เฮียผา....
ตอนนี้เหมือนว่าจะแข่งขันกันเสร็จแล้วทุกคนพร้อมใจกันมากอยู่ในห้องประชุม พวกเขากำลังคัดสรรค์ผลงานที่โดดเด่นเพียง3ชิ้นเท่านั้นที่จะได้ฝึกงานที่นี่ และมีเพียงแค่ผลงานชิ้นเดียวเท่านั้นจะได้เข้าทำงานที่ KS Jewelry Group ของผม
"เชิญเฮียผาที่ห้องประชุมครับ กรรมการพร้อมแล้ว"
ผมลุกขึ้นสวมชุดสูทเดินออกมาจากห้องประชุม เมื่อตอนมาผมไม่ใส่สูทมาแต่เจอผู้คนมากๆก็ต้องใส่เพื่อความน่าเกรงขามนิดหนึ่ง
"อืม ไปเถอะ"
ผมเดินออกไปจากห้องทำงานเดินเลี้ยวไปอีกฝั่งทางห้องประชุม มาถึงก็มีคณะกรรมการที่คัดเลือกอยู่สามคน ก็เป็นพนักงานบริษัทผมนั้นแหละ แต่อยู่แผนกออกแบบเครื่องประดับโดยตรง ผมเดินมาถึงก็สะดุดตาเข้ากับแบบสร้อยเส้นหนึ่ง
'สวย!!! สวยมาก!!'
พอเห็บแบบสร้อยเส้นนี้แล้วนึกไปถึงแหวนของเด็กน้อยที่เจอในลิฟท์เมื่อตอนเช้าเลย มันน่าจะเข้ากันได้ดี
"พวกเราคัดเลือกมาได้สิบแบบค่ะเฮียผา ตอนนี้กำลังลังเลกันอยู่ น่าจะเป็นเฮียผาคนเดียวที่จะสามารถตัดสินใจได้ดีที่สุด"
ผมหยิบแบบสร้อยเส้นนั้นขึ้นมาแล้วกลับหลังดู ขอดูชื่อคนออกแบบหน่อยเถอะมันดึงดูดใจเหลือเกิน
'ชรันดา ธาราภิรมย์'
ผมมองชื่อที่ติดอยู่ข้างหลังรูปก่อนจะยิ้มออกมาทันที ใช่เด็กน้อยคนนั้นจริงๆด้วย ฝีมือไม่ธรรมดาจริงๆคนนี้ ผมยื่นมือไปหยิบสร้อยเส้นอื่นมาดูอีกหลายแบบ ผมว่าของเด็กน้อยคนนั้นสวยสุดละ แต่พอหันไปมองแบบที่มาเป็นแบบของวันนี้มันดูไม่ค่อยจะเข้ากันเท่าไหร่
"แบบนี้สวยมากดีไซน์เก๋ดี"
"พวกเราก็เห็นตรงกันค่ะ แต่สร้อยไม่เข้ากับนางแบบเท่าไหร่"
ช่างออกแบบของผมเอ่ยขึ้น คือมันก็จริงไม่ใช่ว่ามันไม่เข้าแต่ชุดนี้สร้อยมันต้องใหญ่นิดหนึ่ง เส้นที่เด็กน้อยคนนั้นออกแบบมามันเล็กไปแต่มันสวยแค่นั้นแหละ
"เอาเป็นว่าผมชอบแบบสร้อยชิ้นนี้ ให้ผ่านเข้ารอบสามคนพวกคุณคัดกันเลย ส่วนของคนนี้ ผมให้เข้ารอบพิเศษแถมตำแหน่งในบริษัทให้ตอนฝึกงานเสร็จพร้อมทำงานได้ทันที ผมอยากได้คนหัวคิดแนวนี้อยู่แล้ว เอาเป็นว่าอีกสามคนพวกคุณคัดเลือกเอง"
"เท่ากับว่าจะมีคนผ่านเข้ามาฝึกงานเพิ่มเป็นสี่คนใช่มั้ยคะเฮียผา"
ผมพยักหน้าเบาๆ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มาถ่ายรูปแบบสร้อยของเด็กน้อยคนนั้น
"ตามนั้นแหละ ผมไปละ"
ผมวางแบบสร้อยไว้ที่โต๊ะก่อนจะหันหลังแล้วเดินอมยิ้มออกไป เก่งขนาดนี้ใครจะปล่อยให้หลุดออกไปละจริงมั้ย
"เฮียผาครับ ทำไมดูสนใจแบบสร้อยเส้นนั้นเป็นพิเศษเลย"
จาร์เอ่ยถามผมหลังจากที่เราออกมาที่ห้องประชุมแล้ว
"ไม่มีอะไรหนิก็แค่สวยเท่านั้นเอง อย่ามาจับผิดเดี๋ยวจะโดนกระทืบ"
ผมเอ่ยออกไปก่อนจะเดินลงไปชั้นล่าง ว่าจะออกไปหาอะไรทานสักหน่อยนี่มันก็เที่ยงแล้วนี่นา ผมเดินลงมาถึงชั้นล่างกำลังจะเดินออกจากประตูก็เจอเด็กน้อยคนนั้น ผึ้งน้อยยืนคุยกับพนักงานบริษัทของผมด้วยท่าทีสนิทสนม ผมชะงักไปก่อนจะยืนมองอยู่หลังประตู
"ทำไมดูสนิทสนมกับขนาดนั้น เด็กคนนั้นมีแฟนแล้วเหรอเนี้ย"
รู้สึกใจเสียนิดหน่อยเมื่อรู้ว่าเธอมีแฟนแล้ว ทำไมผมถึงรู้สึกแบบนั้นกันนะ จาร์เดินมายืนข้างๆผมก่อนจะหันมามองหน้าผมสลับกับผึ้งน้อย
"เฮียผามองน้องคนนั้นอยู่นานแล้วนะครับ สนใจเหรอ"
ผมกระแอมเล็กน้อยก่อนจะรีบปฎิเสธ
"ปะ.. เปล่านี่ ก็แค่สงสัยว่าสองคนนั้นเป็นแฟนกันรึเปล่าแค่นั้นแหละ"
ผมเอ่ยออกไปใครๆก็คงดูออกว่าผมกำลังแถ จาร์มองหน้าผมยิ้มๆก่อนจะเอ่ยออกมา
"ผมว่าเฮียผาดูหน้าเสียนะครับ หรือว่าผิดหวังที่รู้ว่าคนที่เราสนใจเขามีแฟนแล้ว"
ผมยกมือไปตบหัวไอ้จาร์หนึ่งที ปากมากฉิบหาย นี่ลูกน้องหรือหัวหน้าเนี้ย
"มึงมันจะรู้มากไปละไอ้จาร์"
ผมเอ่ยออกไปมันยักไหล่ก่อนจะผลักประตูออกไป ผมรีบร้องห้ามมันไว้แต่ไม่ทันมันออกไปก่อนแล้ว
"s**t!!! ไอ้จาร์!!!"
ผมสบถออกมาอย่างหัวเสียแต่ไม่กล้าเดินออกไป ยังไม่อยากแสดงตัวให้ผึ้งน้อยเห็นตอนนี้ไง
"อ่าว นนท์ มาทำไรตรงนี้ แฟนเหรอ น่ารักดีนะเนี้ยกินเด็กซะด้วย ชื่ออะไรเรา"
ไอ้จาร์เดินตรงไปหาสองคนนั้นแล้วก็เปิดประเด็นแบบตรงๆทันที ไอ้เหี้ยจาร์ ไอ้เวรเอ้ย!!! มึงนี่มัน.....
"มะ... ไม่ใช่ค่ะ นี่น้องค่ะแหะๆ คือพี่เขาเป็นพี่ชายข้างบ้านนะคะเราสองคนรู้จักกัน อ่อ หนูชื่อผึ้งน้อยค่ะ"
ผมได้ยินประโยคนั้นจากปากของผึ้งน้อยก็ยิ้มออกมาทันที แสดงว่าไม่ได้เป็นแฟนกันสินะ หึ!!
"อ่อออออออ แล้วมีแฟนยังครับผึ้งน้อยสุดสวย"
"ยังหรอกค่ะ หนูโสด แหะๆ"
ผมมองผึ้งน้อยที่ยืนคุยกับไอ้จาร์แล้วก็ไอ้นนท์แล้วยิ้มออกมา ยิ้มแบบยิ้มไม่หยุดอ่ะนี่เขาเป็นอะไรไปเนี้ย
"ไปบอกพี่จาร์เขาแบบนั้นเดี๋ยวก็โลกรู้หรอก อยากโดนหนุ่มๆแถวนี้จีบไง"
"ไม่มีใครมาจีบหนูหรอกน่า "
"นั้นสินะ เอาเป็นว่าพี่จะไม่บอกใครนะว่าน้องโสด น่ารักแบบนี้ถ้าไม่รีบจีบเดี๋ยวมีคนคาบไปกินจะแย่เอา เนาะๆ"
ไม่พูดเปล่าแถมยังหันมามองผมที่ยืนหลบมุมอยู่ตรงประตูอีก ไอ้เหี้ยจาเอ้ย!! มึงจะหันมาทำไมเดี๋ยวเขาก็เห็นกูหรอก
"พูดเหมือนสนใจน้องผมอ่ะพี่จาร์"
"เปล๊าาาาาา พี่ไม่ได้จะจีบ คนอื่นต่างหาก"
'ไอ้เหี้ยจาร์!!!!!'