ตอนที่ 2
1009 Words
‘อ๋อ... มันคงเอาเก่งน่าดูสินะ คินถึงได้เพ้อขนาดนี้ ได้! ถ้าคินเลือกอยู่กับมัน เราก็ขาดกัน! ดูสิถ้าคินมีแต่ตัว มันยังจะเอาคิน อยู่มั้ย!’
‘เอาสิชม แนนนี่เขาไม่เหมือนคนอื่นนะ บ้านเขาไม่ได้จน บ้านเขาก็มีกิจการใหญ่โต รวยไม่แพ้ชมหรอก และเขาก็ไม่ได้ง่ายด้วย คิน... เอ่อ... คินเป็นคนแรกของเขา’
เวลานั้นหล่อนเหมือนปลาถูกทุบหัว สามีของหล่อนกำลังชื่นชมผู้หญิงไซด์ไลน์ ทั้งทำท่าเพ้อฝันว่าสิ่งที่ได้มาคือมีค่า แล้วหล่อนล่ะ
‘จะบ้ารึไงคิน! คินพูดแบบนี้ได้ยังไง แล้วคินไม่ใช่คนแรกของชมเหรอ แล้วถ้าบ้านมันรวยจริง มันจะมาทำไซด์ไลน์ทำไม มันหลอกคิน คินไม่รู้เลยเหรอไง ทำไมถึงไปเชื่อมัน’
‘แนนนี่ไม่ได้หลอกนะชม แนนนี่เขาแค่มาหารักแท้กับผู้ชายที่คู่ควรเท่านั้น ชมคิดดูสิ คินต้องประมูลค่าตัวแนนนี่แข่งกับผู้ชายเป็นร้อย แล้วคินเป็นผู้ชายที่โชคดีคนนั้น คินเช็กข้อมูลมาหมดแล้วนะ ทุกเรื่องของแนนนี่เป็นเรื่องจริง แต่ถ้าหากแนนนี่จะหลอกคิน คินก็ยอม เพราะคินรักแนนนี่ รักแนนนี่จนขาดไม่ได้ ถ้าชมจะให้คินเลิกกับแนนนี่ ชมฆ่าคินเสียดีกว่า คินยอมตาย ถ้าขาดแนนนี่ ให้คินตายเสียดีกว่า’
‘คินรักมันมากขนาดนี้เชียวเหรอ’ หล่อนถามทั้งๆ ที่แทบจะลืมหายใจ ‘แปลว่าคินจะเลิกกับชมใช่มั้ย ถ้าชมขัดขวาง’
เขาไม่ตอบแต่พยักหน้า นั่นคือคำสารภาพของภาคิน ซึ่งหล่อนคิดว่า ‘บ้าสิ้นดี’ จะมีผู้หญิงบ้าๆ ที่ไหนเอาตัวเองมาเป็นสาวไซด์ไลน์เพื่อต้องการหารักแท้ น้ำเน่า! เป็นไปไม่ได้แน่ หล่อนไม่มีทางเชื่อ แต่ภาคินเชื่อทุกสิ่งที่แนนนี่บอก เชื่อมากจนหล่อนแปลกใจ
และเมื่อตรวจสอบประวัติของแนนนี่ ทุกสิ่งที่ภาคินบอกก็เป็นเรื่องจริงอย่างน่าเหลือเชื่อ ที่ร้ายไปกว่านั้นคือแนนนี่เป็นทายาทคนเดียวของเจ้าของธุรกิจเครื่องหนังและเฟอร์นิเจอร์ส่งออก บริษัทที่เคยเป็นคู่ค้าสมัยรุ่นพ่อแม่ยังสาว แต่ปัจจุบันกำลังจะขยับมาเป็นคู่แข่ง
นั่นทำให้หล่อนแน่ใจว่าแนนนี่ตั้งใจเข้ามาป่วนชีวิตคู่ของหล่อนเพื่อต้องการแย่งตัวภาคิน เพราะเขาเป็นมันสมองของบริษัท หากธุรกิจของหล่อนขาดภาคิน ต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่ แต่จะให้หล่อนยอมให้เขาไปอยู่กับแนนนี่ โดยที่หล่อนได้แต่มองดูก็คงไม่ใช่
จากที่ไม่เคยเชื่อเรื่อง ‘คุณไสย’ ก็ทำให้หล่อนฉุกใจ เพราะภาคินหายใจเข้าหายใจออกเป็นแนนนี่ จนญาติพี่น้องหล่อนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่านี่คืออาการของคน ‘โดนของ’
หากภาคินมีสติสัมปะชัญญะพร้อม และมักมากอยากไปอยู่กับแนนนี่เอง หล่อนคงจะรั้งเขาไว้ไม่ได้ แต่หากทั้งหมดเกิดจาก ‘ของ’ หล่อนจะหาทางทำให้ภาคินกลับมาเหมือนเดิมให้ได้
ในระหว่างที่ญาติพี่น้องพากันวุ่นวายใจหาหมอมาถอนของออกจากภาคิน หล่อนก็บังเอิญเจอลิงค์นี้ และเมื่อสอบถามจากนายหน้า ก็ได้คำตอบว่าหล่อนมาถูกทางแล้ว เพราะหมอที่ลงเสน่ห์ขลังๆ ก็ถอนได้ฉมังเช่นกัน
เสียงสัญญาณโทรศัพท์บ่งบอกว่าสายว่าง ก่อนจะเป็นเสียงผู้ชายเอ่ยทักมา ชมจันทร์จึงกลอกเสียงพูดลงไป
“ฉันมาถึงแล้ว อยู่หน้าบ้านอาจารย์เดช”
“ขึ้นบันไดมาเลย แล้วไปนั่งรอหน้าห้อง อาจารย์ติดลูกค้าอยู่ รอสักครึ่งชั่วโมง”
ชมจันทร์กดตัดสายเพราะไม่มีอะไรต้องพูดกันอีก หล่อนไม่อยากเสวนากับใครอื่นที่ไม่ใช่อาจารย์เดช เพราะเรื่องที่หล่อนมาวันนี้ถือเป็นความลับ แต่หล่อนยอมลำบากลำบนมาถึง เพราะหล่อนไม่มีอะไรจะเสียแล้ว แม้จะเสี่ยงกับการถูกหลอกลวงก็ตาม แต่หากเงินไม่มากหล่อนก็พร้อมจะเสี่ยง ขอเพียงให้ได้ภาคินกลับคืนมาเท่านั้น
ร่างงามระหงเต่งตึงไปทุกสัดส่วนก้าวขึ้นบันได แค่ฝ่าเท้าเปล่าเปลือยสัมผัสขั้นที่หนึ่ง ขนกายทั่วตัวของหล่อนก็ลุกพรึบ หัวใจเต้นรัวเร็ว ชมจันทร์บอกตัวเองว่านั่นอาจเป็นความหวาดหวั่นที่หล่อนสร้างขึ้นเอง ก็รอบตัวไม่มีสิ่งมีชีวิตใดนอกจากตัวหล่อนเอง อาการหลอนสั่นประสาทจะเกิดขึ้นก็ไม่ผิด
ในห้องทำพิธี
‘อาจารย์เดช’ นั่งบริกรรมคาถาหันหลังให้ลูกค้าสาวสวยเรือนร่างอวบอึ๋ม ส่วนลูกค้าสาวนั้นก็มองเบื้องหลังของอาจารย์หนุ่มไม่วางตา เพราะกล้ามเนื้อแน่นเปี๊ยะที่เห็นอยู่นี้ล่อตาล่อใจหล่อนเหลือเกิน
สายตาหล่อนเชิญชวน ริมฝีปากเม้มเข้าหากันบ่อยๆ ลิ้นแลบออกมาเลียไล้ ก่อนจะหลับตาสะกดกลั้นอาการบีบรัดของร่องหลืบ ทว่ายิ่งสะกดกลับยิ่งตอดรัดเพราะอยากได้ รับรู้ได้ถึงความคันยิบและหยาดน้ำที่เริ่มเอ่อซึม จนหล่อนต้องบิดสะโพก หนีบต้นหาสลับไปมา พลางผ่อนลมหายใจออกจากปากเบาๆ เผื่อนั่นจะทำให้ความอยากลดลง
แค่อยู่ใกล้อาจารย์เดช หล่อนก็แทบจะสะกดกลั้นความอยากได้ส่วนนั้นมาเติมเต็มไม่ไหว เพราะอาจารย์เดชไม่ใช่แค่เป็นหมอเสน่ห์ แต่เขายังเป็นหมอทำเสน่ห์ที่หล่อที่สุดเท่าที่หล่อนเคยเห็นมาก็ว่าได้ เขาหล่อมากจนไม่น่าเชื่อว่าจะมาเป็นหมอเสน่ห์
มีอย่างที่ไหน ชายไทยไซส์ยุโรป วัยไม่น่าเกิน 30 ปี ใบหน้าหล่อเข้ม ตาคม จมูกโด่ง ปากกระจับน่าจูบ จนหล่อนอยากเห็นปากนั้นมาดูดดุนปลายยอดอก และลากไปจูบที่จุดนั้น เขาน่ากินไปทั้งตัวแบบนี้ คิดยังไงถึงมาเป็นหมอเสน่ห์
- Writer
