ฟั่นเฟือน

1716 Words
ข่าวฮูหยินน้อยกลับจวน ก็กระจายไปยังเรือนต่าง ๆ อย่างรวดเร็วตั้งแต่วันที่นางประกาศขอหย่ากับท่านแม่ทัพก็ไม่มีข่าวอะไรให้ติดตามอีกนอกจากความไร้สาระของนาง ฮูหยินรองเดิมก็ไม่ได้สนใจ ทว่าหลายวันมานี้ทุกอย่างเงียบจนผิดปกติ อย่างน้อยเจินไป๋เจียต้องโวยวายเรียกร้องโน่นนี่นั่นหรือไม่ก็ต้องสั่งให้พวกนางไปคารวะ กำลังจะแกล้งไปเยี่ยมเยียนบ่าวจากเรือนฮูหยินก็กระจายข่าวบอกให้เหล่าอนุที่ยังไม่ยกน้ำชาให้นาง ไปจัดตามพิธีให้เรียบร้อย “แบบนี้ค่อยดูปกติ” ฮูหยินรองเอ่ยพูดอย่างสบายใจ ในฐานะฮูหยินรอง นางเองก็ต้องไปรับน้ำชาเช่นกันจึงรีบเปลี่ยนอาภรณ์ไปดูเรื่องราวสนุก ๆ ที่เรือนฮูหยิน เมื่อมาถึงฮูหยินรองต้องตกตะลึง เพราะทุกคนล้วนมาที่นี่ไม่ใช่เพียงแค่อนุที่ยังไม่ยกน้ำชาเท่านั้นที่มา “น้องคารวะพี่หญิง ตายจริงที่นี่ครื้นเครงกันจัง” ฮูหยินรองพูดน้ำเสียงไม่มีอาการเลิ่กลั่กแม้แต่น้อย เจินไป๋เจียหรี่ตามองผ่านจอกชา แล้วเอ่ย “ทุกคนก็คงคิดว่าที่เรือนขอข้ามีงิ้วให้ดูกระมัง” หลายคนในห้องโถงก็ประท้วงในใจ ไม่ใช่ให้พวกนางมาร่วมแสดงงิ้วหรอกหรือ “ในเมื่อฮูหยินรองมาแล้ว ก็เริ่มพิธีได้เลย” ฮูหยินรองก้มหน้าลงขออภัยเล็กน้อย ในใจก็คิด ไม่แขวะนางสักวันจะไม่ได้หรือไร อนุของแม่ทัพหวงซีซวนมีเป็นร้อย ตายบ้าง ขายออกไปบ้าง บางคนก็ขายตัวเข้ามาเพื่อแลกกับหินอัคคีไว้ให้บิดามารดาใช้อบอุ่นร่างกายในฤดูหนาว เมื่อหมดสิ้นวัยแรกแย้มหากต้องการออกจากจวนก็ย่อมได้ ถือว่าการขายตัวเสร็จสมบูรณ์ ด้วยตระกูลหวงทำการค้าขายหินอัคคีแม้ราคาไม่สูงมาก ทว่ากลับเป็นของจำเป็นและทุกครัวเรือนต้องมี ทำให้ตระกูลหวงมีรายได้มหาศาลใช้จ่ายอย่างไรก็ไม่ต้องกลัวว่าจะหมด เหล่าอนุเรียงเข้ามายกน้ำชาให้ฮูหยินเอกและฮูหยินรองที่ละคน ทุกคนต่างมีใบหน้างดงามอรชนแตกต่างกันออกไป เด็กสาวเหล่านี้อายุเพียง 15-17 หนาวเท่านั้น เจินไป๋เจียลอบถอนหายใจรู้สึกสะเทือนใจไม่น้อย นางจำได้ว่าเคยต่อว่า หวงซีซวนไปครั้งหนึ่ง “ท่านมันเป็นพวกมักมาก เหล่าอนุในเรือนท่านมีมากกว่ายิ่งกว่าหอในนางโลมเสียอีก” “แล้วจะทำไม ขายตัวให้กับข้าเพียงคนเดียวเท่านั้น ไม่ต้องไปทอดกายให้บุรุษหลายหน้า สำหรับพวกนางข้าถือว่าเป็นบุรุษที่มีเมตตาด้วยซ้ำ เจ้าลงมาจากหอคอยแล้วชำเลืองมองเบื้องล่างบ้าง” เป็นดั่งที่หวงซีหวนพูด แม่นางเหล่านี้หากไม่ใช่ หวงซีซวนซื้อตัวมา บางคนก็ต้องไปขายตัวให้กับหอนางโลมชีวิตย่ำแย่กว่านี้มาก บางคนก็ต้องไปขายตัวให้กลับคหบดีที่อายุมากตัณหากลับ สำหรับพวกนางหวงซีซวนมีเป็นดังเทพบุตรไม่เพียงแต่ช่วยซื้อตัวพวกนางยังซุบชีวิตครอบครัวให้มีอยู่มีกินด้วย เจินไป๋เจียกำลังหลงไปกับคำกล่าวนั้น แต่!!! ไม่สิ นี่เป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น เพราะหวงซีซวนช่วยเหลือเพียงหญิงงามเท่านั้น เจินไป๋เจียถอนหายใจอีกครั้ง แล้วนางจะทำอันใดได้ พวกนางทุกคนล้วนยินดีที่จะขายตัวเข้ามา จวบจน 2 คนสุดท้าย เด็กสาวฝาแฝด อายุน่าจะเพียง 12-13 เท่านั้น ใบหน้าหยกงดงาม หากเติบโตขึ้นต้องเป็นโฉมสะคราญที่สุดในใต้หล้าแน่นอน “เด็ก 2 คนนี้เป็นข้าที่ไปซื้อตัวมาให้ท่านพี่” ฮูหยินรองพูดอย่างภาคภูมิใจในผลงานของตนเอง นางไม่สนใจเรื่องอะไรทั้งนั้นสำหรับนางขอแค่ แม่ทัพหวงพอใจ นางพร้อมจะทำทุกอย่าง “เรื่องแบบนี้ ข้ากลับไม่ใจกว้างเช่นเจ้า” คำกล่าวนี้ฮูหยินรองถือว่าเป็นคำชม นางโค้งศีรษะรับอย่างยินดี เจินไป๋เจินชำเลืองกลับมาหาเด็กหญิงทั้งสอง “ พวกเจ้าอายุเท่าไรแล้ว” “ผู้น้อยอายุ 12 หนาวเจ้าค่ะ” ทั้งสองชื่อเหมยมี่ เหมยลี่ “เจ้าอย่าบอกนะว่า” นางป่วยและไม่อยู่หลายวัน จึงไม่รู้ว่า 2 คนนี้ได้รับใช้หวงซีซวนไปหรือยัง “ยังเจ้าค่ะ…ท่านแม่ทัพบอกว่าให้รอพวกนางผ่านช่วงวัยสาวไปเสียก่อน หากเด็กเกินไปท่านพี่ไม่ชอบ บางอย่างก็ไม่เต็มไม้เต็มมือ” เหล่าอนุก็ต่างก้มหน้าหัวเราะ พอใจเพราะพูดถึงหน้าอกนางดูเหมือนจะมีน้อยกว่าหลายคน เจินไป๋เจียรู้สึกว่านางอยากจะกรี๊ด “อุ้ยข้าลืมไป ว่าพี่สาวไม่ชอบให้ท่านพี่โปรดผู้ใด ทว่าพี่สาวท่านก็…ข้าอยากให้ท่านเข้าใจท่านพี่นะเจ้าคะ” น้ำเสียงของฮูหยินรองเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน เจินไป๋เจียอายุเพียง 16-17 ไม่ถึงกลับหมดวัยแรกแย้ม ทว่าไม่มีใครที่หวงซีซวนโปรดปรานถึง 2 ปี แม้จะสวยงดงามเพียงใด ก็เริ่มเบื่อหน่ายและด้วยนิสัยของเจินไป๋เจียแม่ทัพหวงยิ่งระอา “พี่หญิง…อย่าว่าน้องเลยนะเจ้าคะ พี่หญิงเป็นถึงฮูหยินเรื่องพวกนี้ยอมให้เด็กสาวใหม่ ๆ เถอะเจ้าค่ะ” “วาจาของเจ้าช่างมีมากเหลือเกิน ให้เหม่ยมี่และเหมยลี่ มาอยู่ที่เรือนของข้า ข้าจะเป็นคนดูแลพวกนางเอง” และเมื่อชำเลืองมองไปยังเหล่าอนุที่นั่งเรียงกัน บางคนก็หลบหน้า บางคนก็สบตา “พวกเจ้ามีใครอยากจะออกจากจวนหรือไม่” นั่นปะไร ฮูหยินเจินไป๋เจียก็คือฮูหยินเจินไป๋เจีย สิ่งที่นางชอบทำคือไล่อนุของแม่ทัพเท่านั้น อนุที่กำลังได้รับการโปรดปรานเริ่มมือไม้สั่น หากตอนนี้นางถูกขายออกไปทั้งหมดที่พยายามทำมาย่อมพังลง แม้บางคนท่านแม่ทัพจะสั่งให้นำกลับคืนมา ทว่าหลังโดนฮูหยินขายไปยังหอนางโลมกลับมานายท่านก็ไม่ไยดีอีก เรื่องนี้ก็เป็นฮูหยินรองที่อยู่เบื้องหลัง นางแค่ใส่ไฟอนุที่ไม่ชอบใจอาศัยมือเจินไป๋เจียในการกำจัดคนที่เด่นกว่าตัวเองเท่านั้น “พี่หญิงตอนนี้ไม่มีใครอยากออกจากจวนหรอกเจ้าค่ะ อย่างน้องสาวเหอซิน ตอนนี้ท่านแม่ทัพก็ไปเรือนตะวันทุกวัน ไม่แน่อาจจะกำลังตั้งครรภ์อยู่ก็ได้” อนุเหอซินเบิกตากว้าง ไม่คิดว่าฮูหยินรองจะโจมตีนางเร็วถึงเพียงนี้ “ฮูหยินรอง ท่านกล่าวเกินไปท่านแม่ทัพเพียงมาดื่มน้ำชากับข้าเท่านั้น” เหอซินรีบเอ่ยแก้ตัวกลัวว่าจะโดนขายออกไป “ท่านพี่ชอบไปดื่มชาที่เรือนเจ้ารึ..” เจินไป๋เจียเอ่ยน้ำเสียงละมุน “จะ..เจ้าค่ะ” เมื่อพูดไปแล้วจะไม่ยอมรับก็ไม่ได้ “ชิงอี ไปหยิบชาหยกราตรีฟ้ามา” เจินไป๋เจียยืนตลับชาให้เหอซินแล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ชานี้ ข้าเตรียมไว้ชงให้ท่านพี่ ในเมื่อท่านพี่ชอบไปดื่มที่เรือนของเจ้า เจ้าก็รับไปเถอะ ฝากเจ้ปรนนิบัติให้ท่านพี่ดื่มละกัน” ทุกคนต่างทำสีหน้างงงวย กระทั้งเหอซินรับกล่องชามาไว้ในมือยังไม่ตกตะลึงจนลืมกล่าวขอบคุณเจินไป๋เจีย แค่ปรายตามอง ฮูหยินรองก็รู้ว่ากล่องชานั้นเป็นของแท้แน่นอน หรือป่วยครั้งเมื่อกี้ทำให้เจินไป๋เจียฟั่นเฟือนไปแล้ว “น้องสาวเหอซินช่างมีวาสนานัก แม้กระทั่งฮูหยินผู้เฒ่ายังไม่มีโอกาสได้จิบชานี้กระมัง” เหอซินก้มหน้าต่ำกล่าวเช่นนี้คล้ายบอกให้ว่าชากล่องนี้ควรนำไปมอบให้ฮูหยินผู้เฒ่าหรือไม่ ตอนนี้นางควรคืนชาหรือไม่คืน หรือต้องรับไว้ เกิดความเงียบขึ้นมาเฉียบพลัน เจินไป๋เจียจึงเอ่ยทำลายความเงียบนั้น นางหยิบพิณโบราณตัวหนึ่งขึ้นมา “อนุลู่อี้ ข้าได้ยินมาว่าท่านพี่ชอบเสียงบรรเลงพิณเจ้าที่สุด พิณตัวนี้เจ้าก็รับไปเถอะ ฝากเจ้าบรรเลงให้ท่านพี่ฟังแทนข้าด้วย” เจินไป๋เจียมอบของให้เหล่าอนุ แล้วก็ผ่านไปทีละคน ทีละคน “อนุโจว ข้าได้ยินว่าท่านพี่ชอบอาภรณ์ที่เจ้าตัดเย็บมากที่สุด ผ้าไหมทองพับนี้เจ้ารับไปเถอะ ฝากเจ้าตัดเย็บอาภรณ์ให้ท่านพี่แทนข้าด้วย” “อนุจินเยว่ ข้าได้ยินว่าท่านพี่ชอบอาหารที่เจ้าปรุงมากที่สุด ชุดเครื่องปรุงเหล่านี้เจ้ารับไปเถอะ ฝากเจ้าทำอาหารให้ท่านพี่แทนข้าด้วย” ความหวาดระแวงที่เหล่าอนุมีให้กับเจินไป๋เจียก็ลดลงอย่างรวดเร็ว ชีวิตสตรีอย่างพวกนางก็หวังว่าสามีจะรักใคร่ คงเป็นเพราะป่วยจนเกือบเอาชีวิตไม่รอดในครั้งนั้นฮูหยินจึงได้ปลงตกเปลี่ยนไปขนาดนี้ จากนั้นกระแสต่อต้านเกลียดชัง กลับพุ่งมาที่ฮูหยินรองแทน เมื่อบรรยากาศเปลี่ยนไป เหล่าอนุที่อยากออกจากจวนก็ต่างพากันมาหาเจินไป๋เจีย “ข้ามีกิจการหอไผ่หยกชา หากพวกเจ้าสนใจไปช่วยข้าดูแลกิจการได้” ใครบ้างไม่อยากเริ่มต้นใหม่ ใครบ้างไม่อยากมีชีวิตที่ดี “ขอบคุณฮูหยินที่เมตตา หลังข้ากลับไปบ้านเรียบร้อยจะรีบไปหาท่านที่หอไผ่หยกชาเจ้าค่ะ” เจินไป๋เจียก็ให้พ่อบ้านมาจัดการเรื่องทะเบียนของเหล่าอนุที่ต้องการออกจากจวนให้เรียบร้อย เรื่องการจัดการอนุถือว่าเป็นอำนาจที่ฮูหยินน้อยสามารถจัดการได้จึงไม่มีปัญหาอะไร
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD