” งอนเขา จะว้ากใส่ เขาดึงนิ้วชี้มาแตะที่ริมฝีปาก สั่งไม่ให้หล่อนขึ้นเสียงหรือพูดจาไม่ดี ป้องกันไม่ให้หนูพริกหวานได้ยิน รายนั้นหูตาชัน ได้ยินพ่อพ่อกับแม่แม่คุยกันก็อยากคุยด้วย สายเรียกเข้าจากเจนจิรา เชื่อมต่อจากโทรศัพท์ภารนัยเข้ามาในเครื่องเสียงรถยนต์ ธารธาราผินหน้าแสนเศร้าไปทางอื่นแสร้งว่าไม่ได้มอง อยู่กับเขามาสามปี ทำไมจะไม่รู้ว่าผู้หญิงที่โทรเข้ามาเป็นใคร สถานะเด็กเลี้ยงแบบผูกปิ่นโต ต้องอยู่ให้เงียบที่สุดเท่าที่จะเงียบได้ ทำร้ายผู้หญิงด้วยกันเฉพาะตอนนี้เท่านั้น พ้นสามเดือนสุดท้ายของการฝึกงานไปได้ก็จะจบการศึกษา ไม่ต้องให้ภารนัยเลี้ยงดูปูเสื่อ ธารธาราจะทำงานหาเงินเลี้ยงดูตัวเองกับลูกสาวให้อยู่รอดให้ได้ ส่วนเขาก็จะได้กลับไปหาคู่หมั้นสาวสวย ไม่ต้องทรยศความไว้ใจของฝ่ายนั้นด้วยการมาหลับนอนกับผู้หญิงไร้หัวนอนปลายเท้า สงสารพริกหวาน วัยกำลังน่ารักกลับต้องกำพร้าพ่อ ถ้าโตกว่านี้ลูกน่าจะเข้าใจ ไม่ใช่ว่าภารนัยไม่รักลูก แต่เพราะลูกเกิดจากผู้หญิงอย่างธารธารา จะพาไปเปิดตัวก็อาจจะอับอายขายหน้าญาติพี่น้อง “เลยไฟแดงนี้ไป คุณนัยจะจอดรถสักครู่ก็ได้นะคะ ธารจะพาลูกไปรอข้างนอก”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD