อาการแปลก ๆ

2371 Words
ขณะเดียวกันที่โถงของเรือน... “เดี๋ยวพวกเขาก็มาเจ้านั่งลงเถอะเสี่ยวฟง” ทำไมต้องเป็นเขาอีกแล้วที่ต้องมาคอยเฝ้าเจ้าเด็กนี่ ก็รู้ ๆ อยู่ว่ามีสิ่งใดเกิดขึ้นในห้องนั้นก็ยังจะชะเง้อคอมองอยู่นั่น ไม่ปวดคอบ้างหรืออย่างไร “ท่านแม่ทัพจะไม่รังแกพี่ชายข้าใช่หรือไม่” “อะไรคือรังแก หากพวกเขามีความสุขด้วยกันก็ไม่เรียกว่ารังแกหรอกนะ เจ้าควรจะมีคนรักบ้างนะเสี่ยวฟงจะได้รู้และเข้าใจเอง” บนทางเดินสู่ห้องโถง ซุนหวางกำลังเดินมากับชิวหานด้วยท่าเดินที่ดูแล้วตลกยิ่ง พลางก็คิดว่าทางที่เคยเดินอยู่ประจำทำไมมันถึงได้ไกลนัก กว่าเขาจะเดินถึงห้องนั้นคงต้องทรุดก่อนเป็นแน่ ทำไมมันถึงได้เจ็บอย่างนี้นะ ‘ไหนบอกว่าจะไม่เจ็บแล้วอย่างไร คนบ้านี่ โกหกทั้งเพ’ “ซุนหวางให้ข้าอุ้มเถอะนะอย่าฝืนเดินเลย” “ไม่ได้ข้าอายเสี่ยวฟง ไหนจะนายกองเหว่ยเจี๋ยอีก” จะอุ้มข้าเหมือนสตรีให้คนอื่นเห็นหรือ ไม่มีทางมันน่าอายจะตาย “ที่เจ้าเดินแบบนี้มันก็ยิ่งน่าเกลียด” “ก็เพราะท่านคนเดียว ชิวหานข้าอยากจะตีท่านนัก” “ข้าจะยอมให้เจ้าตีแต่ตอนนี้ให้ข้าอุ้มเจ้าไปก่อนนะ” “อืออ...” เพราะความเจ็บในที่สุดซุนหวางก็ต้องยอมให้แม่ทัพชิวหานอุ้ม หากจะไม่ออกจากห้องเลยก็กลัวเสี่ยวฟงจะเป็นห่วง ไหน ๆ ก็ลงเอยแบบนี้แล้วทนอายหน่อยก็ได้ ก็เขาหนีไม่พ้นท่านแม่ทัพชิวหานแล้วนี่ เพียงก้าวเท้ายาว ๆ ไม่กี่ก้าวพร้อมกับอุ้มคนงามที่ตัวเบาราวกับนุ่น ชิวหานก็พาซุนหวางมาถึงโต๊ะกินข้าวแล้ว แต่ด้วยความอายต่อสายตาของทุกคน ซุนหวางที่ยังอยู่ในอ้อมอกของท่านแม่ทัพก็ได้แต่หลับตาปี๋ “เหว่ยเจี๋ย เสี่ยวฟงพวกเจ้าออกไปก่อน” “ทำไมขอรับข้ายังไม่ได้กินข้าวเลยนะ” นายกองเหว่ยเจี๋ยทักท้วงเจ้านาย “ท่านแม่ทัพไม่เป็นไรให้พวกเขาอยู่เถอะ วางข้าลงได้แล้วขอรับ” “พะ..พี่รองข้าตุ๋นไก่ไว้ให้ ของท่านแม่ทัพก็มีขอรับ” นี่พี่รองของเขาโดนท่านแม่ทัพรังแกถึงกับเดินไม่ได้เลยหรือ เรื่องนี้เขาจะเอาไปฟ้องพี่ใหญ่คอยดูเถอะ “อืมม..ขอบใจนะเสี่ยวฟง” ซุนหวางรู้สึกละอายใจไม่น้อย เขาเป็นพี่ชายแบบไหนกันที่ต้องให้น้องชายคอยดูแลเรื่อยมา แม้แต่ยามนี้ เสี่ยวฟงก็ยังใส่ใจ “หากว่าซุนหวางเป็นพี่รองแล้วใครเป็นพี่ใหญ่ล่ะ คนผู้นั้นหรือ” ซุนหวางและเสี่ยวฟงได้แต่มองหน้ากันแต่ไม่ได้ตอบคำถามของท่านแม่ทัพ ความเงียบก็คือคำตอบชิวหานคิดเช่นนั้น แม้จะยังสงสัยอยู่เกี่ยวกับบุรุษผู้นั้นแต่เขาก็ไม่ได้คาดคั้นเอาความกับคนตัวเล็กเลย รับฟังเท่าที่ซุนหวางอยากจะเล่าให้ฟังเพราะเขาเชื่อใจว่าซุนหวางไม่มีทางคบคนไม่ดีแน่นอน “ท่านไม่โกรธข้าแล้วใช่ไหมขอรับ” “ไม่โกรธแล้ว แต่วันหลังข้าควรจะได้รู้จักพี่ใหญ่ของพวกเจ้าบ้าง” “ขอรับ” ซุนหวาง/เสี่ยวฟง สามวันที่แม่ทัพชิวหานไม่ได้ไปไหนเลยแต่กลับออกคำสั่งให้เหว่ยเจี๋ยกลับค่ายไปก่อน ส่วนตัวเขาจะอยู่ที่นี่ต่อจนกว่าวันหยุดของเขาจะหมดลงเพื่อชดเชยให้กับสองเดือนที่เขาได้ห่างหายไป ยิ่งอยู่นานเท่าใดก็ยิ่งยากที่ลาจาก เหมือนท่านแม่ทัพจะติดกลิ่นคนงามไปแล้ว ก่อนจะกลับเข้าค่ายชิวหานก็กำชับหลายอย่างเขาไม่อยากให้ซุนหวางขึ้นเขาบ่อยนักยิ่งตอนนี้ความสัมพันธ์ของพวกเขาได้เปลี่ยนไปแล้ว ชิวหานยิ่งทั้งรักทั้งหวงคนตัวเล็กเพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวี “ข้าไม่อยากจากเจ้าไปเลย วันหยุดครั้งหน้าข้าจะพาเจ้าไปพบท่านอา ซุนหวางข้าอยากแต่งงานกับเจ้า” ชิวหานบอกคนตัวเล็กในขณะที่นั่งอยู่บนหลังม้าเพื่อเตรียมตัวจะกลับเข้าค่ายแล้ว “แต่งงาน..เราทำได้หรือขอรับ ข้าไม่เคยได้ยินว่ามีบุรุษแต่งงานกันมาก่อน” “ที่แคว้นเจียงแต่งไม่ได้เราก็ไปแต่งที่แคว้นหนาน ที่นั่นมีบุรุษแต่งงานกันได้ไม่ผิดประเพณี... ซุนหวางข้าจะไปแล้ว” ชิวหาน บอกลาคนรักทั้งสายตาก็ยังคงอาลัยอาวรณ์อยู่ไม่หาย ระยะทางจากหมู่บ้านตีนเขาไปถึงค่ายทหารแม้จะไม่ไกลแต่ก็ใช่ว่าเขาจะออกมาข้างนอกได้ตามใจ หนึ่งเดือนจะมีสักกี่วันที่เป็นวันหยุดและเดือนนี้เขาก็ใช้มันไปหมดแล้ว คงต้องรอเดือนหน้าเขาจะพาซุนหวางไปพบท่านอาและจะได้คุยเรื่องแต่งงานกับซุนหวางด้วยเลย “เดินทางปลอดภัยขอรับ” ซุนหวางเขย่งเท้าขึ้นเพื่อจะได้จูบลาคนรัก “หึ ๆ ๆ ไม่ต้องเขย่งให้เมื่อย จุ๊บ..เดือนหน้าข้าถึงจะได้มาอีก อย่าขึ้นเขาบ่อยนักมันอันตราย” “อื้อออ...” แม้ไม่มีคำพูดออกจากปากคนงามแต่รอยยิ้มที่ชิวหานได้รับกลับทำให้หัวใจเขาพองโตจนแน่นคับอกไปหมด ในที่สุดเขาก็ได้เป็นเจ้าของรอยยิ้มนั้นแล้ว “ข้าอยากเห็นเจ้ายิ้มแบบนี้บ่อย ๆ” “ขอรับ ข้าจะยิ้มให้ท่านบ่อย ๆ” นี่เป็นครั้งแรกที่ซุนหวางยิ้มออกไปโดยไม่ต้องฝืนและคงเป็นรอยยิ้มที่มีความสุขที่สุดในรอบห้าปีของเขา ท่านแม่ทัพชิวหานได้ควบม้าจากไปไกลแล้วแต่ซุนหวางยังคงมองตามจนคนและม้าหายลับไปจากสายตา พอหันหน้ากลับเข้าเรือนจิตใจก็เริ่มเป็นทุกข์ พี่ใหญ่กับพี่ตงจะโกรธเขาหรือไม่ที่เขาตัดสินใจยอมเป็นของท่านแม่ทัพ ทั้งเสี่ยวฟงอีกตลอดเวลาที่ท่านแม่ทัพอยู่ด้วยเขาแทบจะไม่ได้คุยกับเสี่ยวฟงเลย บางครั้งเสี่ยวฟงก็หายตัวไปทั้งวันคงไม่ได้ไปหาพี่ใหญ่หรอกนะ “เฮ้อ..ข้าจะอธิบายกับพี่ใหญ่อย่างไรดี” ซุนหวางรำพึงกับตัวเอง “ก็บอกว่ารักเขามากอย่างไรล่ะ” “พะ..พี่ใหญ่! มาได้อย่างไรขอรับ” “คิก ๆ ก็มากันหมดทุกคนนั่นแหละพี่ก็อยากจะเห็นหน้าน้องเขยนี่ รูปงามอย่างนี้นี่เองน้องรองถึงได้หลงรัก” เขาก็อยากจะโกรธน้องอยู่หรอกแต่พอเห็นรอยยิ้มที่เปี่ยมสุขนั่นเขาก็โกรธไม่ลง ได้ฟังจากปากของเสี่ยวฟงครั้งแรกเขาแทบจะเป็นลม อยากจับน้องชายตัวดีมาฟาดก้นนัก เจ้าเด็กนี่ลืมไปหรืออย่างไรว่าตัวเองนั้นท้องได้ “พี่ใหญ่ โกรธข้าหรือไม่ขอรับ” “ไม่ได้โกรธ แต่เป็นห่วงเจ้ามากต่างหาก” “ข้าขอโทษนะพี่ใหญ่” ซุนหวางโผกอดพี่ชาย ไม่คิดเลยว่าพี่ชายจะไม่ดุไม่ว่าเขาแม้แต่น้อย “ท่านน้าซุนหวาง ท่านแม่บอกว่าวันนี้พวกเราจะนอนที่นี่ ใช่ไหมขอรับท่านแม่” “อืม..เสี่ยวจุ้น ไปช่วยท่านพ่อกับท่านน้าฟงในครัวไป” “ขอรับท่านแม่” เสี่ยวจุ้นเริ่มโตแล้วย่อมรู้ความว่ามารดาต้องการจะสนทนากับท่านน้าซุนหวางแค่สองคน เด็กน้อยจึงรีบทำตามที่มารดาสั่งโดยไม่มีอิดออด “พี่ใหญ่เขาอยากแต่งงานกับข้า ข้าควรบอกเขาเรื่องนั้นหรือไม่” “ไว้ค่อยหาโอกาสบอกเขาทีหลัง อย่างไรก็ปิดเขาได้ไม่นานหรอก” สิ่งนี้แหละที่ลั่วจินรู้สึกเป็นกังวลนัก ซุนหวางกำลังจะมีความสุขเขายังอยากให้น้องตักตวงความสุขไว้ให้ได้นานที่สุด เขาหวังเอาไว้ลึก ๆ ว่าท่านแม่ทัพชิวหานจะมีจิตใจและความคิดดั่งเช่นหนานตงบ้างสักเล็กน้อยก็ยังดี ขอแค่บุรุษผู้นั้นไม่รังเกียจสิ่งที่ซุนหวางเป็นก็เพียงพอแล้ว ส่วนเรื่องท้องได้นั้นคงไม่มีบุรุษคนไหนปฏิเสธลูกของตัวเองได้หรอก ดูอย่างหนานตงสิรักบุตรชายอย่างกับอะไรดียิ่งรู้ว่าเขาท้องได้สามีของเขาก็ยิ่งดีใจ ท่านแม่ทัพชิวหานก็คงจะไม่ต่างกัน “ขอรับพี่ใหญ่” คืนนี้เรือนท้ายหมู่บ้านตีนเขาไม่ได้เงียบเหงาเหมือนเช่นทุกวันซึ่งไม่นับรวมวันที่มีแม่ทัพชิวหานอยู่ด้วย ทุกคนต่างก็มีความสุข โดยเฉพาะเสี่ยวจุ้นเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เด็กน้อยได้ออกมาจากหุบเขา เสี่ยวจุ้นตัวน้อยเลยไม่คิดอยากจะนอนเลย จนซุนหวางต้องพามากล่อมนอน “ซุนหวางต้องเป็นมารดาที่ดีได้แน่นอนขอรับ ข้ารับรองได้” สองสามีภรรยาสนทนากันหลังจากที่ได้แยกสู่เรือนนอนของตน “หึ ๆ ๆ แม่ทัพชิวหานจะเก่งปานนั้นเชียว” เพียะ!!! “ท่านพี่! ข้าไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นเสียหน่อย” หึ ๆ ๆ เขาพูดผิดตรงไหนเนี่ย..ภรรยาถึงได้ลงไม้ลงมือกับเขาเช่นนี้ หนานตงคิดอย่างขบขันเมื่อภรรยาเอาแต่ใช้กำลังยามเขาพูดไม่เข้าหู “ซุนหวางเหมือนเจ้าก็จริงแต่ใช่ว่าจะท้องได้ง่ายดายเช่นเจ้าเสียเมื่อไหร่ หากซุนหวางไม่ท้องพี่ถือว่าแม่ทัพชิวหานเป็นคนที่อับโชคเรื่องบุตรก็แล้วกัน” หลังจากค่ำคืนวสันต์ก็หนึ่งเดือนผ่านพ้นมาแล้วและกำลังจะเข้าเดือนที่สอง จดหมายหนึ่งฉบับได้ถูกส่งมาจากค่ายทหาร อีกหนึ่งอาทิตย์ท่านแม่ทัพจะมีวันหยุดและเขาจะได้กลับบ้านเสียที... ตัวของซุนหวางก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างแต่เจ้าตัวเขากลับไม่ได้เฉลียวใจแม้แต่น้อย สิ่งที่เขาสนใจกลับเป็นแค่... “เสี่ยวฟงข้าไม่มีรอบเดือนแล้ว นั่นหมายความว่าข้าหายจากโรคประหลาดนั้นแล้วใช่ไหม แบบนี้ข้าก็ไม่มีสิ่งใดที่ต้องกลัวอีก” “มันหายจริงหรือพี่รอง เราไปหาพี่ใหญ่กันเถอะขอรับ” เสี่ยวฟงไม่ได้ไว้ใจสักนิด อาการของพี่รองสองสามวันมานี้มันดูไม่ปกติ แต่เขาก็ไม่รู้เช่นกันว่ามันคืออะไร นี่แหละคือความเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้น... อาการแปลก ๆ ของซุนหวางเป็นมาต่อเนื่องแล้วหลายวัน ไม่มีอาเจียนและไม่วิงเวียนศีรษะแต่จะนอนนานผิดปกติจนกระทั่งไม่ ได้กินข้าวแม้จะตื่นขึ้นมากินแต่ก็เลยอาหารมื้อนั้นมาแล้ว เสี่ยวฟงสังเกตอาการอยู่นานจึงขอให้องครักษ์ไปตามพี่เขยมาให้ ตอนแรกเขาคิดจะไปตามเองแต่ก็เป็นห่วงพี่ชายที่ยังคงนอนหลับไม่รู้สึกตัว “เสี่ยวฟง ซุนหวางเป็นอย่างไรบ้าง” ลั่วจินได้ยินรายงานจากองครักษ์ที่สามีส่งมาให้ดูแลน้องชายทั้งสองก็เร่งฝีเท้าลงจากเขามาอย่างเร็ว ซุนหวางเจ็บป่วยนั่นเป็นสิ่งที่เขาไม่อยากจะได้ยิน ถึงขั้นนอนหลับไม่ยอมตื่นแบบนั้นยิ่งน่ากลัว “พี่ใหญ่ พี่เขยละขอรับ” “กำลังตามมา ซุนหวางนอนนานแล้วหรือ” “ตั้งแต่ยามซวีขอรับ” [ยามซวี 19.00-20-59 น.] “ตอนนี้ก็ยามซื่อแล้วทำไมยังไม่ตื่นอีกนะ แล้วอาการอย่างอื่นล่ะ” [ยามซื่อ 09.00-10.59 น.] “ไม่มีขอรับ ข้าแค่เป็นห่วง เพราะพี่รองแทบจะไม่ได้ทานมื้อเช้าเลย” “อาจิน ซุนหวางอยู่ไหนล่ะ” หนานตงตามมาทีหลังก็ถามหาซุนหวางเช่นกัน “นอนหลับสนิทปลุกก็ไม่ตื่นขอรับ” “ข้าขอจับชีพจรดูก่อน” หนานตงจับชีพชีพจรค้างอยู่สักพักแต่สีหน้าก็ไม่ได้แสดงความกังวลอะไร “เป็นอย่างไรขอรับท่านพี่” “เป็นอย่างที่คิดไว้ ซุนหวางตั้งครรภ์แล้ว” “ท้องหรือขอรับ เราควรจะบอกท่านแม่ทัพหรือไม่” “ให้ซุนหวางเป็นคนบอกเองเถอะ” อือออ..เสียงคนกำลังพูดคุยกันอยู่ไม่ไกลทำให้ซุนหวางรู้สึกตัวงัวเงียตื่นขึ้นมา “ซุนหวางรู้สึกตัวแล้วหรือ” “หืม..พี่ใหญ่ มาได้อย่างไรขอรับ” “ตื่นแล้วก็ลุกมากินข้าวก่อน” “ข้ายังไม่หิวเลย ไม่กินได้ไหมขอรับ” “ไม่ได้ หากไม่กินข้าวเจ้าก็จะป่วยและหลานของพี่ก็จะไม่แข็งแรง เจ้ากำลังมีเจ้าตัวน้อยอยู่รู้ตัวหรือไม่” “เจ้าตัวน้อยหรือขอรับ ที่แท้เพราะท้องนี่เอง..ข้าหลงนึกว่าตัวเองหายจากโรคถูกสาปเสียอีก” “ซุนหวางอาการที่เราเป็นมันไม่ใช่โรคภัย เพราะฉะนั้นมันจึงรักษาไม่หาย” แม้จะรู้ว่าตัวเองท้องได้แต่ซุนหวางก็ไม่ได้เตรียมตัวเอาไว้ก่อนเลย มันดูรวดเร็วเกินไปไหมแล้วท่านแม่ทัพจะรู้สึกอย่างไร หากรู้ว่าเขาท้อง นี่เขากำลังจะมีลูกกับท่านแม่ทัพหรือ ซุนหวางรู้สึกดีใจอยู่ลึก ๆ “พี่ใหญ่ข้าตัดสินใจแล้ว ข้าจะบอกท่านแม่ทัพ” “ดีแล้วน้องรัก เจ้ารู้สึกอย่างไรบ้าง..ดีใจหรือว่าเสียใจที่รู้ว่าตัวเองท้อง” “ได้ยินตอนแรกข้ารู้สึกตกใจแต่ตอนนี้ข้าดีใจขอรับ ข้ามีความสุขที่มีลูกกับเขา”

Read on the App

Download by scanning the QR code to get countless free stories and daily updated books

Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD