ความสัมพันธ์ที่ชัดเจนขึ้น

2521 Words
“ท่านแม่ทัพ” ซุนหวางมองหน้าแม่ทัพชิวอย่างเลื่อนลอย ดวงตาเรียวงามกำลังพล่ามัวเพราะมีม่านน้ำตามาปิดกั้น แค่ท่านแม่ทัพบอกว่าคิดถึงความคิดที่จะผลักไสเขาให้ออกไปไกลห่างกลับยากยิ่งแล้ว ‘ทำไมหัวใจของข้าถึงได้อ่อนไหวเช่นนี้กันนะ’ ชิวหานดึงคนตัวเล็กเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนแกร่ง เห็นดวง ตาเรียวงามที่กำลังเอ่อคลอด้วยน้ำตา ความน้อยใจที่มีอยู่เมื่อครู่นี้ กลับมลายหายไปจนหมดสิ้น “ทำไม..ไม่เชื่อที่ข้าพูดหรือซุนหวาง ที่ข้าทำให้เจ้าตลอดมายังไม่ชัดเจนอีกหรือ เจ้าบอกว่าหัวใจเจ้าเต้นแรงเมื่ออยู่กับข้าแล้วตอนนี้มันยังเป็นแบบนั้นอยู่หรือไม่” “อืออ” ซุนหวางผงกหัวน้อย ๆ รับ ไม่มีสิ่งใดให้พูดอีกแล้ว แม้ไม่ได้เจอหน้าของท่านแม่ทัพ เพียงแค่ความคิดถึงหัวใจของเขาก็ยังคงเต้นแรงอยู่ไม่มีเปลี่ยนแปลง “อือ...คือใช่ เป็นแบบนั้นใช่ไหม หัวใจของข้าก็เหมือนกัน ตอนนี้เจ้าน่าจะรู้ดี ที่ข้าบอกว่าคิดถึงก็คือเรื่องจริงหรือเจ้ายังกังวลสิ่งใดอยู่หรือไม่ มันไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่หรอกนะที่บุรุษจะรักกันแค่ไม่ค่อยมีคนเปิดเผยเท่านั้น หากว่าเจ้ายังกังวลเรื่องนี้อยู่เบาใจได้เลยไม่มีใครว่าเราได้หรอกนะ” “ทำไมต้องเป็นข้าขอรับ ท่านไม่ได้ชอบสตรีหรือ” ซุนหวางแหงนหน้าขึ้นถามคนตัวโต และไม่ได้คิดว่าคำตอบที่ได้จะเป็นเช่นนี้ “ถามมากเสียจริง” แม่ทัพหนุ่มทำทีต่อว่าและแกล้งทำสีหน้าหงุดหงิดใส่ก่อนที่จะประกบปากหนาลงที่ริมฝีปากบางอย่างแนบสนิท เรียวลิ้นร้อนดุดดุนให้ปากบางเผยอรับแล้วซุนหวางก็ได้แต่ทำตาม สองเรียวลิ้นตวัดพันเกี่ยวกันเนิ่นนานมือบางขยำเสื้อคลุมของท่านแม่ทัพแน่น เพื่อสะกดความรู้สึกวาบหวิวที่กำลังก่อตัวขึ้นข้างใน ความปั่นป่วนที่แสนรัญจวนกำลังแผ่ซ่านไปทั่วทุกอณูและได้ถูกส่งออกมาให้เป็นเสียงครางหวานในลำคอ มันเนิ่นนานเกินจะทานทนชิวหานก็ยังไม่ยอมปล่อยให้คนงามเป็นอิสระ จนกระทั่งมือบาง จากที่ขยำเสื้อคลุมกลายมาเป็นทุบที่อกหนาแทน แม่ทัพหนุ่มจึงได้รู้ตัวและมอบจูบอันดูดดื่มให้เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่ปล่อยให้ปากบางเป็นอิสระอย่างแสนเสียดาย อื้อออ.. แฮ่ก แฮ่ก “ทะ..ท่านจะทำให้ข้าขาดใจตายหรืออย่างไร” “แค่จูบไม่ทำให้ตายหรอก หึ ๆ” จุ๊บ… ฮื่อออ… “ยังไม่คุ้นชินอีกหรือจูบสองครั้งแล้วนะ” “ไม่..ไม่ชินเลยขอรับ ปล่อยข้าได้หรือยังท่านแม่ทัพ” ซุนหวางรู้สึกถึงบางอย่างแม้เขาจะหยุดจูบแล้วแต่สิ่งนั้น ก็ยังคงดุนดันที่หน้าท้องน้อยอยู่เลย จนรู้สึกว่าใบหน้าและร่างกายของตัวเองเห่อร้อนไปหมด “อืม..ข้ายังไม่อยากปล่อยนี่” “ปะ..ปล่อยเถิดขอรับ ให้ข้าทำอะไรให้ท่านกินดีหรือไม่” “เจ้าทำเป็นหรือ ขอบใจนะซุนหวาง เจ้าเริ่มจะเป็นคนรักที่ดีแล้วรู้ไหม” “เอ่อ..คนรักหรือขอรับ” ซุนหวางไม่เคยคิดว่าจะได้ยินคำนี้มาก่อนเลย มันรู้สึกแปลก ๆ หัวใจดวงน้อยก็เริ่มเต้นระรัวขึ้นมาอีกครั้ง “เราทำทุกอย่างเช่นคู่รักคู่อื่นเขาทำกันหมดแล้วนะ อ้อ ยังมีอีกอย่างเรายังไม่ได้ทำ เรายังไม่ได้ร่วมหอกันเลย” “นะ..นั่น มันต้องคนที่เขาแต่งงานกันแล้วไม่ใช่หรือขอรับ” ฮื่อพูดออกมาได้ไม่อายปาก ท่านแม่ทัพคงไม่คิดจะร่วมหอกับเขาหรอกใช่ไหม “เข้าเรือนกันเถอะข้าหิวแล้ว” ชิวหานตัดบททันทีก่อนที่ความรู้สึกของเขาจะเตลิดไปไกลจนกู่ไม่กลับ พอทั้งคู่เดินเข้าเรือนไปกลับมีอาหารตั้งไว้รอที่โต๊ะอยู่แล้ว “ข้าคงไม่ต้องทำให้ท่านกินแล้ว เสี่ยวฟงทำไว้ให้ตั้งหลายอย่างแน่ะ เอาไว้คราวหน้าข้าจะทำให้กินนะขอรับ” “อืม.. ข้าจะรอนะ” ยามซื่อ..[09.00-10.59 น.] หลังจากรับมื้อเช้าเรียบร้อย ทั้งสองก็มานั่งจิบน้ำชาที่ศาลาพักผ่อน “ท่านแม่ทัพสายมากแล้ว ไม่กลับเข้าค่ายหรือขอรับ” “ไล่ข้าจัง” ชิวหานแสร้งทำเสียงแง่งอน ซึ่งดูยังไงก็ไม่เข้ากับกับใบหน้าคมเข้มสักนิด “ข้าถามขอรับไม่ได้ไล่” ‘ข้าไปไล่ท่านตอนไหนกัน คนผู้นี้ช่างคิดเอาเองเก่งเหลือเกิน’ “ก็เหมือนกันนั่นแหละ อ้อ..ซุนหวาง วันเกิดเจ้าเมื่อใดหรือ” “อีกสองเดือนขอรับ” “อืม..อีกสองเดือนหรือ..” เขาพึมพำ “ข้าจะไปแล้ว จากนี้ข้าคงไม่ได้มาบ่อยนัก แล้วอย่าขึ้นเขาอีกล่ะมันอันตราย” “ขอรับ” นั่งจิบชายังไม่ทันไร ตั้งคำถามคนงามเพียงไม่กี่ประโยค เหมือนจะได้สิ่งที่ต้องการแล้ว แม่ทัพหนุ่มก็ลุกขึ้นและกล่าวคำลาแบบกะทันหัน จนคนงามคิดอะไรไม่ทัน “ข้าจะไปแล้วนะ” ชิวหานบอกย้ำอีกครั้งแต่ก็ยังได้รับคำตอบเช่นเดิม “ขอรับ” “ซุนหวางมานี่ ข้าบอกว่าจะไปแล้วนะ เจ้าควรจะมาให้ข้ากอดเพื่อร่ำลามิใช่หรือ คงอีกนานกว่าข้าจะได้มาอีกเจ้าควรมอบรอยยิ้มงาม ๆ ให้ข้าสักครั้งก็ยังดี” ‘เพราะท่านแม่ทัพบอกว่าจะไม่ได้มาบ่อยหรอกนะ ข้าถึงได้ตามใจเขา’ ซุนหวางลุกขึ้นยืนและเดินเข้าไปหาคนที่ตั้งตนว่าเป็นคนรัก แล้วก็กอดเข้าที่เอวสอบเพื่อบอกลาในแบบที่ท่านแม่ทัพต้องการ “เดินทางปลอดภัยขอรับ” “อืมม” ชิวหานตอบรับสั้น ๆ แค่นี้เขาก็สุขใจมากแล้ว แม้ครั้งนี้จะไม่ได้เห็นรอยยิ้มคนงามก็ตามที “คิดถึงข้าบ้าง” พร้อมกับก้มลงจูบที่กระหม่อมบางของคนงาม ก่อนจะผละออกแล้วก็เดินไปหาม้าคู่ใจที่เตรียมตัวพร้อมจะพาเจ้านายกลับไปยังค่ายหน้าด่าน “ท่านแม่ทัพไปแล้วหรือพี่รอง” “อืม..แล้วเจ้าหายไปอยู่ที่ไหนมาเสี่ยวฟง ปล่อยให้ข้าอยู่กับท่านแม่ทัพสองคนได้อย่างไร” “ไม่ดีหรือขอรับ ก็ข้าไม่อยากอยู่ขัดคอพวกท่านนี่นา ทำหน้าเช่นนี้อีกแล้วพวกท่านเป็นคนรักกันไม่ใช่หรือ ยังมีสิ่งใดต้องกังวลอีกขอรับ พี่รองควรจะมีความสุขได้แล้วนะ” “เจ้าคิดว่าข้าจะมีความสุขได้จริงใช่ไหมอาฟง ข้ารู้ตัวว่ารักเขาแล้วจริง ๆ ตอนนี้เขาอาจจะรักข้าอยู่เพราะยังไม่รู้ว่าข้าเป็นตัวประหลาด” หากความคิดของท่านแม่ทัพเป็นอย่างพี่ตงก็คงจะดี เขาคงจะมีความสุขได้อย่างที่พี่จินมี “แล้วจะปิดเอาไว้อีกนานแค่ไหนขอรับ” “ข้าก็ไม่รู้...” ซุนหวางตอบก่อนจะชวนเสี่ยวฟงไปเอาสมุนไพรที่ท้ายเรือน “ไปขนสมุนไพรเข้าบ้านกันเถอะ ต่อจากนี้ข้าคงจะมีเวลาปรุงยามากขึ้น” หนึ่งอาทิตย์หลังจากที่แม่ทัพชิวหานกลับไปแล้ว... “ได้ยาเยอะแยะขนาดนี้เลยหรือพี่รอง” “สมุนไพรดี แล้วยาพวกนี้ข้าปรุงจนชำนาญแล้วจึงไม่เสียสมุนไพรแม้แต่น้อย” “เราลองเอายาไปเสนอขายที่ร้านขายยาในเมืองหูเจียงดีไหมขอรับ” “ไม่หรอกวันนี้เราจะขึ้นเขา ยาพวกนี้ข้าจะให้พี่ตงเอาไปขายให้ หากเราสองคนเอาไปเองอีกไม่นานคงจะมีคนตามตัวเจอ ข้าไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น เตรียมตัวขึ้นเขากันเถอะเสี่ยวฟง” “ขอรับพี่รอง ข้าก็คิดถึงเสี่ยวจุ้นจะแย่อยู่แล้ว” บ้านกลางหุบเขา… “ท่านแม่ ท่านแม่ขอรับ ท่านน้าทั้งสองมาแล้ว...” เสี่ยวจุ้นตัวน้อยเหมือนกำลังรอคอยท่านน้าทั้งสองอยู่ก่อนแล้ว พอเห็นทั้งสองเดินมาถึงกับเก็บอาการดีใจเอาไว้ไม่อยู่ จึงได้ตะโกนร้องเรียกมารดามาแต่ไกล “เสี่ยวจุ้นตะโกนโหวกเหวกอะไรกัน โอ้..น้องรองน้องเล็ก พวกเจ้ามาเสียที หายไปเป็นอาทิตย์เช่นนี้ข้าเป็นห่วงมากรู้ไหม” “พี่ใหญ่ข้าขอโทษที่ทำให้ท่านเป็นกังวล ข้าแค่หมกมุ่นปรุงยาเท่านั้นเอง... แล้วพี่ตงอยู่ไหนขอรับ” ซุนหวางพูดคุยกับพี่ชายแล้วจึงถามหาพี่เขย “อยู่ในห้องปรุงยาโน่นแน่ะ ข้าเบื่อพวกเจ้าจริงเชียว อีกหน่อยก็คงเห็นสมุนไพรดีกว่าข้าแล้วกระมัง” “คิก ๆ พี่ใหญ่อิจฉาแม้กระทั่งสมุนไพรหรือขอรับ” “หยุดล้อเลียนพี่เดี๋ยวนี้เลย ไปได้แล้วพี่ตงรอเจ้าอยู่ ส่วนน้องเล็กกับเสี่ยวจุ้นมานี่ เราจะไปทำกับข้าวกัน พอออกจากห้องปรุงยา เชื่อได้เลยว่าพวกเขาต้องพากันหิวมากแน่ ๆ” “ขอรับพี่ใหญ่/ขอรับท่านแม่” เสี่ยวฟงและเสี่ยวจุ้นต่างก็ขานรับด้วยใบหน้าที่เบิกบาน ก๊อก ก๊อก ก๊อก “พี่ตงข้าเข้าไปได้หรือไม่ขอรับ” “ซุนหวางหรือ เข้ามาสิ” ครืดดดด “ซุนหวาง มานั่งนี่สิ” “ขอรับ พี่ใหญ่บอกว่าท่านรอข้ามีอะไรหรือไม่ขอรับ” “อ้อ...ไม่มีอะไร ข้ากำลังทดลองปรุงยาของเจ้าดูน่ะ ลองปรุงไปไม่รู้กี่ครั้งแล้วก็ปรุงไม่ได้สักที ข้าไม่ได้ปรุงเพื่อหวังจะเอาไปขายหรอกนะ แค่จะทำเพื่อให้อาจินได้ใช้เท่านั้น ข้ารู้ว่าเจ้าสามารถปรุงยาให้พี่ใหญ่ของเจ้าได้ตลอดเวลา แต่แค่คิดเผื่อไว้สำหรับวันข้างหน้าน่ะ” “พี่ตงพูดอะไรอย่างนั้นขอรับ ข้าไม่ได้หวงเลยและข้าก็ยินดีที่จะสอนท่าน” ซุนหวางพูดออกมาจากใจจริงเขาไม่ได้หวงวิชาแม้แต่น้อย สำหรับครอบครัวใหม่นี้เขายินดีที่จะให้ทุกอย่างที่มี ความรู้สึกไว้เนื้อเชื่อใจมันไม่เคยผิดพลาดและเขาก็รู้สึกปลอดภัยเมื่อได้อยู่ที่นี่ “จริงหรือ เจ้าแน่ใจนะซุนหวาง” “ข้าแน่ใจ..เราคือครอบครัวเดียวกันนะขอรับ จะคิดมากไปทำไม อ้อ..แล้วพี่ตงจะเข้าเมืองวันไหนอีกขอรับ” “จะฝากซื้อของหรือ” “จะฝากยาไปขายขอรับ ข้ากับเสี่ยวฟงไม่อยากเข้าเมือง พี่ตงพอจะช่วยข้าได้หรือไม่” “ได้สิ เอาไปขายให้วันนี้ยังได้เลย ไหนเอายามาให้ข้าดูซิ มันต้องตรวจสอบเสียก่อนว่ายาของเจ้าพอจะขายได้ไหม เถ้าแก่ร้านยาซีหนานเขี้ยวมากนะจะบอกให้” “นี่ขอรับ อันนี้แค่ยาตัวอย่างเท่านั้น ส่วนของทั้งหมดที่จะให้เอาไปขายอยู่ที่อาฟง” ซุนหวางยื่นห่อยาตัวอย่างห่อเล็ก ๆ ให้กับหนานตง ซึ่งในนั้นจะมียาถึงหกขนาน ที่จะนำออกไปขายครั้งแรกคือยาแก้ปวดรอบเดือน ซึ่งได้ทดลองใช้กับสตรีมาแล้วมันได้ผลจริง ๆ เป็นเสี่ยวฟงที่นำยาตัวนี้ไปให้ท่านลุงเหอหาคนทดลองให้ ทุกคนไม่รู้หรอกว่ายานี้ใครเป็นผู้ปรุงพวกเขารู้แค่ว่าเป็นยาแก้ปวดรอบเดือนที่ถูกแถมมากับยาตัวอื่นจากร้านขายยาฟู่เจียง เพราะฉะนั้นจึงไม่มีใครสงสัยเกี่ยวกับยาที่ซุนหวางมีในครอบครอง “ซุนหวาง นี่มันยาของร้านฟู่เจียงที่อยู่ในเมืองหลวงนี่นา เจ้าได้มา ไม่สิ..เป็นเจ้า เจ้าคือคนปรุงยาพวกนี้ใช่หรือไม่” หนานตงถามอย่างตื่นเต้น “ขอรับ” ซุนหวางตอบตามตรง เขาไม่คิดจะปิดบังเรื่องนี้กับพี่ตงและพี่จินอยู่แล้ว เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกโล่งใจกับการบอกความลับของตนให้คนอื่นฟัง “มิน่าล่ะยาเหล่านี้ถึงไม่มีขายที่ร้านฟู่เจียงอีกเพราะคนปรุงยาไม่อยู่นี่เอง เจ้าช่างปิดผู้คนได้ยาวนานนัก อาจินจะรู้หรือไม่ว่าตัวเองมีน้องชายเป็นถึงนักปรุงยาที่เก่งกาจเช่นนี้” “พี่ตงจะช่วยข้าปิดเป็นความลับต่อไปได้หรือไม่ขอรับ” ซุนหวางขอร้องพี่เขย เพราะไม่อยากให้ความลับถูกเปิดเผย “ข้ารู้ว่าต้องทำอย่างไร หากเจ้าอยากจะเปิดเผยตัวตน ผู้คนก็คงไม่ต้องตามหากันยาวนานเช่นนี้ หมอยาตัวน้อย..ยาของเจ้าดังไปถึงแคว้นหนานแล้วรู้ไหม” “ขนาดนั้นเลยหรือขอรับ” มันยากที่จะเชื่อที่หนานตงบอกว่ายาของเขามีชื่อเสียงไกลข้ามแคว้น มันมาได้ยังไงกัน ยาของเขาก็ส่งขายแค่ที่เมืองหลวงของแคว้นเจียง จะดังไปไกลถึงแคว้นหนานได้อย่างไรพี่ตงคงจะล้อเขาเล่นแน่แล้ว “อืม..ขนาดนั้นแหละ ซุนหวางต่อไปเจ้าจะต้องมาปรุงยาที่นี่ หากใช้เรือนหลังนั้นเป็นที่ปรุงยาสักวันคงถูกใครบางคนจับได้ แม่ทัพชิวหานไม่ใช่คนโง่” “พี่ตง! ท่านรู้ ท่านรู้จักแม่ทัพชิวหานด้วย” “ข้าเห็นเขามาที่เรือนของเจ้า ขอโทษนะที่ละลาบละล้วง คบหากับเขาแล้วหรือ” “จะว่าอย่างนั้นก็ได้ขอรับ” “เจ้าทำหน้าเศร้าอีกแล้ว ข้าไม่ได้จะดุด่าหรือว่าเจ้าเสียหน่อย คนที่มีความรักจะต้องมีหน้าตาที่สดใสไม่ใช่หรือ เชื่อเถอะเขาก็เป็นคนดีและน่านับถือคนหนึ่ง แต่ข้าไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะนิยมชมชอบบุรุษ สงสัยคงเป็นเพราะความงามของซุนหวางกระมัง ฮ่า ๆ ๆ ๆ” “ท่านพี่ตง ท่านล้อเลียนข้าอีกแล้วนะ” ว่าแล้วก็ยู่ปากก้มหน้างุด ๆ “หรือเจ้าจะปฏิเสธหื้ม คนงาม” “พี่ตง! นี่ท่านไปเห็นอะไรมาบ้างเนี่ย” อั่ยหยา...คงไม่เห็นตอนที่เขาจูบกับท่านแม่ทัพหรอกนะ ฮื่ออ... ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ เสียงหัวเราะที่ดังออกมาจากห้องปรุงยา ทำให้ลั่วจินรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง จึงได้เปรยขึ้นมาอย่างลอย ๆ “พวกเจ้าทั้งสองคนควรมาที่นี่บ่อย ๆ หรือจะย้ายมาอยู่เลยก็ยิ่งดีนะ” “พี่ใหญ่ควรจะไปพูดกับพี่รองขอรับ ข้ามั่นใจว่าพี่รองไม่มาแน่” จะมาได้อย่างไร ในเมื่อพี่รองรักท่านแม่ทัพขนาดนั้น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD