“ออกไปนะ คุณทำแบบนี้กับฉันไม่ได้” เธอว่าเมื่อเขากำข้อมือไว้แล้วยกมันขึ้นเหนือศีรษะ ก่อนจะกดเข้าหาผนัง
“เจ้าก็เห็นว่าเราทำแล้ว เอาละปราณัฐ เจ้ามีสิ่งใดจะสารภาพหรือไม่”
“ไม่! ฉันไม่ได้ทำผิดอะไรสักนิด ทำไมต้องสารภาพ คุณนั่นแหละปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!” คำสั่งของเธอเหมือนเสียงลมบางเบา ที่เขาสามารถยุติมันด้วยริมฝีปาก ปราณัฐใจเต้นรัวๆ ให้ตายเถอะ เธอกำลังจะโดนปล้นจูบ!
“อลัญคะ!”
แม่สาวทรงโตโผล่หน้าออกมาจากห้องนอน อลัญรีบผละร่างจากปราณัฐ ด้วยเกรงว่าผู้จัดการคนงามจะเสียหาย
“มีอะไรรึเอ็มม่า”
เอ็มม่ากวาดตามองแม่สาวร่างบางแต่อวบอัดที่หน้าอกหน้าใจแล้วไม่ค่อยสบอารมณ์นัก เมื่อครู่นี้เธอเห็นเต็มตาว่าสองคนนี้นัวเนียกันอยู่
“เปล่าค่ะ เอ็มม่าแค่อยากขอบคุณสำหรับสร้อยเพชรแล้วก็เช็คของขวัญ” ไม่ขอบคุณเปล่าๆ แต่เดินไปหาอลัญ วาดแขนโอบรอบคอเขาแล้วมอบจุมพิตดูดดื่มต่อหน้าต่อตาอีกหนึ่งสตรีที่ยืนอยู่
ปราณัฐมองตาค้าง แม่สาวทรงโตนามว่าเอ็มม่าจงใจจูบกับเขาเพื่อข่มเธอสินะ บ้าน่ะสิ เธอเป็นแค่ผู้จัดการโรงแรมและมีหน้าที่พิเศษมาทำความสะอาดห้องนี้ ไม่ได้จะมาแย่งคู่ขาของหล่อนสักนิด ยัยบ้าเอ๊ย! เชิญจูบให้ลิ้นพันกันตายไปเลย!
ปราณัฐเดินหนีฉากรักอันดูดดื่ม ทว่าสองเท้าไม่อาจก้าวไปได้ไกล เพราะคนที่ยืนจูบกับเอ็มม่าดันเอื้อมมือคว้าเอาข้อมือเธอ
“เอ๊ะคุณ! ปล่อยนะ!”
เธอตกใจไม่น้อยกับการกระทำนี้ เพราะขณะที่มือเขาคว้าข้อมือเธอไว้ ปากเขาก็ยังจูบอยู่กับเอ็มม่าอยู่
“อืม...เอาละเอ็มม่า ขอบใจสำหรับจูบลา เอาเป็นว่าเรารับรู้ และจะดีกว่านี้หากเจ้าจะไปเสียที”
“ท่านชีค! นี่ท่านชีคไล่เอ็มม่าหรือคะ คุณกับแม่นี่คงจะมีอะไรๆ กันสินะ ว่าไงยะ หล่อนน่ะ ใช้มารยาท่าไหนเข้าล่ะ ท่านชีคถึงได้ติดใจ!”
“ทุกท่า! ฉันใช้ทุกท่า ชัดไหม!”
โต้คืนแล้วหายใจเร็วแรง พยายามข่มความโกรธให้มากที่สุด ยัยบ้าเอ็มม่านี่ก็เหลือเกิน ปากไวน่าเอาบาทานาบหน้านัก
“อี๋! สกปรก หล่อนคงถนัดสินะ คงทำมาเยอะ และพร้อมจะนอนแบให้ท่านชีคละสิ”
“ความคิดเธอสิสกปรก และเธอต่างหากที่นอนแบให้ท่านชีค ไม่ใช่ฉัน! ฉันยังเวอร์จิ้นโว้ย!” ไม่ประกาศเปล่าๆ แต่ทำทีถลกแขนเสื้อพร้อมเอาเรื่องเต็มที่
เอ็มม่ากับอลัญหันมามองหน้ากันอย่างตื่นตะลึง เอ็มม่านั้นหัวเราะเยาะกับสิ่งที่เพิ่งได้ยิน ส่วนอลัญมีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก
“หัวเราะอะไรยะ เป็นสาวพรหมจรรย์ในยุคนี้มันน่าอายนักหรือไง”ปราณัฐเริ่มเดือด เธอแค่เวอร์จิ้น มันไม่ใช่เรื่องน่าอายสักนิด
“ก็มันน่าตลก หล่อนอายุเท่าไหร่แล้ว เฮ้อ...น่าสมเพช ไม่มีใครเอา ฮ่าๆๆ”
“โอ๊ย...เจ็บปวดอย่างแรง ขอเถอะนะ ขอตบสักที ปากน่าตบจริงๆ” แล้วปราณัฐก็โผเข้าหาเอ็มม่า ทั้งสองล้มลงไปกองกับพื้น และก่อนที่ฝ่ามือแรกของปราณัฐจะฟาดลงที่ซีกแก้มของเอ็มม่า ชีคอลัญก็ดึงร่างปราณัฐออก
“ใครอยู่ข้างนอก เข้ามาที เร็วเข้า!”
สิ้นคำของท่านชีค การ์ดสองนายก็พุ่งพรวดเข้ามา เขาสั่งให้ทั้งสองพาเอ็มม่าออกไปท่ามกลางเสียงร้องด่าของสาวเจ้าที่มอบให้ปราณัฐ
“กรี๊ด....ปล่อยฉันนะ ท่านชีค! สั่งให้พวกเขาปล่อยเอ็มม่า เอ็มม่าจะตบมัน เป็นพนักงานโรงแรมประสาอะไรมาหาเรื่องลูกค้าฮะ โอ๊ย! ปล่อยนะ!”
“ลากออกไป เอาออกไปเสียทีเถอะ เราเกลียดเสียงกรี๊ดนั่น!”
ปัง!
เสียงประตูถูกปิดลงพร้อมๆ กับเสียงกรีดร้องของเอ็มม่าที่จางหายไป ทว่าสองแขนที่กอดรัดร่างปราณัฐอยู่มิได้ปล่อยออกไปด้วย หญิงสาวถูกกอดแน่นจากด้านหลัง รู้สึกถึงไออุ่นของคนที่กอดตนอยู่
“ปล่อยได้แล้ว จะแต๊ะอั๋งอีกนานไหมฮะ”
“โอ...ขออภัยด้วย เราลืมตัว แบบว่าเนื้อสาวพรหมจรรย์มันหอมนัก เราอดใจไม่ไหว”
“ชีค!”
“เรียกเราอลัญก็ได้ หากจะกรุณา” เขาว่ายิ้มๆ ปล่อยร่างบางให้เป็นอิสระ ก่อนจะเดินขากะเผลกเข้าไปยังห้องนอน
“คุณน่าจะให้หมอมาดูเท้าหรือไม่ก็ไปโรงพยาบาล”
“มันคงไม่เป็นอะไรมากกระมัง”
“แต่ฉันว่าเป็น ฉันเคยเหยียบเศษแก้ว มันหนักหนาจนต้องกินยาอยู่หลายอาทิตย์เชียวนะ” ว่าแล้วเดินไปดู ก้มมองเท้าของท่านชีค แต่มองไม่ชัดเลยนั่งคุกเข่าในขณะที่เขายืน
“เจ้าจะทำอะไร” ถามเพราะเท้าข้างที่เจ็บถูกมือน้อยแตะต้อง มือหล่อนนิ่มและอุ่นเหลือเกิน อยากรู้จริงๆ ว่าหากมันแตะต้องส่วนอื่นบนร่างเขา จะเป็นอย่างไร
“เจ็บก็บอกนะ” สั่งเขาแล้วลองกดๆ ตรงแผลที่ถูกผ้ากอซพันไว้
“โอ๊ะ....โอย...เจ็บๆๆ”
ปราณัฐส่ายหน้า ขนาดไม่ใช่หมอเธอยังรู้เลยว่าแผลคงอักเสบ
“คุณต้องไปหาหมอ” เธอเงยหน้าบอก
อลัญมองลงไปแล้วให้รู้สึกประหลาดในหัวใจ ดวงตาที่ทอดมองมามันเปี่ยมไปด้วยความห่วงใยจนเขาอยากเห็นแก่ตัวกักเก็บมันไว้เพียงผู้เดียว มิให้หล่อนแบ่งปันให้ชายอื่น วงหน้าเรียวสวยนั่นก็ด้วย พวงแก้มนั้น ริมฝีปากนั้น เหตุใดจึงรู้สึกหวงแหนทั้งที่มิใช่ของตนสักนิด